ตอนที่แล้วตอนที่ 76 ดวงตาปีศาจ (FREE)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 78 ความต่างระหว่างเหนือกับใต้ (FREE)

ตอนที่ 77 แล้วพบกันใหม่ (FREE)


 

"ดวงตาปีศาจ...ขายได้เท่าไหร่?"

ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิดอยู่นั้น ฝูงชนรอบๆต่างคิดว่าเขานั้นปกติดีหรือไม่

แค่เขาพูดอะไรออกมาเล็กน้อย ก็ทำให้คนอื่นสับสนวุ่นวายได้แล้ว

แน่นอนว่าท้ายที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ไม่สามารถดึงดวงตาปีศาจนั้นออกมาเป็นของที่ละรึกได้

เพราะการที่จะจับปีศาจแบบมีชีวิตได้นั้นเป็นเรื่องยาก ขุนนางฉิน ไม่มีทางปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ ฆ่าปีศาจตนนั้นไปแน่นอน

ดวงตาของปีศาจเป็นแหล่งพลังงานที่แข็งแกร่งและถือเป็นแหล่งพลังชีวิตของพวกปีศาจอีกด้วย

การทดสอบแห่งเต๋าได้สิ้นสุดลง

หลังจากที่ทุกคนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์

ว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นผู้ชนะการทดสอบกฎแห่งเต๋าทั้งสองด้าน?!

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของทุก ๆ คน และดูเหมือนจะไม่มีใครกลาคัดค้านอะไร

บุคคลผู้ซึ่งเข้าถึงระดับประทับศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้ชนะในการทดสอบกฎแห่งเต๋าด้านการต่อสู้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สิ่งที่เป็นเรื่องน่าทึ่งที่สุดและทำให้ทุกคนยังไม่สามารถเข้าใจได้ก็คือ เขาสามารถเข้าถึงระดับประทับศักดิ์ได้อย่างไร โดยที่ไม่เคยเข้าไปศึกษาในหอแห่งเต๋ามาก่อน

 

"ฟาง เจิ้งจือ ได้เป็นผู้ชนะของการทดสอบรอบสอบต่อสู้ และยังเป็นผู้ที่ได้อันดับที่หนึ่งของการทดสอบด้านปัญญาด้วย !" เสียงของขุนนางฉิงดังไปทั่วลานประลอง

"เป็นผู้ชนะของการทดสอบทั้งสองด้าน?!" ในขณะเดียวกัน หลี่ เฮ่อ และ เมิ่ง เจียงฉาน รู้สึกเพียงว่าตนควรจะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ไหน ทั้งความสามารถและระดับพลังระหว่างพวกเขานั้นต่างกับ ฟาง เจิ้งจือ อย่างเทียบไม่ติด

 

หลังจากนั้นเจ้าเมืองก็ได้แสดงความยินดีกับ ฟาง เจิ้งจือ ในฐานะผู้ตัดสิน

ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ทว่าเหล่าผู้ตัดสินยังคงรู้สึกราวกับว่าอยู่ในความฝัน ตั้งแต่ต้นจนจบการแข่งขันพวกเขาไม่สามารถเชื่อได้เลยว่านี้จะเป็นเรื่องจริง สามารถเอาชนะในทุกการทดสอบได้ทั้งที่ยังเป็นเด็กหนุ่ม อีกทั้งยังเป็นการเข้าร่วมครั้งแรกอีกด้วย

เขาสามารถทำลายสถิติของมณฑลซึ่งมันไม่เคยถูกทำลายมานานกว่าสามสิบปี

ผู้ที่ชนะการแข่งขันทั้งสองด้าน!

มีทั้งผู้ที่เก่งกาจในด้านปัญญา และผู้ที่มีฝีมือเยี่ยมยุทธ์ในการต่อสู้ แต่การเป็นผู้ที่ยืนยู่สูงสุดในด้านปัญญาและการต่อสู้ มันเป็นเรื่องที่ยากเหลือเชื่อ! แม้แต่เมืองที่เก่าแก่อย่างเมืองฮวายอันเองก็ไม่มีบุคคลที่เยี่ยมยอดแบบนี้มากว่า 30 ปีเช่นกัน

 

สามวันต่อมาสายลมพัดผ่าน แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ๆ  ทั้งทางสัญจรของผู้คน หรือการเดินทางของเหล่านักปราชญ์ ทุก ๆ คนต่างพูดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในการทดสอบกฎแห่งเต๋า

โดยปกติแล้วการทดสอบระดับมณฑลจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไรนัก แต่ในการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับมณฑลในครั้งนี้ได้ถูกแพร่สะพัดออกไปราวกับลมพัดโชกทั่วทะเลทรายเหนือไปจนถึงกระทั่งเมืองหลวงของเหล่าขุนนาง

เพราะมันช่างน่าเหลือเชื่อ

 

ผู้ที่ไม่เคยเข้าไปศึกษาในหอแห่งเต๋ามาก่อน สามารถเป็นผู้ชนะของการทดสอบด้านปัญญา และกระทั่งในการทดสอบรอบด้านการต่อสู้ แม้ต้องเจอกับปีศาจที่แข็งแกร่ง เขาก็ยังสามารถจัดการมันได้ ในที่สุดเขาก็ได้เป็นผู้ชนะของการสอบทั้งสองไปในที่สุด

เป็นเรื่องราวที่สมควรจะได้รับการเชิดชู ไปทั่วทุกพื้นที่

แต่ทว่าเมื่อเหล่านักปราชญ์ได้ยินชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ ต่างก็พากันแสดงท่าทีรังเกียจ ดูถูก อย่างชัดเจน

สาเหตุเพราะว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นได้สร้างบาดแผลขึ้นในจิตใจของพวกเขา ฟาง เจิ้งจือ ทำตัวน่ารังเกียจต่อ หยุน ชิงวู เป็นไอโรคจิตดีๆนี่เอง!

ต่อให้สมควรจะได้รับคำสรรเสริญเชิดชู แต่ต่อใหมีเงินมาวางกองครงหน้าของพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีทางญาติดีกับ ฟาง เจิ้งจือ แน่นอน!

 

ในทุกๆ อาณาจักรต่างมีสิ่งที่เคารพแตกต่างกันไป

อย่างเช่นในอาณาจักรเซี่ยอันย่งใหญ่ตั้งแต่โบราณกาล มักมีสุภาสิตติดปากผู้คน หนึ่งศาลา, สี่นักปราชญ์, สิบสามกองทัพ.

บนยอดเขาอันไกลโพ้นสายลมที่พัดกลุ่มเมฆผ่านทะเลทรายทางตอนเหนือ ด้านหน้าของหอทองคำได้มีคำสองคำสลักไว้ " เต๋าแห่งสวรรค์ " เป็นสถานที่ที่ราวกับว่าวิญญาณของพระเจ้าได้เพิกเฉยต่อเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

ศาลาเต๋าแห่งสวรรค์ เป็นสถานที่ซึ่งเหล่านักปราชญ์ในราชอาณาจักรเซี่ย ยินยอมพร้อมแลกชีวิตของตนเองเพื่อให้ได้เข้าไปข้างใน

 

ทางด้านหลังของศาลาเต๋าแห่งสวรรรค์ภายในเป็นสวนที่เงียบสงัด หญิงสาวสวมชุดผ้าไหมสีชมพูพร้อมกับแววตาสีดำกำลังจ้องมองไปที่โต๊ะด้านหน้าของนาง

แววตาคู่นั้นสว่างระยับราวกับว่ามันคือหมู่ดาวนับล้านทั่วทั้งฟากฟ้า มันเหมือนกับทางช้างเผือกหรือทะเลสาบหยกมรกต

ผมสีดำเงายาวสลวยลงไปถึงเอวของนาง ไม่มีปิ่นผมทองคำหรือแม้แต่เครื่องประดับใด ๆ เว้นแต่ดอกโบตั๋นที่นางหยิบมาปักไว้ที่เสี้นผม สีของมันช่างสดใสยิ่งนัก

คิ้วโก่งยาวเล็กน้อยส่องประกายระยิบระยับ ทุกอย่างไร้ที่ติ ริมฝีปากดูอ่อนละมุนและน่าทะนุถนอมเหมือนกลีบดอกไม้บาง

ที่คาดเอวของนางเป็นสายสีขาวหิมะต้นฤดู นางเป็นต้นแบบของหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบ

ใครได้ผ่านมาเห็นเข้า คงได้แต่ถอนหายใจราวกับว่าชีวิตนี้ไม่มีทางเอื้อมไปถึง นางผู้นี้เป็นสิ่งล้ำค่าของสวรรค์ และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบนางได้ตามสถานที่ทั่วไป ถึงแม้ว่านางจะมีโฉมหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และอ่อนหวาน แต่มีกลิ่นอายบางอย่างที่ทรงพลังเปล่งออกมาจากร่างนางอย่างแผ่วเบา

 

"ผู้ชนะการทดสอบทั้งสองด้าน?" ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อยเปล่งเสียงออกมาชัดเจนราวกับว่ากำลังตื่นเต้น

"หลังจากที่ไม่ได้พบกันเป็นเวลาถึงแปดปี สิ่งแรกที่ข้าได้ยินคือเขาได้เป็นผู้ชนะของการสอบทั้งสองด้าน ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แปดปีที่สูญเปล่า ! แต่การที่ไปเปิดผ้าปิดหน้า หยุน ชิงวูในงานชุมนุมร้อยบุปผา...? เจ้าสารเลวนั่นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด! "

"ต่อจากนี้เขาจะต้องไปที่เมืองหลวงเพื่อไปเข้าร่วมการทดสอบระดับเมืองหลวงแน่นอน? การทดสอบระดับเมืองหลวง ...ข้าเชื่อว่าการทดสอบระดับเมืองหลวงก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ เอาล่ะ เจ้าสารเลวนั้นคงผ่าเรื่องยากลำบากมาไม่น้อย ข้าต้องให้รางวัลเขาสักหน่อยแล้ว! "

"เย่ว์ เอ๋อร์!"

"มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือคุณหนู" หญิงสาวที่สวมชุดสีเขียวเดินเข้ามาในทันที

"เตรียมกระดาษให้ข้า ข้าจะเขียนจดหมายถึงท่านพ่อ"

"รับทราบ!"

 

ในขณะเดียวกัน วีรกรรมของ ฟาง เจิ้งจือ ที่เมืองฮวายอันทำให้เข้ามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและตอนนี้เขากำลังลองเสื้อผ้าอย่างมีความสุข

"นายน้อยฟาง, เสื้อผ้าชุดนี้ดูเหมาะสมกับนายน้อยมาก!" เจ้าของร้านเสื้อโผล่เข้ามาตรงหน้า ฟาง เจิ้งจือ

แน่นอนว่ามันไม่ได้เกี่ยวว่าเขาเป็น ฟาง เจิ้งจือ แต่มันเป็นเพราะพ่ออค้าทุกร้านต้องประจบประแจงลูกค้าเป็นปกติอยู่แล้ว

เพราะคนที่มากับ ฟาง เจิ้งจือ คือ เหยียน ซิว ทุกคนจึงให้ความเคารพเขา

"ใช้ได้! มันเคลื่อนไหวได้คล่องตัวและดูหรูหรามาก! " ฟาง เจิ้งจือ แสดงท่าทีราวกับพอใจออกมา

"นายน้อยฟางช่างมีสายตาที่เฉียบคม มันเป็นชุดที่ทอด้วยมือและถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี เนื้อผ้านุ่มและมีสไตล์ มันช่างเหมาะสมกับคนที่มีชีวิตชีวาเช่นนายน้อยฟาง! "

เสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มถูกนำออกมาในทันที เนื้อผ้าเนียนนุ่ม นอกจากนี้สิ่งที่ใช้ถักทอยังเป็นเกล็ดเงินทั้งหมดมันช่างสง่างาม

"ไม่เลวเลย" ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าด้วยความพอใจ

...

 

"เจ้าจะไปเข้าร่วมการทดสอบระดับเมืองหลวงหรือไม่?" เหยียน ซิว เหลือบมองไปยังชายผู้ดูแข็งแกร่งใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราแล้วหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ

"แน่นอนอยู่แล้ว!" ฟาง เจิ้งจือ ตอบรับอย่างมั่นใจ

"ไว้เรามาพบกันที่การทดสอบระดับเมือง!"

"แล้วเจ้าจะเข้าร่วมทดสอบหรือไม่"

เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยิน เหยียน ซิว ถามเขาจึงอยากรู้ ในครั้งนี้เขาคิดว่า เหยียน ซิว จะเข้า

ร่วมการทดสอบระดับมณฑลแต่ก็ไม่เป็นไปตามที่เขาคิด

"เข้าร่วม!" เหยียน ซิว พยักหน้าตอบรับ

"แล้วเจ้าจะเป็นผู้ชนะของการทดสอบหรือไม่?" ฟาง เจิ้งจือ ถามออกมาอย่างใจเสีย

"ไม่จำเป็น!" เหยียน ซิว ส่ายหัว

"เอาล่ะ งั้นพบกันใหม่ในการทดสอบระดัับเมืองหลวง!" ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มรับ การทดสอบระดับ

เมืองหลวง? เหยียน ซิว? เขาอยากรู้เหลือเกินว่าผลการทดสอบจะเป็นอย่างไร

 

 

 

เพจหลัก : Gate of god TH

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด