ตอนที่ 46 ไม่สำคัญ
"เเต่เธอไม่จำเป็นต้องกังวล? เธอมีศักยภาพที่เพียงพอ ถ้าเธอเป็นนักเรียนของฉัน ฉันจะทำให้เธอผ่านการสอบเข้าสถาบันเเอสทรัลได้อย่างเเน่นอน!"
"ด้วยความสามารถปัจจุบันของเธอมีโอกาสเพียง 50% เพียงเท่านั้น ที่จะเข้าสู่สถาบันเเอสทรัล เเต่ถ้าเธอให้ฉันช่วยเหลือเธอ โอกาสนั้นจะกลายเป็น 100% ในทันที"
"ผมขอโทษด้วย!"เจียง หลี่ ยังคงยืนกรานคำเดิม"ผมไม่อยากมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมต้องการอยู่อย่างสันติภาพกับครอบครัว ผมไม่ต้องการให้ชีวิตของผมยุ่งเหยิงเเละตกลงไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ถ้าผมเข้าร่วมกับคุณผมจะต้องมานั่งระมัดระวังตลอดทั้งกลางวันเเละกลางคืน อีกทั้งมันยังเป็นอันตรายมากต่อครอบครัวของผม"
เขาเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้
เจียง หลี่ ไม่สนใจว่า SSRO หรือรัฐบาลกันเเน่ที่ถูก เเต่เขาไม่อยากเข้าไปพัวพันกับเรื่องที่ไม่ใช่กงการของเขา
เขาเป็นเพียงเด็กนักเรียนเท่านั้นไม่อาจตัดสินได้ว่าใครถูกหรือผิด
เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะติดสินเรื่องพวกนี้
เเม้ว่า หวาง เดาหลง จะเสนอหนทางที่ดีให้เเก่เขา เเต่ เจียง หลี่ เชื่อว่า หวาง เดาหลง ก็คงทำแบบนี้กับคนอื่นเช่นเดียวกัน? เจียง หลี่ เชื่อเสมอว่าการเติบโตด้วยตัวเองนั้นน่าเชื่อถือที่สุด
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ข้อร้องให้ ไลท์นิ่ง ตง หรือ ลาร่า ช่วยในการจัดการกับ เจิ้ง เวิ่นปิง
เเม้ว่าพวกเขาทั้ง 2 จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเเต่เจียง หลี่ ก็ไม่อยากรบกวนทั้ง 2 คน
"เธอรู้ความลับของฉันเเล้ว คิดจริงๆหรือว่าฉันจะปล่อยเธอไป!"เสียงของ หวาง เดาหลง กลายเป็นเยือกเย็นอยากรวดเร็ว
"อย่างที่ผมได้กล่าวออกมาก่อนหน้านี้ ถึงเเม้ว่าผมจะมีความสามารถมากพอ ผมก็จะไม่เข้าร่วมกับคุณ ผมไม่ต้องการให้ครอบครัวของผมต้องรับภาระที่ผมก่อไว้!"เจียง หลี่ กล่าว เขารู้ ว่า หวาง เดาหลง กำลังขู่เขา"ถ้าคุณคิดจะจัดการกับผม ถึงเเม้ผมจะอ่อนเเอ ผมก็จะสู้จนตัวตาย!"
"เธอไม่กลัวว่า SSRO จะโจมตีครอบครัวของเธอ?"หวาง เดาหลง กล่าว"เธอรู้ไหมว่าพวกเขามีอำนาจมากเเค่ไหน เพียงเเค่ชั่วค่ำคืนพวกเขาสามารถสังหารคนที่มั่งคั่งทั้งหลายที่ต่อต้านพวกเขาได้ในพริบตา"
"ถ้าพวกเขาทำเช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่ได้อยู่อย่างสงบอีกต่อไป รัฐบาลจะตามล่าพวกเขา"เจียง หลี่ กล่าว เขารู้ว่าตัวเองกำลังจะโดนฆ่าพูดอะไรไปก็ไม่ต่างกัน"ผมเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยคนนึงพวกคุณคงไม่โง่พอที่จะจัดการผมเพื่อทำให้ตนเองวุ่นวายหรอกนะ ถ้าคุณฆ่าผม พวกเขาจะต้องตรวจสอบอย่างเเน่นอนเพราะผมเป็นพลเมืองดาวดีเด่น นอกจากนี้ผมยังได้ตราสัญลักษณ์เหรียญ เฟิง หยุน ผมเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีของโรงเรียน ถ้าคุณคิดจะทำอะไรได้โปรดทบทวนอีกที!"
"เธอฉลาดมาก!"ใบหน้าของ หวาง เดาหลง กำลังมองบางสิ่ง"เธอประเมินองค์กรของเราต่ำเกินไป ไม่นานเธอจะรู้ว่าเธอเลือกข้างผิด เธอไม่จำเป็นต้องเข้ารวมกับเราก็ได้ พวกเรามีคนที่มากมายที่ต้องการอีกเยอะ เรื่องบางเรื่องเธออาจจะไม่เข้าใจในตอนนี้ เเต่เมื่อเธอได้โตขึ้นสักวันเธอจะเข้าใจเอง!"
เขากล่าวจบเเละเลือกเดินจากไป
"คุณจะไปเเล้ว?"คุณไม่กลัวผมจะไปฟ้องรัฐบาลให้ตามล่าพวกคุณหรือ?"เจียง หลี่ กล่าว
หวาง เดาหลง ยิ้มเพียงเล็กน้อยเเต่ไม่ได้ตอบเขาหายตัวไปในส่วนลึกของสวน
เจียง หลี่ ไม่คิดที่จะบอกรัฐบาลอย่างเเน่นอน เพราะถ้าเขาบอกไป เขาจะต้องโดยเซ้าซี้ถามกลับมามาก หวาง เดาหลง เองก็ไม่กลัวที่เขาจะบอกเรื่องนี้กับรัฐบาลด้วย
มีเสียงที่ดังสะท้อนดังออกมาในใจเขาทำให้เขานึกถึงบทกวี"การเสียสละนั้นเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่,ดวงจันทร์เเละพระอาทิตย์จะสลับกันขึ้นเพื่อเปลี่ยนวันใหม่ อย่างเช่น วีรบุรุษที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคน!"
เสียงนี้ฟังดูน่าหลงใหลเป็นอย่างมาก มันทำให้เขารู้ว่าเส้นทางเเห่งการบ่มเพาะพลังนั้นยังอีกยาวไกลเขาจะไม่เสียใจเเม้เเต่นิดเดียวถึงเเม้จะหมายถึงการตาย 9 ครั้งก็ตาม
เจียง หลี่ ครุ่นคิดอย่างหนัก
เขาไม่เข้าใจทำไม หวาง เดาหลง ถึงปล่อยเขาไป สิ่งที่เขากลัวไม่ใช่เพราะเขากลัวว่าตัวเองจะถูกจัดการ เเต่เป็นครอบครัวของเขา ที่เขารู้สึกกังวล
เขาต้องการมีชีวิตที่ เงียบสงบเเละไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความไม่ลงลอยของทั้ง 2 ฝ่าย ยิ่งกับองค์กรร้ายเหล่านี้
"ทำไม หวาง เดาหลง ถึงได้ปล่อยฉันไป? เขาดูไม่สนใจฉันว่าฉันจะทำอะไรเเม้เเต่น้อย"เจียง หลี่ พลันคิดในใจ"หรือว่าเขารู้สึกว่าการจัดการกับฉันไม่คุ้มค่ากับปัญหาที่ตามมาภายหลัง!"
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งไป"ฉันมีหัวใจผลึกเเห่งความฝันที่ยิ่งใหญ่ ฉันมีโอกาสที่จะยืนเหนือมนุษยชาติ ทำไมฉันจะต้องไปขอร้องคนอื่นให้ช่วยเหลือ?"
หลังจากผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไป เจียง หลี่ ก็ขยันฝึกมากขึ้น เขาบ่มเพาะพลังทุกคืนเเละใช้ เงินทั้งหมดเพื่อซื้อเซรุ่มอาหารเสริมทุกอย่าง
เขากำลังบ่มเพาะพลังอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ศึกษาความสามารถที่ยิ่งใหญ่ของ สมองจักรวาล มันทำให้เขาเข้าสู่ฝันของคนอื่นๆได้
เขาพบว่าเมื่อความคิดของเขาสะบัดไปจนหมดเขาจะเข้าสู่ห้วงวิญญาณของคนอื่นเเละสนทนากับความฝันของพวกเขาได้
การสนทนาพวกนั้นเป็นการสนทนาระหว่างจิตวิญญาณ มันไม่มีสิ่งกีดขวางเเม้ว่าจะเป็นไป เพราะ เจียง หลี่ เองก็ยังสื่อสารกับเเมวได้เลย
ความสามารถในการสื่อสารกับจิตวิญญาณของคนอื่นนั้นเป็นเรื่องที่พิเศษมากถ้าเป็นแบบนี้เขาก็สามารถสอนทักษะของมนุษย์ให้พวกสัตว์ได้เรียนรู้จนมีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์
สิ่งเเรกที่เขาจะลองทำก็คือ สอนเจ้าดำให้เรียนรู้วิธีล่าอาหาร เเละการเปิดปัญญา
เนื่องจากเจ้าดำเป็นเเมวที่ฉลาดมากที่สุดมันเป็นเเมวตัวเเรกที่สามารถเข้าสู่สภาวะเพ่งจิตเป็นคริสตัลได้
เขาเชื่อว่าถ้าเขาสอนเจ้าดำด้วยตัวของเขาเอง เจ้าดำจะกลายเป็นคนที่เก่งที่สุดเทียบเท่ากับมนุษย์
เเน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ล้มเลิกที่จะสอน การเพ่งจิตเป็นคริสตัล ให้เเก่ เจ้าไม้,เจ้าเมิ่งใหญ่,เมิ่ง 2 ,เมิ่ง 3,เมิ่ง 4 เเละ เมิ่ง 5
ยังมีเเมวจรจัดอีกมากมายที่เจียง หลี่ ยังไม่ได้สอนพวกเขา ที่เขาเลือกสอนเเมวทั้ง 7 ตัวเหล่านี้ก่อนเป็นเพราะว่าเเมวพวกนั้นเป็นผู้นำทั้ง 7 ของเเมวตัวอื่นๆเเละทีนี้พวกมันก็จะไม่ถูกรังเเกอีก
โดยเฉพาะเจ้าดำมันเหมือนกับราชาผู้ปกครองของเหล่าเเมวที่ถูกทอดทิ้ง เจียง หลี่ ให้อาหารเสริมทุกวันเเก่มันจนร่างกายของมันเเข็งเเกร่งมาก เเม้เเต่คนที่มีพลังชีวิตระดับ 0.8 ก็ยังยากที่จะเอาชนะมัน
อยู่มาวันนึง เจียง หลี่ ก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่า เจ้าดำ ยืนสู้กับสุนัขจรจัดอยู่มันกำลังปกป้องคอกเเมวของมัน
ดูเหมือนว่าอาการของเจ้าดำจะยังไม่ฟื้นฟูจากสภาวะหายใจในครรภ์ได้อย่างเต็มที่
"เจ้าดำเเกมีหน้าที่ปกป้องพวกเขาเหล่านี้ดังนั้นฉันจะสอนบางอย่างให้เเก!"เจียง หลี่ กล่าวมันอีกครั้งในความฝันเขาสอนมันเกี่ยวกับทักษะบ่มเพาะพลัง เจ้าดำนั้นเหมือนกับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่กำลังได้อาจารย์ที่ดีในการช่วยสอน
เเน่นอนว่า เจ้าดำ สามารถซึบซับเเละเรียนรู้มันได้เร็ว มันเเข็งเเกร่งเเละฉลาดขึ้น
การบ่มเพาะพลังของ เจียง หลี่ เองก็พัฒนา ถ้าเขาใช้[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]เขาจะมีพลังสะกดจิตที่เเกร่งกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทักษะต่อสู้ของเขาเองก็พัฒนาไปมาก
ในห้องจำลองรบเสมือนจริงที่โรงเรียนนั้น เจียง หลี่ ได้เผชิญหน้ากับระบบครูฝึกสอนทักษะต่อสู้อีกครั้ง
นักเรียนระดับ top ทั้ง 10 คนนั้นสามารถมาฝึกในที่เเห่งนี้ได้ 30น. ต่อ 1สัปดาห์
ประโยชน์ที่ได้จากระบบจำลองรบเสมือนจริงนั้นทำให้เขาได้รับประโยชน์มากมาย
ชายชรายืนอยู่เบื้องหน้า เจียง หลี่ เช่นเดิม ถึงเเม้ว่า ระดับการบ่มเพาะพลังของ เจียง หลี่ จะเพิ่มมากขึ้นเขาก็ยังรู้สึกกดดันอย่างหนัก มันราวกับว่าชายชราคนนี้คือภูเขาที่สูงชันที่เขาไม่อาจข้ามไปได้
"โจมตี!"
ชู่ว!
เจียง หลี่ โจมตีออกไปอย่างรุนเเรง เขาไม่ได้ใช้[กำปั้นหมัดระเบิด]หรือ[ไร้กระดูก จูจิสสึ],[กรงเล็บมังกรพิฆาต] เเต่เขาใช้เพียง[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ] เพียงเท่านั้น
เเรงอำนาจของฝ่ามือนี้รุนเเรงเป็นอย่างมาก ความเร็วของเขาก้าวขึ้นมาเพิ่มอีกในระดับ 1 ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวพร้อมกับทักษะสะกดจิต
"ไท่ซือ คว้าทะลวง.."
มือของชายชราคนนั้นพุ่งตรงไปที่ เจียง หลี่ มือของเขารวดเร็วราวกับใบมีด เเต่มันเป็นกำปั้นที่พุ่งไปอย่างรุนเเรง
"[หมัดพยัคฆ์โค้งงอ]"
กำปั้นที่รุนเเรงถูกปล่อยออกมามันมีความรวดเร็วจนทำให้ เจียง หลี่ ยากที่จะป้องกัน
เจียง หลี่ มุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณของเขาเพื่อประเมินสถานการณ์ ในขณะนั้นเองก็มีเสียงดังกระหึ่มอย่างรุนเเรงทันทีที่เขาหายเเละพ่นลมออกทางปาก มันเหมือนกับเสียงฟ้าคำรามที่ระเบิดสั่นไหวอย่างเเรง
นี่เป็นอีกท่านึงของ[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ] เสียงฟ้ากระหึ่มนั้นมาพร้อมกับอำนาจระเบิดพลังที่เเข็งเเกร่ง มันคล้ายกับว่าคนที่ใช้นั้นจะกลายเป็นเทพเจ้าสายฟ้าที่กำลังลงโทษกับมนุษย์ผู้ที่ผิดมหันต์ความเร็วของมันนั้นทำให้เกิดระเเรงสะเทือนที่รุนเเรงเเละระเบิดกลางอากาศ
บึ้ม!
การโจมตีทั้ง 2 ได้เข้าปะทะกันอย่างรุนเเรง
เเต่ถึงกระนั้นพลังกำลังของชายชราคนนั้นกลับเหนือกว่าเขา
เจียง หลี่ รู้สึกว่าตัวเขากำลังถูกส่งลอยไป เขารีบขยับร่างเเละสบัดเเขนของเขาเพื่อกระจายพลังโจมตีนั้น
เมื่อเทียบกับการสอบครั้งล่าสุดนั้นเขาประสบความสำเร็จมากทีเดียวในการฝึกซ้อมนี้ความเเข็งเเกร่งของเขาก้าวมาสู่อีกระดับหนึ่งเเล้ว
[ทักษะเทพมาร]
ทักษะต่อสู้ระดับ B[หมัดเงามืด]
ทันใดนั้นผู้เชี่ยวชาญคนนั้นก็ปลดปล่อยทักษะระดับ B ที่รุนเเรงออกมา อย่างไรก็ตาม เจียง หลี่ ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อน เขาพอจะหาวิธีรับมือมันได้เเล้ว ร่างกายของเขากระโดดขึ้นเเละล่อนลงอย่างรวดเร็วมันพุ่งไปที่มือของชายชราคนนั้นทักษะของเขาราวกับบัวโลหิตสีทอง
นี่เป็นอีกหนึ่งความสามารถของ[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]
เเต่ถึงกระนั้น เจียง หลี่ ก็ถูกส่งลอยออกไปอีกครั้ง เขาเป็นแบบนี้มาเเล้วกว่า 10 นาที
ในเวลา 30 นาที นั้นเขาถูกส่งบินไปมากกว่า 3 ครั้ง
เขารู้สึกว่าประสบการณ์ต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นสูงมาก น่าเสียดายที่เขาสามารถฝึกอบรมในสถานที่เเห่งนี้ได้เพียง 30 นาทีต่อสัปดาห์ ถ้าเขาฝึกได้เป็นชั่วโมง เขาจะเเข็งเเกร่งขึ้นเเละใช้[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]ในระดับที่สูงได้
ดิ๊ง ด๋อง
การฝึกของเขาเสร็จสิ้นเขาอยากจะซื้อเซรุ่มโภชนาการทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากบัตรนักเรียนของเขา"คุณมีเงินน้อยกว่า 1,000 เหรียญดวงดาว ธุรกรรมของคุณถูกปฏิเสธ!"
"หืม?"
เจียง หลี่ รู้สึกตกใจเขาไม่คิดเลยว่าเงินของเขาจะหมดเร็วเช่นนี้
เเต่นั่นก็สมเหตุสมผล ตั้งเเต่ที่เขาได้เจอกับ หวาง เดาหลง เขาก็ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งเเละใช้เงินทั้งหมดซื้อเซรุ่มโภชนาการทุกประเภท เขาได้ฝึกฝนให้ลูกเเมวเเละน้อยสาวเขา เขาไม่คิดเลยว่า เงินที่ปล้นมาจากเมือง ซู่ ฮัว เเละ เงินชดเชยจากพวก เจิ้ง เวิ่นปิง จะถูกใช้หมดไปเร็วเช่นนี้
นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาจำเป็นต้องหาเงินจำนวนมาก ถ้าอยากจะเทียบกับ อู่หยาง ฉิง ให้ทำ เเน่นอนว่าหากเขามีเงินหลายล้านเหรียญเขาจะพัฒนาความสามารถไปได้มากขึ้นเเน่
เจียง หลี่ ใช้เงินไปมากกว่า หลายเเสนเหรียญดวงดาว มันเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่เขาสามารถมาถึงขั้นพลังปัจจุบันได้
"ดูเหมือนว่าฉันจะต้องไปที่ เมือง ซู่ ฮัว เพื่อทำเงินอีกครั้ง ความเเข็งเเกร่งทางจิตวิญญาณของฉันได้เพิ่มขึ้นสูงมาก ความสามารถของฉันนั้นไม่ด้อยไปกว่านักสะกดจิตระดับเเรกเริ่มเลย มันสามารถทำให้ฉันหาเงินได้ง่ายในตอนนี้ ถ้าฉันลองไปหาพวกผู้นำเเก๊งเหล่านั้นบ้างจะเป็นไงน๊า....!"
ช่วยกันเเชร์หน่อยน้า ติดตามอ่านต่อที่กลุ่มลับ มี 150+ กลุ่มv.1 31-100 v.2 101-170 ติดตามได้ที่ Emperor Of The Cosmos - นิยายแปล