ตอนที่แล้วบทที่  119 งานแต่งงานสุดอลังการ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 121 พัฒนาแผนการ (อ่านฟรี)

บทที่ 120 งานเลี้ยงแต่งงาน (อ่านฟรี)


คนทั่วไปต่างรู้สึกประหลาดใจ งานแต่งงานนี้อลังการมาก ซึ่งถูกจัดขึ้นที่โรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนล และพวกเขาได้ยินมาว่างานเลี้ยงก็ดีเลิศเช่นกัน อาหารที่นำมาล้วนเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดในประเทศจีน และเครื่องดื่มก็ใช้เครื่องดื่มระดับพรีเมียมยี่ห้อเหมาไถ ไม่อยากจะคิดเลยว่าราคาจะสูงแค่ไหน ตระกูลนี้ช่างรวยจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น แขกที่มาร่วมงานก็ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แขกส่วนใหญ่ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีตำแหน่งระดับสูง โดยมีมากกว่า 10 คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับเมือง สองตระกูลนี้ต้องมีเบื้องหลังอะไรบางอย่างแน่ๆ บางทีพวกเขาอาจจะเป็นญาติกับเจ้าหน้าที่บางคนในรัฐบาลเมืองหรือรัฐบาลจังหวัดก็เป็นได้

เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวก็คืออู๋จื้อกางและแฟนสาวของเขาที่เป็นพยาบาลเฝิงหยู่ยังต้องไปโรงเรียนอยู่จึงไม่มีคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ พิธีกรคือเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ซึ่งได้รับค่าจ้างอย่างงามในการมารับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานแต่งงานนี้ ผู้รับหน้าที่เป็นสักขีพยานของงานแต่งงานนี้ถูกเปลี่ยนจากรองหัวหน้าเซวี่ยไปเป็นหัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ของเมือง การลาออกของหลี่ซื่อเฉียงยังไม่ได้รับการอนุมัติจากที่ทำการไปรษณีย์เลย! แต่ก็หาพบได้ยากที่เจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงานจะมาทำหน้าที่เป็นสักขีพยานในงานแต่งงาน

ตอนแรกเฝิงหยู่คิดว่าจะขอให้จางรุ่ยเฉียงมาทำหน้าที่นี้ แต่จางรุ่ยเฉียงปฏิเสธ เขาบอกว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นสักขีพยานในงานแต่งงาน และอาจก่อให้เกิดข่าวลือได้ แต่เขาก็ให้เกียรติเฝิงหยู่โดยการมาร่วมงานเลี้ยงแต่งงานครั้งนี้ ด้วยเหตุนี้ เฝิงหยู่จึงไม่ยืนกรานที่จะขอให้เขาทำหน้าที่นี้ แค่หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ของเมืองมาทำหน้าที่เป็นสักขีพยานก็เพียงพอแล้ว

ในวันนั้น พ่อของหลี่ซื่อเฉียงเมามาก เขาไม่คิดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลเมืองมาร่วมงานเลี้ยงแต่งงงานมากมายขนาดนี้ แม้แต่หัวหน้าจากหน่วยงานของเขาก็มาร่วมงานด้วยและยังมาตบที่บ่าของเขาและพูดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น

ทุกคนรู้ความหมายของคำพูดแบบนี้ นั่นหมายความว่าเขากำลังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง พ่อของหลี่ซื่อเฉียงดีใจมากจนดื่มเหล้ายี่ห้อเหมาไถหมดแก้ว

พ่อของหลี่ซื่อเฉียงยังอยากที่จะดื่มชนแก้วกับหลี่หมิงเต๋อ หลี่ซื่อโหยว โฮวไฮ่ถาว และคนอื่นๆ อีก ยังมีผู้นำอีกหลายคนที่เขายังไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยด้วยมาก่อน โดยเฉพาะจางรุ่ยเฉียง พ่อของหลี่ซื่อเฉียงจับมือทักทายและดื่มกับเขา นี่คือรองนายกเทศมนตรีของเมืองปิง เขาไม่เคยนั่งร่วมโต๊ะกับรองนายกเทศมนตรีมาก่อนเลยในชีวิต

ผู้จัดการที่ทำการไปรษณีย์บอกให้หลี่ซื่อเฉียงยังคงทำงานที่ที่ทำการไปรษณีย์ต่อไป แต่ให้ลาหยุดแบบไม่รับเงินเดือนแทน เขาสามารถกลับมาทำงานที่ที่ทำการไปรษณีย์เมื่อไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ

แม้แต่หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ก็มาร่วมงานเลี้ยงแต่งงานของหลี่ซื่อเฉียง แล้วเขาจะปล่อยให้หลี่ซื่อเฉียงลาออกได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น เขาและพ่อของหลี่ซื่อเฉียงก็เคยเป็นเพื่อนสนิทในกรมทหารด้วยกันมาก่อน นี่เป็นโอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น และเขาอาจได้รับการเลื่อนตำแหน่งอันเนื่องมาจากความสัมพันธ์นี้ก็ได้

หากหลี่ซื่อเฉียงไม่ได้มาจากที่ทำการไปรษณีย์ ผู้จัดการที่ทำการไปรษณีย์คงไม่ได้นั่งโต๊ะแรกสุด ทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะนั้นล้วนเป็นหัวกน้าระดับเมืองทั้งนั้น

เฝิงซิ่งไท่สงบนิ่งมากขึ้น วันนี้คือวันแต่งงานของลูกสาวเขา และฝ่ายเจ้าบ่าวคือคนที่เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยง ดังนั้นคนที่รับรองแขกจะต้องเป็นพ่อของหลี่ซื่อเฉียง ตามประเพณีของพวกเขา อีกสามวันต่อมา เฝิงซิ่งไท่จะต้องเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอีกงานภายในเขตของเขา ซึ่งเวลานั้นเฝิงซิ่งไท่จะต้องเป็นคนรับรองแขก

เฝิงซิ่งไท่ดื่มกับคนที่นั่งอยี่โต๊ะแรกเท่านั้น และเขาก็เชื่อฟังภรรยาที่บอกให้เขารับประทานเยอะๆ หน่อย เพราะอาหารอร่อยมาก

อาหารไม่ได้มีแต่สัตว์ปีกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอาหารทะเลด้วย มีบางเมนูที่เฝิงซิ่งไท่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้นำทุกคนล้วนมีความสุขกับอาหาร

เฝิงหยู่นั่งอยู่ที่โต๊ะร่วมกับพนักงานของบริษัทการค้าไท่หัว เขาไม่อยากไปนั่งที่โต๊ะแรก ด้วยอายุของเขา ถ้าเขาไปนั่งตรงนั้น ทุกคนจะต้องให้ความสนใจ ดื่มฉลองกับเหล่าผู้นำงั้นหรอ? ไม่เอาแน่นอน เขายังเป็นแค่นักเรียนและไม่สมควรที่จะดื่มเหล้า

หลี่หมิงเต๋อและคนอื่นๆ นั่งคุยและดื่มกันอย่างมีความสุขที่โต๊ะ เห็นได้ชัดว่าจางรุ่ยเฉียงก็นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

แม้ว่าจางรุ่ยเฉียงจะเป็นรองนายกเทศมนตรี แต่สำหรับตำแหน่งของเขานั้น เขายังอยู่ต่ำกว่าหลี่ซื่อโหยวและโฮวไฮ่ถาว แต่หลังจากที่โรงงานมอเตอร์และโรงงานการบินมีการเปลี่ยนแปลงจากกิจการของทหารไปเป็นของพลเมือง รัฐบาลก็มีอำนาจมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น จางรุ่ยเฉียงก็เป็ผู้นำในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ จากมุมมองดังกล่าวนี้ ถือว่าจางลุ่ยเฉียงมีอำนาจมากกว่าพวกนั้น

นอกจากนี้ ทุกคนรู้ว่าจางรุ่ยเฉียงได้รับการแต่งตั้งพิเศษจากนายกเทศมนตรีให้เป็นรองนายกเทศมนตรี

จางรุ่ยเฉียงพูดคุยกับหลี่ซื่อโหยวและโฮวไฮ่ถาวเกี่ยวกับโรงงานของพวกเขาอย่างถ่อมตัว เมื่อเขาได้ยินว่าทั้งสามร่วมงานกับเฝิงหยู่ จางรุ่ยเฉียงก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก

หลี่ซื่อโหยวและโฮวไฮ่ถาวมองหน้ากันและเล่าโครงการนี้คร่าวๆ ให้จางลุ่ยเฉียงฟัง พวกเขาไม่ลงรายละเอียดเพราะว่ากำลังทำการวิจัยศึกษากันอยู่ สิ่งนี้ทำให้หลี่หมิงเต๋อรู้สึกอึดอัด เฝิงหยู่กำลังร่วมงานกับโรงงานมอเตอร์และโรงงานการบินเพื่อพัฒนาเครื่องทำความชื้นรุ่นใหม่หรือ? ทำไมเฝิงหยู่ไม่ไปนึกถึงโงงานเครื่องจักรละ?

หลี่หมิงเต๋อก็มีเครื่องทำความชื้นอยู่ที่สำนักงานของเขา และมันมีประโยชน์มาก เขาได้ถามวิศวกรและรู้มาว่าจริงๆ แล้วเครื่องนี้ไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่ซับซ้อนเลย ก็แค่ใช้ลวดทำความร้อนกับพลาสติกทนความร้อนเท่านั้น โรงงานเครื่องจักรก็สามารถผลิตเครื่องแบบนี้ได้เช่นกัน แต่สินค้าง่ายๆ แบบนี้ทำไมถึงทำกำไรได้ดีขนาดนี้ พ่อของเฝิงหยู่ก็ถือหุ้นอยู่ในโรงงานเครื่องจักร ธุรกิจทำเงินได้ขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่ร่วมงานกับโรงงานเครื่องจักร แต่กลับไปร่วมงานกับโรงงานสองโรงงานนั้นแทนละ?

หลี่หมิงเต๋อไม่ได้พิจารณาเลยว่ามีการสั่งซื้อเครื่องจักรการเกษตรยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม โรงงานเครื่องจักรไม่มีเวลาและกำลังการผลิตเครื่องทำความชื้นนี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเงินพวกนี้น่าจะตกเป็นของโรงงานเครื่องจักรมากกว่า

จางรุ่ยเฉียงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเกี่ยวกับเฝิงหยู่ เขาถามผู้อำนวยการโรงงานสองคนว่าพวกเขาได้สั่งซื้อเครื่องจักรที่ล้ำสมัยหรือเทคโนโลยีของสหภาพโซเวียตจากเฝิงหยู่หรือเปล่า ทั้งสองคนพยักหน้า แต่เฝิงหยู่บอกให้พวกเขารออีกหน่อย เพราะถ้าจะเอาตอนนี้ต้องใช่เล่ห์เหลี่ยมบ้าง แต่เขารับรองว่าเขาจะสามารถนำมาให้พวกเขาได้ภายในหนึ่งปี

เฝิงซิ่งไท่พอได้ยินดังกล่าวก็ตกใจ อะไรนะ? ลูกชายเขาจะเอาเครื่องจักรมาให้พวกเขางั้นหรอ? แล้วสายการผลิตที่สองสำหรับน้ำมันถั่วเหลืองของเขาละ? ทำไมเขาไปช่วยคนอื่นแทนที่จะช่วยพ่อตัวเอง เขาต้องกลับบ้านไปตีลงโทษเฝิงหยู่สักหน่อยละ!

จางรุ่ยเฉียงพยักหน้า เสี่ยวเฝิงเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ แต่มักชอบใช้ช่องโหว่ เขาเคยว่าเฝิงหยู่เรื่องธุรกิจรถมือสอง แต่ตอนนี้เขาไม่ทำแล้ว แต่เขากลับมีรถบรรทุก Gaz จำนวน 80 คันแถมยังไม่ต้องเสียภาษีสักเซ็นต์เดียว

ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่เฝิงหยู่ฟ้องร้องชาวรัสเซียคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเฝิงหยู่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษี แต่สิ่งที่เขาทำกลับถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง ใครก็คิดไม่ถึงวิธีการแบบนี้ เว้นแต่พวกเขาจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าใบยืมนั้นเป็นเอกสารปลอม

แต่ช่างเถอะ จางรุ่ยเฉียงก็ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับเฝิงหยู่ เขารู้ว่าถ้าเขาต้องปะทะกับเฝิงหยู่ เฝิงหยู่ก็ต้องปฏิเสธทุกเรื่องและอ้างว่าอีกฝ่ายเป็นหนี้เขาและนำรถบรรทุกมาใช้หนี้แทน

จางรุ่ยเฉียงแค่หวังว่าเฝิงหยู่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเมืองปิง ไม่ใช่เพียงแค่หาเงินให้ตัวเอง จะมีประโยชน์อะไรกับการหาเงินไปมากมายขนาดนี้? เขาจะมีปัญญาใช้เงินหมดหรือ?

“คุณเฝิง ผมได้ยินมาว่าคุณจัดตั้งโรงงานในเขตของคุณ น้ำมันปรุงอาหารเกรดพรีเมียมไท่หัวก็เป็นผลิตภัณฑ์จากโรงงานของคุณ จากชาวไร่ธรรมดาคนหนึ่งตอนนี้คุณกลายมาเป็นผู้ประกอบการแล้ว” จางรุ่ยเฉียงพูดพร้อมรอยยิ้ม

เมื่อเขาได้ยินรองนายกเทศมนตรีชื่นชมเขา เฝิงซิ่งไท่ก็ยิ้มแก้มปริ “ฮ่าๆๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” แม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น แต่ท่าทางที่แสดงออกกลับตรงกันข้าม เขายังรอให้คนมาพูดชื่นชมเขาอีก

พ่อของหลี่ซื่อเฉียงกลับมาที่โต๊ะแรกด้วยสภาพมึนเมา ก่อนที่เขาจะได้รับประทานอะไร ภรรยาของเขาก็ต้องช่วยพยุงไปที่มุมเพื่อนั่งพักก่อน งานเลี้ยงเลิกราแล้ว และแขกส่วนใหญ่ก็พากันกลับ แขกที่ชอบรอเก็บอาหารเหลือจากงานเลี้ยงแต่งงานกลับบ้านกลับพบว่าในงานนี้ไม่มีอาหารเหลือเลย อาหารทุกจานถูกรับประทานเกลี้ยง แขกหลายคนรู้สึกอิ่มมากจนแทบเดินไม่ไหว พวกเขาบอกว่านี่อาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่พวกเขาได้รับประทานอาหารที่โรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนล ดังนั้นพวกเขาจึงต้องกินให้เต็มที่!

แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ผู้คนยังคงพูดถึงงานเลี้ยงแต่งานครั้งนี้อยู่เลย…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด