ตอนที่ 16 เรียนรู้การสะกดจิต
วันรุ่งขึ้น เจียง หลี่ก็ได้ไปที่ห้องทำงานของ มิส เบลด
"มิส ผมอยากเรียนรู้การสะกดจิต เเต่โปรเเกรมการฝึกการเรียนการสอนนั้นมีราคาเเพงเกินไป ถึงจะไปที่ไหนเราก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองอยู่ดี?เช่นนั้นคุณจะช่วยสอนผมถึงเทคนิคการสะกดจิตให้ฟรีได้รึไม่?"
มิส เบลด มองมาที่เขาอย่างรวดเร็ว"นี่...เธอคงไม่คิดที่จะกลายเป็นนักสะกดจิตระดับเเรกเริ่ม เพื่อเริ่มหารายได้ใช่มั้ย?"
"ครับ"
เจียง หลี่ ต้องการเรียนรู้การสะกดจิต เเต่หลังจากที่เขาค้นคว้าข้อมูลในออนไลน์เขาก็พบว่าบทเรียนเริ่มต้นมีราคาสอนถึง 3,000 เหรียญดวงดาว ซึ่งมันเเพงมาก เเม้เเต่การดาวโหลดวิดีโอสื่อการสอนก็มีราคาเเพงเช่นเดียวกัน
ในสังคัมยุคปัจจุบันนั้นให้การคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นเหมือนพยานร่วม หากคิดที่จะขโมยผลิตภัณฑ์ทางความคิดนั้นมันเเทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อการสอนทักษะการต่อสู้เเละทักษะทางจิตวิญญาน ซึ่งเเต่ละวิดีโอจะต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน
โดยปกติวิดีโอศิลปะการต่อสู้จะมีราคาถูก เเต่มันเป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้ เเต่การสะกดจิตนั้นต่างกัน เพราะมันมีค่าธรรมเนียมที่สูง เพียงเเค่เรียนออนไลน์นั้นไม่พอจะต้องมีการทดสอบในเชิงปฏิบัติกับครูผู้สอนแบบตัวต่อตัวอีกด้วย
"เเน่นอนว่าเธอสามารถเรียนรู้การสะกดจิตได้เพราะเธออยู่ในขั้นตอนที่ 2 ของสภาวะห้วงนิทรา โดยใช้พลังจิตวิญญาณของเธอ เธอควรจะเป็นนักสะกดจิตฝึกหัดเสียก่อนที่จะกลายเป็นนักสะกดจิตระดับเเรกเริ่ม เเต่ความเป็นไปได้นั้นก็
ยากอยู่ดี การสะกดจิตไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเรียนรู้ พรสวรรค์ของเธอเองก็เป็นสิ่งสำคัญ?"มิส เบลด พูดต่อ"เธอรู้หรือไม่ว่าการสะกดจิตนั้นคืออะไร ไหนเธอลองพูดคร่าวๆมาสิ่?"
"อืม..โดยทั่วไปเเล้วก็คือการทำให้อีกฝ่ายนอนหลับเเละบอกให้เราทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ"เจียง หลี่ ตอบ"การสะกดจิตนั้นสามารถสร้างความเสียหายให้กับสมองได้ เเละมันก็สามารถรักษาบาดเเผลทางจิตได้"
"นี่เป็นความเข้าใจพื้นฐาน"
"นั่งลง"มิส เบลด กล่าวสั่ง
"นี่มันน่าเหลือเชื่อ"ขา ของ เจียง หลี่ สั่นเเละในที่สุดเขาก็นั่ง
"นั่นถือว่าฉันได้ลองสะกดจิตเธอเเล้ว"มิส เบลด กล่าว
เจียง หลี่ รู้สึกว่าตนเองยังมีสติอยู่"ผมเหมือนไม่ได้โดนสะกดจิต?"
"ฉันจะเล่าให้ฟัง เมื่อกี้ ฉันสั่งให้เธอนั่งลง ซึ่งภายใต้จิตสำนึกของเธอได้ปฏิบัติตามคำสั่งของฉันเเต่รู้สึกไม่เหมือนโดนสะกดจิตใช่หรือไม่?ภายใน 3 อาณาจักรจิตวิญญาณนั้น ร่างกายเป็นของหัวใจเเน่นอนว่าฉันไม่สามารถบังคับร่างกายของเธอได้ เเต่สามารถควบคุมหัวใจของเธอเพื่อสั่งการได้"มิส เบลด กล่าวต่อ"เธอจะต้องเข้าใจพื้นฐานการสะกดจิต ดังนั้นฉันจะสอนเธอถึงการสะกดจิตพื้นฐานที่สุดในตอนนี้?"
ขณะที่เธอพูดเธอก็หยิบนาฬิกาของเธอเเละเปิดมันออก ในนาทีต่อมาเธอก็เริ่มส่ายพร้อมกับโยกเยกมัน ห้องของเธอนั้นพลันเงียบลงทันที
"หายใจช้าๆเเละควบคุมลมหายใจตามจังหวะของนาฬิกา ผ่อนคลายร่างกายของเธอเเละจินตนาการว่าเธอคือหินยักษ์ที่อยู่ท่ามเเสงจันทร์ในป่าช้า ลมเริ่มพัดเบาๆ เเละ เธอก็ได้ยิน เสียงลำธารรอบข้าง ไหลรินอย่างช้าๆ ทุกอย่างนั้นเงียบสงบ"
เจียง หลี่ ทำตามคำเเนะนำของ มิส เบลด เเละพยายามนึกภายตามในขณะที่หายใจตามจังหวะของนาฬิกา หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกวิงเวียนราวกับว่ากำลังจะหลับไป
"ไม่!ถ้าฉันเกิดโดนสะกดจิตไปความลับของฉันจะถูกเปิดเผยหรือไม่?"เจียง หลี่ กัดปากของเขาเพื่อให้ตัวเองออกจากสภาวะการถูกสะกดจิต มันเสี่ยงต่อเรื่องที่เขาจะพลั้งปากพูดถึง [หัวใจผลึกเเห่งความฝัน]
"นั่นเธอกำลังต่อต้านการสะกดจิตของฉัน?"มิส เบลด กล่าว เมื่อเห็นว่าเจียง หลี่ ทำเช่นนั้น"ตอนนี้ เธอพอจะเข้าใจเเล้วใช่ไหมว่าการสะกดจิตทำงานอย่างไร"
"ผมพอจะเข้าใจบ้าง..."เจียง หลี่ คิดอยู่ครู่นึง"มันเหมือนกับว่าผมได้สั่งคนอื่นให้เคลื่อนไหวตามความคิดผมเเละคนผู้นั้นต้องทำตามเพื่อให้รู้สึกหลับ มันรู้สึกขัดเเย้งยังไงไม่รู้ อย่างไรก็ตามถ้าผมไม่ทำตามคำเเนะนำเช่นไม่เเทนตัวเองว่าเป็นหินไม่เห็นดวงจันทร์เเละหายใจตามจังหวะของนาฬิกาเเล้วผมจะโดนสะกดจิตหรือไม่?"
"ถ้ามันเป็นการสะกดจิตฝึกหัดเเน่นอนว่ามันจะไม่ทำงาน การสะกดจิตฝึกหัดนั้นคือทำให้คนอื่นทำตามจังหวะชีวิตของพวกเขา"มิส เบลด กล่าวต่อ"เเละมันก็ต่างจากการสะกดจิตของนักสะกดจิตเเรกเริ่มเพราะพวกเขาสามารถช่วงชิงจังหวะของหัวใจได้โดยไม่ต้องให้คนผู้นั้นทำตามเพื่อควบคุมนี่คือความเเตกต่างระหว่างทั้ง 2 หนึ่งจะต้องให้ช่วย อีกหนึ่งไม่จำเป็นต้องให้ช่วย"
"มิส...คุณเป็นนักสะกดจิตใช่หรือไม่?"
"เเน่นอนว่าฉันเป็น นักสะกดจิต มิฉะนั้นฉันจะซื้อพวกเฟอร์นิเจอร์พวกนี้ได้อย่างไร?"มิส เบลด กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่เคลื่องหอมหลายชิ้นเเละของประดับหลายอย่าง"ฉันเรียกเก็บเงินหลาย 1,000 เหรียญดวงดาวในทุกครั้งที่ฉันสะกดจิตคน ทำไมฉันจะต้องพึ่งเงินเดือนของโรงเรียนอย่างเดียว?"
นักสะกดจิตเเรกเริ่มสามารถทำให้คนอื่นเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราได้
จาง เย่ว เองก็ได้จ้างนักสะกดจิตเเละใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างระยะยาวในการให้เขาเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราจนกว่าเขาจะทำได้โดยที่ไม่ต้องได้รับการช่วยเหลือ
ในสังคมสมัยใหม่นั้น นักสะกดจิต ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
เเต่ต้องไม่ใช่นักสะกดจิตฝึกหัด,ต้องเป็นนักสะกดจิตเเรกเริ่มขึ้นไปเท่านั้น
"จังหวะชีวิตนั้นคืออะไร?"
เจียง หลี่ กล่าวถามคำถามสำคัญ
"เป็นคำถามที่ดี!!"มิส เบลด ยกคิ้วของเธอก่อนที่เธอจะเริ่มเล่าว่า"จังหวะของชีวิตนั้นถือเป็นเรื่องที่ลึกลับ จะต้องมีสติมากในการควบคุม จังหวะของชีวิตรวมถึงการหายใจเเละการเต้นของชีพจรหัวใจ เเม้กระทั่งขอบเขตของประสาทในสมองอาจกล่าวได้ว่า นี่เป็นความถี่ของสนามเเม่เหล็กที่ถูกสร้างขึ้นโดยชีวิต ถ้าเป็นนักสะกดจิตฝึกหัดเเต่ยังไม่ได้เข้าสู่สภาวะห้วงนิทราก็ไร้ความหมาย เเต่เธอนั้นเเตกต่าง เพราะเธอสามารถเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ของสภาวะห้วงนิทราได้ ดังนั้นเธอจึงสามารถสงบสติอารมณ์ได้ดี"
เจียง หลี่ เข้าใจว่ามิสเบลด กำลังพูดอะไร
"ถ้าเธอยังไม่เข้าใจจังหวะของชีวิต นี่นับเป็นตัวอย่างง่ายๆ ก่อนการสู้รบนั้นนายพลของกองทัพจะกล่าวสุนทรพจน์โดยใช้ภาษาทางจิตใจเป็นตัวกลางในการสื่อเพื่อทำให้ทหารเกิดความบ้าคลั่งเเละมุ่งมั่นจนกลายเป็นทหารที่เเกร่งกล้าได้ นี่คือประเภทของการสะกดจิต เเต่นี่ถือเป็นการสะกดจิตโดยใช้หัวใจในการรับรู้เเละเข้าใจจังหวะชีวิตของอีกฝ่ายเเต่การใช้ภาษาเเละการเคลื่อนไหวของเเขนเพื่อสร้างความถี่ที่คล้ายคลึงกันนั้นจะทำให้เราสะกดจิตหัวใจของอีกฝ่ายได้เเละบังคับให้ทำตามได้"
"ฉันจะเเสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เธอต้องการ วิดีโอพวกนั้นล้วนไร้ประโยชน์เพราะจังหวะของหัวใจมนุษย์นั้นไม่เท่ากันเหมือนกับลายนิ้วมือดังนั้น นักสะกดจิตทุกคนจะต้องรับรู้ในการควบคุมจังหวะในการสะกดจิตเช่นตอนนี้ฉันจะลองสะกดจิตเธอ"
มิส เบลด พลิกผันนาฬิกาไปอีกด้านในขณะนี้เสียงของมันนั้นดังตามจังหวะของการหายใจของ เจียง หลี่
เจียง หลี่ คิดว่านาฬิกานี่มีเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา
เขาหันหัวไปรอบๆเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการหายใจ
เเต่จังหวะของนาฬิกานั้นก็ชะลอลงเเละเสียงที่ดังจากปากของ มิส เบลด เริ่มกล่อมเขาเรื่อยๆราวกับเด็กทารก หลังจากที่ได้ยินเสียงกล่อมเช่นนั้นเขาพลันรู้สึกง่วงในทันที
"[การเพ่งจิตเป็นคริสตัล]"
ทันทีที่เขาเข้าสู่สภาวะ [เพ่งจิตเป็นคริสตัล] หัวใจของเขาก็เต้นราวกับเป็นผลึกทำให้อิทธิพลภายนอกไม่มีผลต่อเขาอีกต่อไป
"ฮึ่ม?[การเพ่งจิตเป็นคริสตัล]"
มิสเบลดฮึ่มฮัมในใจของเธอก่อนที่จะพูดออกมาว่า"ฮึ่ม"
เจียง หลี่ พลันรู้สึกว่าเเก้วหูของเขาสั่นสะเทือนร่างกายของเขาร้อนขึ้นเเละดึงเขาออกจากความคิดบริสุทธิ์ในทันที เขาราวกับโดนคำเหล่านั้นกระทบสมองทำให้ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้
หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางต้นกำเนิดของเสียง เเละสบตากับมิสเบลดที่มีใบหน้างดงามราวกับดอกไม้ การเคลื่อนไหวของเธอนั้นสวยงามเป็นอย่างมาก
สายตาของเขาเกิดความลุ่มหลงในทันทีการหายใจเเละชีพจรหัวใจเขาสอดคล้องกับจังหวะมือ วิสัยทัศน์ของเขาเริ่มเบลอเเละมีเสียงกระซิบเข้ามาในใจเขาว่า"ถ้าเธอง่วง เธอก็จงหลับอย่าได้ฝืน"
"จริงสิ่..ฉันจะต้องนอนหลับนี่นา"เจียง หลี่ ตอบตัวเอง"ฉันควรจะนอนหลับถ้ารู้สึกเหนือย...ฉันต้องหลับ"เเต่ลึกลงไปภายใต้จิตสำนึกของเขากำลังร้องเรียกว่า อย่านอนหลับ!ห้ามหลับเด็ดขาด!
เเต่มันก็ไร้ผล
เเม้เเต่[การเพ่งจิตเป็นคริสตัล]ก็ไร้ผล
จิตวิญญาณของเขากำลังล่องลอยเข้าสู่ห้วงลึก
ทันใดนั้นความคิดของเขาก็กระพือปีก เเละคว้าจิตสำนึกของเขาเอาไว้มันได้ช่วยให้เขารอดพ้นจากการสะกดจิตเซลล์สมองของเขาเริ่มทำงานอย่างรุนเเรง
เขาเปิดตาขึ้นเเละพบว่าวิสัยทัศน์ของเขาเต็มไปด้วยความเเข็งเเกร่งเเละมุ่งมั่น
หลังจากนั้นเลือดก็พลันไหลออกจากจมูกของเขา เขารู้สึกปวดหัว
"เธอสามารถต่อต้านการสะกดจิตของฉันได้?"มิส เบลด หยุดการสะกดจิตเเละอุทานด้วยความประหลาดใจ"เธอมีเลือดไหลทางจมูกเเสดงว่าเซลล์สมองเธอได้รับความเสียหาย เธอทำอะไรกันเเน่ถึงทำให้เซลล์สมองทำงานหนักแบบนี้?"
"มันไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง"ความสนใจของ เจียง หลี่ ได้ปลุกเขาขึ้นมา"มิส เทคนิคที่คุณใช้สะกดจิตนั้นคืออะไร"
"นี่เป็นเทคนิคการสะกดจิตแบบง่ายๆ ฉันได้ใช้คำพูดเพื่อกล่อมเธอ เพื่อให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเเละทำตามที่ฉันบอกเพราะงั้นฉันถึงใช้[ตราประทับจิตวิญญาณ]กับเธอได้"มิส เบลด ยังคงไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจได้"ฉันได้เข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทราเเล้ว,ปกติการสะกดจิตของฉันเธอไม่ควรที่จะต่อต้านมันได้ เธอทำได้อย่างไรกัน?"
"ทุกคนล้วนมีความลับเล็กๆน้อยๆ เเม้เเต่คุณเองก็เช่นกัน"เจียง หลี่ กล่าวพร้อมกับหงายศรีษะขึ้น
"ก็จริงของเธอ,เธอนี่ทำให้ฉันไม่สามารถคาดเดาได้เลยจริงๆ"มิส เบลด โบกมือ"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอมีความลับอะไรเกี่ยวกับร่างกายของเธอเเต่ได้โปรดอย่าใช้มันอย่างโง่ๆ?"
"มิส ได้โปรดสอนผมถึงการทำ สัญลักษณ์ มือที!"เจียง หลี่ กล่าวออกมาอย่างรีบร้อน เขาจะต้องฝึก[ตราประทับจักรพรรดิ์เเห่งจิตวิญญาณ]ดังนั้นเขาจะต้องเรียนรู้มัน
"สัญลักษณ์มือเธอกล่าวได้น่าสนใจทีเดียว นี่เป็นสัญลักษณ์ของหัวใจ เเน่นอนว่าเธอเคยได้ยินวลีนี้ไหมง'10นิ้วมือเชื่อมสู่ใจ'ในขณะที่หัวใจเธอสั่งการ นิ้วมือของเธอก็จะสื่อสารระหว่างจิตใจของเธอกับโลกทางกายภาพ เหมือนกับทฤษฏีทั้ง 3 เธอจะต้องเข้าใจเเนวคิดนี้เสียก่อน"มิส เบลด กล่าวอย่างจริงจังเพื่อสอน เจียง หลี่"อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์มือเป็นเหมือนทักษะต่อสู้ระดับ B คือการเคลื่อนไหวทุกครั้งจะต้องได้รับการผสานของทั้ง 2 อย่าง ด้วยการบ่มเพาะพลังจิตวิญญาณของเธอ สัญลักษณ์มือนั้นเธออาจจะไม่สามารถเรียนรู้มันได้ดี จนกว่าเธอจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทรา"
"ขอบคุณ,มิส"
เจียง หลี่ พยักหน้ารับอย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงคิดถึง[ตราประทับจักรพรรดิ์จิตวิญญาณ]
หลังจากนั้นมิสเบลดก็อธิบายถึงวิธีการต่างๆในการทำสัญลักษณ์มือทฤษฎีเบื้องต้นเเละการสะกดจิต ในที่สุดเธอก็พูดว่า"จริงๆเเล้ว การสะกดจิตก็คือการใช้หัวใจของตัวเองเพื่อรับรู้จังหวะเต้นของหัวใจคนอื่น เเต่ถ้าใช้แบบผ่านสื่อต่างๆเช่นการเคลื่อนไหวของเเขนกับขา การเคลื่อนไหวของเเขนเเละขาเป็นสัญญาณที่ชัดเจนนั่นเป็นวิธีสะกดจิตคนยกตัวอย่าง นาฬิกาที่เป็นสื่อกลาง"
"เธอต้องเอาใจใส่ลงไปพร้อมกับการทำสิ่งเหล่านี้ การสะกดจิตครั้งเเรกนั้นขึ้นอยู่กับจังหวะของชีวิต เธอจะต้องรับรู้มันให้ได้ ประการที่สองเธอจะต้องปลดปล่อยพลังอำนาจทางจิตเพื่อให้เคลื่อนไหวตาม เสียงหัวใจ เเละเธอจะต้องสร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหล ประการที่ สาม เธอจะต้องเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสะกดจิตหลังจากเรียนรู้หลักการทั้ง 3 นี้ เธอก็จะมีคุณสมบัติพอที่จะกลายเป็นนักสะกดจิตระดับเเรกเริ่ม"
เจียง หลี่พยักหน้าอย่างช้าๆ"อืม ผมจะต้องเข้าใจ หลักการทั้ง 3 ก่อน มีเพียงไม่กี่คนงั้นหรือที่เชี่ยวชาญสิ่งเหล่านี้?"
"เเน่นอน การเข้าสู่ขั้นที่ 3 ของสภาวะห้วงนิทรานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการสะกดจิตนั้นยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่ เเม้ว่าเธอจะอยู่ในขั้นที่ 2 ของสภาวะห้วงนิทรา เเละมีพลังจิตที่สูงขึ้นกว่าเดิม ก็ตาม เเต่พลังทางจิตของเธอก็ยังไม่สามารถกลายเป็นสิ่งอื่นได้นอกจากการ ฝึกผ่านสื่อต่างๆเช่นทักษะการต่อสู้"
คำอธิบายของ มิส เบลด นั้นเรียบง่ายเป็นอย่างมาก
เเม้ว่าคนที่มีความสามารถทางร่างกายมาก เเต่พลังของเขาก็สามารถฝึกได้เพียงทักษะต่อสู้เพียงเท่านั้น หากพวกเขาไม่มีพลังสมาธิ พวกนั้นก็เปรียบเสมือนวัวคลั่งที่ไร้สมอง
ในทำนองเดียวกันหากมีคนที่มีพลังจิตวิญญาณที่เเข็งเเกร่งนั้น
พวกเขาสามารถใช้พลังงานเหล่านั้นสร้างศักยภาพทางร่างกายได้ เช่นการเเสดงอำนาจพลังที่ยิ่งใหญ่ในระดับความยากเพื่อควบคุมคนอื่นหรือใช้มันเพื่อฝึกฝนตัวเอง
"เจียง หลี่ มีจุดสำคัญอย่างนึงที่เธอจะต้องเรียนรู้ นั่นก็คือเธอจะต้องเรียนรู้ที่จะ 'ยิ้ม' "มิสเบลด กล่าวเเนะนำ"การยิ้มคือการขยายอำนาจพลังทางจิตวิญญาณ ที่เป็นพื้นฐานของพื้นฐาน คนที่ยิ้มอย่างจริงใจนั้นสามารถทำให้อารมณ์ของคนอื่นคล้อยตามได้ง่าย มันทำให้พวกเขารู้สึกไว้วางใจเธอ เธอลองนึกสภาพเธอที่มีเย็นชาเหมือนกับ โป๊กเกอร์เฟค ดูสิ พวกเขาก็คงจะลังเลเเละรู้สึไม่ชอบเธอ ดังนั้นโอกาสสำเร็จในการสะกดจิตของเธอนั้นก็จะลดน้อยลงในทันที" [ถ้าเป็นผมจะสอนยิ้มแบบโจ๊กเกอร์อะกระชากใจมากกกก!!]
การปลดปล่อยพลังจิตเพื่อควบคุมอีกฝ่ายสิ่งเเรกที่จะต้องเริ่มก็คือการยิ้มให้
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เจียง หลี่ รู้สึกตกใจ เขาพอจะเข้าใจการปลดปล่อยจิตวิญญาณผ่านสื่อต่างๆ เเต่การยิ้มนี่มัน?
นี่เป็นความคิดพื้นฐานเพียงเท่านั้น
"มิส,ผมมีคำถามสุดท้าย"เจียง หลี่ กล่าวถาม"วิญญาณนั้นมีอยู่จริงหรือไม่?"
"ฉันคิดว่าเธอนั้นถามคำถามผิด?"มิส เบลด ตอบ"จิตวิญญาณนั้นก็คือจิตใจของเธอถ้าเธอไม่มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเองเเล้วเธอจะมีวิญญาณได้อย่างไร?วิญญาณนั้นก็เปรียบเสมือนสิ่งมีชีวิตที่ว่างเปล่า หลังจากที่ตายไป สิ่งที่ทุกคนจะถามก็คือ วิญญาณของเรานั้นจะไปอยู่ที่ไหน,นั่นเเสดงให้เห็นถึงอาณาจักรจิตวิญญาณทางกายภาพที่จำเป็นที่ใช้ร่างกายของเราในการสร้างมัน ถ้าเราสามารถสร้างสะพานนั้นได้วิญญาณของเราก็จะกลับสู่ห้วงจักรวาล?นี่คือคำตอบ!!!"
"ผมเข้าใจเเล้ว"เจียง หลี่ เข้าใจถึงความลึกซึ้งของจิตวิญญาณมากขึ้น
[ตอนกิจกรรมยอดติดตามครบ 750 ] เเถม 1 ตอน [ครบอีก 1,000 รับไปเลยอีก 1 ตอน] กิดติดตามเพจได้ที่ Emperor Of The Cosmos - นิยายแปล