ตอนที่แล้วตอนที่61 โค้ชก็ต้องการนวดนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่63 ลดรุ่น

ตอนที่62 แม้แต่ข้อต่อฝืดที่ไหล่ยังได้รับการรักษา


 

การใช้นิ้วกดไปที่กล้ามเนื้อ มันได้ผลมากเวลาที่ทำโดยการนวดผ่อนคลายไหล่ แต่ซุนไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวหลี่ไต้เท่าไร เขาแค่สงสัยแค่นั้นเอง แต่ถึงยังไง ผลที่ออกมามันชัดเจนอยู่แล้ว ซุนรู้สึกต่างออกไปทันทีที่มือของหลี่ไต้ลงมาแตะที่ไหล่ของเขา

เเหม เขารู้เรื่องนวดเอาเรื่องเเฮะ น้ำหนักเเรงสมบูรณ์เเบบมสกเเล้วทิศทางการนวดของเขา มันสบายเอามากๆ เป็นเรื่องจริงเลยที่การนวดนี้มันทำให้ฉันรู้สึกดีเอามากๆ ฉันต้องประชุมทั้งวันเเล้วไหลี่ฉันตอนนี้มันเหมือนมีใครเอาน้ำส้มสายชูมาหยอดใส่กล้ามเนื้อ เเต่ตอนนี้ด้วยการนวเนี้ ฉันไม่รู้สึกปวดเเล้ว! มันสบายยยยมาก

เขาเริ่มสนุกไปกับการนวดเเล้วหน้าของเขาก็ออกอาการ เขาลืมไปสนิทเลยว่าเคยหัวเราเยอะใส่นักกีฬาที่ทำหน้าเเบบนี้เหมือนกันเมื่อนาทีก่อน

ซุนหลุดเข้าไปในโลกเเห่งความสบายที่การนวดนำพามาให้ ตาเขาเริ่มเบลอ หัวเขาเริ่มขาวโพลน

"เอาละครับ โค้ชซุน เป็นไงบ้างครับ?" เสียงของหลี่ลากซุนกลับมาสู่ความเป็นจริง ซุนพึ่งรู้ตัวว่าการนวดมันจบลงเเล้ว เขายืนขึ้นอย่างไม่ยินดีเท่าไรเเล้วขยับหัวไหล่ เขารู้สึกว่าไหล่เขาผ่อนคลายมาก เเทบจะไม่มีน้ำหนักเลย ความรู้สึกมันยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด เเม้เเต่อาการข้อต่อฝืดที่หัวไหล่ ที่เป็นมานานเป็นปี ตอนนี้มันหายไปเเล้ว

การนวดของหลี่ไม่ได้ทรงพลังถึงขนาดรักษาไหล่ของเขาได้ สาเหตุหลักของการเกิดเนื้อเยื่อข้อต่อฝืดคือการเปลี่ยนเเปลงทางอายุรเวทของเนื้อเยื้อพื้นฐาน ผลของการเปลี่ยนเเปลงนั้นทำให้เส้นเอ็นบริเวณหัวไหล่ ทั้งข้อต่อเเละเส้นเอ็น เจ็บปวดจากการอักเสบเรื้อรัง ทำให้ออกเเรงในช่วงหัวไหล่ได้น้อยลง ถ้าหลี่นวดคลายกล้ามเนื้อไหล่เขา อาการของโรคนี้ก็จะหายไปพักนึง นั้นทำให้ซุนคิดว่าไหล่เขาได้รับการรักษาเเล้ว

"หลี่ การนวดของนายมันได้ผลมากกว่าพวกหมอนวดหลายๆคนซะอีก!"ซุนกล่าวชมจากก้นบึ้งของหัวใจ ซุนเข้าใจทันทีว่าทำไมนักกีฬาพวกนี้ถึงอดข้าวมายืนรอต่อเเถวเพื่อที่จะได้นวดกับหลี่

"โค้ชซุนครับ ถ้าคุณคิดว่าการนวดของผมมันดีพอละก็ ไว้มาใหม่ได้ตลอดนะครับ"หลี่ไต้ยิ้ม

...

ชื่อเสียงของหลี่ เติบโตขึ้นวันเเล้ววันเล่า จนถึงจุดที่ทั้งนักกีฬาเเล้วก็โค้ช ต่างก็ยกย่องเขามากเมื่อพูดถึงเขา พวกนักกีฬาที่มาเคารพเขาก็มีเหตุผลพอเข้าใจได้อยู่เเหล่ะ เพราะว่าที่ผ่านมาหลี่นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ดังนั้นสำหรับนักกีฬา หลี่ไต้เป็นตัวตนที่ขาดไม่ได้เลย ส่วนของโค้ชนั้น หลี่ก็ถูกเคารพไปในเหตุผลใกล้ๆเคียงกัน พวกโค้ชสามารถพัฒนาการฝึกความเเข็งเเกร่งให้นักกีฬาเพิ่มขึ้นได้ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออีกเเล้ว นี้ทำให้โค้ชทุกคนในทีมยกน้ำหนักชื่นชมหลี่ไต้เอามากๆ

เเต่ หม่า กวงหยี ไม่ใช่หนึ่งในนั้นเขาพยายามหาโอกาสที่จะได้ขับไล่หลี่ไต้ออกไปให้ได้ เเต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยากหน่อยเนื่องด้วยสถานภาพของเขาตอนนี้ เเต่เขาไม่ยอมเเพ้ เขาคิดเรื่องนี้เกือบครึ่งวันเเล้วตัดสินใจไปพูดกับโค้ชซุนถึงเเม้จะไล่หลี่ไต้ออกไม่ได้ เเต่อย่างน้อยก็สร้างความรู้สึกเเย่ๆเกี่ยวกับหลี่ไต้ในใจซุนได้

...

ซุนตะโกน "เข้ามา" เมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู หม่ากวงหยี ผลักประตูเเล้วเดินเข้ามา

ซุนนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ซึ้งบังหัวเขาไปครึ่งหนึ่ง เขาชโงกหัวมาดูเเล้วเห็นหม่า เขาชี้ที่โซฟาข้างๆเขาเป็นสัญญาณบอกว่าไปนั่ง หม่าพูดหลังจากที่นั่งเเล้ว…

โค้ช มีบางอย่างที่ผมต้องบอกคุณ หลี่ไต้มันทำงานเกินหน้าที่ไปเยอะเลย เขาลากพวกนักกีฬาไปนวดทุกวัน แล้วมันก็กินเวลากินข้าวของพวกเขาไปด้วย อาหารมันเย็นหมดแล้วตอนที่พวกเขามาที่ร้าน พวกเขาเหนื่อยมามากแล้วที่ต้องฝึกตลอดทั้งวัน มันต้องแย่มากๆแน่ๆเลยถ้าพวกเขาไม่ได้กินอาหารร้อนๆ มันอาจจะส่งผลกระทบแย่ๆต่อการฝึกก็ได้นะครับ”

เขาหยุดซักพักแล้วมองไปที่โค้ชซุน ซุนกำลังคิดอะไรอยู่ลึกๆด้านหลังหน้าจอคอมนั้น หม่าพูดต่อ “ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าพวกนักกีฬาอยากจะนวด พวกเขาก็ไปหามืออาชีพได้นี้ครับ เราจ่ายเงินค่ามืออาชีพมาให้พวกเขานวดให้นักกีฬา แล้วทำไมมือสมัครเล่นอย่างหลี่ไต้ต้องมาทำหน้าที่นี้แทนละครับ เขาแทรกแซงงานคนอื่นแทนที่จะทำงานของตัวเอง แล้วถ้าเขาทำนักกีฬาเจ็บละครับ โค้ช ผมว่าคุณต้องเริ่มคิดที่จะทำอะไรซักอย่างแล้วละครับ ถ้าปล่อยเขาไว้อย่างงี้ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อการฝึกนักกีฬาได้นะครับ”

หม่ามองไปที่ซุน ตรงข้ามหน้าจอคอม ซุนกำลังมองลงต่ำอยู่ หม่าไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เขารอ 7-8 วินาที แล้วในที่สุด ซุนก็เงยหน้าขึ้น เขายืนแล้วถอดหูฟังออก

ซุนหัวเราแบบไม่มีทางเลือก “ภรรยาฉันพึ่งส่งข้อความเสียงที่ยาวเอามากๆมาหน่ะ ฉันไม่คิดว่าการที่จะให้คนอื่นมาฟังเรื่องในบ้านฉันมันเหมาะเท่าไร ฉันเลยใส่หูฟังไว้ 55 เออ เมื่อกี้นายพูดว่าไงนะ ฉันได้ยินไม่ถนัดเลย”

หม่าอายมากๆ เพราะว่าเขาพูดทุกอย่างไปด้วยฟีลลิ่งแบบจัดเต็มและน้ำลายที่แตกกระเซนไปทั่ว แต่ทำไปมากมายสุดท้ายก็เท่าเดิม ไม่มีคำไหนเข้าไปในหูซุนได้ซักคำ หม่าไม่มีทางเลือกนอกจากพูดมันอีกรอบ

“โค้ช คืองี้ ผมพูดว่า....”

“โอ๊ะ รอเดี๋ยวนะ ถึงเวลาแล้ว เราเดินไปคุยไปกันดีกว่านะ” ซุนหยุดหม่าไว้แล้วหยิบเสื้อโค้ท เตรียมตัวที่จะออก หม่าลุกขึ้นแล้วตามไปติดๆ

“โค้ช จะไปไหนครับ” หม่าถามปรกติ

“ฉันจะไปให้หลี่มันนวดหน่อย!” ซุนพูด “เจ้าเด็กใหม่หลี่นี้มันมีพรสวรรค์มากเลยนะ เขารู้วิธีนวดแล้วเขาก็รู้ดีมากด้วย ผลที่ออกมามันยิ่งกว่าพวกมือโปรอีก ไหล่ฉันมันมีปัญหามาเป็นปีแล้วรู้ไหม ฉันไปหาหมอมาตั้งหลายคน แต่ไม่มีใครรักษาฉันได้เลย แต่หลังจากที่ฉันนวดกับหลี่ครั้งที่แล้ว ฉันรู้สึกดีขึ้นมากๆ เมื่อคืนก่อนฝนตก แต่ฉันรู้สึกไม่สบายตัวไปทั้งคืนเลย ฉันเลยเปลี่ยนข้างนอน จากข้างนึกไปอีกข้างของเตียงแล้วฉันไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว!ฉันต้องตามหาเขาแล้วให้เขานวดฉันอีกรอบวันนี้...”

คำพูดของซุนมันเหมือนโฆษณาสินค้าในช่องขายของ แต่ถึงยังไง หม่าก็ยังรู้สึกเหมือนมีวัวไบซันอเมริกันตัวใหญ่มหึมามาเหยียบหัวใจเขา เขารู้สึกสับสนมาก โค้ชซุนยืนยันด้วยตัวเองถึงการนวดของหลี่ไต้ แล้วเขายังไปหาหลี่ไต้อย่างมีความสุข มันไม่มีทางที่หม่าจะไปยุ่งอะไรกับการนวดนี้อีกแล้ว เขาไม่อยากไปค้านความคิดเห็นของซุน! ตอนนี้เขารู้สึกโชคดีที่ตัวเองไม่ได้พูดออกไปให้ซุนได้ยินตอนที่เขาใส่หูฟัง

“เออ แล้วเมื่อกี้นายจะว่าอะไรนะ”ซุนถาม

“เออ คือ...” หม่าไม่กล้าที่จะซ้ำคำเดิมแน่ๆถึงจะโดนซ้อมจนเกือบตายก็เถอะ “ผมลืมไปแล้ว ดูซิ ความจำสั้นจริงๆ5555”หม่าทำตัวแกล้งโง่แล้วรู้สึกตัว ว่าหลี่ไต้ตอนนี้กลายเป็นคนโปรดของซุนไปแล้ว มันอาจจะสายไปแล้วถ้าจะไล่เขาออกตอนนี้

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด