ตอนที่ 218 ความยิ่งใหญ่จะนำภัยมาสู่ตัว
บนเวที หลิน ฮวงและหยู่ โม่หลี่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน หลิน ฮวงเปิดใช้งานวิญญาณโลหิต ดวงตาเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดขณะที่ปีกวิญญาณโลหิตทั้ง4เหยียดออกจากแผ่นหลังเขาราวกับพวกมันกำลังดิ้นหลุดออกจากกรง พร้อมๆกับที่เปลวไฟสีม่วงได้พวยพุ่งออกจากฝ่ามือของหยู่ โม่หลี่และสูงประมาณ1ฟุต
ฝูงชนกลายเป็นตื่นเต้นขณะที่พวกเขาเห็นทั้งคู่ต่างก็ใช้พลังที่แท้จริง หลังจากเปิดใช้งานทักษะมอนสเตอร์ของพวกเขา ทั้งสองก็จ้องตากันและเปิดฉากโจมตีทันที เนื่องจากหลิน ฮวงได้เปิดใช้งานวิญญาณโลหิต พลังภายในร่างเขาจึงเปลี่ยนไป ความเร็วเขาเองก็ได้รับผลกระทบโดยไป่เช่นกัน โดยปราศความช่วยเหลือของสายฟ้าทะลวง เขาจะไม่ช้าไปกว่าหยู่ โม่หลี่ ขณะที่เขาพุ่งใส่หยู่ โม่หลี่ ปีกวิญญาณโลหิตเขาก็เปลี่ยนเป็นดาบ4เล่ม ทิ้งรอยไฟสีขาวไว้ในอากาศ จากนั้นเปลวไฟของหยู่ โม่หลี่ก็เปลี่ยนเป็นงูไฟยักษ์สองตัวที่ลอยขึ้นไปอากาศ ส่งผลให้อากาศรอบตัวพวกมันบิดเบี้ยว
ไม่กี่อึดใจต่อมา ดาบและงูไฟก็ปะทะกันที่ใจกลางลานประลอง
“ปัง!ปัง!”
หลิน ฮวงตอบโต้โดยการแทงดาบสองเล่มใส่ทรวงอกของหยู่ โม่หลี่ ด้วยพลังของปีกวิญญาณโลหิตที่สามารถทะลวงการป้องกันของปราการสุดท้าย มันก็ไม่สำคัญว่าหยู่ โม่หลี่จะมีพลังป้องกันมากแค่ไหน เพราะมันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะหยุดพลังของดาบวิญญาณโลหิต
ดาบวิญญาณโลหิตสองเล่มพุ่งใส่อกของหยู่ โม่หลี่ราวกับงู ทันใดนั้น แขนยักษ์สีม่วงก็ยื่นออกมาจากเอวหยู่ โม่หลี่และปะทะกับดาบ
“ปัง!ปัง!”
คลื่นกระแทกถูกสร้างจากการปะทะกันของพลังทั้งสอง ส่งผลให้พื้นและกำแพงสั่นสะเทือน ผู้ชมที่กำลังเฝ้าดูอยู่เองก็รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน
หลังจากที่ล้มเหลว หลิน ฮซงก็เปลี่ยนแหวนระดับทองเป็นดาบระดับทอง ปีกวิญญาณโลหิตเขากางออกและเขาก็พุ่งใส่หยู่ โม่หลี่ด้วยสายฟ้าทะลวง เขาเล็งไปที่ลำคอของหยู่ โม่หลี่ ส่งผลให้คู่ต่อสู้เขาตกใจเมื่อเห็นดาบของหลิน ฮวงที่เข้ามาใกล้เขาในพริบตา เขาเปิดปากขึ้นและพ่นไฟสีม่วงออกจากปาก ทำให้หลิน ฮวงหงุดหงิดกับความล้มเหลวอีกครั้ง
หลังจากการปะทะกัน ทั้งคู่ก็แยกห่างจากกัน ผู้ชมต่างไม่มีใครนั่งติดที่นั่ง พลังจากการโจมตีที่พวกเขาแสดงให้เห็นก่อนหน้าสามารถฆ่าผู้ชมได้ถึง90% เมื่อพวกเขาเดินไปอยู่ตรงมุมฝั่งตัวเอง แขนไฟยักษ์สองข้างก็ยื่นออกจากเอวของหยู่ โม่หลี่ รวมกับสองข้างก่อนหน้า
หยู่ โม่หลี่ยิ้มให้หลิน ฮวง“มันเป็น4ต่อ4แล้ว!”
หลิน ฮวงยักไหล่โดยไม่พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าหยู่ โม่หลี่กำลังเลียนแบบสไตล์การต่อสู้ของเขา บางทีเขาอาจจะไม่มีหนทางต่อกรกับปีกวิญญาณโลหิตของหลิน ฮวง อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงสามารถยืนยันได้ว่าทักษะมอนสเตอร์ของหยู่ โม่หลี่จะต้องมาจากมอนสเตอร์กลายพันธ์สองครั้ง ไม่อย่างนั้น เพลิงม่วงคงไม่อาจต่อกรกับปีกวิญญาณโลหิตของเขาได้
“ฉันมีคำถาม”หลิน ฮวงพูดกับหยู่ โม่หลี่หลังจากการปะทะกัน
“หากนายอยากรู้ว่าฉันได้รับเพลิงม่วงนี้มายังไง ก็อย่าถามให้เสียเวลาเพราะฉันจะไม่มีทางบอกนาย”หยู่ โม่หลี่ไม่ต้องการให้คนอื่นได้รับทักษะมอนสเตอร์เช่นเดียวกับที่เขามี ดังนั้นเขาจึงหยุดหลิน ฮวงจากการแซะถาม
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากรู้ ทำไมนายถึงจงใจแสร้งทำเป็นแพ้ปราการสุดท้าย?”เหตุผลที่หลิน ฮวงถามเพราะเขาเกือบจะมั่นใจว่าหยู่ โม่หลี่นั้นสามารถทำลายการป้องกันของปราการสุดท้ายได้
“จากสิ่งที่ฉันสามารถบอกได้ มันง่ายมากสำหรับนายที่จะทำลายการป้องกันเขา”
ฝูงชนต่างก็ตกใจกับสิ่งที่หลิน ฮวงพูด แต่ทว่า หลายคนก็เชื่อในสิ่งที่เขาพูด เขามีสิทธิ์ที่จะพูดเช่นนี้ นับตั้งแต่ที่เขาได้เอาชนะปราการสุดท้ายมาด้วยตัวเขาเอง
“เหตุผลนั้นง่ายมาก ฉันไม่ต้องการชนะติดต่อกัน70ครั้ง”หยู่ โม่หลี่กล่าวพร้อมกับอ้าแขน
“ทำไม?”หลิน ฮวงสับสน
“มันมีอยู่สำนวนหนึ่งในสมัยโบราณ – ความยิ่งใหญ่จะเป็นตัวชักนำภัยมาสู่ตน มันจะไม่ใช่เรื่องดีหากผู้คนมีชื่อเสียงโดยปราศจากพลังอำนาจที่แท้จริง”หยู่ โม่หลี่อธิบาย
“ฉันขอแนะนำให้นายอย่าสู้ต่อหลังจากที่ชนะฉัน หากนายสามารถบรรลุการชนะติดต่อกัน100ครั้ง มันจะมีคนจับตามองนายมากขึ้นและจะไม่ใช่แค่ในเขต7....”
“ขอบคุณสำหรับคำเตือน”หลิน ฮวงเองก็เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้มาก่อนในอดีต
ตราบเท่าที่มีใครบางคนบรรลุการชนะติดต่อกัน100ครั้ง สมาคมนักล่าจะรายงานไปยังสำนักงานใหญ่และในทางกลับกัน สำนักงานใหญ่ก็จะแจ้งแก่เขตอื่นๆ จากนั้น ทุกคนก็จะรู้ถึงตัวตนของนักดาบอัจฉริยะและเขาจะตกเป็นเป้าขององค์กรมืดทั้งหมด.....
แม้ว่าสมาคมนักล่าจะเก็บตัวตนเขาไว้เป็นความลับ มันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการรั่วไหลของข้อมูล ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีเทคนิคการล้างสมองมากมายในองค์กรมืด หากเขาถูกจับตัวไป ผลที่ตามมาคงไม่อาจคาดเดาได้
เนื่องจากหยู่ โม่หลี่ได้เตือนเขา หลิน ฮวงจึงละทิ้งความตั้งใจที่จะสู้ต่อไป เขาอยากรู้เกี่ยวกับคู่ต่อสู้ที่ระบบจะส่งมาให้เขาหากเขาล้มหยู่ โม่หลี่ได้ แต่ทว่า ดูเหมือนเขาจำต้องพับเก็บความคิดนั้นไปและรักษาชีวิตเขา
“อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่ามันสายไปแล้ว ฉันคิดว่านายคงตกเป็นเป้าขององค์กรมืดแล้ว แม้ว่าตัวตนของนายจะถูกปิดผนึก พวกเขาก็มักจะมีวิธีค้นหาตัวนาย มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”หยู่ โม่หลี่มองเขาอย่างสงสาร
“ฉันจะกังวลถึงเรื่องนั้นทีหลัง การต่อสู้ระหว่างเรายังไม่จบ”หลิน ฮวงไม่ต้องการพูดอะไรต่ออีก
“มาสู้กัน!”หลิน ฮวงพุ่งเข้าใส่หยู่ โม่หลี่และหยู่ โม่หลี่ก็ทำเช่นเดียวกัน ในไม่ช้า ดาบวิญญาณโลหิตและงูไฟก็ปะทะกันที่ใจกลางลานประลองอีกครั้ง.......