ตอนที่ 115 ตราประทับอัคคี

หลักของการใช้ตราประทับอัคคีนั้นคือการกลั่น ไฟก็คือพลังงานเเรกของโลก หากปราศจากไฟมนุษย์ชาติจะไม่มีทางก้าวหน้าเเละชาญฉลาดขึ้น ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นด้วยไฟ

 

ดวงอาทิตย์ก็คือเปลวเพลิงลูกใหญ่ที่เปร่งคลื่นความร้อนจนเเพร่กระจายความร้อนออกมา ดังนั้นจึงเกิดลมฟ้าลมฝนที่เกิดขึ้นบนโลก เมื่อไม่มีไฟใช้มนุษย์จะไม่สามารถกลั่นหรือปรุงอาหารได้เเม้กระทั่งสร้างเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นสูง

 

ไฟคือเเหล่งกำเนิดของทุกสิ่ง

 

ลำธารเเห่งความหมายเกี่ยวกับไฟนั้นได้ลอดเข้าสู่หัวใจของ เจียง หลี่ ทำให้เขารู้จักไฟมากขึ้นไฟคือจุดเริ่มต้นของอารยธรรมมันไม่ใช่เเค่การเผาไหม้หรือทำลายเท่านั้น

 

หากไม่มีไฟก็จะไม่มีอารยธรรมมนุษย์จะกลายเป็นคนเถื่อนเฉกเช่นอดีตพื้นฐานของตราประทับอัคคีนั้นโคจรรอบเเนวคิดนี้

 

ก้อง!

 

ชายผิวขาวได้เเพร่ความรู้ของ ตราประทับอัคคีออกมา สมองจักรวาลจ้องอยู่บนเหนือศรีษะของเขาในขณะที่เซลล์สมองของเขาได้ทำงานสูงสุด ต่อมาประกายไฟก็เริ่มปรากฏขึ้น

 

ในตอนเเรกมันคล้ายเปลวเพลิงเเห่งปัญญา หลังจากนั้นมันกลับครอบคลุมไปทั่วจักรวาล ไฟบางตัวมีลูกไฟที่ใหญ่ลอยอยู่บนท้องฟ้า บ้างก็เป็นหมู่ดาว บ้างก็กลายเป็นประกายเล็กๆ เช่น เเมลงที่บินรอบๆ มันดูเหมือนไม่มีอะไร เเต่มันได้จุดไฟก่อให้เกิดเเสงสว่างขึ้น

 

มีมังกรไฟ,อาชาไฟ,เเละโคไฟ ทุกรูปแบบของร่างกายพวกนี้ล้วนเเล้วเเต่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์

 

นี่เป็นโลกเเห่งเปลวเพลิง เเม้เเต่ยักษ์ไฟก็ปรากฏตัวขึ้น จนในที่สุด พระเจ้าเเห่งเพลิงก็จุติลงมา เขาสามารถควบคุมมังกรได้ด้วยมือเปล่าเเละยืนอยู่บนหลังสุกรเพลิง ดาวเคราะห์หลุมดำมืดเเห่งนี้ได้กลายเป็นโลกเเห่งเปลวเพลิง

 

หลังจากที่ช่วงเวลาที่ตราประทับอัคคีทำให้เกิดภาพมองเห็น จบลง มันก็ได้ถูกส่งต่อไปยัง เจียง หลี่ ,เจียง หลี่ ตื่นขึ้น จากความฝันเเละรู้สึกปวดหัวมาก

 

เพื่อที่จะเริ่มต้นการฝึกฝนทักษะตราประทับเปลวเพลิง เขาได้สูญเสียพลังงานจิตวิญญาณจำนวนมาก ใน 30 วันนี้เขาจะไม่สามารถทำสมาธิได้อีกทั้งการสะกดจิตหรืออะไรต่างๆ

 

"นี่คือตราประทับอัคคี? ฉันต้องถาม หวาง กู่หลง เกี่ยวกับวิธีใช้งานมัน บางทีอาจมีเต๋าที่ใช้ไฟอยู่ นี่เป็นประเภทของการไตร่ตรอง เเม้เเต่ เตาหลอมหัวใจวานร ก็มีอนุมานเปลวเพลิงเข้ามาเกี่ยว ความเข้าใจเกี่ยวกับการฝึกฝนทักษะประเภทนี้ของฉันยังไกลจาก หวาง กู่หลง มันน่าจะเหมาะกว่าถ้าถามเขา"

 

เจียง หลี่ นอนหลับทันที เช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ได้ติดต่อไปหา หวาง กู่หลง เเละ ได้ขึ้นมาถึงยอดเขาสูงสุดของภูเขาบริษัทรักษาความปลอดภัย

 

"หืม? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมเซลล์สมองของเธอถึงอ่อนเเอเช่นนี้?"ทันทีที่ หวาง กู่หลง เห็น เจียง หลี่ เขาก็เห็นจิตวิญญาณของ เจียง หลี่ ห่อเหี่ยวมาก

 

"นี่เป็นเพราะผมเปิดผนึกเเละเรียนรู้ทักษะที่เรียกว่า ตราประทับอัคคี"เจียง หลี่ ไม่ได้ปิดบัง หวาง กู่หลง รู้ข้อมูลของเขาเเม้เเต่มิติในหินเเสงนั่น"วันนี้ผมมาหาคุณก็เพราะอยากจะถามเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังด้วยไฟ อะไรคือส่วนสำคัญสำหรับการไตร่ตรองเปลวเพลิง?"

 

"นั่งลงก่อนสิ่!"อารมณ์ของ หวาง กู่หลง มีการเปลี่ยนเเปลง เขาสวมชุดโยคะสีขาวโบราณทำให้เขาดูสงบนิ่ง หวาง กู่หลง เหมือนเป็นพระเจ้าเเห่งความเมตตามากในตอนนี้ เขากำลังอ่านหนังสือโบราณเล่มนึง

 

หวาง กู่หลง เป็นชายชรา เเต่ผิวของเขากับเรียบเนียนมากมันขัดต่อร่างกายของคนเเก่อย่างมาก ดูเหมือนว่าเซลล์ของเขาจะอ่อนเยาว์ขึ้นอีกครั้ง ช่วงเวลาเเห่งการตรัสรู้นี้ทำให้เขาเกิดความเเตกต่างเเม้เเต่ร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเเปลงไป

 

เจียง หลี่ นั่ง ลง เขาไม่รู้ว่าทำไม ยามที่เขาอยู่ใกล้ หวาง กู่หลง นั้นเขากลับรู้สึกสงบเเปลกๆเเม้เเต่ความอ่อนเเอทางด้านจิตวิญญาณของเขาก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น

 

นี่อาจเป็นเพราะ หวาง กู่หลง ได้ใช้จิตวิญญาณอันไร้ขอบเขตของเขาช่วยกูพลังทางจิตวิญญาณของ เจียง หลี่

 

"ฉันได้เห็นตราประทับสายฟ้าเเละตราประทับลมไปเเล้ว มันเป็นทักษะต่อสู้ที่ยากจะหยั่งถึง ตอนนี้เธอได้เรียนรู้ทักษะใหม่ที่ชื่อว่า ตราประทับอัคคี สิ่นะ? ในลัทธิเต๋ามี5วิธีที่ใช้ในการฝึกฝนทักษะสายฟ้าเเละทักษะเปลวเพลิงนั้นก็มีเช่นเดียวกัน ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นตั้งเเต่สมัยโบราณ อารยธรรมทั้งหมด ไม่ว่า จะตะวันออก,หรือกลาง ก็ล้วนเริ่มมาจากไฟทั้งสิ้น พวกเขาเชื่อกันว่าไฟคือพลังที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่มนุษย์จะควบคุมได้"หวาง กู่หลง กล่าวต่อ"สำหรับความเข้าใจของเรื่องเปลวเพลิงนั้นหลายคนก็เข้าใจเเตกต่างกัน บ้างก็เป็นเรื่องของอารยธรรม บ้างก็สามารถใช้ทำลายทุกอย่างในอดีตนั้น เคยมีนักปราชญ์ ซือเจี๋ย มู่หนี่ ที่เรียนรู้เปลวเพลิงที่เเท้จริง เขาใช้มันเผาไหม้ทั้ง 3 อาณาจักร เปลวเพลิงที่เเท้จริงนั้นคือเปลวเพลิงที่เรียกว่า ซาน เหม่ย ในภาษาสันสกฤษ ความหมายของ ซาน เหม่ย ก็คือ การเปร่งเเสงเเห่งความสว่างเพื่อทำลายความมืดมิดให้ดับสูญ"

 

"ผมควรฝึกฝนมันอย่างไร?"

 

เจียง หลี่ ถามคำถามง่ายๆออกมา เขารู้ว่า หวาง กู่หลง สามารถให้คำอธิบายเเก่เขาได้ ตอนนี้ หวาง กู่หลง ได้เข้าสู่สภาวะหยุนนิ่งนิรันดร์ เขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยหัวใจ

 

"ทุกคนย่อมมีวิธีการเป็นของตัวเอง"หวาง กู่หลง ตอบทันที"ยกตัวอย่างเช่น[เตาหลอมหัวใจวานร]ที่ใช้ร่างกายของงตัวเองเป็นเตาหลอมเเละพิจารณาการเข้าสู่ร่างกายโดยใช้หัวใจของลิง การหยั่งรู้แบบนี้สอดคล้องกับการหลั่งภายในของร่างกายมนุษย์ เมื่อเธอคิดถึงไฟการหลั่งภายในของเธอก็จะอุ่นขึ้นมันจะทำให้ร่างกายของเธอปรับตัวเเละเเข็งเเกร่ง ร่างกายของเธอจะกลายเป็นเตาเผาที่สามารถละลายสิ่งต่างๆได้ นี่คือเหตุผลที่คนในสมัยโบราณนั้นสามารถกลืนกินหินเเละใช้กระเพาะของพวกเขาเเยกสิ่งต่างๆ!"

 

"ผมเข้าใจเเล้ว!"เจียง หลี่ กล่าว"มีวัฒนธรรมโบราณอะไรที่เกี่ยวข้องกับวิธีการบ่มเพาะพลังมั้ง?"

 

"มี..เช่นการพิจารณาเป็นมังกรไฟ,เหยี่ยวไฟเเละพระเจ้าเพลิง ไม่ต้องคำนึงถึงลัทธิเต๋าหรือศาสนาพวกเขาก็เคารพพระเจ้าเพลิง"หวาง กู่หลง โบกมือ ทันใดนั้น พระเจ้าเพลิงก็ก่อตัวขึ้นต่อหน้า เจียง หลี่ คลื่นเปลวเพลิงสีทองเปร่งประกายทำให้เขาเเทบจะไม่สามารถเปิดตาขึ้นมามองได้

 

ตอนนี้ หวาง กู่หลง ได้สร้างภาพมายาพระเจ้าเพลิงด้วยสัญลักษณ์มือของเขาทำให้มันเข้าไปในจิตวิญญาณของคนที่เขาต้องการ เขาสามารถควบคุมจิตวิญญาณคนอื่นได้อย่างง่ายดาย

 

ทันใดนั้น หวาง กู่หลง ก็โบกมือสร้างภาพลวงตาทั้งหมดให้กับ เจียง หลี่ มันเป็นทุกประเภทของพระเจ้าที่ปรากฏ มันคือพระเจ้านับไม่ถ้วน เเม้เเต่พระเจ้าเพลิง,พระเจ้าตะวันตก,พระเจ้าโบราณ ก็ปรากฏตัวขึ้น

 

ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์กับกาใคร่ครวญเปลวเพลิงในร่างกายของมนุษย์เช่นการเผาไหม้ส่วนหนึ่งของอวัยวะที่ทำให้เลือดของเราหลอมตัวกันมันจะทำให้อวัยวะเเข็งเเกร่งขึ้น สมดุลระหว่างไฟเเละน้ำนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากมันทำให้ร่างกายเเปรเปลี่ยนเป็นความเเข็งเเกร่ง

 

"ไฟนั้นสามารถใช้ทำอะไรได้หลายอย่างเมื่อเธอรู้สึกถึงการสึกหรอของไฟ นั่นหมายความว่าเธอไม่สามารถควบคุมเปลวเพลิงในหัวใจของเธอได้อย่างถูกต้อง ด้วยเหตุนี้มันจะเป็นการทำลายตัวเอง ดังนั้นเธอต้องระมัดระวัง การที่เธอจะฝึกฝนทักษาะเปลวเพลิงนั้นเธอจะต้องรักษาจิตใจให้มั่นคงไว้"หวาง กู่หลง กล่าวเตือน"ฉันจะช่วยเธอฟื้นฟูจิตวิญยาณของเะธอเสียก่อน"

 

"ขอบคุณ!"

 

เจียง หลี่ รู้สึกว่าทุกครั้งที่เขาพูดคุยกับ หวาง กู่หลง จิตวิญยาณของเขากลับไม่เหน็ดเหนื่อยเหมือนกับว่ามีเเหล่งพลังงานถูกส่งเข้าไปในเซลล์สมองของเขาทำให้จิตวิญญาณของเขามีชีวิตชีวา ในสมัยโบราณนั้นนักปราชญ์ที่รู้เเจ้งสามารถใช้ถ้อยคำที่เเท้จริงเพื่อรักษาผู้ป่วยที่สูญเสียพลังได้ ตอนนี้คือสิ่งที่ หวาง กู่หลง กำลังทำ

 

"นี่มันช่างน่าตื่นตาจริงๆ! ผมสงสัยว่าผมจะสามารถเข้าสู่สภาวะนี้ได้หรือไม่?"เจียง หลี่ กล่าวยกย่อง

 

"รัฐนี้ไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดหรอก บนดาวเคราะห์ลั่วชานั้น ฉันได้กินมนุษย์เพื่อความอยู่รอดเธอเองก็ไม่ต้องการเเบบนั้นใช่มั้ย"หวาง กู่หลง กล่าวอย่างใจเย็น"ในตอนนั้นฉันได้เข้าสู่เส้นทางปีศาจไปเเล้วฉันได้กลายเป็นปีศาจที่โหดเหี้ยม ฉันเหมือนตกอยู่ในฝันร้ายทุกวันเเต่เธอได้ช่วยฉันขึ้นมาจากนรกขุมนั้น หลังจากมานี้ฉันก็ได้ใช้ทักษะการสะกดจิตช่วยผู้คนเเละสอนคนอื่นๆ การกินคนทำให้ฉันเข้าสู่สภาวะนี้โดยเร็ว มันเหมือนความเจ็บปวดที่ฉันต้องแบกรับเอาไว้ การกินคนนั้นเหมือนเป็นบาปเเละการช่วยมนุษย์คือการช่วยเหลือที่ดี ทุกอย่างนั้นคือโชคชะตา ฉันมั่นใจว่าเมื่อตอนที่ฉันล้มลงเธอจะต้องช่วยฉันออกจากทะเลเเห่งความเจ็บปวดนั้นเเละเมื่อหัวใจของเธอสูญสลายฉันเองก็จะช่วยเหลือเธอเช่นเดียวกัน!"

 

"ผมได้ช่วยเหลือคุณ...คุณก็ได้ช่วยเหลือผมเหมือนกัน"เจียง หลี่ เหมือนได้รับการตื่นอย่างเเท้จริง เขารู้ดีว่า หวาง กู่หลง ได้เข้าสู่อีกรัฐนึงไปเเล้ว เขาเปลี่ยนจากปีศาจ เป็นพระเจ้าเเทน

 

"ในความฝันเเห่งพระเจ้านั้นมนุษย์ที่กลายเป็นพระเจ้าเป็นเพียงเเค่ความคิดเพียงเท่านั้น มันเกิดจากความชั่วร้ายของเราที่เป็นปีศาจเเละหลุดพ้น เมื่อคนมีความชอบธรรมมากขึ้นพวกเขาก็สามารถกลายเป็นพระเจ้าได้"หวาง กู่หลง กล่าว"เหตุผลที่พระเจ้าผู้สร้างได้รับการยกย่องจากรัฐทั้ง 3 นั้นก็เพราะเขามอบเส้นทางเเห่งหัวใจไว้ให้ สวรรค์เเละโลกจะเปลี่ยนในทันที ถ้าเธอมีปัญหาเรื่องการบ่มเพาะพลังเธอสามารถมาปรึกษาฉันได้ตลอดเวลา!"

 

"อืม...ผมขอตัวก่อน!"เจียง หลี่ พยักหน้าเเละลุกออกไปทันที เขาเข้าใจว่ารัฐจิตวิญญาณ หวาง กู่หลง ยังไม่มั่นคงเขาเพิ่งเปลี่ยนจากมนุษย์กินคนให้เป็นผลเมืองที่ดี อย่างไรก็ตามเขาก็จะต้องหาเส้นทางของตัวเองพบเป็นเเน่