บทที่ 23 การสรรเสริญของเจ้าอ้วน
บทที่ 23 การสรรเสริญของเจ้าอ้วน
แปล Tarhai
กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/1743836472377756/
ลงตอนที่ 1-200 ราคา 200
ติดต่อที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100002039138559
"พี่ใหญ่ลี่ แก๊งสามหยวนอยู่ในเขตชานเมืองของภูเขา Du ห่างจากที่นี่เป็นระยะทางหลายสิบไมล์ แล้วเราไปอย่างไร?" จางเซี่ยวหยู่ ขมวดคิ้วสวยงามของเธอและกระซิบบอก
(ภูเขา Du มีอยู่จริงนะครับ อยู่ที่เหอหนาน หนานหยาง ตามลิ้งค์นี้
https://en.wikipedia.org/wiki/Mount_Du แม่งโคตรกันดารเลยไปตั้งแก๊งอะไรบนเขาสูงแบบนั้น - - )
แก๊งสามหยวนเป็นพวกอันธพาลและพวกเขาอยู่ในเขตชานเมืองของภูเขา Du เป็นพื้นที่ห่างไกลและรกร้างโดยไม่มีรถประจำทางวิ่งไปถึงที่นั่น แม้กระทั่งรถแท็กซี่ก็หวาดกลัวคนร้ายเหล่านั้นและไม่ค่อยไปที่นั่นกัน
มีเพียงสองวิธีในการเดินทางไปยังภูเขา Du โดยทางรถยนต์หรือไม่ก็เดินเท้าไปหลายสิบไมล์ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับคนสองคน
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาที่ไม่มีรถยนต์ มันเป็นเรื่องยากที่จะเดินทางไปที่นั่น
เอาละ?
เดินทางโดยรถมอเตอร์ไซด์ดีไหม?
ตาของ ฉิงเฟิง สว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเคยเห็นมอเตอร์ไซค์ที่ประตูบริษัท
ตัวรถมอเตอร์ไซด์มีความยาวและเพรียวบาง พอที่จะนั่งได้ 2 คน
มีชายจ้ำม่ำในชุดยามคนหนึ่ง นั่งยองๆอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซด์และกำลังสูบบุหรี่ เห็นได้ชัดว่าเขาคงเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์
คนรู้จักนี่ ?
เมื่อเห็นเจ้าอ้วนคนนี้ ลี่ฉิงเฟิง dHมีความสุข เจ้าอ้วนคนนี้มีใบหน้ากลมและตาเล็ก เขาเป็นคนมีเงิน ฉิงเฟิง เคยพบเขาตอนที่มาสัมภาษณ์งานที่แผนกขาย พวกเขาเคยพูดคุยกันมาบ้าง
"เฮ้ เจ้าอ้วน" ลี่ฉิงเฟิงเดินมาหาเจ้าอ้วน, ขาแตะไหล่เจ้าอ้วนและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ฮี่ๆ นายนั่นเอง ได้เข้าทำงานแล้วใช่ไหม?" ชัดเจนว่า เจ้าอ้วนนั้นยังจำ ลี่ฉิงเฟิงได้ ใบหน้าอ้วนๆของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"ใช่แล้ว ฉันชื่อ ลี่ฉิงเฟิง ตอนนี้ฉันเป็นพนักงานฝ่ายขายแล้ว นายละ?"
"ฉันชื่อ ลั่วเฮา ฉันไม่ได้เข้าแผนกขาย แต่ได้รับแต่งตั้งให้มาอยู่แผนกรักษาความปลอดภัย ฉันเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอนนี้"
"เป็นยามรักษาความปลอดภัยก็ดี ยังไงก็ตามเราเป็นเพื่อนร่วมงานกันฉันมีเรื่องขอให้ช่วยสักหน่อยได้ไหม ?"
"ว่ามาเลย ฉันจะช่วยนายเอง"
"ฉันขอยืมมอเตอร์ไซค์หน่อย นายจะว่าไรไหม?" ลี่ฉิงเฟิง ยิ้มและพูดกับ ลั่วเฮา
"ไม่มีปัญหาพี่ชาย เราเคยพบกันมาสองครั้งแล้ว ดังนั้นนี่จึงเรียกได้ว่าเป็นโชคชะตาที่เราจะต้องกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน กุญแจอยู่นี่ นายเอาไปได้เลย”
ลั่วเฮา หยิบเอากุญแจสีดำออกจากเสื้อและมอบให้กับ ลี่ฉิงเฟิง
เขาประทับใจกับเจ้าคนนี้ ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอในวันที่รับสมัครพนักงานฝ่ายขาย
"ขอบใจมาก ไว้ฉันจะพานายออกไปกินอาหารเย็นกันสักมื้อ"
ฉิงเฟิงหยิบเอากุญแจมา, ขึ้นค่อมรถจักรยานยนต์และพูดว่า "น้องสาว เซี่ยวหยู่ขึ้นมาจับเอวของพี่ไว้"
อืม...
ใบหน้าของจางเซี่ยวหยู่เป็นสีแดง เธอขึ้นค่อมบนรถมอเตอร์ไซค์และยื่นมือเล็กๆ ที่ขาวเนียนของเธอจับเอวเขาไว้ ใบหน้าเล็กๆที่สวยงามของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงแป๊ด
"เฮ้ ลูกพี่ นายจับสาวสวยหลังเข้าทำงานแผนกขายได้แปปเดียว สาวงามนี้เป็นแฟนของนายเหรอ?"
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่สว่างไสวอันงดงามของ จางเซี่ยวหยู่ เจ้าอ้วนถูตาของเขาด้วยความอิจฉา
"เธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานของฉันเท่านั้นเอง" ลี่ฉิงเฟิง ยิ้มจางๆ และตอบกลับเจ้าอ้วน
เมื่อได้ยินคำพูดของ ลี่ฉิงเฟิง ใบหน้าของ จางเซี่ยวหยู่ มืดลง, สัมผัสได้ถึงการสูญเสียประกายในแววตาของเธอ
อย่างใดก็ตาม เมื่อได้ยินพี่ใหญ่ลี่บอกว่า เธอไม่ใช่แฟนของเขาทำให้เธอรู้สึกท้อแท้
"เพื่อนยาก นายดูใบหน้าที่เศร้าสร้อยของสาวงามคนนี้หลังจากได้ยินคำพูดของนายสิ นายอย่ามาเล่นลิ้นน่า" ไขมันขดริมฝีปากของเขา คำว่าไม่เชื่อถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้า
อะไรกันวะ ?
เจ้าอ้วนนี่เป็นคนช่างจ้ออย่างร้ายแรงจริงๆ
เขาไม่มีเวลาคุยเรื่องไร้สาระกับเขา
"เจ้าอ้วนฉันมีเรื่องที่ต้องรีบไปทำ ฉันไปก่อนนะ" ลี่ฉิงเฟิง โบกมือ บิดกุญแจและสตาร์ทรถจักรยานยนต์
บูม !
รถมอเตอร์ไซด์ปล่อยเสียงดังคำรามออกมาและรีบและพุ่งออกไปอย่างกับลูกธนู
"พี่ชายคนนี้นี่โคตรโชคดี สาวสวยตัวน้อยคนนั้นสนใจเขาอย่างเห็นได้ชัด"
เมื่อมองไปที่ร่าง ลี่ฉิงเฟิงที่ลับตาไป เจ้าอ้วนเกิดความอิจฉาเต็มไปทั่วใบหน้า
เมื่อคิดถึงตัวเอง เขารู้สึกเศร้าใจ
ทั้งสองได้ไปสัมภาษณ์ที่บริษัท Ice Snow ลี่ฉิงเฟิงจบลงด้วยการที่ได้เข้าทำงานที่แผนกการขาย
แผนกการขายเป็นแผนกที่เต็มไปด้วยสาวงามส่วนเขาเข้าทำงานที่แผนกรักษาความปลอดภัยที่มีผู้ชายเท่านั้น
เขารู้สึกว่าเขานั้นโคตรจะโชคร้าย
อย่างไรก็ตาม ฉิงเฟิงนั่นถือว่าเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลามากซึ่งถือเป็นรูปทรัพย์ของเขาเอง
"พี่ใหญ่ลี่ช้าลงหน่อย..." จางเซี่ยวหยู่จับเอวของ ลี่ฉิงเฟิง แน่น ใบหน้าที่สวยงามของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดขึ้นมา
หน้าอกของเธอค่อยๆพิงหลังของ ฉิงเฟิง ทำให้เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
"เซี่ยวหยู่ ฉันไม่มีทางเลือกนี่คือความเร็วต่ำสุดของรถจักรยานยนต์." เขาพูดขึ้นในขณะที่กำลังเชยชมความอ่อนนุ่มที่ด้านหลังของเขา
ความเป็นจริงแล้วนี่เป็นความเร็วมาก เร็วมากจนเกือบจะถึงความเร็วสูงสุด
เพราะความเร็ว จางเซี่ยวหยู่ กลัวว่าเธอจะตก เธอใช้สองมือสีขาวนวลจับเขาอย่างแน่นหนา หน้าอกของเธอใกล้ชิดกับเขามาก
ถนนดงไห่รถติดและวุ่นวายมาก
อย่างไรก็ตาม ลี่ฉิงเฟิง ขี่มอเตอร์ไซค์และผ่านช่องว่างระหว่างรถอย่างกับฟ้าผ่า เขาขับขี่อย่างน่าหวาดเสียว ทำให้คนขับรถยนต์ที่รถติดอยู่โกรธมาก
"รีบไปไหนวะ ลงนรกไปซะ !"
"เฮ้คุณ เร็วเกินไปแล้ว ชะลอลงหน่อย"
"คุณเร่งเกินไปและเกือบจะชนฉันแล้วฉันจะฟ้องร้องคุณ"
คนขับรถด้านหลังตะโกนด่า แต่ ฉิงเฟิง ไม่สนใจจะตอบสนองหรือคิดที่จะชะลอรถ
เขาบิดตัวเร่งความเร็วและขี่ได้เร็วขึ้นทำให้คนขับรถที่ติดขัดอยู่ในรถที่โกรธมาก
เขาคุ้นเคยกับวิธีการขับขี่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องบินและรถหุ้มเกราะเขาสามารถดริฟ แซง หรือเร่งความเร็วได้ นับประสาอะไรกับรถจักรยานยนต์
ด้วยความเร็วเพียงเท่านี้ เขาคิดว่ามันเป็นเพียงความเร็วทั่วๆไป
คนขับรถบางคนหน้าซีด เขากลัวว่า ฉิงเฟิง จะขับชนพวกเขา คนขับรถคนอื่นที่กลัวจะเป็นอันตราย หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาและโทรเรียกตำรวจ
ในเวลานี้ ซูเมิ่งเหยา ใส่ชุดตำรวจเธอนั่งอยู่บนรถตำรวจจราจรด้วยความเคืองใจ ใบหน้าที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
เธอเป็นหัวหน้าของกองกำลังตำรวจเมืองทะเลตะวันออก เนื่องจากการสืบสวนการตายของชาวต่างชาติบนถนน Tian He เมื่อวานนี้เธอได้เห็นเอกสารลับบางอย่างในสถานีตำรวจและรู้ถึงการดำรงอยู่ของหน่วยงานรัฐพิเศษและนักฆ่าชาวต่างชาติ
ฆาตกรที่เสียชีวิตในถนน Tian He ป็นคนที่มาจากสมาคมโครงกระดูก
เธอฝ่าฝืนกฎข้อห้ามในการเข้าถึงไฟล์ที่ถูกจำกัด ดังนั้นเธอจึงถูกลงโทษและถูกส่งไปยังแผนกจราจร เธอจะกลับไปทำงานที่กองกำลังตำรวจได้เมื่อไรนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลงานของเธอ
กริ๊งๆๆ ...
ในขณะที่เธอกำลังโกรธอยู่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"นี่ศูนย์บริการตำรวจจราจร มีไร?" (ดูเหมือนผมจะแปลห้วนๆแต่เธอพูดยังงี้จริงๆครับว่า what’s up คำนี้ในภาษาอังกฤษนี่ถือว่าห้วนมาก ลองนึกภาพคนดำขายยาทักทายกันบนถนนในหนังแล้วพูดว่า yo wat’s up อะครับ อารมณ์ประมาณนั้นเลย เมิ่งเหยาลุคในนิยายเป็นสาวห้วนๆแรงๆอยู่แล้ว)
ซูเมิ่งเหยา กดปุ่มตอบอย่างไม่พอใจและพูดขึ้นมา
"เจ้าหน้าที่ มีรถจักรยานยนต์สีดำวิ่งบนถนน Tian He และเกือบจะชนคนคุณรีบมาดูหน่อย"
คนขับรถที่โทรเรียกตำรวจก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือคนที่ตะโกนใส่ฉิงเฟิงนั่นเอง
"เอาล่ะ เดี๋ยวฉันไป" เมิ่งเหยาตอบและวางโทรศัพท์ทันที
เธอรู้สึกหงุดหงิดมากและเจ้านักซิ่งคนนี้มาแหย่รังแตนพอดี ทำให้เธอรู้สึกโกรธจนฟิวส์ขาด