ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 น้องชายอัจฉริยะ

ตอนที่ 1 เพ่งจิตเป็นคริสตัล


สภาวะห้วงนิทราคือหนทางแห่งพระเจ้า ยิ่งเข้าสู่สภาวะห้วงนิทรามากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้อายุขัยมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อทำได้ตัวตนของเจ้าก็จะกลายเป็นสมบูรณ์แบบกลายเป็นจิตวิญญานเเละพลังงานที่ทรงพลัง

พลังฉีจะกลับสู่ ชีพจรหลัก ลมหายใจของเจ้านั้นก็จะไหลตามธรรมชาติ

จงละทิ้งการรับรู้ทุกอย่าง เเละทำใจให้สงบหากทำได้ตัวตนของเจ้าก็จะสมบูรณ์แบบ

เพื่อปรับเปลี่ยนลมหายใจให้เบ่งบานดั่งดอกไม้

เจ้าไม่ควรฝืนตัวเองมากเกินไปเพื่อให้บรรลุระดับที่เเท้จริงเพราะการไหลของพลังฉีนั้นจะต้องปรับสภาพค่อยเป็นค่อยไป

การทำซ้ำ 7 ครั้งนั้นไม่ถือว่ายาก เเละการทำซ้ำ 9 ครั้งนั้นก็ต้องห้ามย่อท้อ

จงเฝ้าอดทนรออย่างสงบอย่างเสือซ่อนมังกรหมอบ บนสนามรบเจ้าจะพบกับพลัง 'หยิน หยาง' ที่เเท้จริง

ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะกล่าวว่าเจ้าไร้ค่า,เเต่เจ้าก็ต้องห้ามย่อท้อเเละหมั่นฝึกฝนให้หนักกว่าเดิม

ถ้าเจ้าสามารอดทนต่อมันได้เจ้าจะได้เรียนรู้การเผชิญหน้ากับความจริง

เมื่อเจ้าขัดเกลาร่างกายมากเท่าใดพลังงานที่เเท้จริงก็จะเผยออกมาให้เห็น

เเละเมื่อถึงเวลานั้นจากมังกรที่หมอบคลานจะทะยานขึ้นสู่ผืนฟ้าเเละกลายเป็นจ้าวเเห่งการปกครองในทันที

คำสอนพวกนี้ถูกสอนโดยใครงั้นหรือ? ขณะที่มองลงมาด้านล่าง

ผู้คุมเต๋า จ๋าง ซานเฟิง

บทกวีนี้เป็นบทกวีเกี่ยวกับการจำศีลของมังกรผู้ยิ่งใหญ่ เเละผู้ที่เเต่งคือ จ๋าง ซานเฟิง ที่เป็นผู้สร้างลัทธิ ไท่ซือ

เนื้องเรื่องก็เกี่ยวกับการฝึกฝนเเละบ่มเพาะพลังโดยการบรรลุระดับ'การผสานธรรมชาติ'ด้วยสภาวะห้วงนิทรา

ปัจจุบันปีนี้เป็นปี 2250 เเละมนุษย์ได้เข้าสู่ยุคเเห่งกาเเล็กติกมาเนิ่นนานเเล้ว ศิลปะการบ่มเพาะพลังโบราณนั้นไม่ได้ลดลงเเต่กลับเจริญรุ่งเรืองขึ้น

"สภาวะห้วงนิทรานั้น!! พวกเธอจะต้องเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราเพื่อเพิ่มพลังชีวิตของพวกเธอ!!!"

เสียงสะท้อนดังขึ้นภายในสนามฝึกที่มีกว้างถึง 3,000 เมตร

เสียงนั้นเป็นเสียงของอาจารย์หญิง

เธอมีดวงตาที่กลมโตเเละเเก้มที่เป็นสีลูกท้อใบหน้าของเธอนั้นสวยสดงดงามเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆคนหนึ่ง เเม้เเต่ความเเข็งเเกร่งของเธอก็หาได้ธรรมดา เธอเหมือนดาบที่คมกริบคนที่พบเจอเธอ เมื่อเห็นสายตาที่จดจ้องของเธอพวกเขาก็ราวกับถูกตัดผ่าเป็น 2 ท่อน

เพื่อนที่ดีที่สุดของ เจียง หลี่ ,กั่ว เมิ่ง ได้กล่าวกับซิบกับเขา

"ดูนั่น...เจียง หลี่ ,มิส เบลด กำลังโกรธอีกเเล้ว?"

"อื้มมม...."เจียง หลี่ ขยับ นิ้วมือเพื่อทำใจให้สงบ การเข้าสู่สภาวะห้วงนิทรานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จากนักเรียนทั้งหมดในโรงเรียน 800,000 กว่าคน มีไม่ถึง 50 คนที่สามารถเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราได้

'มิส เบลด'นี่เป็นชื่อเล่นของครูหญิงคนนี้  เธอเคยเป็นทหารเเละกลายเป็นครูหลังจากที่ปลดระวางตัวเองออกมา

เจียง หลี่ เป็นนักเรียนชั้นปีที่ 12 ที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นเรียนจิตวิญญาน

ชั้นเรียนการฝึกฝนจิตวิญญานนั้นเป็นชั้นเรียนที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนสมัยใหม่เพราะมันต่างจากการฝึกฝนร่างกายโดยตรง

เพราะนี่คือการฝึกทำสมาธิให้มั่นคง การฝึกเช่นนี้จะทำให้จิตใจของตัวเองพัฒนาสจนามารถควบคุมลมหายใจเเละชีพจรของร่างกายให้ดีขึ้นได้

เมื่อการฝึกของจิตใจยกระดับสูงขึ้นก็จะเกิดปรากฏการณ์ 'สภาวะห้วงนิทรา'

การวิจัยล่าสุดพบว่าการเข้าสู่สภาวะนะห้วงนิทราได้ใน 1 ชั่วโมง จะมีผลดีกว่าการนอนหลับธรรมดา 7-8 ชั่วโมง

ถ้าสามารถเข้าสู่สภาวะนี้ได้จะช่วยลดการนอนเเละเพิ่มการศึกษา ได้เพราะเราจะไม่เสียเวลาเปล่า 7-8 ชั่วโมง

ไม่เพียงเท่านั้นผลกระทบของสภาวะห้วงนิทรา 1 ชั่วโมงจะฟื้นพลังได้มากกว่าเเละทำให้ความจำดีขึ้น อีกทั้งมันยังสามารถยืดอายุขัยพวกเขาได้อีกด้วย

"ใครที่คิดว่าการฝึกจิตวิญญานนั้นไม่มีความสำคัญ ฉันจะยกตัวอย่างให้พวกเธอฟัง มีผู้ป่วย 2 รายที่มีสภาวะร้ายเเรง หนึ่งในนั้นทราบดีถึงสภาพร่างกายของเขาเเละเเพทย์ของเขาบอกให้ใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติเเละมีความสุข ผ่านไปไม่นาน เซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเขาก็เเข็งเเกร่งเเละเพิ่มมากขึ้น มันฆ่าเซลล์เชื้อโรคพวกนั้นจนทำให้เขามีสุขภาพที่ดีกว่าเดิม ส่วนอีกคน เขาสูญเสียความหวังเเละจิตวิญญานของตัวเองไปทั้งหมดเขาตายในอีกไม่กี่วันโดยทำได้เพียงเเค่รอความหวังโดยไม่ทำอะไรเลย"มิส เบลด กล่าวออกมาในขณะที่เธอส่งเสียงเเหล่มเเละเอื้อมมือออกไปเเละกล่าวกับทุกคนว่า"นี่เป็นผลจากพลังเเห่งจิตวิญญาณ!"

"จาง เยว่!!!"

มิส เบลด ชี้ไปที่ชายหนุ่มสูง 1.9เมตรที่มีหน้าต่อหล่อเหลาก่อนที่จะกล่าวว่า"เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าสู่สภาวะห้วงนิทราได้ในชั้นเรียนของนักเรียนหลายพันคนดังนั้นเธอลองสาธิตให้พวกเขาดู เด๋วนี้!?"

"ผมไม่คิดว่าผมจำเป็นที่จะต้องเเสดงให้พวกเขาดู!"จาง เยว่ เป็นหัวหน้าชั้นเรียนเขามองไปที่ทุกคนด้วยความหัวเราะเยาะว่า"การฝึกจิตวิญญานนั้นเป็นของขวัญสำหรับอัจฉริยะถ้าพวกเขาสามารถเข้าใจได้ก็ดีไป ถ้าไม่สามารถเข้าใจได้ชีวิตนี้พวกเขาจะมีประโยชน์อะไร?"

"หยิ่งยโสจริงๆ!!!"กั่ว เมิ่ง กล่าวด้วยความโกรธ

"ที่เขาทำได้ก็เพราะใช้ทรัพยากรอย่างล้นหลามในการช่วยเหลือ?"เจียง หลี่ กล่าวอย่างดูถูก"ครอบครัวของเขานั้นมั่งคั่ง เขาเผาผลาญเครื่องหอมราคาเเพงทุกคืนเพื่อที่จะทำให้จิตใจสงบเเละเรียนรู้ถึงความสงบของจิตวิญญานไม่เพียงเท่านั้นครอบครับของเขายังว่าจ้างนักสะกดจิตเพื่อให้เขาเข้าสู้สภาวะนิทราอีกด้วยเพราะแบบนี้เขาถึงได้อวดเบ่งเเบบนี้!!!"

กั่ว เมิ่ง พยักหน้า"ใช่เเล้วหากเขาสามารถเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราได้ด้วยตัวเองละก็ เช่นนั้นถึงจะเป็นอัจฉริยะ เเต่ถึงอย่างนั้นพลังชีวิตของเขาก็เริ่มเเข็งเเกร่งขึ้นเรื่อยๆจนไปถึงระดับ 0.9 เเล้ว"

"ถึงเป็นเช่นนั้นเเล้วอย่างไร?ผลการเรียนของเขาก็เป็นได้เเค่ 100 อันดับเรกเท่านั้น"นักเรียนอีกคนกล่าวต่อด้วยความรังเกียจว่า"เเม้เเต่ 3 คนเเรกในโรงเรียนก็มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะเข้าสู่สถาบันแอสทรัลได้"

"ใช่..ถ้าหากเขาเก่งจริงก็คงสามารถเข้าสถาบันแอสทรัลได้ ฮ่าฮ่า..."

"ชู่ว...เบาหน่อย หาก จาง เยว่ ได้ยินพวกเราจะมีปัญหา พลังชีวิตของเขานั้นอยู่ที่ 0.9 ซึ่งเเข็งเเกร่งมากกว่าพวกเรา 10 คนซะอีก"

นักเรียนหลายคนคุยกันเงียบๆว่า"ถ้าหากครอบครัวของฉันสามารถจ้างนักสะกดจิตได้ ฉันก็คงเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราไปเเล้ว เเละความสามารถทางกายภาพเเละจิตวิญญานของฉันก็จะต้องเพิ่มขึ้นมากเเน่"

"หากนายต้องการจ้างนักสะกดจิตเพื่อทำให้ตัวเองเข้าสู่สภาวะห้วงนิทราละก็ทุกครั้งที่พวกเขาสะกดจิตให้นายพวกเขาก็จะคิดค่าบริการมากกว่า 1,000 เหรียญดวงดาว"

สถาบันแอสทรัล นั้นเป็นสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดของมนุษยชาติมันเป็นความฝันของนักเรียนนับไม่ถ้วน

พลังชีวิตคือคะเเนนของนักเรียน รวมถึงความสามารถทางกายภาพเเละการศึกษา

ที่ความสามารถทางกายภาพได้รับความสำคัญมาก ก็เพราะการศึกษาเมื่อ 200 ปี ก่อน

เเต่การทดสอบพวกนั้นได้รับการยกเลิกไปโดยการศึกษาของยุคกาเเล็กติก

เมื่อ 200 ปี ก่อนมีนักเรียนสถาบันแห่งหนึ่งได้ให้ความสำคัญกับคะเเนนเเละความรู้มากเกินไป ผลที่ตามมาก็คือเขาเสียชีวิตด้วยความอ่อนล้าหลังจากที่วิ่งไปเพียงเเค่ 1 กม. เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน

พลังงานชีวิตของ เจียง หลี่ เท่ากับ 0.7 เป็นคะเเนนเฉลี่ยที่ผ่านเกณฑ์เล็กน้อยเเต่เขาก็สามารถวิ่ง 100 เมตรได้ ภายใน 10 วินาทีได้ซึ่งใกล้เคียงกับเเชมป์โลกของเมื่อ 200 ปีที่เเล้ว

"เอาล่ะ จาง เยว่ เธอนั่งลงเถอะ!!!"มิส เบลด กล่าวออกมาน้อยที่สุดเขาไม่อยากวิจารย์นักเรียนที่โดดเด่นในชั้นเรียนนี้"เธอไม่ควรจะมั่นใจตัวเองมากเกินไปหลังจากที่เข้าสู่สภาวะห้วงนิทราได้ เพราะมันมีทั้งหมด 3 ขั้นตอนที่เธอต้องทำ ซึ่งเธออยู่เพียงขั้นเเรกเเละมีพลังชีวิตเพียงเเค่ 0.9 เท่านั้นยังห่างไกลที่จะทำให้เข้าสู่สถาบันแอสทรัล ได้ เมื่อเรียนรู้ถึง 3 ขั้น จิตวิญญานของเธอจะเข้าสู่นิทราและหยุดนิ่งไปเเต่เจตจำนงจะยังตื่นตัวอยู่เสมอ แม้ร่างกายของเธอจะหลับไหลเเต่เจตจำนงก็ต้องไม่หยุดนิ่งตาม สภาวะนิทรานั้นเป็นการออกกำลังกายที่เป็นศิลปะโบราณจาก ยุคเริ่มเเรก เธอต้องตั้งใจเเละศึกษาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อส่วนนั้น เเละ เธอจะทะยานเเละโบยบินได้อย่างเเท้จริง"

"อาจารย์มั่นใจได้เลยว่า ผมจะไปถึงขั้นพลังชีวิตระดับ 1 ก่อนที่จะถึงปลายภาค นี้ "จาง เยว่ กล่าวด้วยความมั่นใจ "ผมจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นยิ่งกว่านี้เเน่นอน!!!"

นักเรียนที่มีพลังชีวิตระดับ 1 นั้น ถือว่ามีความเเข็งเเกร่งเละความรวดเร็วที่สูงกว่าเสือดาวความเเข็งเเกร่งของพวกเขาสามารถโค่นเสือเเละฉีกระฉากลงได้ บุคคลพวกนั้นถือเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ทั้งหมด

"เอาล่ะเรามาเริ่มเรียนกันต่อ"

มิส เบลด ตบมือสั่งก่อนที่จะนั่งลง

"ก่อนอื่นพวกเธอต้องสงบสติอารมณ์เเละปล่อยจินตนาการให้เหมือนดั่ง 'ผลึกคริสตัล' เมื่อจินตนาการว่าตัวเองเป็นผลึกคริสตัลเเล้วก็ให้เปรียบเสมือนตัวเองนั้นโดนสิ่งสกปรกจำนวนมากเกาะอยู่ เอาล่ะ เริ่มหายใจเข้าลึกเเละออกเมื่อพวกเธอหายใจเสร็จจงจินตนาการว่าอากาศคือน้ำล้างเมื่อพวกเธอหายใจก็จะมีน้ำขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายของเธอที่เป็นผลึกคริสตัล"

'การเพ่งจิตเป็นคริสตัล'

นี่คือหลักการเรียนรู้การฝึกจิตวิญญาน

เพื่อล้างความคิดที่ไม่เกี่ยวข้องออกจึงให้เเทนตัวเองว่าเป็นเสมือนผลึกคริสตัลที่เเข็งเเกร่ง

นี่เป็นเทคนิคพื้นฐานเเต่ทำความเข้าใจได้ยากหากทำได้ก็จะมีประสิทธิภาพสูงที่สุดหากละเลยเเละไม่ตั้งใจก็จะทำให้เกิดอาการ[หลอนประสท] เเละ [กล่อมประสาท] ได้ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะการหลอนทางจิตเหมือนประสาทหลอน

บนหน้าจอในห้องฝึกอบรมนั้นปรากฏภาพผลึกคริสตัล 3มิติ ขึ้น มันดูมีชีวิตชีวาเเละเเทนตัวเองเป็นมนุษย์

ผลึกคริสตัลรูปมนุษย์นี้ได้หายใจเข้าออกเเละชำระร่างกายที่เป็นสิ่งสกปรกออกมันค่อยๆโปร่งใส่จนกลายเป็นผลึกคริสตัลบริสุทธิ์

จิตใจก็เหมือนกระจกใส

นี่คือภาพจำลองเพื่อให้คิดเเละใตร่ตรอง

เจียง หลี่ พยายามคิดเเละหายใจเข้าตาม เเต่เขาก็ไม่สามารถเข้าสู่สถานะนั้นได้ เขาไม่สามารถโฟกัสจุดสำคัญได้เลย

นี่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนส่วนใหญ่

"ฉันจะทำ[เพ่งจิตเป็นคริสตัล]ได้อย่างไร?"เจียง หลี่ เริ่มรู้สึกลำบากมากขึ้น ยิ่งเขาลุกลี้ลุกลนมากเท่าใดก็ยิ่งไม่มีสมาธิจะทำได้

หลังจากที่สอนเสร็จ มิส เบลด ก็ได้มองนักเรียนของเธอทั้ง 2,000คน อย่างดุเดือดเธอเห็นว่ามากกว่าร้อยละเก้าสิบของนักเรียนนั้นกำลังเเกล้งทำเหมือนจะทำเป็น ลมหายใจของพวกเขาสั่นเเละจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในที่สุดเธอก็ตะโกนออกมา"หยุด!!"

นักเรียนทั้งหมดเปิดตาขึ้นในทันที

มิส เบลด กล่าวตำหนิพวกเขาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า"เเรงจูงใจของพวกเธอคืออะไร? มันเป็นการเรียนรู้ที่จะประสบผลสำเร็จ พวกเธอน่าจะเคยอ่านหนังสือ' จิง หยัง 'ที่เรียกกันว่า 'เทียนหลง บาบู 'สองร้อยปีที่ผ่านมานั้นพวกเขาได้สอนเทคนิค กว่า 100 เทคนิคซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเทคนิคเเข็งเเกร่งดั่งกระดองเต่า ถ้าเธอไม่สามารถปล่อยให้ความคิดของเธอหยุดคิดได้ละก็พวกเธอจะชนะหัวใจตัวเองได้อย่างไร?นี่เป็นคำสอนจากหนังสือ 'หวู่ดราง หยูหุ่ย' ซึ่งนักประพันธ์ได้กล่าวว่าการฝึกพลังจิตนั้นจะต้องทำให้ถูกต้อง นี่ถึงจะเป็นพลังภายในที่เเท้จริงมันไม่ใช่ว่าทำมือตามเเละคิดตามโดยไม่ตั้งใจก็จะทำได้หากความคิดของพวกเธอหลุดเพียงนิดเดียวก็จะไม่สามารถเข้าใจมัน เมื่อพวกเธอระลึกได้ว่ามันสมควรจะทำแบบไหนพวกเธอก็จะทำสำเร็จ เเม้เเต่ เชน ที่เคยฝึกฝนมาหลายปีก็ยังไม่สามารถเอาชนะปัญหานี้ได้หมดจด ก็ดั่งเหมือนหัวใจวานร ที่ไม่อาจหยั่งถึงเเม้เเต่ราชันย์วานรเอง ก็ไม่สามารถที่จะควบคุมมันให้อยู่นิ่งได้"

"การฝึกจิตวิญญาขั้นเเรกคือการฝึกสภาวะห้วงนิทราขั้นต่อไปก็คือสภาวะหยุดนิ่งเเละสภาวะหายใจในครรภ์ซึ่งมันยากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า!!!"มิส เบลด กล่าว"ฉันจะไม่สอนสิ่งใดอีกถ้าหากพวกเธอไม่เข้าใจในส่วนนี้...เลิกเรียนได้"

หลังจากที่ได้ยินเสียงสวดจบนักเรียนทุกคนก็ผ่อนคลายในทันที เมื่อมิส เบลด กล่าวเสร็จนักเรียนก็เเยกกันกลับไปเป็นกลุ่ม เจียง หลี่ เองก็พร้อมที่จะกลับบ้านเพื่อกินข้าวเย็น

"เจียง หลี่!!!"

ทันใดนั้นเขาก็ถูกชายร่างสูงเรียกตัว

เขาคือ จาง เยว่

"มีอะไร...?"เจียง หลี่ ก้าวถอยหลังในทันที เขาสูงเเค่ 1.75 เมตร เพียงเท่านั้นเมื่อเผชิญหน้ากับส่วนสูงของ จาง เยว่ เขารู้สึกเหมือนหอบขึ้น เพราะนี่คือการกดขี่จากพลังชีวิต

พลังชีวิตของ จาง เยว่ นั้นอยู่ที่ 0.9 ซึ่งเเข็งเเกร่ง กว่า เจียง หลี่ ถึง 10 คน

เเม้เเต่นักเรียนที่มีพลังชีวิต 0.8 4-5 คน ก็อาจพ่ายเเพ้ให้เเก่ จาง เยว่ ได้

ความเเต่งต่างเพียงเเค่ 0.1 นั้นเหมือนจะน้อยเเต่จริงๆเเล้วก็คือความต่างกันมากในด้านศักยภาพ

"ฉันได้ยินมาว่าเเกไปที่สวนเพื่อเลี้ยงเเมวจรจัดทุกวัน" จาง เยว่ กล่าวด้วยท่าทางรังเกียจก่อนที่เขาจะเอามือไขว้หลังเเละกล่าวเย้ยหยันว่า"ฉันเองก็เห็นลาร่าไปที่นั่น ? ดังนั้นฉันจะขอเตือนเเกว่าให้ละทิ้งความคิดที่จะใกล้ชิดเธอซะ"

"นายต้องการที่จะกล่าวอะไรกับฉันกันเเน่?"เจียง หลี่ กล่าวด้วยความโกรธ

"ง่ายมากเเกคงรู้ดีถึงความเเข็งเเกร่งของฉันเเละสถานะของครอบครัวฉัน!?"จาง เยว่ กล่าวพร้อมกับเชิดหน้า"หากเเกกล้าไม่ฟังฉัน ฉันจะเย็บปากของเเก ลาร่า ไม่ใช่คนที่เเกจะตีสนิทด้วยได้ เเกเป็นเเค่คางคกอย่าริอาจที่จะกินเนื้อหง"

"พี่ชาย,พี่ชาย..."กั่ว เมิ่ง ที่เห็นว่าเจียง หลี่ กำลังลำบากเขารีบกล่าวช่วยในทันที ลาร่า นั้นเป็นหนึ่งใน 4 เทพธิดาของโรงเรียน ปกตินักเรียนธรรมดาไม่คิดว่าจะได้สนิทสนมกับพวกเธอเเม้เเต่น้อย "เจียง หลี่ รีบไปเร็ว น้องชายของนายกำลังจะฉลองการสอบ พวกเขากำลังจัดงานเลี้ยงที่บ้าน"

"เจียง เต่า!!"จาง เยว่ กล่าวอย่างระวังเมื่อได้ยินชื่อนี้ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงกล่าวเตือน เจียง หลี่ ออกไปว่า "ถ้าฉันเห็นเเกให้อาหารเเมวกับ ลาร่า อีก ฉันจะทำให้เเกรู้ว่าผลร้ายเเรงที่ตามมาเป็นอย่างไร"

เขาพูดจบเเละเดินจากไปทันที

"พวกเรารีบกลับกันเถอะ!!!"กั่ว เมิ่ง กล่าวอย่างร้อนรนด้วยหยาดเหงื่อ"พวกเราไม่สามารถเอาชนะ จาง เยว่ ได้ ถึงเเม้ว่าพวกเราจะร่วมมือกันสู้เขาก็ตาม!!!"

"ไปเถอะถึงอย่างไรเขาก็ไม่น่าทำอะไรพวกเราในขณะที่พวกเรายังอยู่ภายในโรงเรียน?"เจียง หลี่ รู้สึกโกรธมากความสามารถของเขากับ จาง เยว่ นั้นเเตกต่างกันมากเกินไป เเต่ก็ใช่ว่าเขาจะยอมเเพ้

"นายจะต้องระวัง จาง เยว่ ให้ดี ความเเข็งเเกร่งของครอบครัวเขานั้นยิ่งใหญ่เกินไปถ้าเขาเพ่งเล็งมาที่นาย นายจะมีปัญหาตามมาทีหลัง"กั่ว เมิ่ง กล่าวด้วยความกังวล"ฉันคิดว่านายควรจะเลิกยุ่งกับ ลาร่า ได้เเล้วเพราะเธอรู้จักกันดีในนามของอัจฉริยะที่มีพลังชีวิตระดับ 1 ครอบครัวของเธอนั้นร่ำรวยมากอีกทั้งถ้านายยังยุ่งกับเธอนายจะมีปัญหาตามมาภายหลัง"

"ฉันรู้ตัวเองดีว่าฉันกำลังทำอะไร"เจียง หลี่ กล่าวด้วยความโกรธ เขาต้องการความเเข็งเเกร่งมากกว่านี้

 

 

FanPage:Emperor Of The Cosmos - นิยายแปล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด