ตอนที่ 49 กำปั้นเทพมาร
เข้าสู่ช่วงกลางคืน
จิตใจของ เจียง หลี่ พลันสงบเงียบกว่าเดิม เขาได้เฝ้าดูสำนักงานใหญ่ของพันธมิตร เชาเซว่ อย่างใกล้ชิดเเละวันนี้ก็คือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เขารอ
ตามที่คาดไว้เขาเห็นรถ2-3นออกจากสถานที่เเละมุ่งตรงไปยังสถานีรถไฟ
"มันเป็นทริคหลอก พวกเขาจงใจล่อพวกที่ดักซุ่มโจมตีออกมา"
เจียง หลี่ ไม่สนใจเกี่ยวกับรถพวกนั้น เขารู้ว่านี่คือเเผนเบี่ยงเบนความสนใจ ผู้นำพันธมิตร เชาเซว่ ไม่ได้อยู่ในนั้น เราเหล่านี้สามารถพังได้โดยง่าย ตราบเท่าที่มีปืนลูกซองขนาดใหญ่สักกระบอก มันสามารถเป่ารถนั่นให้กระเด็นไปไกลได้
มันเป็นไปได้อย่างง่ายดายที่จะถล่มรถคันนั้นให้พรุน
ด้วยปืนพกรุ่นใหม่ที่มีระยะหวังผลมากกว่า 1 กิโลเมตร
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนออกมาจากสำนักงานใหญ่ภายหลังเขาดูเหมือนไม่ใช่ตัวตนที่สำคัญของพันธมิตร เชาเซว่ เขากำลังเดินไปสถานีรถไฟ
เจียง หลี่ สัมผัสได้ว่าคนคนนี้อันตรายมาก เขารู้สึกเหมือนกับกำลังเผชิญหน้ากับหมาป่าลวงตาอีกคน
นี่เป็นสัมผัสที่ 6 ที่เขาได้จากสภาวะหายใจในครรภ์
มันมีความเเม่นยำเเละเเน่นอนกับเขา ดัวยสัมผัสที่ 6 นี้ ทำให้ เจียง หลี่ รอดพ้นอันตรายมาหลายครั้งเเล้ว
คนอื่นๆอาจสัมผัสไม่ได้ว่าชายคนนี้มีความเเข็งเเกร่งขนาดไหน เเต่ เจียง หลี่ สามารถบอกได้เลยว่า ชายคนนี้คือบอสใหญ่ของ พันธมิตร เชา เซว่,หน้าบากสีเลือด
เขาไม่ได้พาผู้ติดตามใดๆตามไปด้วย เขาเเอบออกมาโดยการสวมหน้ากาก ที่ทำให้เขาปลอดภัยมากที่สุด เมื่อเขาเดินคนเดียวเเน่นอนว่าหากโดนซุ่มโจมตีเขาสามารถเคลื่อนไหวเเละหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว
ผู้ที่มีพลังกายเเข็งเเกร่งนั้นสามารถหลีกเลี่ยงกระสุนปืนได้ นอกจากนี้คนเหล่านั้นหากเพ่งจิตไปที่ระดับสูงสุดพวกเขาจะสัมผัสได้ถึงอันตรายเเละสามารถคาดการณ์อนาคตอันใกล้ได้
"หืม?เป็นไปตามที่คาดไว้เขาออกมาคนเดียว!"
เจียง หลี่ วิ่งลงบรรไดไปเเละเเอบตามเป้าหมายของเขา ระยะทางจากที่นี้ไปสถานีนั้นยังคงหากไกล เเน่นอนว่าเขาจะต้องรอโอกาสที่เหมาะสมในการจัดการหน้าบากสีเลือด นอกจากนี้ผู้ติดตามของหน้าบากสีเลือดก็ไม่รู้เส้นทางที่บอสของพวกเขาจะไป ดังนั้นมันจึงไม่มีการช่วยเหลือเเน่นอน
"หน้าบากสีเลือดมีความรอบคอบมาก เขารู้ว่าการเคลื่อนไหวหมู่มากจะส่งผลให้เกิดการซุ่มโจมตีดังนั้นเขาจึงเเอบออกไปด้วยตัวเองโดยไม่มีใครสงสัย น่าเสียดายที่มันไม่สามารถหลบพ้นสายตาของฉันได้"เจียง หลี่ เชื่อว่าสัมผัสที่ 6 ของ หน้าบากสีเลือดไม่เเข็งเเกร่งเท่าเขา
เจียง หลี่ เว้นระยะห่างของเขาเเละเเอบตามหน้าบากสีเลือด ในเวลาเดียวกันเขาก็มองไปรอบๆเพื่อระวังตัว เขาใช้เพ่งจิตเป็นสมองจักรวาลทำให้ทัศนวิสัยน์ของเขากว้างขวางมากขึ้นไม่มีใครเฝ้าสังเกตุมองเขาอยู่
หน้าบากสีเลือดเข้าไปในซอยเล็กๆมันเป็นที่ร้างเเละเป็นทางลัดไปยังสถานีรถไฟ
"ฉันจะต้องลงมือที่นี่!"
เจียง หลี่ ได้จำลองเส้นทางที่หน้าบากสีเลือดจะใช้เดินทางเเละเส้นทางนี้เองก็เป็น1 ในเส้นทางที่เขาวางเเผนไว้
ในสังคมยุคใหม่นั้นมนุษย์สมัยใหม่มีส่วนสูงที่ 1.9 เมตรถือเป็นเรื่องปกติ
หน้าบากสีเลือดนั้นมีความสูงเเค่ 1.8 เมตร ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยคนยุคใหม่ กล้ามเนื้อของเขาเเข็งเเกร่งมาก เขาเดินไปอย่างเงียบๆโดยที่ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
เจียง หลี่ ถูปกคลุมไปด้วยกลิ่นเหล้าหึ่งเขาปลอมตัวมาเพื่อการนี้ เจียง หลี่ปรากฏตัวที่เบื้องหน้าเขา
"ออกไปจากฉันซะ!ไม่งั้นฉันจะฆ่าเเก ไอ่ตัวสกปรก!"เสียงของเขาทุ้มต่ำมากเขาหยุดเท้าอยู่ครู่นึง
มือของ เจียง หลี่ โบกไปมาอย่างคนเมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเเกล้งรู้สึกมึนเมาอยู่
หน้าบากสีเลือดหยุดจ้องมอง 'ขี้เมา' ตรงหน้า
เขายืนมองเเละหลบออก เเต่ขี้เมาคนนั้นก็หันมือจังหวะพิเศษเเละเริ่มร่ายสัญลักษณ์มือเหมือนดอกไม้ที่ร่วงโรยลงจากสวรรค์นิ้วของเขาเหมือนกับเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นบางครั้งฝ่ามือของเขาก็กดเข้าหากันเเละก็วนไปรอบๆ
ด้วยการร่ายรำที่รวดเร็วของสัญลักษณ์มือ เจียง หลี่ ได้สร้างสัญลักษณ์ภาพจำนวนมาก
ความเร็วของเขารวมกับ[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]นั้นทำให้มือของเขาเร็วกว่าเเต่ก่อนมาก
เขาได้มาถึงขั้นที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทราที่สามารถพักผ่อนเเละออกกำลังกายได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้ความเร็วในการสะกดจิตของเขาเร็วขึ้นอย่างน้อย 50%
เมื่อตอนที่เขาเดินเข้าไปในตรอกซอย เจียง หลี่ ก็เเกล้งเป็นคนขี้เหล้า เเต่ในความเป็นจริง เขาได้เข้าสู่ขั้นที่ 3 นั่นก็คือ ฝันคือพลัง จิตวิญญาณของเขากำลังหลับไหลเหมือนคนเมา เเต่เขายังมีสติ มันสามารถทำให้พลังกายภาพของเขาเพิ่มขึ้นสู่อีกระดับ 1
คราวนี้เขาใช้ทุกอย่างเเม้เเต่การสะกดจิตเพราะ หน้าบากสีเลือดมีความเเข็งเเกร่งมาก
เป็นไปได้ที่ชายคนนี้จะเเข็งเเกร่งเทียบเท่า อู่หยาง ฉิง
เขาเป็นหัวหน้าเเก๊งของเมือง ซู่ ฮัว เขาจะอ่อนเเอได้อย่างไร? พลังชีวิตของเขาต้องมีอย่างน้อยระดับ 1 เเม้จะไม่มีคนคอยคุ้มกันเขาก็เเข็งเเกร่ง
เจียง หลี่ โบกมือเเละใช้[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]มันทำให้เกิดภาพสะท้อนไปกับลมทำให้ดวงตาของ หน้าบากสีเลือด เริ่มพร่ามัว หัวใจเต้นเเรง นี่เป็นอาการของคนที่กำลังโดนสะกดจิต
ชายหน้าบากสีเลือดนั้นโดนผลสะกดจิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"เขาเเข็งเเกร่งจริงๆ!"
เจียง หลี่ คิดไว้อยู่เเล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ เขาไม่สามารถสะกดจิตได้ ดังนั้นจึงต้องพึ่งทางเลือกที่ 2 นั่นก็คือโจมตีเลย เขาจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามอ่อนกำลังลงเมื่อถึงเวลานั้นชายคนนั้นก็จะไม่สามารถต่อต้านได้อีกมันจะทำให้เขาสะกดจิตได้ง่ายกว่าเดิม
การทรมาณร่างกายนั้นมีผลกระทบต่อจิตใจ
ยิ่งคนที่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายเพียงใด พวกเขาก็จะมีผลกระทบต่อจิตใจทำให้อ่อนลงเเละยอมจำนนนั่นคือหลักการสอบสวนเเบบทรมาณ
ชู่ว!
เขาพุ่งตรงไปที่ ชายหน้าบากสีเลือดคนนั้น เจียง หลี่ นั้นพุ่งไปอย่างรวดเร็วเหมือนมังกรที่ทะยานลงมาจากผืนฟ้า ด้วยระยะทางที่ห่างกว่า 30 เมตร เเต่เขาใช้เวลาเพียง 1.5 วินาที!
ทักษะต่อสู้ระดับ C [กรงเล็บมังกรพิฆาต]
[มังกรเพลิงเเผดเผา]
ภาพกรงเล็บที่รุนเเรงถูกปล่อยออกจำนวนมาก เเต่มีภาพเดียวเท่านั้นที่เป็นภาพจริงฝ่ามือของเขาพุ่งไปที่ด้านหลังคอของ ชายหน้าบาก
หลังศรีษะนั้นเป็นเส้นรวมศูนย์ประสาท ถ้าถูกโจมตีสามารถทำให้คนผู้นั้นหมดสติชั่วคราวได้ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะเลือดคลั่งในสมอง การสะกดจิตนั้นหากจะให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด จะต้องทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีปริมาณออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ มันจะทำให้เขาไร้ซึ่งความคิดเเละกำลังที่จะต่อต้าน
"เวรเอ้ย!มันซุ่มโจมตี"
สายตาของหน้าบากสีเลือดเเปรเปลี่ยนไป ดวงตาของเขาส่องสว่างขึ้นเขาเพิ่งตื่นจากการสะกดจิต เจตนาฆ่าฟันที่รุนเเรงเผยออกมาทางร่างกายของเขา ร่างของเขากลายเป็นหอกที่ดุร้ายเเละพุ่งเข้าปะทะในทันที
ปั้ง!
เขาต่อยกำปั้นออกไปอย่างรุนเเรงเเละดูเหมือนร่างกายของเขาจะพองตัว
กำปั้นนี้ดูเหมือนกับเทพปีศาจที่จุติลงมา มันเป็นทักษะต่อสู้ระดับ B[กำปั้นเทพมาร]
มันเป็นภาพสะท้อนการปรากฏตัวของเทพเเละมาร
ทักษะระดับ D นั้นเป็นทักษะต่อสู้ธรรมดา
ทักษะระดบับ Cเป็นทักษะที่ใช้การหายใจเเละร่างกายผสาน
ทักษะระดับ B เป็นการเพ่งจิตในการไตร่ตรองซึ่งทำให้โจมตีออกมาได้รุนเเรงกว่า
[กำปั้นเทพมาร]นั้นมีภาพที่ปรากฏตัวของเทพเเละมารปรากฏขึ้นมันเป็นภาพการเคลื่อนไหวการโจมตีที่รุนเเรง!
เมื่อคนพวกนี้สามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้เสร็จจิตใจของพวกเขาสามารถสร้างภาพลวงตาขึ้นมาได้
ทักษะต่อสู้ประเภทนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจที่เเข็งเเกร่งเเละมันถูกจัดอยู่ในทักษะระดับ B พลังของมันร้ายกาจมาก เเต่ก็มีความยากในการควบคุม เพราะอาจทำให้จิตใจเสื่อมโทรมได้เเละกลายเป็นคนบ้า
ถ้า เจียง หลี่ ไม่ได้ใช้สัมผัสที่ 6 ของเขาเพื่อหลบเลี่ยง เเละใช้ การเพ่งจิตเป็นสมองจักรวาล เขาคงจะตายไปนานเเล้ว
เจียง หลี่ เคยเห็น[กำปั้นเทพมาร]มาก่อน นั่นก็คือตอนที่เขาปะทะกับผู้เชี่ยวชาญในห้องทดสอบที่เป็นภาพโฮโลเเกรม เเน่นอนว่าเขาเคยพ่ายเเพ้ให้กับกำปั้นนี้มาก่อน
ปั้ง!
ทักษะระดับ B[กำปั้นเทพมาร]เข้าปะทะกับทักษะระดับ C[กรงเล็บมังกรพิฆาต] เจียง หลี่ รู้สึกได้ทันทีว่าเเขนของเขาเจ็บปวดราวกับกระดูกจะหัก ฝ่ายตรงข้ามมีความเเข็งเเกร่งเเละประสบการณ์ต่อสู้มาก
"นี่เป็นพลังชีวิตระดับ 1.1! ความกล้าหาญทางจิตวิญญาณของเขาก็สูงมาก เขาอยู่ในขั้นที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทราเหมือนกับฉัน!"เเขนของ เจียง หลี่ รู้สึกชา เขาสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนเเรง ในช่วงเวลานั้นเขาต้องการจะหนีเเละไม่ต้องการจะเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม
นี่คือความคิดที่เเล่นผ่านมาเตือนเขา มันเป็นความท้าทายทางจิตวิญญาณที่เเข็งเเกร่ง ถ้าเขาพ่ายเเพ้เขาจะต้องจบลงด้วยความล้มเหลว หากเขาไม่กล้าท้าทายเเละเผชิญหน้ากับมัน มันก็ไม่มีทางที่เขาจะพัฒนาตัวเองได้
"สู้!"
เจียง หลี่ กล่าวเสียงทุ้มต่ำเขาใช้[ไร้กระดูก จูจิสสึ]ร่วมกับ[กรงเล็บมังกรพิฆาต]เเละใช้การโจมตีแบบเต็มรูปแบบ[มังกรดำหวนคืน],[มังกรเพลิงเเผดเผา],[ลูกเล่นมังกรขาว],[มังกรฟ้าทะยาน],[กรงเล็บมังกรฟ้า]เเละใช้[มังกรร่ายรำดั่งอสรพิษไร้กระดูก] ร่างของเขาส่ายไปมาอย่างรวดเร็วตามด้วย[ดัดกระดูกจู่โจม],[ทิ่มเเทงด้วยกระดูก],[กระเเทกด้วยกระดูก],[บดกระดูกจู่โจม]
เขาใช้ออกด้วยทักษะต่อสู้ที่มี
"[เทพมารปรากฏ]"
หน้าบากสีเลือดออกไปหมัดอีกครั้งซึ่งเขาไม่สามารถ โจมตี เจียง หลี่ ได้โดน มือของ เจียง หลี่ นั้นพุ่งตรงมาที่ใบหน้าของเขาทำให้ เขาเเทบจะหายใจไม่ออก
"ผ่าทลาย!"เจียง หลี่ ยกมือขึ้นกระเเทกหมัดไปอีกครั้งมันรวดเร็วดั่งสายฟ้าเเละเคลื่อนไหวคล้ายกับอสรพิษ เขาชกไปที่จมูกของ หน้าบากสีเลือดอย่างรุนเเรง นี่ไม่ใช่ทักษะต่อสู้ เเต่เป็น 1 ในท่าของ[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]
การเคลื่อนไหวครั้งนี้รุนเเรงมากเช่นเดียวกันฟ้ารอง ผลกระทบของมันคือทำให้ศัตรูตกตะลึงเเละหวาดกลัว
หลังจากได้ศึกษา[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]มาเป็นเวลานานเขาก็รู้สึกว่าทักษะต่อสู้ของเขาบางอย่างเขาเข้าใจมันถึงเเก่นเเท้
ฮึ่ม!
เเรงระเบิดสั่นไหวอย่างรุนเเรงร่างของเขาพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว
"ลม!"
เจียง หลี่ โห่ร้องร่างของเขาพุ่งผ่านตัดอากาศไปทำให้เกิดเสียงเเหลมเเขนของเขาซัดไปที่ หน้าบากสีเลือดอีกครั้ง
ครั้งนี้ร้ายเเรงกว่าเเต่ก่อนมากมันเป็นอีก 1 ในทักษะ[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]มันสามารถทำให้จิตใจของฝ่ายตรงข้ามเกิดกลัวเเละได้ยินเสียงฟ้าร้องผสมกับเสียงลมกรรโชกที่รุนเเรง
"น้องชายเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมีอะไรค่อยๆคุย..."จิตใจของ หน้าบากสีเลือดสั่นไหวอย่างรุนเเรง เเต่มือของเขากลับพุ่งไป ใส่เจียง หลี่
"ฉันจะฆ่าเเกซะ!"หน้าบากสีเลือดรู้สึกโกรธเขาต่อยหมัดออกไปเหมือนใบมีดอย่างรุนเเรง ราวกับกำปั้นที่มาจากผืนอเวจี
ทักษะต่อสู้ระดับ B[กำปั้นเทพมาร]ท่าที่ 2 [เทพเเละมาร]
ปั้ง! พวกเขาทั้ง 2 ปะทะกันอีกครั้ง จนถอยล่นออกไป
ในระหว่างที่ปะทะหมัดดกันผิวของ เจียง หลี่ เริ่มเเตกออกเเละมีเลือดไหล มือของ หน้าบากสีเลือดเองก็มีรอยขีดข่วนที่เป็นเลือดยาว
ชู่ว!
พวกเขาไม่คำนึงถึงบาดเเผลเเละพุ่งเข้าใส่กันอีกครั้ง พวกเขาสู้กันเหมือนกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย นี่เป็นการต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
"[เทพมารกักขัง]"
หลังจากต่อยหมัดออกไปร่วม 10 การโจมตี ทั้ง 2 ก็ชุ่มไปด้วยเลือด มีเลือดออกที่กำปั้นของพวกเขาทั้ง 2 คน
เจียง หลี่ ไม่สนใจว่ามือของเขาจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามเขาจะต้องเอาชนะคนคนนี้ให้ได้
ปั้ง!
มือของ เจียง หลี่ พลันเจ็บปวดรุนเเรงขึ้น หน้าอกของเขาก็มีร่องรอยของอาการบาดเจ็บเเละชุ่มไปด้วยเลือด
ทั้ง 2 ต่างก็ได้รับบาดเจ็บ
ฟุ่บ!
ในเวลานั้นเอง เจียง หลี่ ก็พุ่งไป ปะทะอีกครั้ง ด้วยกำปั้นของเขาเข้าปะทะกับ ชายหน้าบากสีเลือดทำให้ ปากเเละจมูกของเขาเลือดไหลอย่างรุนเเรง ทั้ง 2 คนต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ยากที่จะติดสินว่าใครเเพ้ ? ใครชนะได้?
กลุ่มลับมี 3v. เเล้วนะคับ ต้องการอ่านต่อที่กลุ่มลับติดต่อ Emperor Of The Cosmos - นิยายแปล