ตอนที่ 56 เตาหลอมหัวใจวานร
"ฉันคิดว่าเธอกำลังเข้าใจผิด"
ชู ซาน ส่ายหัว"ความหมายของการทำสมาธิที่นักปราชญ์คนที่ 6 กล่าวถึงคือ"หัวใจเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ในความคิด เเต่ไม่ได้หมายความว่ามันว่างเปล่า มันเป็นคำเปรียบเปรยของการซ่อมเเซมชีวิตเเละธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากที่จิตใจจะดับสลายได้ กล่าวอีกในนึงคือ จิตวิญญาณนั้นเป็นร่างจริงเเละร่างกายนั้นเป็นร่างปลอม ทั้ง 2 รวมเป็นหนึ่งก็คือตัวตนที่สมบูรณ์แบบ ถ้าฉันต้องการฆ่าเธอเเต่เธอเเสร้งทำเป็นว่านี่คือความฝัน เช่นนั้นเธอจึงเชื่อว่าร่างกายของเธอไม่สำคัญ เมื่อถึงตอนนั้นเธอก็จะเข้าสู่วิถีมาร"
"ผมเข้าใจเเล้ว ชีวิตก็เหมือนนักเเสดง ที่ต้องรู้ว่ากำลังทำหน้าที่ เเต่ก็ยังอยากจะเป็นตัวของตัวเอง ถ้าเขารู้ตัวเองว่ากำลังเเสดงอยู่ พวกเขาก็จะให้ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่ทำ"เจียง หลี่ เริ่มเข้าใจ"เมื่อเราเข้าใจชีวิตเเละชีวิตคือความฝัน เราจะสามารถเข้าใจมันทุกอย่างได้ดีขึ้นเเม้ว่าจะไม่มีใครให้ความสนใจก็ตาม นี่คือหลักการ หัวใจเป็นของความคิด เเต่มันไม่ได้ว่างเปล่าสักอย่าง? สิ่งที่ นักปราชญ์คนที่ 6 ต้องการจะพูดก็คือ พระเจ้าผู้สร้างได้สร้างเเนวทางในการทำทุกอย่างไว้เเล้ว ความจริงนั้นก็เปรียบเสมือนกำลังเดินส่วนความฝันก็เหมือนกับวิ่งท่องนภาออกไกล!"
"ใช่เเล้ว...ย้อนกลับไปเป็นมุมมองของโลก เเต่ไม่ได้คิดแบบนั้นเต็มส่วน!'ชู ซาน กล่าวต่อ"ทุกคนนั้นสามารถสร้างโลกเเห่งจินตนาการได้ มันเป็นชะตากรรมที่เราสร้างไว้เเละจำเป็นต้องรักษามันตลอดไป"
เจียง หลี่ เข้าใจทุกคำพูดของ นักปราชญ์คนที่ 6
คนกลวงนั้นไม่สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ เเต่ถ้าพวกเขายึดมั่นในชะตากรรมของตนพวกเขาก็จะสร้างโลกเเห่งจินตนาการได้
อย่าใช้ชีวิตเเละความตายอย่างสิ้นเปลือง ,อย่ายอมเเพ้ในร่างกายของตัวคุณเอง
"ผู้จัดการ ชู ความสามารถที่น่าประทับใจของนักสะกดจิตระดับรองนั้นคืออะไร?"เจียง หลี่ ถาม เขากำลังอยู่ในขั้นตอนที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทรา เเละเตรียมเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง
เมื่อกลายเป็นนักสะกดจิตระดับรอง ถือว่าเขาเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง
เขาต้องการความเข้าใจเพิ่มเติม
"ถ้าเธอสามารถเป็นนักสะกดจิตระดับรองได้เธอก็จะเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง สภาวะหยุดนิ่งหมายถึงภูมิคุ้มกันสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือไฟ ความหมายของน้ำเเละไฟนั้นไม่ใช่น้ำเเละไฟในโลกเเห่งความเป็นจริง มันหมายถึงภัยพิบัติทางจิตวิญญาณ ที่ทุกความคิดนั้นสร้างขึ้น เเม้ว่าเธอจะนอนหลับสนิทเเต่ก็จะมีหลายครั้งที่มีสิ่งรบกวนทำให้เธอตื่น ความโกรธ?ความอ่อนเเอ เเละความทุกข์ ทุกสิ่งนี้เป็นอารมณ์เชิงลบที่จะเข้ามาในจิตวิญญาณของเธอ เเต่มันจะไม่เกิดหากเธอเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งเเล้ว เมื่อเธอเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งจิตวิญญาณของเธอจะมีภูมิคุ้มกันที่พิเศษ มันสามารถสะท้อนเหตุการณ์ต่างๆในสมองเเละกำจัดพวกนั้นออกไป เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะสามารถรับรู้สิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมดของร่างกายได้เเม้เเต่การสะกดจิตผู้คนโดยไม่ได้เคลื่อนไหวเช่นสัญลักษณ์มือหรือเสียง เเต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พิเศษนั่นคือช้คลื่นจิตวิญญาณโจมตีอีกฝ่ายเพื่อเข้าสะกดจิต!"
"มันทรงพลังมากไหม?"
เจียง หลี่ รู้สึกตกใจ"คุณไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเเม้เเต่น้อยเพียงใช้คลื่นจิตวิญญาณโจมตีได้โดยตรง?เเสดงว่าตอนนั้นที่คุณทดสอบผมคุณก็ทำเช่นนั้นเหมือนกันรึไม่?"
"เเน่นอน ฉันได้สร้างคลื่นจิตวิญญาณโจมตีคลื่นสมองของเธอมันคล้ายคลึงกับคลื่นวิทยุ"ชู ซาน กล่าวต่อ"สมองของมนุษย์นั้นก็เหมือนเครื่องส่งสัญญาณเมื่อเซลล์สมองเริ่มทำงานความคิดก็จะถูกส่งออกไปการรับรู้ของจิตพวกนี้จะเริ่มอ่อนเเอในตอนนั้น เเต่เมื่อจิตใจของเธอพัฒนามันจะทรงพลังมากข้นจนสามารถบังคับหรือโจมตีสมองอีกฝ่ายได้ มันทำให้อีกฝ่ายเกิดความสับสนเเละถูกควบคุมโดยเธอ อย่างไรก็ตามนี่เป็นความสามารถของนักสะกดจิตระดับรองเท่านั้น นักสะกดจิตระดับเเรกเริ่มไม่สามารถทำมันได้ ถ้าเป็นนักสะกดจิตระดับสูงทำแบบนี้ละก็ประสิทธิภาพจะยิ่งรุนเเรงขึ้นพวกเขาสามารถทำให้คนผู้นั้นอ่อนเเอหรือตายลงได้ในทันที!"
เจียง หลี่ เข้าใจจุดนี้
ทุกคนล้วนมีศักยภาพที่ไม่เท่าเทียมกัน ในช่วงเวลาที่วิกฤษนั้น สมมุติว่ามีสตรีนางหนึ่งต้องการช่วยลูกของเธอจากเเรงของหินทับเธอสามารถยกหินก้อนใหญ่นั่นได้ด้วยพลังใจของเธอ
อย่างไรก็ตามการกัดกินของศักยภาพก็จะเกิดขึ้นเพราะเธอฝืนใช้ศักยภาพถึงขีดสุด ซึ่งเป็นเหมือน เจียง หลี่ ที่เข้าสู่สภาวะหายใจในครรภ์ เมื่อเขาอยู่สภาวะนั้นเขาจะกลายเป็นเเข็งเเกร่ง เเต่มันได้สร้างความเสียหายต่อเซลล์ของเขา
นักสะกดจิตระดับสูงนั้นสามารถสะกดจิตคนอื่นๆเพื่อกระตุ้นศักยภาพของพวกเขาได้ นี่เป็นประโยชน์มากในสนามรบ
"นักสะกดจิตระดับ รองนั้นสามารถโจมตีคลื่นสมองได้โดยตรงพวกเขาสามารถเข้าควบคุมโดยไม่ต้องใช้สัญลักษณ์มือหรือเสียง เเต่นักสะกดจิตระดับสูงนั้นสามารถสะกดจิตได้ยันศักยภาพของผู้คน เเล้วนักสะกดจิตระดับสูงสุดล่ะ?"
"นักสะกดจิตระดับสูงสุด จะสามารถสะกดจิตมนุษย์หรือสัตว์ในรัศมีไม่กี่กิโลหรือเเม้เเต่นับ 10 กิโลเมตรได้ตราบใดที่พวกเขาสามารถสะกดจิตได้ ศักยภาพพวกนั้นสามารถใช้เป็นจุดเเข็งในการสู้รบได้ หรือสะกดจิตคนตายให้ฟื้นกลายเป็น ผีดิบ ที่สามารถโจมตีได้รุนเเรงพิเศษ คนพวกนั้นอันตรายเเละมีพลังที่ทำลายล้างสูงมาก"ชู ซาน กล่าวต่อ"เเม้เเต่เเมลงที่อยู่ใต้ดินก็สามารถถูกสะกดจิตให้กลายเป็นอาวุธได้ นี่เป็นการควบคุมจิตวิญญาณขั้นสูงสุด"
"เเข็งเเกร่งมาก!"
เจียง หลี่ คิดถึงเรื่องนี้ เเม้เเต่คนที่อยู่หากออกไปนับ 10 กิโลเมตร ก็สามารถสะกดจิตได้ เขาสามารถถ่ายโอนคำสั่งไปให้เป้าหมายเชื่อฟังได้ นี่มันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน?
"อย่างไรก็ตามนักสะกดจิตระดับสูงสุดนั้นมีเเต่คนในย่านชั้นสูงเท่านั้น เมื่อเธอกลายเป็นนักสะกดจิตระดับสูงสุดเธอก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณมนุษยชาติ คนประเภทนี้จะไม่ขาดเเคลนเงินเเละทุนทรัพย์"ชู ซาน กล่าวด้วยความอิจฉา
"เเล้วระดับ ปราชญ์จิตวิญญาณ ล่ะ?"
."ปราชญ์จิตวิญญาณ? คำพวกนี้เป็นคำที่พวกเขาสรรเสริญเทพเจ้า ตัวตนเหล่านี้ล้สนเป็นตัวตนอมตะทางด้านจิตวิญญาณ พวกเขาจะไม่ตายเเม้จะโดนความเสียหายนับ 1,000 ครั้ง จิตวิญญาณของพวกเขาสามารถสร้างเกราะป้องกันที่สามารถครอบคลุมทุกอย่างได้ เมื่อสามารถเข้าใจส่วนหนึ่งของจิตใจขั้นสูงสุด พวกเขาก็จะสามารถสะกดจิตได้เเม้กระทั่งการสะกดจิตสิ่งไม่มีชีวิต!"ชู ซาน กล่าวยกย่อง
"จิตวิญญาณที่โดนโจมตีนับ 1,000 ครั้งเเต่กลับไม่เป็นอะไรเลย?"เจียง หลี่ รู้สึกชื่นชมต่อความสามารถนี้ นี่เป็นจิตวิญญาณที่ทรงพลังที่สามารถเเทรกเเทรงสิ่งของไม่มีชีวิตได้เเม้เเต่พวกเขาจะสั่งให้หินลอยตัวก็สามารถทำได้
ก้อนหินนั้นไม่มีความคิดเเละมันก็ไม่มีประโยชน์เเม้ว่าจะสะกดจิตเท่าไหร่ก็ตามเเต่ไม่ใช่กับ ปราชญ์จิตวิญญาณ
"ผู้จัดการ ชู ผมอยากจะฝึกฝนทักษะการสะกดจิตให้เเข็งเเกร่งขึ้นผมควรทำอย่างไร?ผมจะเข้าสู่การฝึกสมาธิเเต่มันจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วได้ยังไง?"เจียง หลี่ กล่าว
"เธอกำลังบ่มเพาะทักษะ การเพ่งจิตเป็นคริสตัลอยู่ใช่รึไม่? วิธีการนี้ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเเละไม่ได้รับความเสี่ยง เเต่มันก็ไม่ได้พัฒนาจิตวิญญาณได้รวดเร็ว ดังนั้นเธอจะต้องเรียนรู้วิธีที่ซับซ้อนเเละเเข็งเเกร่งยิ่งกว่านี้"ชู ซาน กล่าวอธิบายช้าๆ
"ตอนนี้คุณกำลังฝึกทักษาะพลังสมาธิแบบไหน?"เจียง หลี่ รู้สึกสงสัย
มีวิธีการฝึกสมาธินับ 10,000 วิธี เเต่ละคนล้วนมีวิธีฝึกไม่เหมือนกัน
"ฉันฝึก[เตาหลอมหัวใจวานร]"ชู ซาน ไม่ได้เก็บความลับเอาไว้เขาเปิดภาพให้ดู
เจียง หลี่ เห็นภาพเหล่านั้นก็พลันตกใจ เขาเห็น ลิงที่ดุร้ายกำลังถูกหลอมรวมเป็นเม็ดยาสีทองในเตาหลอม
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นปรากฏเสมือนจริงมาก
"[เตาหลอมหัวใจวานร] เป็นวิธีฝึกฝนทักษะจิตวิญญาณขั้นสูง เธอจะจินตนาการว่าร่างกายของเธอเป็นเตาหลอมเเละหัวใจของเธอเป็นวานร วานร นั้นรุนเเรงเเละป่าเถื่อน มันไม่อยู่นิ่งเเละสงบ เธอจะต้องพยายามควบคุมมันโดยใช้เตาหลอมที่เป็นร่างกายหลอมรวม วานร ที่เป็นหัวใจ ให้เป็นเม็ดยา"ชู ซาน กล่าว"ฉันรู้ว่าเธอฝึกวิธีการหลายวิธีในการฝึกฝนจิตวิญญาณ เเต่เธอจะต้องระมัดระวังเรื่องนี้อย่างมาก เธอจะไม่สามารถพลาดได้เเม้จะเพียงเล็กน้อย มันจะทำให้เกิดความผิดปกติทางจิตวิญญาณ"
"ผมจะระวัง"เจียง หลี่ กล่าว เขารู้ว่า[เตาหลอมหัวใจวานร] ยังห่างไกลจากเพ่งจิตเป็นสมองจักรวาลของเขา เเต่เขาจะต้องค่อยเป็นค่อยไป เพ่งจิตเป็นสมองจักรวาลนั้นยังมีส่วนที่เขาไม่เข้าใจอีกมาก เขาไม่เเม้เเต่เข้าใจส่วนหนึ่งในระดับเริ่มต้น เมื่อเทียบกับ [เตาหลอมหัวใจวานร]นั้นมันเข้าใจง่ายกว่ามาก
"ตอนนี้เธอมีทักษะการสะกดจิตที่ดีมาก เเต่มันยังไม่เเข็งเเกร่งพอ ยกตัวอย่างถ้าเธอสร้างเสียงในการสะกดจิตเเต่ไม่สามารถควบคุมพยางค์ที่จะกล่าวออกมาได้ มันก็ไม่สามารถสะกดจิตได้ผล นี่เป็นภาษาทางวิทยาศาสตร์ที่ฉันอธิบายให้เธอเข้าใจ"
ชู ซาน กล่าวขณะที่คลิกคอมพิวเตอร์ของเขาเเละเเสดงอักขระที่บิดเบี้ยวหลายตัว
"ตัวอักษรเหล่านี้เป็นตัวอักษรภาษาสันสกฤต มันเป็นหนึ่งในภาษายุคเก่าของประวัติศาสาตร์ของมนุษย์ นักปราชญ์หลายคนได้เรียนรู้ภาษาเหล่านี้เเละได้รับประโยชน์จากมัน มันทำให้เราเรียนรู้การออกเสียงที่เเท้จริง พระเจ้าผู้สร้างนั้นได้ทิ้งข้อความโบราณไว้เพื่อสอนผู้คน ดังนั้นภาษาสันสกฤษจึงมีอำนาจมากกว่าภาษาปกติ ในยุคสังคมวิทยาศาสตร์นั้น จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษานับไม่ถ้วนต่างก็ได้ทำการวิจัยภาษานี้เป็นจำนวนมาก เเต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ได้เพียงข้อมูลน้อยนิดกลับมา"
เจียง หลี่ มอง ข้อมูลอย่างรอบคอบ
จดหมายฉบับนี้มีตัวอักษรในสมัยโบราณอยู่จำนวนมากบางอักษรนั้นได้รับการวิเคราะห์เเละประมวลผลเเล้วตัวอักษรพวกนี้สามารถทำให้จิตวิญญาณของเรากลายเป็นน้ำหนึ่งเดียวกันนี่เป็นประเภทของการสะกดจิตตัวเองเเละมันก็เเข็งเเกร่งมาก
คำเหล่านี้อ่านออกเสียงยาก ภายใต้คำอธิบายของ ชู ซาน เขาวิเคราะห์คำเหล่านี้ในมุมมองของวิทยาศาสตร์ เเละอ่านออกเสียง มันสอนให้เขารู้ว่าการออกเสียงที่เเท้จริงนั้นเป็นอย่างไร เมื่อจิตวิญญาณของคุณเข้มเเข็งมันก็จะทำให้เราออกเสียงได้เข้มชัดในบางคำนี่เป็นจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ ยิ่งเข้าใจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อเสียงของคุณมากเท่านั้น ถ้าคุณไม่สามารถสะกดจิตตัวเองได้ คุณจะสามารถสะกดจิตคนอื่นได้อย่างไร
นี่เหมือนกับการพูดคุยกับตนเอง คุณจะต้องยื่นอารมณ์ของตัวเองเข้าไปในจิตใจ ถ้าคุณสามารถทำได้คนอื่นก็จะให้ความสนใจต่อตัวคน เเต่ถ้าทำไม่ได้พวกเขาก็จะไม่สนใจ
ในเวลาเดียวกัน ชู ซาน ก็เปิดตัวอย่างของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เขากล่าวสุนทรพจน์ของตัวเองเเละเเสดงอิทธิพลที่รุนเเรงออกมา
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังอธิบายถึงความร่วมมือกันระหว่าง สัญลักษณ์มือเเละสัญญาณเสียง มันทำให้เกิดพลังจิตที่ยิ่งใหญ่
อาคานัม เป็นสัญลักษณ์มือภายใต้การอธิบายของเขา เจียง หลี่ รู้สึกได้รับเเรงบัลดาลใจ
ความรู้เหล่านี้มันสามารถทำให้ทักษะการสะกดจิตของเขาพัฒนาขึ้น
เขาฟัง ชู ซาน สอนเเละตระหนักได้ว่าเขานั้นขาดความรู้ เขาจำเป็นต้องเรียนรู้หลายสิ่ง
"[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]ของฉันนั้นเป็นเพียงเเค่รูปแบบสมาธิเพียงเท่านั้น มันไม่มีเสียง ถ้าการคาดเดาของฉันถูกต้อง[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]สามารถทำให้เขาเคลื่อนไหวด้วยรูปแบบที่หลากหลาย มันง่ายต่อการเคลื่อนไหวในเเต่ละครั้งทำให้น้ำเสียงเเละสัญลักษณ์มือของเขาสอดคล้องกัน โชคไม่ดีที่ฉันไม่สามารถปลดอีกส่วนหนึ่งของ ผลึกหัวใจเเห่งความฝันได้!"
เวลาทั้งวันได้ผ่านพ้นไป
ท้องฟ้าพลันมืดลง
ชู ซาน กล่าว"มันเป็นเวลานานมากที่ฉันได้บรรยายสิ่งดีดีให้เธอได้ฟัง เเละเธอดูเหมือนจะเข้าใจมันทั้งหมด ฉันจะรอดูผลการพัฒนาของเธอ ฉันหวังว่าเธอจะทำได้ดีเกินที่ฉันคาดไว้!"
"ผมจะไม่ลืมสิ่งที่คุณสอนวันนี้อย่างเเน่นอน!"เจียง หลี่ ยืนขึ้น เเละโค้งทักทายอย่างสุภาพ
"ไปเถอะ!"ชู ซาน กล่าวโบกมือ"ถนนนั้นไม่มีที่สิ้นสุด มันยากที่จะหาความหมายที่เเท้จริงของหัวใจเเห่งดาบได้!"
เจียง หลี่ ที่ได้ยินพลันถอนหายใจเข้าลึก เขารู้ดีว่ารูปแบบพวกนี้ก็มีความเชื่อเเละเส้นทางของตัวมันเอง
เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน
เพราะเส้นทางเเห่ง เต๋า นั้นมันยากที่เดินบนเส้นทางนี้
ติดตามกลุ่มลับได้ที่ Emperor Of The Cosmos - นิยายแปล