ตอนที่ 79 สมองทับทิม
"เอ่อ...นอกจากนี้ยังมีข้อความลึกลับปรากฏที่เมือง ซู่ ฮัว ด้วย พวกเขาบอกให้เรามาเก็บสินค้าที่ซ่อนเอาไว้เเละมอบมันเเก่ เจียง ซวน!"เกา เหริน กล่าว ทุกครั้งที่เขานึกถึงเรื่องนี้ก็อดผวาไม่ได้"ตอนนี้คนของเราได้ไปรับมันมี ยาเเก่นเเท้ตะวันจันทราเเละเเก่นเเท้สุริยันอยู่ 10 ขวด เราได้ส่งมันไปที่ บ้านพักที่ทะเลสาบมังกรขาว เเล้ว"
"เจียง หลี่ มีอำนาจอื่นอยู่เบื้องหลัง? พวกเราไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่าเป็นใคร!"ชู ซือซือ ถักคิ้วขึ้น
เธอส่งคนไปตรวจสอบอยู่หลายครั้งเเต่ทั้งหมดกลับโดนสะกดจิต นั่นทำให้รู้ว่าบุคคลที่หนุนหลังเขาในเมือง ซู่ ฮั วนั้นเป็นผู้มีอิทธิพลพอสมควร
"พา เจียง ซวน มาหาฉันที่สำนักงานใหญ่ สันจะสอนทักษะต่อสู้ให้กับเธอเป็นการส่วนตัว เเละฉันจะดูว่าเธอมีศักยภาพพอที่จะเป็นนักสะกดจิตหรือไม่"ชู ซือซือ กล่าวสั่ง เกา เหริน
"ครับ มิส!"เกา เหริน ตอบเเละเดินออกไป
ชู ซือซือ ตกอยู่ในความคิด"เจียง หลี่ เเท้จริงเเล้วนายเป็นใครกันเเน่? นายกลายเป็นบุคคลที่ลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันอยากจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังของนาย?"
บนดาวเคราะห์ ฉูโป
เจียง หลี่ ที่อยู่บน พยัคฆ์ 4 ปีก นั้นได้ลอยขึ้นไปบนยอดเขา มองจากระยะไกลนั้นภูเขาเเห่งนี้สูงชันมากมันทำให้เขามองเห็นภูมิประเทศนี้ได้อย่างชัดเจน
วันนี้เขาก็ได้สะกดจิต พยัคฆ์4ปีก อีกครั้ง เพื่อไม่ให้มันหลบหนีไป เขาได้ใช้มันเป็นพาหนะในการหลบหนี เจียง หลิว , หยู่ มู่ฮัว มันผ่านไปหลายเดือนเต็มเขาได้บ่มเพาะพลังขึ้นเรื่อยๆเมื่อไม่มีสิ่งรบกวนทำให้เขาประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
เจียง หลี่ ได้เข้าสู่สภาวะหายใจในครรภ์ทุกวัน เขาไม่ต้องกินอาหารเพราะร่างกายสามารถอิ่มตัว เขามีพลังงานทดเเทนจำนวนมากในร่างกายทำให้เซลล์เเละกระดูกกล้ามเนื้อเพิ่มความเเข็งเเกร่งมากขึ้น
เขาอาศัยอยู่ในป่าเป็นเวลาหลายวันเเล้ว
ในเทือกเขาเเห่งนี้กว้างใหญ่ไพรศาล มันเต็มไปด้วยเมฆเเละลมกรรโชกที่รุนเเรง โลกนี้มีธรรมชาติที่น่าอยู่มาก
ด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้จิตใจของ เจียง หลี่ กลับบริสุทธิ์มากขึ้นมันทำให้เขาลืมไปเลยว่านี่ไม่ใช่บ้านเกิดของเขา เขาเกือบลืมเพื่อนเเละสังคมมนุษย์ทั้งหมด ความคิดที่ไม่อยากจะจากที่นี่ไปเริ่มปรากฏในใจเขา
เขาไม่ต้องการจากที่นี่ไปเลยจริงๆ
สถานที่เเห่งนี้เหมาะเเก่การบ่มเพาะพลังมากมันทำให้จิตวิญญาณของเขาไปถึงความเเข็งเเกร่งสูงสุด การเพ่งจิตเป็นสมองจักรวาลเองก็รุดหน้ามากขึ้น เขาสามารถจดจำได้ทุกรายละเอียด
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงไม่สามารถเข้าสู่สภาวะ หยุดนิ่ง ได้
"ฉันสงสัยว่าพลังชีวิตของ ฉัน จะอยู่ที่ระดับใด 1.6? 1.7? เเล้วฉันจะสามารถสะกดจิตคนได้กี่คนกันนะ? อาจจะเป็น 100 คน หรือมากกว่านั้น"
เจียง หลี่ ยืนบนหน้าผา เเละ เตะ บางอย่าลงมา
เขาเตะหินที่หนักกว่า 100 กิโล พุ่งไปไกลเกือบ 20 เมตร ก่อนที่มันจะกระเเทกกับภูเขาอีกที่นึง
เขาคำรามเสียงดังก้อง พยัคฆ์4ปีกที่ซ่อนอยู่ในป่าก็พลันตกใจ มันหลุดจากการควบคุมของ เจียง หลี่ เขาไม่ยอมให้มันหลุดไปเเน่นอน เขาจึงพุ่งไปไกลกว่า 20 เมตร เพื่อดักทางมัน
ความกล้าหาญทางจิตวิญญาณในตอนนี้เเข็งเเกร่งมากเขาสามารถสังหารคนให้ตายได้ในพริบตา
ถ้าเขาปล่อยมันไป เขาก็จะถูกทิ้งอยู่โดดเดี่ยวบนนี้ มันจะทำให้เขามีโอกาสรอดน้อยลง
ฝูงหมอกเเละเมฆลอยผ่านเหนือหัวของ เจียง หลี่ เขายืนมองดูพวกมันลอยผ่านไปเเม้เเต่นกตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็ไม่สามารถรอดผ่านสายตาเขาได้
"วิสัยทัศน์ของฉันกลายเป็นดีขึ้นมาก! มันเกือบจะเทียบเท่ากับกล้องโทรทรรศน์ อาจจะเป็นเพราะจิตวิญญาณของฉันเเข็งเเกร่งมากขึ้น!"
ยิ่งจิตวิญญาณเเข็งเเกร่งมากเท่าไหร่ประสาทสัมผัสก็ยิ่งสูงตามมากขึ้นพวกเขาจะเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า'ใช้หัวใจมองโลก'
เจียง หลี่ พยายามจะหาหินวิญญาณอีกครั้ง เขาได้เดินทางโดยใช้พยัคฆ์ 4 ปีก เเต่น่าเสียดายเขาค้นหามันเป็นเวลากว่า 15 วันก็ไม่เห็นร่องรอยเเม้เเต่นิดเดียว
หินวิญญาณที่เขาพบนั้นหนักกว่า 10 กรัม มันเป็นของที่หายากมากเเละมีความบริสุทธิ์สูง
ท้องฟ้าพลันมืดครึ้มปราศจากการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต เขาอยากจะร้องเพลงเพื่อระบายอารมณ์
"หืม?...มีอะไรอยู่ข้างหน้า?"
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สัมผัสได้ถึงบ้านไม้ขนาดใหญ่ที่หยาบกระด้างมันอยู่ไกลออกไปเเละถูกล้อมรอบด้วยพงหญ้าหนา
มันเป็นชนเผ่าในพื้นที่
ชนเผ่าพวกนี้ใช้พื้นที่เหล่านี้ในการตั้งรกราก
เจียง หลี่ รู้ดีว่ามีชนเผ่าจำนวนมากอยู่บนดาวเคราะห์ฉูโป เพราะมนุษย์ยังไม่สามารถสำรวจได้ครบ สมมุติว่าถ้าเขาต้องถูกทิ้งอยู่ในสถานที่เเห่งนี้จริงๆมันจะเป็นอันตรายมากสำหรับเขา
เจียง หลี่ หยุดลงบนท้องฟ้าเพื่อมองหมู่บ้านเเห่งนั้น ชนเผ่านี้มีขนาดใหญ่มากมีผู้คนจำนวนมากอยู่ด้านล่างความสูงเฉลี่ยของพวกเขามากกว่า 2 เมตร พวกเขาใส่ชุดหนังสัตว์เเละถืออาวุธที่ทำจากไม้
พวกเขาเหล่านั้นมีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา เจียง หลี่ ที่ซุ่มอยู่พลันสังเกตุทั้งกลางวันเเละกลางคืนเขาพบว่ามีชายคนหนึ่งสามารฉีกเกราะโลหะได้อย่างง่ายดาย
เพียงเเค่หมัดเดียวก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่เยือกเย็นออกมา
กำลังชีวิตของพวกเขาอย่างน้อยก็น่าจะ 1.3 ถึง 1.4
"ฉันเคยได้อ่านตำราหนังสือมาก่อนพวกเขากล่าวว่า ชนเผ่า ฉูโป นั้นมีความเเข็งเเกร่งมาก มีหมอผีประจำตระกูลที่เป็นนักสะกดจิตเขาสามารถควบคุมสัตว์ป่าได้ มีสงครามเกิดขึ้นบ่อยครั้งระหว่างชนเผ่าต่างๆ เลือดเเละเนื้อยของพวกเขาจะเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงต้นสมองทับทิม"
เจียง หลี่ เปิดชิปเพื่อสเเกนหาข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงนี้
ดาวเคราะห์ฉูโป นั้นห่างไกลจากโลกทำให้อินเทอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้โชคดีที่ก่อนหน้านี้ เจียง หลี่ ก็เตรียมตัวมาพร้อมเขาดาวโหลดข้อมูลที่ช่วยในการอยู่รอดของเขาเอาไว้
[TL note - haha ถ้ายุคเราไม่มีอินเทอร์เน็ตนะฉันขอตายดีกว่า xD]
[ED หมายเหตุ: ผมรู้ว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่เป็นพวกคุณก็ด้วย :D]
นักเรียนทุกคนต่างก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่เพื่อรอพวกเขามารับหลังจากผ่านไป 100 วัน ในระหว่างที่ เจียง หลี่ ได้ขี่สัตว์อสูรพยัคฆ์ 4 ปีก เขาก็รู้ว่าผ่านไปเกือบ 2 เดือนกว่าเเล้ว มันใกล้จะครบเวลาที่กำหนดเต็มที
เจียง หลี่ ตัวเเข็งค้างในทันที เขามองเห็นต้นไม้ ที่เป็นสีเขียวชอุ่ม เเต่มีผลไมสีเเดงขนาดใหญ่ที่มีขนาดเท่ากับสมอง
"สมองทับทิม!"ร่างกายของ เจียง หลี่ พลันกระปรี้กระเปร่า
สิ่งนี้มีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านเหรียญในตลาดมืด มันสามารถเพิ่มพลังงานในเซลล์สมองได้เเละเป็นประโยชน์มากต่อการเพิ่มความกล้าหาญทางจิตวิญญาณ
มันเป็นสิ่งที่นักสะกดจิตหลายคนไขว่หา
ยกตัวอย่างเช่น นักสะกดจิตระดับเเรกเริ่มนั้นสามารถสะกดจิตคนได้ 2-3 คนให้เข้าสู่สภาวะห้วงนิทรา หากเขาใช้สมองทับทิม พวกเขาสามารถสะกดจิตได้ 2 เท่าของ จำนวน เเละโอกาสก็สำเร็จมากขึ้น
บู้ม....บู้ม
หัวใจของ เจียง ลี่ พลันเต้นเร็ว เขาได้ยิน เสียง เเตร ของผู้นำชนเผ่า ที่นำคนหลายร้อยคนมาเเขวนไว้ที่ไม้กางเขน พวกเขาสังหารพวกทาสพวกนั้นให้ตายเเละเเยกหัวกับเนื้อเยื้อสมองออกมาเพื่อพ่นเลือดให้จมลงดิน จากนั้นพวกเขาก็สวดอ้อนวอน
ชู่ว!
มีนกยักษ์ที่ยาวกกว่า 10 เมตร บินลงมา บนหัวของมันนั้นคือหมอผีประจำเผ่า
หมอผีประจำเผ่านั้นเป็นผู้นำชนเผ่าเขาสามารถสะกดจิตศัตรูเเละฆ่าสัตว์อสูรพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามทักษะสะกดจิตของพวกเขากลับเเปลกไปต่างจากทักษะการสะกดจิตของมนุษย์ดังนั้นจึงระบุเเน่นอนไม่ได้ว่าความสามารถในการสะกดจิตของเขาอยู่ในระดับใด
หลังจากที่สังเกตุดู เขาก็คิดว่าหมอผีคนนี้น่าจะมีระดับการบ่มเพาะอย่างน้อยก็น่าจะเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งเเล้ว
ผู้ที่ไม่ได้เข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งนั้นในต่างดาวพวกเขาไม่สามารถกลายเป็นนักสะกดจิตได้เพราะไม่มีทักษะฝึกฝน
เเต่ผู้นำเผ่าที่เป็นหมอผีนั้นเขามีอำนาจพลังทางจิตที่เเข็งเเกร่ง เขาบริโภคเลือดเนื้อพวกนี้จำนวนมาก จน เจียง หลี่ ไม่สามารถทนมองได้
ใครก็ตามที่เข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง อำนาจพลังจิตวิญญาณของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมาก
"มีสมองทับทิมจำนวนมาก...เพียงเเค่ต้นไม้ต้นเดียวกับมีสมองทับทิมอยู่นับ 100 ผล!"เจียง หลี่ มองไปที่ผลไม้ที่อยู่เบื้องหน้าเขา
น่าเสียดายที่ต้นไม้นั่นได้รับการปกป้องโดยนักรบชั้นยอดของชนเผ่า เเต่ละคนมีพลังชีวิตอย่างน้อยก็เท่า เจียง หลิว เเละ หยู่ มู่ฮัว บางคนกลับเเข็งเเกร่งกว่านั้น
มีเพียงไม่กี่คนที่มีพลังชีวิตเท่ากับ 1.5
ถ้าพวกเขารายล้อมจำนวนมาก เจียง หลี่ ก็ไม่มีโอกาสอยู่ดี
"ฉันจะต้องเอาสมองทับทิมพวกนี้มาให้ได้...เเต่ว่าฉันจะผ่านพวกเขาไปอย่างไรดี?"เจียง หลี่ ครุ่นคิด หลังจากที่อ้อยอิงกว่า 3 วัน 3 คืน เขาก็สังเกตุเห็นว่า ทุกคืนนั้นจะมีคนเฝ้าอยู่รอบนอกต้นไม้เเห่งนี้
มีนักรบ 100 คนอยู่ในหุบเขา ถ้าหมอผีไม่ได้อนุญาติให้พวกเขาเข้าใกล้ต้นไม้ก็จะไม่มีใครได้มีโอกาสได้เข้าใกล้ต้นไม้นั่น
"หมอผีนี่เเข็งเเกร่งมาก เเม้เเต่ เจียง หลิว เเละ หยู่ มู่ฮัว ก็ยังยากที่จะไปถึงต้นไม้นั่นได้ ถ้าเขาใช้เกราะระดับรองบางทีอาจชนะหมอผีคนนั้น
เจียง หลี่ กล่าวอย่างเฝ้าระวัง เขาฝึกฝนพร้อมกับจับตามองหมอผีคนนั้น
ในที่สุดหมอผีคนนั้นก็จากไปพร้อมกับนกยักษ์ของเขา ในเวลากลางคืนจึงเหลือเพียง 100 นักรบที่ลาดตระเวนเพียงเท่านั้น
"หมอผีคนนั้นไปเเล้วฉันมีโอกาสที่จะสะกดจิตคนพวกนี้!"
เจียง หลี่ กล่าว นี่คือโอกาสที่ดี เขาเดินทางไปขยังหุบเขาอย่างรวดเร็ว เเละเริ่มการสะกดจิต
ทันใดนั้นนักรบบางคนก็ตกเป็นเหยื่อของการสะกดจิตของ เจียง หลี่
นักรบบางคนพยายามสู้ เเต่ก็ไร้ประโยชน์ ทุกคนหลับลึกทั้งสิ้น พลังชีวิตของพวกเขาไม่มีความหมายอะไรต่อทักษะสะกดจิตของ เจียง หลี่
เพียงเวลาไม่ถึง 10 นาที นักรบทุกคนก็หลับไป
เจียง หลี่ เดินออกมาจากเงามืด
เขารีบไปที่ต้นไม้เเละเริ่มบรรจุผลไม้สีเเดงนี่ใส่ถุงของเขา