ตอนที่ 31 การทดสอบปลายภาค
หลังจากที่ เจียง หลี่ ได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวนเงินกว่า 300,000 เหรียญดวงดาว เขากลับรู้สึกว่าจะต้องหาทางใช้เงินนี่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
สิ่งเเรกที่เขาต้องการก็คือการซื้อยาเเก่นเเท้ตะวันจันทรามาเนื่องจากมันมีสรรพคุณที่เลื่องลือมากในหมู่ยาด้วยกันเเต่ 300,000 เหรียญดวงดาวนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาซื้อมันได้ถึง 2 ขวด
"อืม...ฉันตัดสินใจเเล้ว ฉันจะซื้อยาเเก่นเเท้ตะวันจันทรามาหนึ่งขวด เเละ ให้เงินบางส่วนเเก่พ่อเเม่ของฉัน อีกทั้งยังต้องหักออกอีก 30,000 เหรียญ มันก็เพียงพอเเล้วที่จะทำให้ฉันซื้อเซรุ่มโภชนาการบางอย่างเพื่อให้พวกเเมวกินเเละคอยช่วยเหลือน้องสาวของฉัน ฉังนั้นสงสัยว่าน้องชายของฉันจะต้องการเงินหรือไม่? บางทีฉันน่าจะซื้อของบางอย่างเขาให้เขา เอาเป็นว่ารอจบจาการทดสอบปลายภาคก่อนล่ะกัน ฉันจะบอกพ่อกับเเม่หลังจากการสอบปลายภาคนี้เสร็จถึงเรื่องที่ฉันมีพลังชีวิตระดับ 1 ฉันจะทำให้พวกท่านทั้ง 2 ตกใจ"
เจียง หลี่ กลับมาบ้านเเละพบว่าไฟในห้องรับเเขกนั้นเปิดอยู่ เขาได้ยินเสียงบ่นพึมพำเเละดังออกมา เเต่มันก็หยุดอย่างรวดเร็วในขณะที่ เจียง หลี่ เดินเข้าไป
"พ่อ,เเม่ ทำไมพวกท่านถึงโดนสอบสวนโดยบริษัท ?"เจียง หลี่ ทำเหมือนเขาไม่รู้เรื่อง"มีตำรวจมาที่บ้านของเราเเละน้องสาวเองก็กลัวมากด้วย!!!"
"ไม่ต้องกังวลมันเป็นเพียงเเค่เรื่องเข้าใจผิด"เจียง เสิ่นตง รีบอธิบาย"ในความเป็นจริงนั้นถือว่าเราโชคดีมากที่รอดจากเหตุการณ์นั้นมาได้ เราได้ถูกรับเข้าทำงานที่บริษัทใหญ่ของ เซว่ คอร์ป อีกทั้งยังได้รับสินไหมตอบเเทนเป็นเงินกว่า 100,000 เหรียญดวงดาว เหตุการณ์เหล่านั้นได้จบลงไปเเล้ว ถ้า เจียง เต่ากลับมา ลูกก็ไม่ต้องบอกเขาเข้าใจไหม?"
พ่อกับเเม่ของ เจียง หลี่ นั้นไม่รู้ว่าปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการเเก้ไขโดย เจียง หลี่
พวกเขารู้เพียงว่า เจ้าหน้าที่ จากบริษัทระดับสูง มาพาพวกเขาออกไป เเม้เเต่พวกเขาเองก็ไม่รู้ถึงข้อมูลหลักฐานการปล่อยตัวเเม้เเต่น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ
เจียง หลี่ เองก็ไม่ได้บอกพ่อกับเเม่ของเขา เขาไม่อยากให้พวกท่านทั้ง 2 กังวล
"น้องชายนั้นกำลังพยายามอย่างหนักที่จะบ่มเพาะพลังจิตวิญญาณ ผมไม่อยากไปรบกวนอยู่เเล้ว เเละผมเองก็จะไม่บอกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ด้วย!!"
"ดี..เช่นนั้นลูกก็พยายามฝึกฝนอย่างหนักเเละมีพลังให้อยู่ในระดับ 0.8 เร็วๆ มันจะง่ายต่อการหางานเมื่อถึงตอนนั้น"เจียง เสิ่นตง ยังไม่รู้ว่า เจียง หลี่ กำลังปกปิดพลังของเขาเอาไว้
ในเวลา เที่ยงคืน ในที่สุด เจียง เต่า ก็กลับมาที่บ้านอย่างปกติ เขาไม่รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเเม้เเต่น้อย เพราะปัญหาทั้งหมดถูก เจียง หลี่ ควบคุมเอาไว้โดยที่เขาไม่ต้องการให้ข่าวสารรั่วไหล
ทุกอย่างนั้นเงียบสงบมากราวกับไม่เคยเกิดเรื่องขึ้น
ในช่วงเช้าวันที่ 2 ในยอดวิลล่าบนภูเขาของ บริษัท เซว่ คอร์ป
เจียง หลี่ ยกชามเพื่อดื่มเซรุ่มโภชนาการต่างๆ เเละ กลืนกิน ยาเเก่นเเท้ตะวันจันทรา อีก 1 หยด เขาเริ่มสะกดจิต มิส เซว่ เเบร์ ให้เข้าสู่สภาวะห้วงนิทรา อีกครั้ง
หลังจากถูกสะกดจิตไป ใบหน้า ของ เซว่ เเบร์ ก็กลายเป็นเขียวชอุ่มไปด้วยพลังงานชีวิต บาดเเผลของเธอกำลังได้รับการฟื้นฟูจนหายเป็นปกติ
เจียง หลี่ มาที่นี่ทุกวัน เพื่อบริโภคเซรุ่ม วิเศษสีเขียว จำนวนมาก เขาใช้โอกาสนี้เพื่อกลืนกิน หยด เเก่นเเท้ตะวันจันทรา ทุกหยุด ในทุกครั้งที่เขาทำการรักษา
ด้วยวิธีนี้เขาก็สามารถเข้าสู่การเพ่งพินิจเป็นสมองจักรวาลเพื่อฝึกฝน[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]ได้ ทักษะการสะกดจิตของเขาก็ได้รับการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้น เขาเริ่มฝึกฝนมันเเละพยายามจำเอาสาระสำคัญที่จะทำให้เขาสามารถใช้งานมันได้ดีขึ้น
ความเเข็งเเกร่งของเขาค่อยๆพัฒนาจนดีขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเขาสั่นไหวอย่างรุนเเรง ในทุกๆการเคลื่อนไหวของเขา
หลังจากที่เขา ฉีด เซรุ่ม ซูเปอร์โปรตีนเข้าไป หลังจากนั้นเขาก็ทำการตรวจศักยภาพของตัวเอง เเละพบว่าสภาวะการกัดกินของศักยภาพของเขานั้นหายไปเเล้ว เซลล์ทั้งหมดเองก็ได้รับการฟื้นฟู
"เจียง หลี่ ฉันรู้สึกขอบคุณนายมากฉันไม่รู้จะตอบเเทนนายยังไงดี?"เซว่ หลิง กล่าวอย่างมีความสุข เธอรู้สึกขอบคุณเจียง หลี่ ที่ช่วยให้พี่สาวของเธอนอนหลับฝันดี
"ไม่เป็นไร ฉันเองก็ได้รับประโยชน์มากเช่นเดียวกันหลังจากที่ได้ดื่ม เซรุ่มวิเศษสีเขียว เเละ หยดเเก่นเเท้ตะวันจันทราทุกทั้งที่ทำการรักษา!!!"เจียง หลี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา"นี่ถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ได้มาที่นี่อีกเเล้วเพราะ มิส เซว่ เเบร์ ได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นถือว่าสัญญาของเราสิ้นสุดลงเเล้ว"
เซว่ หลิง พยักหน้า"ด้วยทักษะความสามารถการสะกดจิตของนายทำไมนายไม่ไปทำใบอนุญาติสำหรับการเป็นนักสะกดจิตดูล่ะ?ความสามารถของนายนั้นเทียบเท่าได้กับนักสะกดจิตระดับเเรกเริ่ม เเละถ้านายเเข็งเเกร่งขึ้นกว่านี้จนกลายเป็นนักสะกดจิตระดับสูงได้ นายก็สามารถเปิดบริษัทของนายเองได้?"
นักสะกดจิตระดับรองนั้นขึ้นชื่อด้านความมั่งคั่ง ส่วนนักสะกดจิตระดับสูงนั้นจะกลายเป็นผู้ทรงอิทธิที่ยิ่งใหญ่ในสังคม
"การสอบครั้งสุดท้ายของฉันใกล้เข้ามาเเล้ว ฉันจะคิดอีกทีหลังจากที่การสอบนี้เสร็จสิ้น"เจียง หลี่ เองก็ต้องการใบอนุญาติของนักสะกดจิต เเต่สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือการสอบปลายภาค
หลังจากที่เขาได้เข้าโรงเรียนที่หวังได้เเล้วบางสิ่งที่ดีดีก็จะตามมาทีหลังเอง
นอกจากนนี้ทักษะการสะกดจิตของเขาก็ยังอยู่ในช่วงฝึกฝน
เขาจะต้องใช้สมองจักรวาลเข้าช่วยเเละใช้[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]ถ้าเขาเพียงใช้ทักษะการสะกดจิตของเขาเอง เเน่นอนว่าเขาคงไม่มีความสามารถมากพอจะเป็นนักสะกดจิตระดับเเรกเริ่ม
นี่เเสดงให้เห็นว่าการเป็นนักสะกดจิตนั้นมันยากเย็นเเค่ไหน
"หืม?ทำไมเธอถึงไม่ลองเป็นนักสะกดจิตดูล่ะ?"
เซว่ หลิง นั้นอยู่ขั้นที่ 2 ของสภาวะ ห้วงนิทรา เช่นเดียวกับ เจียง หลี่ ในทางทฤษฎีนั้นเธอก็สามารถฝึกฝนจนกลายเป็นนักสะกดจิตฝึกหัดได้
"ฉันเคยลองพยายามเเล้ว เเต่มันเป็นเรื่องยากมาก การเป็นนักสะกดจิตนั้นนั่นก็หมายความว่าจะต้องติดต่อกับคนหลายประเภท ฉันไม่คุ้นเคยกับสภาพเเวดล้อมแบบนั้น?"เซว่ หลิง กล่าว
นักสะกดจิตจะต้องเรียนรู้เเละสร้างจิตวิญญาณเพื่อดึงดูดคนอื่นๆ คนส่วนใหญ่มักจะพบกับปัญหาเหล่านี้ คนที่มีร่างกายที่เเข็งเเกร่งพวกเขาก็จะกลายเป็นนักสู้ที่เเข็งเเกร่ง ก็เหมือนกับทักษะจิตวิญญาณยิ่งมันเเข็งเเกร่งมากเท่าไหร่โอกาสที่จะกลายเป็นนักสะกดจิตนั้นก็มากขึ้น
เช้าวันต่อมานั้นเจียง หลี่ ก็ได้ฝึกฝนการบ่มเพาะพลังของเขาอย่างต่อเนื่อง
เเม้ว่าเขาจะบรรลุสัญญาที่ให้ไว้กับ เซว่ หลิง ไปจนทำให้เขาสูญเสียโอกาสที่จะได้รับเซรุ่มโภชนาการก็ตาม เเต่เขาก็ไม่ได้ขาดเเคลนอาหารเสริมเหล่านั้น เพราะเขามีเงินที่ได้จากพวก เจิ้ง เวิ่นปิง อยู่ 300,000 กว่าเหรียญมันมากกว่าเงินที่เขาช่วยเหลือกรมตำรวจในการจับกุมหมาป่าลวงตาเสียอีก เขาสามารถ ซื้อ เซรุ่มวิเศษสีเขียวได้เป็นจำนวนมาก
หลังจากวันนั้น เจิ้ง เวิ่นปิง ก็ไม่ได้มาก่อกวนเขาอีกเลย
เเต่ เจียง หลี่ ก็ยังคงระมัดระวังตัวเสมอ เขาฝึกฝนอย่างหนักเเละใช้เซรุ่มโภชนาการจำนวนมากเพื่อพัฒนาศักยภาพของเขา
เขาไม่ได้ไปที่ตลาดมืดเพื่อซื้อ ยาเเก่นเเท้ตะวันจันทรา เพราะเขาไม่สามารถนำมันกลับมาที่บ้านได้เเละต้องใช้งานมันที่นั่น ซึ่งมันเป็นการสิ้นเปลืองโดยเเท้จริง หากเขาจะดื่มมันรวดเดียว สิ่งเหล่านี้จะต้องค่อยๆบริโภคเเละการใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดนั้นก็คือช่วงเวลา 10 วัน
ในที่สุดวันสอบก็มาถึง
วันที่ 30 ธันวาคม 2250 นั้นคือ วันสอบปลายภาคที่มาถึง หลังจากที่ครอบครัวของเขารับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ เจียง หลี่ ก็เดินทางมาที่โรงเรียนในทันที
บรรยากาศนั้นคึกคักเป็นอย่างมากเพราะนักเรียนทุกคนต่างก็เตรียมตัวกันมาอย่างดี
นักเรียนของสถาบันเเอสทรัล นั้นเป็นชนชั้นสูงของมนุษยชาติพวกเขาถูกกำหนดให้เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต นักเรียนที่เข้ามาในโรงเรียนนี้ได้ก็จะได้รับชื่อเสียงมากขึ้น บางคนถึงกับบริจาคเงินจำนวนมากเพื่อฉลองความดีใจที่ได้เข้าโรงเรียน
ในภาพรวมของมนุษยชาติมีมหาวิทยาลัยมากมายที่เป็นมหาลัยชั้นนำเเละสามารถเทียบเคียงกับสถาบันเเอสทรัลได้
ถ้า เจียง หลี่ ได้เป็นหนึ่งในชนชั้นสูง เจิ้ง เวิ่นปิง ก็จะไม่กล้าเเตะต้องเขาอีกเพราะทางโรงเรียนจะเป็นคนจัดการเรื่องเหล่านี้เเละคอยเเก้ปัญหาให้เขา
เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนจำนวนมากต่างก็ให้ความสนใจกับการสอบครั้งนี้ เเม้เเต่เจ้าหน้าที่รัฐเองก็ทยอยกันมาด้วยความสนใจ
ในห้องเรียนขนาดใหญ่
"นักเรียน!วันนี้คือวันสอบปลายภาค ฉันเเน่ใจว่าพวกเธอทุกคนรู้กฏเกณฑ์เหล่านี้ดี พวกเธอจะต้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อทำแบบทดสอบ ในช่วงเช้า นั่นก็คือวิชา มนุษยธรรม ส่วนภาคบ่ายจะเป็นภาคปฏิบัติคือการสอบวัดความสามารถ คะเเนนโดยรวมนั้นจะขึ้นอยู่กับพลังชีวิตของพวกเธอ"
ในห้องเรียนภาพโฮโลเเกรมก็ได้ฉายขึ้นมันมีเสียงจากระบบภายในส่งมาให้เราได้ยิน
ในเวลานี้เเม้เเต่เพื่อนสนิทของหลายๆคนก็จะไม่ทักทายเพื่อนอีกคนหรือล้อเลียนพวกเขา ทุกคนต่างก็รู้สึกกระวนกระวายใจเกี่ยวกับการสอบครั้งนี้
เเต่ เจียง หลี่ รู้สึกผ่อนคลายมาก เขานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่มีภาพโฮโลเเกรมฉายอยู่
**กริ่ง**
เขาหยิบชิปนักเรียนออกมาเเละสเเกนเข้าใส่หน้าจอเพื่อลงทะเบียนชื่อของเขา มีคำบรรยายหลายคำขึ้นมาในทันที มันเป็น วิชา ประวัติศาสตร์ ,ฟิสิกส์,ชีววิทยา,จิตวิทยา,กฏหมาย,เเละโหราศาสตร์ มันมีทั้งหมด 13 วิชา
วิชาเหล่านี้เป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้เเต่มันกลับสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
นิ้วของ เจียง หลี่ จิ้มไปที่หน้าจอเพื่อตอบคำถามทั้งหมดอย่างถูกต้องเเละเเม่นยำ ฐานความรู้ของเขานั้นกว้างมากขึ้นตั้งเเต่ฝึกฝน[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]เขาก็มีจิตวิญญาณที่เข้มเเข็งเเละทำให้สามารถจำรายละเอียดหลายอย่างได้ง่ายเพียงเห็นครั้งเเรก ทักษะการหายใจของเขาเองก็ท้าทายความสามารถเหนือสามัญธรรมดา
3 ชั่วโมงต่อมาคำถามทั้งหมดก็ถูกตอบจนครบทุกข้อ
ปิ๊บ ! คอมพิวเตอร์เริ่มประมวลผลคะเเนนให้
คะเเนนเต็ม!
มีคำถามมากกว่า 1,000 ข้อ ที่เป็นแบบทดสอบด้าน มนุษยธรรม เเม้เเต่คำถามที่ซ้ำซ้อนเองก็มีมากมาย เเต่สำหรับ เจียง หลี่ คำถามพวกนั้น ล้วนง่ายดายเกินไป
"ในที่สุดก็สอบเสร็จ ขอบคุณพระเจ้า! ที่มันเป็นเครื่องหมายถูกต้องทั้งหมด"เจียง หลี่ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในขณะนี้เองคะเเนนของเขาก็ถูกส่งไปยังหน้าจอโฮโลเเกรมอีกอันในโรงเรียนโดยมีครูหลายท่านคอยดูอยู่
"อะไรกัน? เพียงเเค่ 3 ชั่วโมงเขาก็สามารถตอบคำถามทุกข้อได้เเล้ว อีกทั้งยังได้คะเเนนเต็ม?"
"คะเเนนทฤษฏีของเขาคือเต็ม?"
โดยปกติเเล้วการสอบจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง เเม้เเต่คนที่มีความสามารถทางจิตระดับสูงบางคนยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมงเพื่อทำการทดสอบเสร็จ
ในบรรดาผู้ที่ได้รับคะเเนนเต็มหลังจากที่เวลาสอบเพิ่งผ่านไปเพียง 3 ชั่วโมง ถือว่าเป็นเคสหายาก การทดสอบนั้นถูกตรวจสอบโดยคอมพิวเตอร์ดังนั้นมันจะไม่มีทางตรวจพลาดเเน่นอน
ผลลัพธ์เหล่านี้จะถูกบันทึกในโปรไฟล์นักเรียน ในปีถัดไปหากนักเรียนจะเข้ากองทัพหรือรับตำเเหน่งในหน่วยงานรัฐบาลเเละบริษัท คนเหล่านี้ มีโอกาสที่จะถูกพิจารณาเป็นพิเศษ
"เป็นไปได้ว่าเขาจะโกงรึไม่?"
ในห้องเฝ้าระวังครู 2-3 ต่างก็มองหน้ากันด้วยความเเปลกใจ
ครูใหญ่ที่นั่งอยู่นั้นในที่สุดเขาก็สั่ง"เล่นเทปอีกครั้งสิ่? มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะโกงคะแนนผ่านระบบโฮโลเเกรม"
"ครับ"ครูคนนั้นเล่นวิดีโอเเละเร่งความเร็วเล็กน้อย เขาสามารถมองเห็นได้ว่า เจียง หลี่ เอามือสัมผัสหน้าจอเพื่อตอบคำถามอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้หยุดพัก นั่นบ่งบอกให้เห็นถึงการที่เขามีความมั่นใจเเละมีฐานความรู้ดีที่
กลโกงหลายอย่างนั้นเเทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำมาใช้กับการทดสอบเหล่านี้ เพราะนี่เป็นการทดสอบที่เป็นทางการระดับสูง
"ดูจากความเร็วในการตอบคำถามของเขาเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโกง?"ครูคนนึงกล่าวยกย่อง"ดูคำถามที่ซับซ้อนเหล่านี้ซิ? เขาสามารถตอบมันได้เเละหาสูตรวิธีที่จะทำมันได้อย่างรวดเร็ว การตอบสนองของเขาเร็วมาก"
"นักเรียนคนนี้ชื่ออะไร?"
ครูใหญ่คนหนึ่งถาม
"เขาคือ เจียง หลี่ เขามีพลังชีวิตอยู่ที่ระดับ 0.7 ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเพียงนักเรียนปกติ ผมเองก็สงสัยว่าเขาทำการทดสอบได้รวดเร็วเเละถูกต้องแบบนี้ได้ไง?"ครูคนนี้เปิดผ่านโปรไฟล์อย่างรวดเร็ว
"เดี๋ยวก่อน?"
ครูใหญ่ตกใจในทันทีที่ได้เห็นดาวฤกษ์หนึ่งดวงบนบัตรของ เจียง หลี่"นักเรียนคนนี้เป็นพลเมืองดาวดีเด่น?"
"ใช่เเน่ครับ,เเต่ว่าเขาได้รับมันมาได้อย่างไร?"
"ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นพลเมืองดาวดีเด่น,มีเพียงไม่กี่ทางเท่านั้นที่จะได้รับมันมาซึ่งทุกอย่างล้วนเเล้วเเต่สร้างคุณงามความดีให้เเก่สังคัม?"
"ครับ คุณเองก็เป็นพลเมืองดาวดีเด่นระดับ 1 ดาว เช่นเดียวกัน เกียรติยศเเละชื่อเสียงนั้นมักจะเกิดจากวีรบุรุษหนุ่มที่มีพรสวรรค์หลายคน เเละผมเองก็คิดว่าเขาก็น่าจะเป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน..."
ครูหลายคนที่เห็นคะแนนปรากฏต่างก็ปรึกษากัน
เจียง หลี่ ไม่เคยสังเกตุมาก่อนว่า ความสามารถของเขาจะทำให้เกิดความวุ่นวายขนาดนี้
"นักเรียนคนนี้เป็นคนที่มีพรสวรรค์ อย่างไรก็ตามวิชามนุษยธรรมนั้นก็ไม่ได้หมายถึงความโดดเด่นอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือการทดสอบภาคปฏิบัติ"ครูใหญ่ยังกล่าวอีกว่า"อย่าเพิ่งติดต่อเขาไป เราจะดูหลังจากที่เขาสอบเสร็จการสอบภาคบ่ายก่อ นเเล้วค่อยลงความเห็นเรื่องความสามารถโดยรวมของเขา"
"ไม่เลวดูเหมือนว่าความพยายามของฉันจะไม่ได้สูญเปล่า"
เจียง หลี่ ยืดเเขนด้วยความขี้เกียจ"บางทีฉันอาจจะหลงรักความสนใจของโรงเรียนที่มีต่อคะแนนของฉันก็ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เมื่อถึงการสอบภาคบ่ายฉันจะทำให้พวกเขาตกใจอีกครั้ง
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจกลุ่มลับเปิดเเล้วนะครับมี 45+ ติดตามเเละต้องการเข้าโดเนทผ่านข้อมูลที่หน้าเพจเเละทักเเชทเพจเลยครับ Emperor Of The Cosmos - นิยายแปล