ตอนที่ 73 โชคที่จบลง (FREE)
มันเกิดอะไรขึ้น?
ไม่มีใครเข้าใจว่าเมิ่ง อวี้ชู ถึงลื่นไถลไปโดนหมัดของ ฟาง เจิ้งจือ พอดี
ทั่วทั้งลานตกอยู่ในความเงียบ....
ทุกคนจ้องเขม็งไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ค่อยๆดึงหมัดกลับมาอย่างไม่รีบร้อน
แพ้?! เมิ่ง อวี้ชู แพ้? เขาพ่ายแพ้ได้อย่างไร?
บนที่นั่งของผู้ตัดสิน เจ้าเมืองเบิกตาขึ้นด้วยความตกตะลึงก่อนจะหันไปมองทางนักปราชญ์วัยกลางคน
เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
ในทำนองเดียวกัน นักปราชญ์วัยกลางคนเมื่อเห็นสายตาของเจ้าเมือง เขาส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
"ข้าเห็น!” ขุนนางฉิน ตะโกนขึ้นมา
"ท่านขุนนางมองเห็นอะไรงั้นรึ?" เจ้าเมืองหันหน้าไปทางขุนนางฉินทันที
"อืม....อาจจะกล่าวได้ว่าข้าเห็นและไม่เห็นในเวลาเดียวกัน ดูตรงนั้น! " ขุนนางฉิน กล่าวขึ้นพร้อมกับชี้มือไปยังด้านข้างของลานที่ ฟาง เจิ้งจือ ยืนอยู่
"หิน?! "เจ้าเมืองจ้องมอง ก่อนจะผงะไป "หรือท่านจะบอกว่าเขา.... "
"ใช่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าหินก้อนนั้นอยู่บนลานอยู่แล้วหรือถูกขว้างขึ้นมาโดยเขากันแน่ ข้าไม่รู้จริงๆ.. " ขุนนางฉินกำลังคิดถึงความเป็นไปได้
"แต่นี้เป็นแค่รอบแรก ยังไม่ได้เกิดการต่อสู้ใดๆที่ทำให้ลานประลองเสียหาย เศษหินที่วางอยู่ตรงนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ นอกจากนี้เขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่า เมิ่ง อวี้ชู จะเหยียบไปบนหินก้อนนั้นและลื่นไถล ฟาง เจิ้งจือ รู้ได้อย่างไรว่าเอาหมัดไปไว้ตรงไหนถึงจะโดนหน้าของ เมิ่ง อวี้ชู?" ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าเมือง เขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้
เพราะถึงแม้มันดูเป็นวิธีที่ง่าย แต่ทำจริงๆนั้นยากมาก
"ข้าไม่มั่นใจ เขาอาจจะวางแผนไว้แล้ว? " ขุนนางฉิน ส่ายหัว
เจ้าเมือง ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป แต่เขาหันกลับไปมองยัง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยดวงตาที่ซับซ้อน ขุนนางฉินพูดถูก ฟาง เจิ้งจือ สามารถทำมันได้
สายตาของนักปราชญ์วัยกลางคนยังคงจ้องมองไปที่หินบนลานประลองเพื่อหาข้อผิดสังเกตุ จากนั้นจ้องมองไปยัง เมิ่ง อวี้ชู ที่นอนหมดสติอยู่ข้างล่างลานประลอง ดวงตาของเขาเย็นวาบขึ้นทันที
ผู้เข้าสอบคนอื่นที่ได้ฟังบทสนทนาที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงรู้ได้ในทันทีว่า มี "แขกที่ไม่ได้รับเชิญ" อยู่บนลานประลอง
"หิน?!"
"ก้อนหิน?"
ผู้เข้าสอบทุกคนต่างพูดไม่ออก
เมิ่ง อวี้ชู บังเอิญเหยียบหิน ลื่นไถล เอาหน้าไปโดนหมัดของ ฟาง เจิ้งจือ?
มันคือเรื่องจริง?
แต่ความจริงดูเหมือนจะน่าเหลือเชื่อเกินไป!
"รอบแรก ฟาง เจิ้งจือ ชนะ!" พวกเขาได้สติกลับคืนมาทันทีเมื่อผู้ตัดสินประกาศผล
บนที่นั่งของผู้ชมไม่มีอะไรนอกจากความเงียบ เนื่องจากไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
"บังเอิญ?" ริมฝีปากของ เหยียน ซิว ยกขึ้นเล็กน้อย ส่ายหัวช้า ก่อนจะโบกพัดที่อยู่ในมือสองสามที
....
"ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่ว่าเจ้าโชคดีเกินไปหน่อยหรือไงกัน? " หลี่ เฮ่อ และ เมิ่ง เจียงฉาน จ้องเขม็งไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังเดินกลับมายังที่นั่งของตนเอง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา
ฟาง เจิ้งจือ เหยียดยิ้มออกมา เขาไม่คิดจะสนใจสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
"เอาล่ะไม่ว่าเจ้าจะโชคดีแค่ไหนแต่มันก็ต้องสิ้นสุดลงในวันหนึ่ง!" หลี่ เฮ่อ และ เมิ่ง เจียงฉาน เชื่อมั่น
...
หลังจากนั้น การแข่งขันรอบอื่นๆยิ่งดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนมากเป็นการแข่งขันด้านพละกำลังเพียวๆ หรือใช้กลยุทธ์แปลกๆ หลี่ เฮ่อ และ เมิ่ง เจียงฉาน รู้สึกเบื่อหน่าย แต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับมองดูด้วยความสนใจ
ถึงแม้มันจะดูเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่มันกลับช่วยเติมเต็มจินตนาการอยู่มาก
ตัวอย่างเช่น ชายที่สวมชุดสีน้ำเงินตะโกนชื่อท่า "แรดมองจันทร์" ขึ้นมา ถึงแม้ความจริงแล้วจะไม่มี แรด หรือ ดวงจันทร์โผล่ขึ้นมา แต่หลังจากพูดจบลูกเตะที่พุ่งเข้าใส่คูต่อสู้ก็ทำให้พวกเขาคถกเข่าลงร้องขอความเมตตา
การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ตอดเวลา ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้โดยใช้ความคิด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงจัดการ เมิ่ง อวี้ชู ได้ภายในสองกระบวนท่า
เมิ่ง เจียงฉาน และ หลี่ เฮ่อ เหมือนจะโชคร้ายมาก
เพราะเขาสอบอันดับได้ไม่ดีเท่าไหร่ในรอบการทดสอบด้านปัญญา ทำให้พวกเขาถูกเพ่งเล่งจากผู้เข้าสอบที่อันดับสูงกว่าเป็นจำนวนมาก
หลังจากตะโกน "สวรรค์ฆ่าข้าเสียเถอะ" ออกมา เมิ่ง เจียงฉาน ก็กระเด็นออกมาจากลานประลอง ปากของเขาเต็มไปด้วยโคลน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหน็บเหนื่อย
ในทางกลับกัน หลี่ เฮ่อ นั้นเต็มไปด้วยความดุร้ายและกล้าหาญ กำปั้นของเขาที่ต่อยออกไปทำให้เกิดเสียงดังสนั่น กดดันคู่ต่อสู้จนกระเด็นออกจากลานประลองไปได้
"ข้าชนะ ช้าชนะ!"
หลี่ เฮ่อ ไม่สามารถมีความสุขได้อย่างเต็มที่ เพราะตอนที่ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเป็นจ้ำราวกับหมีแพนด้า ดูน่าเกลียด
การทดสอบรอบแรกสิ้นสุด
สามอันดับแรกในการทดสอบด้านปัญญา ฟาง เจิ้งจือ ได้เอาชนะ เมิ่ง อวี้ชู และเข้ารอบที่สองไป ในทางตรงกันข้าม โชคของ เจิง ซินเจา ไม่ดีนัก
เพราะหลี่ โปเหว่ย ได้เลือกเขาเป็นคู่ต่อสู้ในรอบที่แล้ว
การต่อสู่ที่น่าเหลือเชื่อและรุนแรงก็เกิดขึ้น ทุกการปะทะมีผลร้ายแรงถึงตายได้ ทุกก้าวเต็มไปด้วยความตึงเครียด ในที่สุด เจิง ซินเจา ก็พ่ายแพ้พร้อมกับการบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ตอนแรกดูเหมือนว่า เจิง ซินเจา ได้กดดัน หลี่ โปเหว่ยจนเกือบจะตกลานประลองไป แต่ได้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น หลี่ โปเหว่ยเหวี่ยงดาบตัดผ่านข้อมือของ เจิง ซินเจา
เส้นลมปราณของเขาถูกตัดขาด!
หมายความว่าในอนาคตนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับ เจิง ซินเจา ที่จะเข้าร่วมการทดสอบด้านการต่อสู้อีก แต่เพราะมันเป็นการประลอง ไม่มีใครติดใจกับเหตการณ์ที่เกิดขึ้น
"ก้อง!" การต่อสู้รอบที่สองกำลังจะเริ่มขึ้น
ผลการสอบด้นปัญญาของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นน่าทึ่ง ไม่ว่าเขาจะผ่ารอบนี้ไปหรือไม่ ยังไงเขาก็ผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าครั้งนี้แน่นอน ต่างจาก หลี่ เฮ่อ ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่สองในการทดสอบด้านปัญญา ในการทดสอบรอบนี้เขาต้องชนะเท่านั้น
รอบนี้ต่างจากรอบที่แล้วที่มีผู้เลือกและผู้ถูกเลือก เพราะรอบนี้เป็นการสุ่มจับคู่เลย
วิธีผู้เลือกและผู้ถูกเลือกในรอบแรกนั้น เพื่อที่จะคัดคนอ่อนแอออกจากการแข่งขันให้รวดเร็วที่สุด
หลังจากนั้นการแข่งขันอันแสนตื่นเต้นก็จะมาถึง
หลายรายชื่อถูกจับคู่ แต่ละคู่ค่อยๆปรากฎขึ้นบนหินประกาศ
จากนั้น...
การแสดงออกของ หลี่ เฮ่อ เต็มไปด้วยความน่าเกลียดน่ากลัวทันที เพราะคนที่ชื่อตรงกับเขาคือคนที่คุ้นเคยกันดี....ฟาง เจิ้งจือ
"เฮ้อ..พี่หลี่ เฮ่อ พูดถูก ดูเหมือนโชคดีของข้าจะจบลงเสียแล้ว... " ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังใบหน้าของ หลี่ เฮ่อ ที่แสดงความหดหู่ออกมา ดวงตา ฟาง เจิ้งจือ ปรากฎความขบขันออกมาทันที
เพจหลัก : Gate of god TH