ตอนที่ 71 เลือก ฟาง เจิ้งจือ (FREE)
สถานที่จัดการสอบยังคงเป็นสำนักฉิงเฟิง เช่นเคย แต่ในคราวนี้มันถูกจัดขึ้นที่ลานประลองหลังสำนัก ที่นั่งชมถูกจัดวางแบ่งเป็นสามด้านรอบๆลาน
ด้านหลังสุดเป็นที่นั่งของผู้ตัดสินการต่อสู้
ขุนนางฉิน นั่งอยู่ตรงกลางขนาบด้วยสอคนข้างๆ หนึ่งในนั้นใส่ชุดสีดำอย่างเป็นทางการ ดูเหมือนเขาจะเป็นเจ้าเมืองฮวายอัน
ส่วนอีกคนแต่งตัวราวกับนักปราชญ์อายุประมาณ 40-60 ปี ดวงตาของเขาเปิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้ตัดสินคนอื่นๆรออยู่ข้างล่างของที่นั่งคนดู เพื่อรอสัญญานเริ่มการแข่งขัน
“รอบแรกของการทดสอบคือแพ้คัดออก! เราจะแบ่งเป็นผู้เลือกและผู้ถูกเลือก โดย”ผู้เลือก" นั้นสามารเลือกคนที่อยากต่อสู้ด้วยหรือ "ผู้ถูกเลือก" ได้อย่างอิสระ ผู้ชนะจะถูกเพิ่มระดับ ส่วนผู้แพ้จะถูกนำตัวออกจากการทดสอบ! "
มันดูเป็นกฎง่ายๆดูไม่ค่อยยุติธรรม
ยิ่งไปกว่านั้น โชคและโอกาสก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะคนที่จับฉลากได้เป็น "ผู้เลือก"นั้นถือว่าได้เปรียบกว่ามาก
แต่ทุกอย่างก็เป็นอย่างนี้แหละ ใครจะกล้าพูดว่าโชคไม่ได้เป็นความสามารถอย่างหนึ่งบ้างละ?
การจับฉลากดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ผู้เข้าสอบแต่ละคนต้องเดินไปหยิบเหรียญตาเล็กๆที่บรรจุยู่ในกล่อง เมื่อการจับฉลากสิ้นสุดลงชื่อของผู้เลือกและผู้ถูกเลือกก็รากฎขึ้นบนหินประกาศทั้งสองก้อน
วันนี้ดูเหมือนโชคของ ฟาง เจิ้งจือ จะไม่ดีนัก เพราะเขาได้เป็นผู้ถูกเลือก
นั่นหมายความว่าชะตากรรมของเขาจะถูกตัดสินโดยคนอื่น
หลี่ เฮ่อ และ เมิ่ง เจียงฉาน นั้นไม่ได้ถือว่าโชคดีเท่าไหร่ เพราะพวกเขาได้คำว่าผู้ถูกเลือกเช่นกัน พวกเขาดูหม่นมองไปในทันทีและถอนหายใจกันยกใหญ่ สวรรค์เล่นตลกกับพวกเขาหรือไงกัน โชคชะตาช่างไม่ยุติธรรม
ในทางตรงกันข้าม ฟาง เจิ้งจือ กลับนิ่งสงบ เพราะเขามองเห็นบางอย่างบนหินประกาศ ชื่อของ เมิ่ง อวี้ชู ปรากฎอยู่บนหินประกาศฝั่งผ็เลือก
"หืม? เมิ่ง อวี้ชู ยังจะมาเข้าร่วมการทดสอบด้านการต่อสู้อีกงั้นหรือ? " ฟาง เจิ้งจือ สับสนเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กกลับมาอยู่ในความนิ่งสงบเช่นเคย
จากนั้นเขาก็สังเกตุเห็นถึงบางอย่าง
ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฎตัวขึ้น
สวมชุดผ้าไหม ใบหน้ามีแต่ความเย็นชา เหยียน ซิว
หรือว่าเขาจะมาเข้าร่วมการทดสอบด้านการต่อสู้เช่นกัน? ฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้สับสนมาก เพราะผู้ที่อยู่ในรอบนี้ทุกคนล้วนลงทะเบียนสอบด้านปัญญามาก่อน
แต่ เหยียน ซิว นั้นไม่ได้เข้าทดสอบด้านปัญญา รวมถึงการจับฉลากก่อนหน้านี้ เหยียน ซิว ก็ไม่ได้เข้าร่วม
หรือเขามาเพื่อชมการทดสอบ?
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด การที่สามารถเข้าชมการทดสอบได้นั้นเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงแล้ว อย่างน้อยคนทั่วๆไปก็ไม่สามารถเข้าชมได้
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ได้เกิดเสียงตะโกนดังขึ้น
"ข้าเลือก ฟาง เจิ้งจือ! "
ฟาง เจิ้งจือ ผงะไปเล็กน้อย นี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ใครกันช่างโหดร้ายที่เลือกเขาเป็นคนแรกท่ามกลางผู้คนตั้งมากมาย?
นี่คือการแข่งรอบแรก แพ้คัดออก
ถ้าคนหนึ่งแพ้ ไมว่าผลลัพธ์ในการทดสอบด้านปัญญาจะดีแค่ไหน เขาก็ต้องถูกคัดออกในทันที
ด้วยชื่อเสียงของเขาที่เป็นอันดับหนึ่งในการทดสอบด้านปัญญา...ไม่มีใครคิดจะเกรงกลัวเขาเลย?
เมื่อยกหัวขึ้น ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจในทันที เพราะคนที่ยืนอยู่บนเวทีคือ เมิ่ง อวี้ชู ที่เหน็บดาวไว้ที่เอว
ทันใดนั้นผู้คนเริ่มตกอยู่ในความตื่นเต้นทันที
หลังจากที่ผลการทดสอบด้านปัญญาออกมา พวกเขารู้ได้ในทันทีว่า เมิ่ง อวี้ชู และ ฟาง เจิ้งจือ จะได้ต่อสู้กันแน่นอน แต่พวกเขาไม่คิดว่าการต่อสู้นั้นจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้
" เมิ่ง อวี้ชู เลือก ฟาง เจิ้งจือ เขาช่างโชคดีนัก! "
" ใช่แล้ว จากการที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้อันดับหนึ่งในการทดสอบด้านปัญญา ตราบเท่าที่เขาไม่แพ้ในรอบการต่อสู้ตั้งแต่แรกๆ อย่างน้อยเขาต้องผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าแน่นอน"
"ดูเหมือน เมิ่ง อวี้ชู ไม่คิดจะยอมให้ ฟาง เจิ้งจือ ผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าไปแน่นอน! "
"มันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเจ้าถูกร้องเรียนตอนสอบด้านปัญญา เจ้าจะไม่คิดล้างแค้นเขาหรือไง ฮ่าฮ่า"
ผู้เข้าร่วมการทดสอบต่างถกเถียงกันอย่างดุเดือด รอบนี้ ฟาง เจิ้งจือ คงไม่โชคดีเสียแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องดูด้วยซ้ำ เพราะผลการทดสอบนั้นถูกตัดสินไว้เรียบร้อยแล้ว
เพราะพวกเขาทั้งหมดรู้ดีว่า เมิ่ง อวี้ชู ได้เข้าสู่วิถีแห่งเต๋าแล้วเรียบร้อย
ทุกคนจึงคาดเดาผลการทดสอบในรอบนี้ได้แต่เนิ่นๆ
"การตัดสินใจของนายน้อยเกินคาดหมายไปมากจริงๆ" บนที่นั่งด้านบนเจ้าเมืองฮวายอันรู้สึกแปลกใจ
"ความทะเยอทะยานของเขาสูงมาก ถ้าเขาสุ่มเลือกคนมั่วๆ คงกลัวจะเป็นการขายหน้ากระมั้ง?” นักปราชญ์วัยกลางคนมองไปยัง เมิ่ง อวี้ชู ราวกับเขาได้คาดการณ์เรื่องทั้งหมดไว้แล้ว
"ฮ่าฮ่า..... " ขุนนางฉิน หัวเราะออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
ในขณะเดียวกัน เมิ่ง เจียงฉาน และ หลี่ เฮ่อ มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ
ตอนแรกพวกเขาว่ายังไง ฟาง เจิ้งจือ ต้องผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าแน่นอน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่แน่นอนเสียแล้ว
เมิ่ง อวี้ชู...
เขาแข็งแกร่งเพราะเข้าถึงวิถีแห่งเต๋าแล้ว ต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ จะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ไม่มีทางต่อกรเขาได้แน่นอน
ความรู้สึกของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปทันที มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความสงสาร
"ฟาง เจิ้งจือ อย่าเสียไป ต่อให้เจ้าพลาดในรอบนี้ แต่ถ้าเจ้าพยายามมากพอ ครั้งต่อไปยังมีโอกาส"
"ถูกต้องแล้ว ฟาง เจิ้งจือ วันนี้เพราะโชคไม่เข้าข้างเจ้าแค่นั้นเอง! " เมิ่ง เจียงฉาน พูดออกมาในทพนองเดียวกัน
"เจ้าคงพูดถูก โชคไม่อยู่ข้างข้า" มุมปากของ ฟาง เจิ้งจือ ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม หลังจากนั้นลุกขึ้นและเดินอย่างสบายๆไปที่ลานต่อสู้
เดินผ่านผู้ชมที่นั่งกันอย่างเนืองแน่น ไม่นานเขาก็เดินไปถึงลานต่อสู้
หลังจากได้รับสัญญานจากผู้ตัดสิน พวกเขาเอากำปั้นมาชนกัน แสดงถึงมิตรภาพ หลังจากนั้นการต่อสู้ก็จะเริ่มขึ้น
"นำอาวุธของเจ้าออกมา! " หลังจากนั้น เมิ่ง อวี้ชู ก็ดึงดาบที่แผ่รังสีอันเยือกเย็นออกมา
"ไม่จำเป็น" ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
ตอนแรก เมิ่ง อวี้ชู เริ่มเคลื่อนไหว แต่กลับหยุดชะงักลง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ที่สวมเพียงชุดสีน้ำเงินหยาบๆ ทันใดนั้นรอยยิ้มอันเยือกเย็นก็ปรากฎบนใบหน้าเขา
"ถ้าเจ้าไม่คิดจะนำอาวุธออกมาละก็ ลงไปนอนเล่นข้างล่างลานต่อสู้เสียเถอะ! " เมิ่ง อวี้ชู แสดงความหยิ่งยโสออกมา
"ข้ามีอาวุธ...แต่กับเจ้านั้นไม่จำเป็น" ฟาง เจิ้งจือ พูดความจริงออกมา
คำพูดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ เมิ่ง อวี้ชู ตกตะลึง ผู้เข้าสอบทุกคนต่างตกตะลึงเช่นกัน
หลังจากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขั้น
"ฮ่าฮ่าฮ่า...เขาพูดว่าไม่จำเป็นต้องใช้อาวะสู้กับ เมิ่ง อวี้ชู?! "
"นี่ไม่ใช่ว่าเขาจะอวดดีไปหน่อยงั้นรึ?"
"หรือเขาจะคิดว่าไม่มีอาวุธ จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บลดลง?"
ผู้เข้าสอบคนอื่นๆได้คาดเดาความตั้งใจของ ฟาง เจิ้งจือ ก่อรจะหัวเราะดังกว่าเดิมออกมา
บนเก้าอี้ไม่ไกล การแสดงออกของ เหยียน ซิว ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่นิ้วที่เขาวางไว้บนเก้าอี้ขยับเล็กน้อย
บนที่นั่งด้านบน ในตาของขุนนางฉิน เกิดประกายแห่งความสนใจขึนมาทันที
"ไม่ใช้อาวุธ ฮ่าฮ่า ... น่าสนใจ!"
เพจหลัก : Gate of god TH