ตอนที่ 217 หลิน ฮวงปะทะ หยู่ โม่หลี่
ตามที่คาดไว้ นายทวารของการต่อสู้ครั้งที่90คือหยู่ โม่หลี่ ผู้ที่เป็นอันดับ1บนชั้น6 ฝูงชนกลายเป็นตื่นเต้นเมื่อเห็นหยู่ โม่หลี่ มันคือการต่อสู้ที่ทุกคนตั้งตารอคอย เมื่อแสงบนร่างหยู่ โม่หลี่หายไป เหล่าหญิงสาวในหมู่คนดูก็กรีดร้อง
“ฉายา : หยู่ โม่หลี่”
“ระดับพลัง : เงินขั้น3”
“จำนวนต่อสู้ : 3618”
“คะแนนสะสม : 153926”
“เปอร์เซ็นต์การชนะ : 99%”
“เกียรติยศ : ชนะติดต่อ60ครั้ง!”
หลังจากตรวจสอบกระดานคะแนนของหยู่ โม่หลี่ หลิน ฮวงก็เริ่มตรวจสอบเขา มันเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญกับหยู่ โม่หลี่ในลานประลอง แม้ว่าเขาจะดูวิดิโอการต่อสู้ของหยู่ โม่หลี่มามาก หลิน ฮวงก็ยังคงประทับใจเมื่อหยู่ โม่หลี่ที่ยืนตรงหน้าเขาดูเหมือนคนอายุ16-17เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขากลับดูโตกว่าอายุเขา เขาไม่เพียงแต่จะสูง1.8เมตร แต่ใบหน้าเขาก็ยังดูคล้ายกับผู้ใหญ่และเขายังให้กลิ่นอายของราชวงศ์
หากเขาอยู่บนโลก เขาคงจะถูกพิจารณาให้เป็นคน สูง รวยและหล่อ เป็นชายผู้เพียบพร้อมไปทุกด้าน ไม่สำคัญว่าเขาจะอยู่ที่ไหน เขาก็จะดึงดูดผู้คนได้เสมอ เขามักจะเป็นที่โดดเด่น หยู่ โม่หลี่เป็นที่รู้จักในฐานะอัจฉริยะแห่งสมาคมนักล่าและอยู่ในรายชื่อการฝึกพิเศษในช่วงครึ่งปีแรก ภายในครึ่งปี เขาก็สามารถเลื่อนจากระดับทองแดงเป็นระดับเงินขั้น3 เขาไม่เพียงแต่จะมีตระกูลที่ยิ่งใหญ่แต่ยังครอบครองทักษะมอนสเตอร์ที่ทรงพลัง ซึ่งก็คือเพลิงม่วง
เมื่อหลิน ฮวงกำลังตรวจสอบเขา หยู่ โม่หลี่ก็ทำเช่นเดียวกับเขา
“ฉันเคยเห็นการต่อสู้ของนายกับปราการสุดท้าย เนื่องจากฉันไม่อาจเห็นการโจมตีสุดท้ายของนายจากวิดิโอ ฉันจึงถามจากปราการสุดท้ายถึงการโจมตีในมุมมองของเขา นั่นเป็นการโจมตีที่น่ากลัวมาก ฉันยอมรับว่าฉันไม่อาจทำเช่นนั้นได้”หยู่ โม่หลี่กล่าวอย่างสงบด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่เหมือนวัยรุ่น เขาฟังดูราวกับคนอายุ20ปี
“แม้ว่านายจะทรงพลัง นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านายจะสามารถเอาชนะฉันได้”หยู่ โม่หลี่ไม่ได้ดูเป็นมิตราเมื่อเขากล่าวเช่นนั้น ผู้ชมหลายคนเริ่มเปรียบทั้งคู่เนื่องจากหลิน ฮวงได้เอาชนะปราการสุดท้ายในการต่อสู้ครั้งที่80ของเขา บางคนกล่าวว่านักดาบอัจฉริยะสามารถบรรลุการชนะ80ครั้งติดได้ แต่หยู่ โม่หลี่กลับทำได้เพียง60ครั้ง มันเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่ชี้ให้เห็นว่าหยู่ โม่หลี่ด้อยกว่าหลิน ฮวง บางคนแม้กระทั่งกล่าวว่านักดาบอัจฉริยะสามารถฆ่าปราการสุดท้ายได้ แต่หยู่ โม่หลี่ไม่แม้แต่จะทำลายการป้องกันของปราการสุดท้ายได้ นั่นคือหลักฐานชิ้นที่สองที่แสดงให้เห็นว่าหยู่ โม่หลี่ด้อยกว่านักดาบอัจฉริยะ นอกจากนั้น ผู้คนยังสร้างเรื่องราวเพื่อดูถูกหยู่ โม่หลี่
นี่ทำให้หยู่ โม่หลี่โกรธ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าข่าวลือดังกล่าวไม่ได้ถูกแพร่โดยนักดาบอัจฉริยะ เขาก็ยังเป็นชายหนุ่มเลือดร้อนอยู่ดี มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะรู้สึกโกรธเมื่อถูกดูถูกและถูกนำไปเทียบกับคนอื่น หลิน ฮวงไม่รู้เรื่องนี้เพราะเขาไม่แม้แต่จะอ่านความคิดเห็นในข่าว นับประสาอะไรกับการนินทาบนเครือข่าย ตั้งแต่ที่เขาออกจากเกมส์ เขาก็เอาแต่ยุ่งอยู่กับการฝึกและไม่มีเวลาจะอ่านการนินทาทั้งหมดนี้
อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงกลับรู้สึกได้ว่าหยู่ โม่หลี่นั้นไม่มความสุขแต่เขาก็ไม่สนใจ
“ฉันเห็นการต่อสู้ของนายมามาก ฉันรู้ว่านายไม่ได้ใช้พลังออกมาทั้งหมดเมื่อนายสู้กับปราการสุดท้าย นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงอยากเห็นความสามารถที่แท้จริงของนาย”
สิ่งที่หลิน ฮวงกล่าวกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงทันที ผู้ชมส่วนใหญ่เคยเห็นการต่อสู้ของหยู่ โม่หลี่มาก่อน แต่มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินบางสิ่งเช่นนี้ พวกเขามักจะคิดว่าหยู่ โม่หลี่ใช้ความสามารถออกมาทั้งหมดในระหว่างการต่อสู้กับปราการสุดท้าย
“ไม่ต้องกังวล ตราบเท่าที่นายแข็งแกร่งพอ ฉันก็จะใช้ทุกอย่างที่ฉันมี”หยู่ โม่หลี่ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่หลิน ฮวงกล่าว
“งั้นก็มาสู้กัน!”แหวนระดับเงินบนนิ้วหลิน ฮวงเปลี่ยนเป็นดาบ หยู่ โม่หลี่เองก็สวมถุงมือระดับเงินของเขาเช่นกัน ในไม่ช้า การนับถอยหลังก็สิ้นสุดลงและทั้งคู่ก็พุ่งเข้าใส่กัน เพื่อชดเชยความเร็วที่ขาดหายไปของเขา หลิน ฮวงได้ใช้สายฟ้าทะลวงแทน แสงสีม่วงเปล่งประกายจากดาบเงินเขาขณะที่เขาใช้สายฟ้าทะลวง มันดูราวกับสายฟ้าที่พุ่งผ่านอากาศ ในขณะเดียวกัน หยู่ โม่หลี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขาก็พุ่งไปในอากาศและพลังชีวิตสีเงินเขาก็เปล่งแสงสีม่วง อากาศบิดเบี้ยวจากหมัดเขา ส่งผลให้เกิดภาพแปลกๆ
“ปัง!”
ดาบและหมัดปะทะกันในอากาศ แสงจากดาบหลิน ฮวงไม่สามารถทำร้ายหมัดได้เลย มันเสมอ!หลิน ฮวงตกใจขณะที่มองดู เห็นได้ชัดว่าทักษะต่อสู้ของหยู่ โม่หลี่อยู่ในระดับสุดยอด ระลอกคลื่นพลังถูกสร้างขึ้นเมื่อการโจมตีของพวกเขาปะทะกัน ทั้งคู่ต่างสั่นสะเทือนและถูกบังคับให้ต้องก้าวถอยหลัง ขณะที่พวกเขายืนนิ่ง พวกเขาก็พุ่งเข้าใส่กันอีกครั้งและดาบก็ปะทะกับหมัดอีกครั้ง ส่งผลให้ทั่วทั้งลานประลองเริ่มสะเทือน....
ทุกครั้งที่พวกเขาเปิดฉากโจมตี จะเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น แม้กระทั่งกำแพงยังสั่นสะเทือน ผู้ชมไม่กล้าที่จะหายใจขณะที่ถ่างตามองการต่อสู้ ทั้งคู่ยังไม่แม้แต่จะปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา หลิน ฮวงไม่ได้ใช้ปีกวิญญาณโลหิตเขาขณะที่หยู่ โม่หลี่ไม่ได้ใช้เพลิงม่วงของเขา การต่อสู้ง่ายๆของทั้งคู่กลับทำให้ฝูงชนตื่นเต้น
“นี่คือทักษะต่อสู้ของหยู่ โม่หลี่?มันเป็นไปได้ยังไงที่เขาสามารถเทียบชั้นกับนักดาบอัจฉริยะ?”
“ฉันเคยเห็นการต่อสู้ของหยู่ โม่หลี่มามาก เขาเอาแต่ใช้เพลิงม่วงอยู่ตลอด มันเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาต่อสู้เช่นนี้!”
“ฉันไม่เคยเห็นเขาต่อสู้อย่างนี้มาก่อน ฉันมักจะคิดว่าเขาไม่เก่งการต่อสู้ระยะประชิด ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ในอดีตจะไม่มีค่าพอจะให้เขาเอาจริง”
“พวกเขายังไม่ได้ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาและมันก็รุนแรงมากแล้ว ฉันไม่อาจเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขากำลังทำอะไร….”
“ฉันเห็นด้วย....การต่อสู้นี้เกินกว่าระดับเงินไปแล้ว!”
…
หลิน ฮวงและหยู่ โม่หลี่ไม่ได้ยินการพูดคุยด้านนอกเวทีประลอง การปะทะกันยิ่งรุนแรงมากขึ้นและมากขึ้นด้วยการเพิ่มพลังในทุกๆการโจมตีเพื่อทดสอบคู่ต่อสู้ ก่อนที่พวกเขาจะเผยพลังที่แท้จริงออกมา พวกเขาต้องการที่จะกำหนดขีดจำกัดของฝ่ายตรงข้าม หลังจากการปะทะกันนับร้อยครั้ง หยู่ โม่หลี่ก็ก้าวออกจากขอบเขตปะทะ เขาปล่อยจิตสังหารใส่หลิน ฮวงและกล่าว“มาเลิกอุ่นเครื่องกันเถอะ”
“ได้!”หลิน ฮวงมองเวลาและตระหนักว่ามันผ่านมาสองนาทีแล้ว หากไม่มีการชนะหรือแพ้ภายในครึ่งชั่วโมง การต่อสู้จะถูกพิจารณาให้เสมอ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
“การต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!”ผู้ชมพากันกลั้นหายใจขณะที่จับจ้องไปยังเวทีประลอง พวกเขาไม่อยากจะพลาดแม้แต่ช่วงวินาทีที่เข็มตก