ตอนที่ 9 ทฤษฏีทั้ง 3

"ทฤษฏีทั้ง 3 ถูกพบโดยนักจิตวิทยาเเละนักจิตวิทยานับไม่ถ้วนนั้นได้ระดมความคิดเเละสร้างหลักการพื้นฐานของการบ่มเพาะพลังของมนุษย์คนเเรกที่กล่าวถึงทฤษฎีนี้ก็คือ ภรรยา ของ หวาง จ้าว หลังจากที่เธอวิจัยทฤษฎีเสร็จมันก็ได้กลายเป็นแบบอย่างเเละความจริงของกฏ เเรงเคลื่อนไหวของ นิวตัน ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษาเเต่ครูจะพูดให้เธอฟัง"

มิส เบลด ชี้ไปถ้วยที่มีน้ำตรงหน้า"ถ้าเธอจะถือถ้วยนี้เธอจะต้องทำสิ่งใดก่อน?"

เจียง หลี่ ลังเลสักครู่ก่อนจะกล่าว"ผมจะยืนขึ้นเเละเดินไปหยิบถ้วย?"

"ผิดเเล้ว"มิส เบลด ส่ายหัวการกระทำที่เรียบง่ายของเธอนั้นเป็นการกระทำตามหลักความจริงประการเเรกเพื่อยกด้วยความคิดจะถูกสั่งการจากสมองเเละทำให้เราปฏิบัติซึ่งมันเป็นความรู้ที่เข้าใจง่ายเช่นถ้าหากเรานั่งอยู่เเละไม่สามารถยกถ้วยนั้นได้จะทำอย่างไร?มันก็จะควบคุมร่างกายให้เรายืนขึ้นเเละยกถ้วยขึ้นมาซึ่งขั้นตอนเหล่านี้คือผลลัพธ์ที่ตามมา เธอพอจะเข้าใจทฤษฎีนี่หรือไม่?"

"ไม่เลย"

เจียง หลี่ส่ายหัว

"เห้อ? มิส เบลด รู้สึกปวดหัว"อาณาจักรกระบวนการคิดของจิตใจที่สั่งการให้เธอยกถ้วยก็คือ [อาณาจักรทางใต้],[อาณาจักรเลื่อนลอย],เเละ[อาณาจักรเเห่งพระเจ้า] ถ้วยก็คือวัตถุทางกายภาพ ที่ต้องสัมผัสกับร่างกายของเธอ ทฤษฏีทั้ง 3 นั้นเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างจิตใจกับร่างกายทางโลกที่เป็นร่างกายภาพ ถ้าเธอไม่ใช้ร่างกายของเธอเธอจะสามารถยกถ้วยนี้ได้หรือไม่?"

"ไม่มีทางเเน่นอน"เจียง หลี่ ตอบอย่างตรงไปตรงมา

"ใช่เเล้ว ถ้าเธอสามารถทำได้นั่นก็หมายความว่าเธอสามารถครอบครองอำนาจพลังจิตวิญญานที่สูงล้ำกว่าคนอื่น"มิส เบลด ถามต่ออีกว่า"ถ้า ถ้วยนี้เป็นสระน้ำ เธอจะยกมันได้หรือไม่?"

"ก็ไม่อีก"

"เเน่นอน ถึงเเม้ว่าจิตใจเเละจิตวิญญานของเธอจะเเข็งเเกร่งเเต่ถ้าหากไร้ร่างกายก็ไม่มีทางที่จะทำสิ่งต่างๆได้สำเร็จ ถึงเเม้ว่าจะมีอำนาจจิตที่เเข็งเเกร่ง เเต่ร่างของเธอนั้นก็อาจจะอ่อน"มิส เบลด กล่าวต่อ"เเน่นอนว่า ถ้าระดับการบ่มเพาะพลังจิตวิญญานของเธอสูง เธออาจสามารถตอบโต้กับวัตถุทางกายภาพได้โดยตรง ที่เรียกว่า [พลังเเห่งจิต]สภาวะนี้เป็นสภาวะที่ถูกบัญญัติไว้ในอารยธรรมโบราณ หรือ พระเจ้า สร้างขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ในความเป็นจริงก็คือ สภาวะนี้มีผลที่จะทำให้พลังจิตวิญญานของเรานั้นมีผลต่อวัตถุกายภาพได้ มันเป็นโครงสร้างของจิตวิญญานเเละจิตใจ ดินเเดนทางใต้,หรือดินเเดนเเห่งพระเจ้า นั้น เชื่อกันว่าเป็นอาณาจักรของพระเจ้า เเต่ความเป็นจริงนั้นมันไม่ใช่ มันก็เเค่หนึ่งในจินตนาการของผู้คน ที่พวกเขาคิดว่า พระเจ้านั้นมีอยู่จริง หวาง หยาง เคยกล่าวไว้ว่า'ที่สุดของหัวใจมนุษย์นั้นยากที่จะเอาอะไรมาฉุดรั้งไว้ได้'ทฤษฎีทั้ง 3 นั้นก็เปรียบกับสวรรค์ของโลก,มนุษย์ก็คือสวรรค์ ซึ่งนั่นก็คือจิตใจเเละจิตวิญญาน จินตนาการ หรือสิ่งต่างๆ เเต่ภายในโลกความเป็นจริงนั้นมนุษย์ก็คือ กายหยาบ"

"นี่เป็นวัฏจักรของการทำงาน!"เมื่อได้ยินเรื่องเหล่านี้ เจียง หลี่ รู้สึกว่าเขาได้เข้าใจการบ่มเพาะพลังมากขึ้น

 

"พลังเเห่งจิต นั้น อยู่เหนือกว่า สภาวะหายใจในครรภ์ ฉันจะบอกกับเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้เล็กน้อย จนถึงตอนนี้ ระดับการบ่มเพาะพลังจิตวิญญาณ ขั้นเเรกก็คือ สภาวะห้วงนิทรา ขั้นที่ 2 ก็คือ สภาวะสมาธิ,เเละสิ่งที่สามารถช่วยให้เข้าสู่สภาวะหายใจในครรภ์ได้ก็คือ เซา หวาง คำว่า เซา หวาง นั้นปรากฏตัวขึ้นครั้งเเรกเเละ ซ่วง ซือ ที่ประเทศใหญ่  ได้เผยเเละกล่าวว่า'จงลืมร่างกายของตัวเองเเละจิตใจจงมุ่งสู่อาการของการหลับนอน เมื่อเจ้าฝันเห็นดวงดาวเมื่อนั้นเจ้าก็จะสามารถระลึกถึง เซา หวาง ได้'หมายความว่าให้ระลึกว่าตัวเองนั้นไม่มีร่างกายเเละจิตใจเมื่อใดที่ทั้ง 2 ได้ผสานกันเเละมองเห็นดวงดาว เมื่อนั้นก็จะได้เข้าถึงสวาวะ เซาหวาง"

[TL หมายเหตุ: (坐忘 / เซา หวาง) - สภาวะของการดูดซึมพลังลึกลับในระหว่างที่คุณสามารถประสานร่างกายเเละจิตใจได้เมื่อนั่นก็จะสามารถบรรลุพลัง เต๋า ได้

"เซา หวาง?" เจียง หลี่ กลอกกลิ้งคำใหม่ในปากเขา

"ในราชวงศ์ถัง ของ จีนโบราณ มีผู้เชี่ยวชาญเต๋า ที่เรียกตนเองว่า ซือหมา จ๋างเสิ่น ที่เป็นผู้เขียนตำราทฤษฏี เซา หวาง เเต่ตอนนี้เธอไม่ควรอ่านมันเพราะจิตวิญญานของเธอยังไม่เเข็งเเกร่งพอ ตอนนี้เธอควรจะตั้งใจฝึกฝนผ่านสภาวะห้วงนิทราดีกว่า"มิส เบลด กล่าวเเนะนำ

"ผมเข้าใจ"เจียง หลี่ ส่ายหน้า"เเล้วทำไม พลังเเห่งจิต นั้น อยู่เหนือกว่า เซา หวาง หรือไม่?"

"หืม?..การบ่มเพาะพลังจิตวิญญานนั้นนอกจากสภาห้วงนิทรา,สภาวะฝึกสมาธิ,เเละสภาวะหายใจในครรภ์ ,เซา หวาง เเละ พลังเเห่งจิต ใครจะอยู่เหนือกว่านั้นใครจะรู้?บางทีมนุษย์อาจจะบรรลุระดับการบ่มเพาะพลังใหม่ๆ ที่สามารถทำให้เราก้าวหน้าได้เรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ในย่านชั้นสูงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบรรลุกำเเพงนี้ได้"มิส เบลด กล่าวต่อ"ถ้าเธอต้องการที่จะยกระดับการบ่มเพาะจิตวิญญานของเธอ ฉันเเนะนำให้ไปเรียน การสะกดจิต เพราะมันสามารถฝึกจิตใจเเละจิตวิญญาน ได้ เเน่นอนว่า เธอเองก็ขาดสารอาหาร เธอสามารถไปที่เเผนกนักเรียนของโรงเรียนเพื่อขอภารกิจที่ทำได้เมื่อถึงตอนนั้นเธออาจจะได้ช่วยงานตำรวจหรือไม่ก็อย่างอื่นลองไปดู"

"ขอบคุณครับ"เจียง หลี่ กล่าวคำนับ เเละออกจากห้องไป

 

 

เขารู้สึกหงุดหงินเพราะสภาพหิวโหยของเขา

เขาไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรกัน เเม้ว่าท้องของเขาจะเต็มอิ่ม เเต่ก็ยังรู้สึกหิวอยู่ดี

มันไม่มีทางอื่นที่จะหยุดเรื่องนี้ได้นอกจากเขาจะต้องหาโภชนาการของอาหารเช่น เซรุ่มโภชนาการ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ใช้มาก่อน

สภาพของเขาตอนนี้เหมือนกับคนที่หิวโหย เเละต้องการอาหาร เเละบางทีก็หิวจนไม่สามารถอาหารกินได้ บางทีหรือไม่ก็หิวมากเกินไป เพราะไม่มีสารอาหารบำรุง สิ่งที่เขากินเข้าไปนั้นมีเเต่ไขมันเเละน้ำตาลซึ่งมันจะเป็นส่วนลดทอนพลังชีวิตของเขา

เจียง หลี่ มีสภาพดีกว่าวันก่อน ในช่วงที่เขาไม่รู้สึกหิวนั้นเขาก็คิดว่าตัวเขาเองมีสุขภาพที่ดีขึ้นเเต่ตรงกันข้าม เป็นเพราะผลเซรุ่มยังไม่หมดไป ถ้าเกิดผลเซรุ่มหมดไปเขาก็จะต้องรู้สึกหิวอีกครั้ง

"เอิ่ม...น้องสาว เธอช่วยหาภารกิจที่มีรายได้สูงให้ฉันหน่อย?"เจียง หลี่ กล่าวคำพูดเขาออกมาเมื่อเขาเห็นสาวน้อยที่มีหน้าตาที่สระสลวยเเละกำลังใช้คอมพิวเอตร์อยู่

"บอกชื่อของนายมา?อีกอย่างฉันอยู่ชั้นเรียนปีที่ 12"หญิง สาว คนนั้นกล่าว กับ เจียง หลี่ อย่างรวดเร็ว"เอาชิพนักเรียนให้ฉัน"

เจียง หลี่ หยิบเอาชิพของเขาเเละใส่ลงไปในคอมพิวเอตร์ก่อนที่สถานะของเขาจะปรากฏขึ้น

"พลังชีวิต 0.7?"หญิงสาวคนนั้นมีสีหน้าเย้ยหยันในทันที"นายสามารถทำงานเป็นพ่อบ้านได้เเต่ก็สามารถเลือกสถานที่ธรรมดาได้เท่านั้น"

เมื่อเห็นหน้าที่เหยียดหยามบนใบหน้า เจียง หลี่ ไม่ได้กล่าวอะไรสักคำ เขาขยับมือของเขาบิดไปมา เเละเคลื่อนที่ไปในอากาศ

ปั้ง

มือของเขาสั่นเหมือนเหล็กเสริมเเขนของเขานั้นรวดเร็วดั่งอสรพิษการโจมตีนี้น่ากลัวเป็นอย่างมากมันสามารถทำความเสียหายได้ล้นหลาม

"อะไรกัน?[ทักษะไร้กระดูก จูจิสสึ],ทักษะต่อสู้ระดับ C เเละนั่น[ดัดกระดูกจู่โจม]

หญิงสาวคนนั้นรู้สึกแปลกใจ"นายมีพลังชีวิตเพียงเเค่ 0.7 จริงๆ?"     >***พระเอกปกปิดพลังอยู่คับ***<

เธอนั้นไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้เกี่ยวกับทักษะพวกนี้ไม่อย่างงั้นเธอคงไม่ได้รับงานที่โรงเรียน

"ฉันไม่ชอบสนทนาอะไรเพิ่มเติม ฉันได้จงใจซ่อนศักยภาพที่เเท้จริง เพื่อหวางเเผนทำให้หลายคนเเปลกใจหลังจากที่ฉันได้สอบเข้าสถาบันเเอสทรัล"เจียง หลี่ รู้ว่าเธอดูถูกเขาดังนั้นเขาจึงโชว์ [ทักษะไร้กระดูก จูจิสสึ]ไป สิ่งนี้เเม้เเต่นักเรียนระดับ top หลายคนก็ยังไม่อาจเรียนได้

"ถ้าเป็นเช่นนั้นฉันจะช่วยนายหางานที่ได้เงินดี?มันเป็นงานช่วยตำรวจในการเเก้ปัญหา"หญิงสาวคนนั้นคลิกเข้าไป"มันได้เงินดี เเต่ก็อันตราย"

"บอกรางวัลที่ได้?เเละ บอกรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจมาให้ฉันฟังหน่อย"ดวงตา ของ เจียง หลี่ เบิกโพลงด้วยความหวัง

"รางวัลที่ได้คือ 5000 เหรียญดวงดาว"หญิงสาวคนนั้นกล่าวต่อ"ภารกิจคือช่วยตำรวจจับอาชญากรตัวเบ้งที่ได้เข้าไปในเมืองเเละก่ออาชญากรรมมากมาย เขาเเข็งเเกร่งเเละสามารถใช้การสะกดจิตได้"

"5000 เหรียญดวงดาว!!!"เจียง หลี่ รู้สึกตกใจเพราะนี่เป็นจำนวนที่เยอะเป็นอย่างมาก

เเต่ทางอาชญากรนั้นมีทักษะการสะกดจิต เเน่นอนว่าเขาย่อมอันตราย เเต่น้องชายของเขาก็เคยช่วยตำรวจจับคนร้ายมาเเล้ว ภารกิจนี้ก็คือช่วยตำรวจจับคนร้ายซึ่งก็หมายความว่ามันไม่ได้ระบุไว้ว่าจะต้องเผชิญหน้าโดยตรงเพื่อจับเอง

"ตกลงฉันรับงานนี้"

"นายเเน่ใจหรอ?"

"เเน่นอน"

"โอเค"

"ฉันจะพิมพ์เอกสารที่เกี่ยวข้องให้"เธอพิมพ์เอกสารที่เกี่ยวข้องกับภารกิจเเละยื่นให้กับ เจียง หลี่

"นายต้องไปพบกับเจ้าหน้าที่ที่มอบหมายงานก่อนเพื่อยืนยันตัวก่อนหลังจากนั้นก็ยื่นเอกสารทางโรงเรียนนี้ให้เเก่เขา เนื่องจากพลังชีวิตของนายบนชิพค่อนข้างต่ำ เมื่อนายไปถึงขอให้เเสดงพลังที่เเท้จริงของนายให้เขาดูมิฉะนั้นพวกเขาจะปฏิเสธไม่ให้นายเข้าร่วมภารกิจ"

"โอเค ฉันรู้เเล้ว"เจียง หลี่ หันเดินออกไป

"น่าสนใจมาก...มันมีคนอย่างนี้ในโรงเรียนด้วยหรอ พลังชีวิตเเค่ 0.7 เเต่สามารถใช้ [ทักษะไร้กระดูก จูจิสสึ] ได้ฉันจะจำชื่อนายไว้ เจียง หลี่ สิ่นะ..?"เมื่อมองไปที่ร่างของ เจียง หลี่ ที่เดินจากไป เธอก็ยิ้มให้เล็กน้อย

สถานีตำรวจนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญของเมือง มันเป็นตึกขนาดใหญ่ที่มีรถโฉบผ่านอยู่ตลอดเวลา ครอบครัวของ เจียง หลี่ นั้นไม่สามารถซื้อรถมาขับได้ เนื่องจากรถนั้นเเพงเกินไปเพราะใช้เเกนพลังงาน มันสามารถเดินทางได้ถึง 30,000 กิโลเมตร โดยไม่มีเเม้เเต่มลพิษ

ครอบครัวปกตินั้นไม่สามารถจัดหารถยนต์ราหาเเพงเช่นนี้ได้อย่างเเน่นอนเเละรัฐบาลเองก็ไม่ได้ผลิตรถเกรดต่ำก็เพื่อต้องการกำจัดมลพิษ

ส่วนมากผู้ที่ครอบครองรถยนต์นั้นจะเป็นพวกชนชั้นสูงเเละครอบครัวที่ร่ำรวย

"ผมมาที่นี่เพื่อรายงานตัว?"เจียง หลี่ เดินเข้าไปในสถานีตำรวจเเละยื่นเอกสารที่หน้าเคาร์เตอร์

ตำรวจคนหนึ่ง อายุประมาณ 30 ปี ได้อ่านเอกสารของเจียง หลี่ เเละ กล่าวเหยียดหยามในทันที"อะไรเนี่ย?พลังชีวิตเเค่ 0.7 เเต่ต้องการจะช่วยเราจับคนร้าย?"

 

 

ขณะที่เขาพูดเสร็จเขาก็ยื่นส่งเอกสารให้ เจียง หลี่ เเละเดินจากไป

"เดี๋ยวก่อนครับ"เจียง หลี่ยื่นเเขนออกไปเเละกำลังจะจับมือของนายตำรวจคนนั้นเพื่อหยุดเขา

"หึ"ตำรวจคนนั้นพยายามจะกลั่นเเกล้งด้วยทักษะต่อสู้โบราณ [ทักษะ บีบจับ] มันสามารถทำลายมือเเละเเขนของผู้กระทำความผิดได้อย่างง่ายได้ เจียง หลี่ ที่เห็นเช่นนั้นเขาถอยออกไปเเละง้างมือ เเทงไป กว่า 5 เซนติเมตรเเละเเทงไปที่เเขนตำรวจ

"อ๊า!!"

ความเจ็บปวดที่รุนเเรงนั้นได้ชาร์ตผ่านไหล่ของตำรวจคนนั้นเเขนของเขานั้นเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

"[ดัดกระดูกจู่โจม]?"[ทิ่มเเทงด้วยกระดูก] เขารู้สึกร้องไห้ "นี่เป็นความสามารถในการปรับตัวของกระดูกไม่ผิดเเน่นอน?"

"จริงๆเหรอ? นักเรียนคนนั้นสามารถเรียนรู้[ทักษะไร้กระดูก จูจิสสึ]? นี่เป็นทักษะต่อสู้ระดับ C"

"เขาสามารถใช้[ทักษะไร้กระดูก จูจิสซึ] ได้ในการต่อสู้จริง?"

"เป็นนักเรียนที่มีความสามารถจริงๆ!!"ตำรวจ 2-3 คนที่รายล้อมพวกเขา ทั้งหมดมีพลังชีวิต 0.8 เเละมีประสบการณ์ในการสู้รบจริง

การที่จะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นอย่างน้อยต้องมีพลังชีวิต 0.8

"ตั้งเเต่ที่เธอเรียนรู้ทักษะต่อสู้ระดับ C ได้ ฉันก็ไร้ข้อกังขา"ตำรวจวัยกลางคนเดินเข้ามาเเละดูข้อมูลของ เจียง หลี่"อืม ดูเหมือนเธอจะจงใจซ่อนความสามารถนิดหน่อย เราจะช่วยให้เธอได้เข้าสู่กองกำลังของตำรวจ เเต่เธอต้องฟังคำเเนะนำของเราเเละอย่าทำตัวเป็นวีรบุรุษ โชว์ เดี่ยว เข้าใจไหม?"

"ครับ"

"ตามฉันมา"

เจียง หลี่ ถูกพาตัวไปยัง ออฟฟิศ เเห่งนึงซึ่งเป็นที่ตั้งของพนักงานที่รับงานทำคดีสำคัญมีตำรวจกว่า 10 คนซึ่งเชี่ยวชาญการต่อสู้เเละเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้

นอกจากนี้ยังมีเด็กชายเเละหญิงสาวอีก 2-3 คน ที่เป็นนักเรียน พวกเธอป็นนักเรียนจากมหาวิทยาลัยที่มีอายุเกิน 20 ปี เเน่นอนว่าไม่ได้มาจากสถาบันเเอสทรัล เเต่เป็นมหาลัยธรรมดาทั่วไป

มนุษยชาตินั้นมีสถาบันที่มีชื่อเสียงอยู่หลายเเห่งเเต่ไม่มีสถานที่ใดสามารถเทียบกับ สถาบันเเอสทรัลได้ เพราะทุกคนที่มาจากสถาบันเเอสทรัลนั้นต่างก็เป็นอัจฉริยะ

นักศึกษามหาวิทยาลัยนั้นต่างก็รู้สึกประหลาดใจที่ เจียง หลี่ เดินเข้ามาในห้องเขาไม่คาดหวังเลยว่าจะได้ร่วมงานกับนักเรียนมัธยมปลาย

"นี่คือ เจียง หลี่ นักเรียนชั้นปีที่ 12 เขาสามารถเรียนรู้ทักษะต่อสู้ระดับ C[ไร้กระดูก จูจิสสึ] ได้เเละสามาถใช้มันในการสู้รบจริงได้"ตำรวจวัยกลางคนกล่าวเเนะนำ เจียง หลี่

"ทักษะต่อสู้ระดับ C [ไร้กระดูก จูจิสสึ]"

ทุกคนหันมามองเขาด้วยท่าทีที่เเตกต่าง

"เราไม่สามารถหาบุคลากรอย่างเธอได้ ยกตัวอย่างเช่น การเรียนรู้ทักษะระดับ C มันเป็นทักษะต่อสู้ที่สามารถป้องกันตัวกับคนที่อยู่ระดับสูงกว่าได้"ตำรวจกล่าวต่อว่า"กรณีนี้มันสำคัญกับเรามากเพราะเราขาดบุคลากรที่มากความสามารถเเละช่วยเหลืองานได้ ดังนั้นการมาถึงของเธอพวกเราขอยินดีต้อนรับเเต่นี่คือโครงสร้างคดีทางที่ดีเธอควรอ่านมันก่อน"

"ครับ"

เจียง หลี่ กล่าวทักทายตำรวจคนอื่นๆ เพราะพวกเขาเป็นมืออาชีพ นี่คือสิ่งที่นักเรียนทุกคนพึงกระทำ

สถานที่เเห่งนี้ต่างก็รับฝึกนักเรียนมาอย่างยาวนาน เเละมีโปรเเกรมฝึกสำหรับนักเรียนที่ต้องการเป็นตำรวจโดยระยะเวลาโปรเเกรมฝึกนั้นคื 1 ปี สำหรับนักเรียน ประถม เเละ มัธยม นโยบายนี้เป็นนโยบายที่รัฐบาลกำหนดเพื่อมุ่งหวังให้นักเรียนมีคุณภาพที่ดีขึ้น