ตอนที่แล้วบทที่ 41 คุณมันของปลอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43 ฉันคือคนน่ากลัวคนนั้น

บทที่ 42 ร้องเพลงกับสาวงาม


บทที่ 42 ร้องเพลงกับสาวงาม

แปล Tarhai

กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/

ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200 ลงทุกวัน วันละ 6-7 ตอน

ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559

 

"อีนังบ้า แกกล้าตีฉัน?"

ใบหน้าของชายหัวล้านก็เปลี่ยนไป เขาจ้องมองลิลลี่ด้วยความโกรธ

ผู้หญิงบ้าคนนี้กล้าที่จะตีเขา?! ภรรยาของเขาเองยังไม่เคยแม้แต่จะตีเขา

"คนโกหก  คุณมันเป็นคนโกหก!"

"แกมันเป็นพวกบ้าวัตถุนิยม โทษตัวแกเองเถอะ!"

"แกโกหกฉัน คิดว่าฉันจะยกโทษให้แก?" ลิลลี่พุ่งไปที่ชายหัวโล้นเหมือนผู้หญิงบ้าและเริ่มข่วนไปที่ใบหน้าของเขา

ชายหัวล้านไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ใบหน้าของเขาถูกทิ้งรอยไว้สองรอยขีดข่วนและเริ่มมีเลือดออก

"แกข่วนฉันเหรอ? อีเวร" ชายหัวล้านตบหน้าของลิลี่ทำให้หน้าเธอบวมขึ้น

“แกตบฉัน ? ฉันจะฆ่าแก” ลิลลี่เริ่มวิ่งไปตีหน้าผากของชายหัวโล้นอย่างกับสิงโตตัวเมียที่หิวโหยและเริ่มตบตีกันหนักขึ้น

ชายหัวล้านไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงมากนักแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายก็ตาม ทั้งสองคนกำลังต่อสู้อย่างรุนแรงและล้มลงบนพื้น

ฉิงเฟิงเห็นคนสองคนที่รักใคร่กันอยู่ๆก็กลายเป็นศัตรูกันภายในเวลาไม่กี่วินาที การโยนกระดูกให้สุนัขสองตัวกัดกันเป็นสิ่งที่ฉิงเฟิงถนัดที่สุด

"ไปเถอะเจ้าอ้วน ปล่อยพวกเขาไว้"

ฉิงเฟิงยิ้มและเดินออกจากห้องขณะที่จูงมือของลั่วเฮาและเซี่ยวหยู่

เสียงการต่อสู้ยังคงได้ยินอยู่พักหนึ่งหลังจากที่พวกเขาออกไป

"ขอบคุณมากพี่ชาย"

ลั่วเฮาคำนับขอบคุณฉิงเฟิงและกล่าวด้วยความกตัญญูเมื่อพวกเขาออกมาอยู่นอกโรงแรม

เขารู้ว่าเขาจะต้องโดนดูถูกจากลิลลี่ถ้าเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากฉิงเฟิง

ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยระบายความโกรธของเขา แม้กระทั่งเขายังทำให้ลิลลี่และชายหัวล้านต่อสู้กันเอง เขาทำเพื่อเจ้าอ้วนมาก

"เจ้าอ้วน เธอไม่เหมาะกับนาย  นายจะได้พบคนที่เหมาะสมกว่านี้ในอนาคต!"

ฉิงเฟิงงปลอบเจ้าอ้วนขณะที่แตะไหล่ของเขา

"ขอบคุณลูกพี่นับจากนี้ พี่เป็นลูกพี่ของฉัน มีเรื่องอะไรพี่บอกฉันมาได้เลย ถ้าพี่ต้องการความช่วยเหลือฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อพี่"

ลั่วเฮากล่าวด้วยความมุ่งมั่น

ลั่วเฮาตัดสินใจที่จะมองฉิงเฟิงเป็นพี่ชายที่ดีของเขาและยินดีที่จะทำทุกอย่างให้เขาเมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือ

"เอาล่ะ เลิกโอ๋กันได้แล้ว พวกคุณสองคนโตแล้ว ไปคาราโอเกะกันเถอะ"

เซี่ยวหยู่แทรกขึ้นพูดหลังจากที่เธอได้ยินคำเยินยอของเจ้าอ้วน

"ฮ่า ๆ โทษทีพวกเราลืมเรื่องนี้ไปเลย" ลั่วเฮายิ้มขณะเกาหัว

จากนั้นเซี่ยวหยู่ก็กลอกตาและพูดว่า "เอาล่ะไปร้องเพลงกันเถอะ!"

พวกเขาขึ้นรถแท็กซี่และออกไป Silver Diamond

Silver Diamond  เป็นศูนย์สันทนาการขนาดใหญ่ในเมืองทะเลตะวันออก สูงห้าชั้นและมีขนาดมากกว่า 1000 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยพื้นผิวสีทองหรูหราพื้นคริสตัลและโคมไฟระย้าขนาดใหญ่

ผู้จัดการแผนกต้อนรับส่วนหน้าเป็นสาวงามที่มีผมยาวมีใบหน้าที่บอบบางและร่างสูงสวมชุดสูทสีดำแบบมืออาชีพ

ผู้จัดการที่งดงามเริ่มออกอาการดูถูกเมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ไม่เรียบร้อยของฉิงเฟิงในชุดทหารลายพรางของเขา

มีคนกล่าวว่าพวกเขาเป็นคนยังไงให้มองชุดที่เขาสวมใส่ การทำงานในด้านการบริการลูกค้า สิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องมีคือความเข้าใจอันลึกซึ้งเกี่ยวกับรสนิยมของแขก คุณต้องได้บอกว่าเขาเป็นคนรวยหรือไม่เพียงแค่การมองไปที่แบรนด์ที่เขาใช้และราคาของชุดที่พวกเขาสวมใส่

เห็นได้ชัดว่าฉิงเฟิงเป็นคนยากจนในสายตาของเธอ

และเห็นได้ชัดว่าคนยากจนคือกลุ่มคนที่เธอดูถูกที่สุด

"ค่าบริการที่นี่สูง แม้แต่ห้องที่เล็กที่สุดก็มีค่าใช้จ่าย 300 หยวนต่อชั่วโมงคุณสามารถจ่ายได้หรือไม่คะ ?" ผู้จัดการที่งดงามหัวเราะเยาะด้วยความดูถูก

อะไรกันวะเนี่ย ?!

ทำไมถึงมีพวกลูกเจี๊ยบวัตถุนิยมทั่วไปหมด ?

ฉิงเฟิงกลอกตาของเขาและเงียบ นี่ฉันมองดูเป็นคนที่ยากจนขนาดนั้น ?

ถ้าคุณสงสัย  แม้ว่าทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ชื่อสมาคมเขี้ยวหมาป่าแต่คนอย่างฉันมีรายได้มากกว่าสิบหลักในบัญชีธนาคารของฉันในธนาคารสวิสนะ ฉันสามารถจองห้องพักหนึ่งร้อยห้องได้โดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำ

(พี่มีแล้วทำพี่ไม่โอนมาใช้เมืองจีนละ ปล่อยให้คนดูถูกและขอเงินเมียใช้ทำไมวะ - -)

ทุกคนอธิบายว่าคนหัวเซี่ยเป็นพวกบ้าวัตถุนิยมและการตัดสินคนจากวัตถุ ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไม

เพี๊ยะ !

ฉิงเฟิง โยนกองเงิน 2000 หยวนไปที่แผนกต้อนรับและกล่าวว่า "300 หยวนสำหรับห้อง ที่เหลือเป็นค่าตัวเด็กสวยๆสองคน ผลไม้และยี่สิบเบียร์ขวด"

ผู้จัดการที่งดงามอารมณ์เปลี่ยนไปแสดงให้เห็นถึงความสุขในสายตาของเธอหลังจากเห็นกองเงินสด

"นี่เป็นห้องของคุณคะ ห้องที่ 29"

ใบหน้าที่อารมณ์เสียของเธอกลายเป็นรอยยิ้ม การดูหมิ่นของเธอตอนนี้หายไปหมดแล้ว

สำหรับเธอ เงินมาก่อนอย่างอื่นเป็นเรื่องรอง

"ไปกันเถอะ " ฉิงเฟิงหยิบกุญแจและเดินไปที่ห้อง 29

พวกเขามาถึงห้องภายในสามนาที ต่อมาก็มีสาวสวยสองคนเดินตามเข้ามาด้วย

ทั้งสองสาวสวยเหล่านี้ถูกเรียกว่าเจ้าหญิงพวกเธอมีใบหน้าที่ละเอียดอ่อน พวกเธอทั้งสองสูงและผอม ริมฝีปากแดงและทาเล็บสีแดงซึ่งทำให้ดูน่าสนใจมาก

พวกเธอมาเพื่อร้องเพลง ดื่มและเล่นเกมดื่มกับลูกค้า หากคุณยินดีจ่าย คุณก็สามารถพาพวกเธอไปนอนด้วยได้

เจ้าหญิงสองคนเริ่มที่จะแนะนำตัวเอง คนที่มีผมยาวชื่อเม่ยน้อยและคนที่มีผมสั้นชื่อหวานน้อย หลังจากนั้นพวกเธอก็เริ่มเทเครื่องดื่มให้ฉิงเฟิงและลั่วเฮา

สำหรับเซี่ยวหยู่ พวกเธอไม่สนใจเธอแม้แต่น้อยเพราะเธอเป็นผู้หญิงเหมือนกัน

"พี่ใหญ่ลี่ ฉันจะร้องเพลงก่อน"

เซี่ยวหยู่ยิ้มและเริ่มร้องเพลงด้วยไมโครโฟนหลังจากกดเลือกเพลง “Courage(ความกล้าหาญ)”

"ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจ ฉันไม่สนใจทุกสิ่งที่คนอื่นพูดตราบเท่าที่คุณอยู่กับฉัน

ฉันอยากจะติดตามคุณไปทุกที่ ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายและหัวใจของฉันพยายามที่จะโน้มน้าวใจตัวเอง แต่สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดคือคุณก็จะยอมแพ้ ... "

จางเซี่ยวหยู่ร้องเพลงได้อย่างงดงามด้วยเสียงอันไพเราะของเธอ

ทักษะการร้องเพลงของเซี่ยวหยู่ถูกมองว่าธรรมดาในสายตาของฉิงเฟิง เขาสามารถร้องเพลงได้ดีกว่าเธอเป็นสิบเท่าถ้าถ้าเขาจะทำ

"พี่ใหญ่ลี่ มา มาร้องเพลง"

เซี่ยวหยู่ยิ้มขณะส่งไมโครโฟนไปที่ฉิงเฟิงและขอให้เขาร้องเพลง

"ก็ได้ จัดให้ ฉันจะร้องเพลง" Love the mountains but love beauty more" (รักภูเขาแต่รักสาวงามมากว่า)

หลังจากที่เขาเคลียร์เสียงตัวเองและเตรียมพร้อมเขาก็เริ่มร้องเพลงใส่ไมโครโฟน

"ถนนไม่มีที่สิ้นสุดและเรากำลังเดินไปพร้อมกับความกตัญญูและความเสียใจเรามีชะตากรรมและโชคชะตาในทุกรุ่น เราแบ่งปันเลือดเดียวกัน ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน นี่คือการเดินทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด ... "

"ฉันรักภูเขา แต่ฉันตกหลุมรักความงามมากกว่า วีรบุรุษคนไหนจะชอบความเปล่าเปลี่ยว ? คนดีคนหนึ่งที่มีความกล้าหาญและความทะเยอทะยานจะมีชื่อเสียงที่โด่งดังจนไกลออกไปหลายไมล์"

ฉิงเฟิงร้องเพลงอย่างไพเราะ มันเป็นเพลงที่เกี่ยวกับกษัตริย์ที่ทิ้งทั้งโลกที่เขาพิชิตมาได้เพียงเพื่อความงาม

นี่มันสุดยอดมาก !

มันเป็นเสียงที่ไพเราะยอดเยี่ยมมาก !

เซี่ยวหยู่ตกใจ, ปากของเธอเปิดกว้าง

แม้กระทั่งลั่วเฮาและสาวสวยทั้งสองคนก็พูดอะไรไม่ออก

เสียงนี้อาจเปรียบเทียบได้กับราชาทั้ง4ในโลกดนตรี

"พี่ใหญ่ลี่ พี่ร้องเพลงได้ดีมากเลย!"

เซี่ยวหยู่ชูนิ้วโป้งให้ฉิงเฟิงขณะที่หน้าแดงขึ้น

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด