ตอนที่ 219 ราชาเพลิง
ในลานประลอง หลิน ฮวงและหยู่ โม่หลี่ได้ปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่พวกเขาปะทะกัน แรงสั่นสะเทือนก็จะกระจายไปทั่วลานประลองและกำแพง การสั่นสะเทือนเริ่มกระจายไปถึงที่นั่งขณะที่การต่อสู้ของพวกเขาทวีความรุนแรงขึ้น เงาของทั้งคู่วูบวาบผ่านลานประลองและผู้ชมส่วนใหญ่ก็ไม่อาจที่จะเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ มีเพียงนักล่าระดับทองขั้น3เท่านั้นที่สามารถมองตามการโจมตีของพวกเขาทัน เหล่านักล่าต่างก็ตกใจกับความสามารถของพวกเขาที่เทียบชั้นได้กับระดับทองขั้น3 ไม่ว่าจะเป็นความเร็วหรือพลัง ประสบการณ์การต่อสู้หรือเทคนิค พวกเขาต่างก็ไม่ได้ทรงพลังน้อยไปกว่านักล่าระดับทองขั้น3
“อัจฉริยะที่แท้จริง…”นักล่าระดับทองขั้น3บางคนอุทานออกมา หยู่ โม่หลี่ไม่คุ้นเคยกับสไตล์การต่อสู้ของหลิน ฮวงในตอนต้นและหลิน ฮวงก็สามารถกดดันเขาได้เกือบตลอดเวลาเพราะการป้องกันที่ค่อนข้างอ่อนด้อย อย่างไรก็ตาม เขาก็เริ่มปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การต่อสู้ของหลิน ฮวงและเริ่มโจมตีก่อนที่หลิน ฮวงจะลงมือ
ปีกวิญญาณโลหิตของหลิน ฮวงมีความยืดหยุ่นแต่เมื่อเทียบกับหยู่ โม่หลี่ อย่างหลังกลับมีการโจมตีที่ทรงพลังกว่า แต่ทว่า หยู่ โม่หลี่ก็ไม่ได้ว่องไวเหมือนกับหลิน ฮวงแต่เขาก็สามารถแก้เกมส์ได้ตลอดด้วยประสบการณ์การต่อสู้ของเขา หลังจากที่พวกเขาสู้กันอยู่เกือบ20นาที การโจมตีของหลิน ฮวงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเพราะเขาต้องเอาชนะหยู่ โม่หลี่ให้ได้ภายใน30นาที ไม่อย่างนั้นการต่อสู้จะถูกพิจารณาให้เสมอ และดับการชนะ90ครั้งติดของเขา ตอนนี้เขาอยู่ในอันดับ13และเพื่อที่จะขึ้นเป็น10อันดับแรก เขาจะต้องเอาชนะอีก60ครั้งติดเพื่อให้บรรลุภารกิจหากการต่อสู้นี้จบลงด้วยการเสมอ
ขณะที่ดาบวิญญาณโลหิตได้ปะทะกับงูไฟ ประกายไฟรุนแรงก็ถูกสร้างขึ้น เมื่อเห็นว่าหยู่ โม่หลี่ช้าลง หลิน ฮวงก็เปลี่ยนหนึ่งในปีกเขาเป็นแส้และตวัดมันผ่านงูไฟใส่หน้าอกหยู่ โม่หลี่ หยู่ โม่หลี่ตะโกนและพ่นเพลิงม่วงออกจากปากเขาเพื่อหยุดหลิน ฮวงและรีบดีดตัวถอยหนีไป
เมื่อเห็นหยู่ โม่หลี่กำลังเหนื่อยหอบจากพลังชีวิตเขาที่ดูเหมือนจะไม่มั่นคง หลิน ฮวงก็สามารถบอกได้ว่าเขามีข้อได้เปรียบในแง่ของร่างกาย ด้วยความช่วยเหลือของสุดยอดพละกำลัง ร่างกายของหลิน ฮวงจึงเทียบได้กับระดับทองขั้น3 ความอึดทนและร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าหยู่ โม่หลี่มาก แม้ว่าเขาจะผลาญกงล้อชีวิตอันแรกจนหมด เขาก็ยังเหลือกงล้อชีวิตอีก4อัน ทักษะมอนสเตอร์ไม่ได้เผาผลาญพลังชีวิตมากแต่ภายใต้อาการเหน็ดเหนื่อย การเผาผลาญพลังชีวิตจึงทวีคูณหลายเท่าเมื่อเทียบกับตอนที่พวกเขาใช้ทักษะมอนสเตอร์ภายใต้สภาวะปกติ
หลิน ฮวงเหลือพลังชีวิตไม่ถึง1ใน10 กงล้อแรก เขาสามารถบอกได้ว่าหยู่ โม่หลี่ต้องเหลือพลังชีวิตไม่มาก เมื่อสังเกตว่าหลิน ฮวงกำลังตรวจสอบเขา เขาก็กล่าว“ร่างกายอะไรกัน....หากฉันเดาไม่ผิด นายไม่เพียงแต่จะมีร่างกายและความอึดที่เหนือกว่าคนปกติ แต่นายยังต้องมีกงล้อชีวิตอย่างน้อย2อันในร่างนาย ใช่ไหม?”
ผู้ชมหลายคนรู้สึกงุนงงกับหลิน ฮวงเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่หยู่ โม่หลี่กล่าว พวกเขาตระหนักว่านักดาบอัจฉริยะยังคงดูปกติดี ขณะที่ใบหน้าของหยู่ โม่หลี่กลับซีด
ผู้ชมไม่อาจเห็นจำนวนกงล้อชีวิตที่พวกเขามีเพราะพวกเขาเคลื่อนไหวกันเร็วเกินไป ทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะสังเกตเห็นรายละเอียด มีเพียงนักล่าระดับทองขั้น3เพียงไม่กี่คนที่ตระหนักว่าดาบวิญญาณโลหิตของนักดาบอัจฉริยะดูมั่นคงตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน เพลิงม่วงของหยู่ โม่หลี่กลับไม่ทรงพลังเหมือนตอนต้น
หลิน ฮวงยิ้มโดยไม่พูดอะไรและไม่ตอบคำถามหยู่ โม่หลี่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถเห็นได้ว่าเขากำลังยิ้มเพราะเขาสวมหน้ากากอยู่ พวกเขาสามารถเห็นได้เพียงลิ้นของเขาเท่านั้น จากนั้นหลิน ฮวงก็มองดูเวลาและสังเกตว่าพวกเขาเหลือเวลาอีกเพียง10นาที หลิน ฮวงรู้ว่าเขาไม่ควรจะช้าไปกว่านี้ โดยไม่รอให้หยู่ โม่หลี่โจมตี หลิน ฮวงได้พุ่งใส่เขาก่อน
หยู่ โม่หลี่ขมวดคิ้วและสะบัดแขนเพลิงม่วงยักษ์4ข้างใส่เขา พวกมันปะทะกันอีกครั้งและหลิน ฮวงก็หยิบดาบออกมาเพื่อฟันหยู่ โม่หลี่โดยใช้วิชาดาบใหญ่ ภายในไม่กี่วินาที หยู่ โม่หลี่ก็รู้สึกราวกับเขากำลังจะจมน้ำตายจากดาบที่พุ่งมาหาเขาราวกับคลื่นมหาสมุทร ในไม่ช้า มันก็เกิดเสียงดังขึ้นเมื่อหยู่ โม่หลี่ได้กระหน่ำปล่อยหมัดเพลิงม่วงและสามารถทำให้หลิน ฮวงก้าวถอยหนีไป หลิน ฮวงก้าวถอยไปจนถึงขอบเวที ครั้งนี้ เขาไม่ได้คิดที่จะโจมตีแต่กลับเฝ้าดูหยู่ โม่หลี่แทน
แขนเพลิงม่วง4ข้างได้กลับเข้าไปในร่างเขาและแม้กระทั่งเพลิงบนฝ่ามือเขาก็ยังหายไป เขารีบผสานฝ่ามือทันทีและร่างเขาก็ถูกเผาด้วยเพลิงม่วง เปลวเพลิงลุกสูงกว่า10เมตร ขณะที่เขาขยับปรับเปลี่ยนรูปแบบฝ่ามือ เพลิงก็ก่อตัวของมันเป็นร่างยักษ์ที่บดบังทั่วร่างหยู่ โม่หลี่
ทุกคนต่างก็ตกใจกับภาพที่เห็น
“การสร้างพลังชีวิต?ฉันตาฝาดไปรึเปล่า?”บางคนกล่าว
ภายใต้สถานการณ์ปกติ การสร้างที่ซับซ้อนจะเป็นไปได้เพียงผู้หลุดพ้นเท่านั้น แม้ว่าหยู่ โม่หลี่จะเชี่ยวชาญในทักษะมอนสเตอร์ การควบคุมพลังชีวิตเช่นเดียวกับวัตถุที่ซับซ้อนก็ยังเป็นเรื่องยาก แม้กระทั่งหลิน ฮวงก็ยังไม่สามารถควบคุมพลังโลหิตเขาเพื่อทำเช่นนั้นได้
ร่างยักษ์เพลิงม่วงปรากฏตัวตรงหน้าหลิน ฮวง มันดูราวกับชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและมีรูปลักษณ์ที่สมจริงซึ่งรวมถึงดวงตา หนวดเครา คิ้วและรายละเอียดอื่นๆของมัน มันดูราวกับประติมากรรมที่แกะสลักโดยผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม หยู่ โม่หลี่กลับใช้เวลาเพียง2-3วินาทีเพื่อสร้างมันขึ้นมา
ร่างยักษ์ได้ก่อตัวขึ้น หยู่ โม่หลี่หยุดประสานฝ่ามือและมองหลิน ฮวง
“ฉันเหลือพลังชีวิตอีกไม่มาก ฉันเชื่อว่านายสามารถเห็นมันได้ นี่จะเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่ฉันมี ฉันเรียกมันว่า....ราชาเพลิง มันคือโล่ที่ดีที่สุดของฉันและเป็นทักษะสูงสุดของฉัน หากนายสามารถล้มยักษ์นี้ได้ นายก็จะสามารถเอาชนะฉันได้ พลังชีวิตของฉันกำลังหมด ฉันไม่มีพลังพอจะสู้อีกต่อไป”หยู่ โม่หลี่ยอมรับ
เพียงเมื่อเขาพูดจบ ราชาเพลิงก็ดูเหมือนจะขยับตัว ดวงตามันเปิดขึ้นและโดยทันที มันก็ส่งสายตาอาฆาตมาให้หลิน ฮวง.....