ตอนที่แล้วChapter 114: ผมไม่รู้จักแม้กระทั่งคุณ โอเคไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 116: ขโมยอาวุธด้วยมือเปล่า

Chapter 115: เสียหน้า


Chapter 115: เสียหน้า

“ไม่ใช่ว่านายเป็นคนจิตใจกว้างขวางงั้นเหรอ! หรือว่านายหวาดกลัวฉันวิ่งหนีไปกัน?”หญิงสาวหัวเราะ หลังจากที่เธอมองไปที่ค่าสถานะของธนู

ธนูที่หวังหยู่โยนให้นั้น ความเป็นจริงมันคือเขี้ยวมังกรไฟที่เขาพึ่งเก็บมา มันเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ระดับอัคนีที่มีอยู่ในเกมตอนนี้ ในช่วงเวลานี้ มันก็เหมือนกับไอเทมระดับพระเจ้า

ในเกม อุปกรณ์นั้นมีค่ายิ่งกว่าชีวิตของผู้เล่นซะอีก สำหรับหวังหยู่แล้วการที่ให้เธอยืมอาวุธที่มีค่าแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าเขาจะมั่นใจในการเอามันกลับมาก็ตามที หรือไม่เขาก็เป็นไอ้โง่

“เธอสามารถลองมันได้!”หวังหยู่หัวเราะ อย่างไรก็ตามร่องรอยความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ตั้งแต่ที่หวังหยู่เป็นมือใหม่กับเกมมาก เขาก็ไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน….

“ดูความกลัวที่นายมีสิ!”หญิงสาวล้อเลยนและหลังจากนั้นก็วิ่งเข้าหาคนที่ไล่ตามเธอ

“โอ้? เธอยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ? เธอพยายามที่จะต่อสู้กับพวกเราเพียงตัวคนเดียว”เมื่อเห็นเธอวิ่งมาทางเขาก็ทำให้มาสเตอร์สว่างวาบนั้นมึนงงอยู่ชั่วขระก่อนที่เขาจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

ผู้เล่นที่มองอยู่ด้านหน้าประตูก็เริ่มต้นที่จะกังวลเกี่ยวกับหญิงสาว เมื่อพวกเขาเห็นเธอวิ่งเข้าหา

“ถ้าเธอต้องการที่จะตายนั้นก็ควรที่จะวิ่งเข้าใส่ฝูงมอนสเตอร์แทนที่สัตว์ป่าแบบพวกเขา!”

มาสเตอร์สว่างวาบนั้นมีชื่อเสียงในด้านลบมากในเมืองวาติกัน เมื่อเขานั้นเป็นหนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งของกิลด์ระดับสูง รากแห่งจักรพรรดิ

ผู้ก่อตั้งทั้งสี่นั้นมีข่าวลือว่าเป็นมาสเตอร์หนุ่มที่ร่ำรวยในโลกความเป็นจริงและมีชื่อเล่นว่า “สี่ลูกบอลศักดิ์สิทธิ์”สี่ลูกบอลศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นคนเล่นเกมที่จ่ายเงินอย่างมากและมีกองทัพที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นเกมพรรคพวกที่ซึ่งสวมใส่อุปกรณ์ชั้นยอด มันไม่มีแม้แต่กิลด์เพียงกิลด์เดียวในเมืองวาติกันที่กล้ายั่วยุพวกเขา แม้กระทั่งกิลด์ระดับห้าในประเทศ หัวหน้ากิลด์เฮล์มคริมสัน พาวิลเลียนไร้ขีดจำกัดก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุพวกเขา

แต่ในตอนนี้ นักธนูแค่คนหนึ่งกล้าที่จะยั่วยุพวกเขา!

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนี้ทำให้คนที่เฝ้ามองดูอยู่เงียบงันไป

นักธนูนั้นเป็นอาชีพที่โฟกัสไปที่ความคล่องแคล่ว ดังนั้นความเร็วของพวกเขานั้นรวดเร็วยิ่งกว่าอาชีพอื่น อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่หญิงสาวคนนี้จะรวดเร็ว นักธนูที่อ่อนแออย่างเธอนั้นก็สามารถจะต่อสู้กับผู้เล่นที่มีอุปกรณ์ที่ดีในระยะห่างสามเมตร....นี่มันมากเกินไปแล้ว!

“เหอะ! เจ็ดก้าวดวงดาว หึ…”หวังหยู่หัวเราะ เมื่อมองไปที่ศิลปะการต่อสู้ของเธอก็ทำให้รู้อย่างชัดเจนว่าเธอคือใคร ไม่สงสัยเลยที่หวังหยู่นั้นพบว่าเธอนั้นช่างน่าคุ้นเคย! เธอคือหยางนัว!

เจ็ดก้าวดวงดาวนั้นเป็นเทคนิคเคลื่อนที่ที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับตระกูลหยาง มันโฟกัสไปที่พัน ล็อค หลบ และพุ่ง แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับหวังหยู่นั้นก็เป็นเรื่องยากนิดหน่อยที่จะทำลายมันกับคู่ต่อสู้ที่ใช้มัน

แน่นอนว่าสำหรับหวังหยู่ ระดับเจ็ดก้าวแห่งดวงดาวของหยางนัวนั้นมันก็เป็นเรื่องยากอย่างแท้จริงที่หวังหยู่จะจับกุมได้ มันไม่ใช่ว่าความสามารถของหวังหยู่นั้นไม่เพียงพอ แต่ว่าปรมาจารย์รุ่นที่สิบสองของตระกูลหยางนั้นพูดไว้ว่ามันจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่งในรอบร้อยปี แต่ในตอนนี้ ถ้าเขายังคงมีชีวิตอยู่ละก็เขาคงมีอายุมากกว่าสามร้อยปีแล้ว

ถึงแม้ว่าเจ็ดก้าวแห่งดวงดาวของหยางนัวนั้นจะไม่เชี่ยวชาญมันอย่างสมบูรณ์ มันก็เพียงพอแล้วในการจัดการกับผู้เล่นธรรมดาเหล่านี้

เพียงแค่แลกเปลี่ยนการโจมตีไม่กี่ครั้ง หยางนัวก็จัดการฆ่าคนของมาสเตอร์สว่างวาบไปสามคนแล้ว

“เหี้...! เธอแม่งเยี่ยมไปเลย!’มาสเตอร์สว่างวาบนั้นก็โบกกระบองของเขาแล้วก็ร่ายแสงสีขาวล้อมรอบคนของเขาและรักษาพลังชีวิตที่หายไปในขณะที่เพิ่มความเร็วของพวกเขาไปด้วย

นี่คิอสกิลระดับสิบห้าของเทมพลาร์ [รัศมีอวยพร] ที่ซึ่งใช้ได้ในช่วงสั้นๆ มันจะเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดของผู้ใช้และทีมของเขา ตั้งแต่ที่ลูกน้องของเขานั้นใช้อุปกรณ์ชั้นยอด พวกเขานั้นก็ได้รับบัฟที่มากขึ้นจากค่าสถานะของพวกเขาและมันก็เพิ่มเป็นเวลาสองนาที!

ภายใต้ผลกระทบของ [รัศมีอวยพร] มาสเตอร์สว่างวาบและคนของเขาก็รีบพุ่งไปด้านหน้าและจัดแบ่งพวกเขาเป็นสองแถว

ตั้งแต่ที่เกมถูกปล่อยออกมาสักพักหนึ่ง ผู้เล่นก็ได้พัฒนากลยุทธ์ในการสู้กับผู้เล่นขึ้น ผู้คนแบบมาสเตอร์สว่างวาบนั้นก็มีประสบการณ์อย่างมากกับมัน

นักรบสี่คนที่อยู่แถวหน้าแล้ว สองคนนั้นก็ถือโล่ใหญ่ในขณะที่อีกสองคนนั้นหลบด้านหลังของพวกเขาพร้อมกับดาบที่ถอดออกจากฝักแล้ว

สกิลเคลื่อนที่ของมือปืนระดับ15นั้นมีระยะเพียงแค่ครึ่งเมตร อย่างไรก็ตาม นักรบทั้งสองคนก็ยังคงมี [พุ่งเข้าชน]

ตราบเท่าที่นักรบด้านหน้าใช้ [พุ่งเข้าชน] และ [ฟาดโล่] เพื่อทำให้เธอมึนงง อีกสองคนก็จะฆ่าเธอได้ในทันที

พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก หยางนัวก็ใช้ [ลมกระโชกอันรุนแรง] และเทเลพอร์ตกลับไปครึ่งเมตร

เมื่อเห็นการกระทำของหยางนัว นักรบทั้งสี่คนก็สับสนอย่างช่วยไม่ได้ [พุ่งเข้าชน] ของพวกเขานั้นมีระยะสามเมตร ดังนั้นมึงจึงมีความหมายอะไรสำหรับเธอที่ถอยหนีออกไปครึ่งเมตร?

“เคร้ง…”เสียงเบาๆก็ดังขึ้น

ก่อนที่ทั้งสี่คนจะมีเวลาได้ฟื้นสติ นักรบสองคนที่อยู่ด้านหน้าก็หยุดเคลื่อนไหว และทำให้สองคนด้านหลังนั้นฟันไปที่พวกเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ตั้งแต่ที่พวกเขานั้นอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันทั้งหมด ผู้เล่นก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายกันเองได้ แต่ผลกระทบของการปะทะนั้นก็ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบ เกราะหนักทั้งสี่ของนักรบนั้นก็ล่วงหล่นลงมาและมันก็ปะทะกันจนกลายเป็นกอง

สกิลนักล่า ระดับ 10 [หลุมพราง]!

เมื่อเห็นแบบนี้มาสเตอร์สว่างวาบก็อ้าปากค้าง “ไอ้เหี้... ไม่ใช่ว่าเธอเป็นมือปืนงั้นเหรอ? ทำไมเธอถึงสามารถใช้ [หลุมพราง] ได้ด้วยเช่นกัน?” อย่างไรก็ตามเพียงเวลาไม่นานเขาก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “เธอคิดว่านี่มันจะจบแล้วงั้นเหรอ? โง่เขลาเสียจริงๆ!”

ในขณะที่หวังหยู่นั้นกำลังมองไปที่หยางนัว เขาก็สังเกตเห็นว่าผู้เล่นสองคนด้านหลังมาสเตอร์สว่างวาบนั้นจางหายไป

ในตอนที่หยางนัวนั้นกำลังพัวพันกับนักรบทั้งสี่คน นักฆ่าสองคนก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเธอ

“ระวัง!”หวังหยู่ตะโกนเรียนและเขาก็ใช้ [การเคลื่อนย้ายแห่งพระอาทิตย์ตกดิน] เพื่อเทเลพอร์ตไปใกล้กับหยางนัวและหลังจากนั้นก็ใช้ [ฝ่ามือพลังวอยด์] ดึงเธอมาให้ปลอดภัย

เมื่อเห็นนักฆ่าล้มเหลวในการลอบโจมตี มาสเตอร์สว่างวาบตะโกนอย่างโกรธแค้น “พี่ชาย นี่ไม่เกี่ยวข้องกับนาย!’

“มันไม่ใช่จนกระทั่งตอนนี้ แต่ในตอนนี้มันเกี่ยวข้องแล้ว!”หวังหยู่ตะโกนแล้วเขาก็โยนหยางนัวไป

ไม่สำคัญหรอกว่าหวังหยู่นั้นเกลียดหยางนัวมากแค่ไหน เธอก็ยังเป็นใครบางคนที่เขารู้จักในชีวิตจริง ดังนั้นเขาไม่สามารถทิ้งเธอไว้แบบนั้นได้

“นายจะไม่ยอมไว้หน้าให้กับนายน้อยในเมืองวาติกันเลยงั้นเหรอ?”มาสเตอร์สว่างวาบขู่คำรามขึ้น

ถึงแม้ว่ามาสเตอร์สว่างวาบนั้นจะไม่ได้มีความสามารถ เขาก็มีความรู้มากมายในเกม เมื่อเห็นหวังหยู่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันแบบนั้นพร้อมกับสกิลที่ไม่รู้จัก ทำให้เขารู้ว่าหวังหยู่นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด

เด็กที่ร่ำรวยแบบเขานั้นก็ไม่ใช่คนโง่ด้วยเช่นกัน ถ้ามันไม่ใช่ความจริงที่ว่าเขานั้นจะต้องได้ของเควสไปละก็ เขาก็คงไม่พยายามที่จะพูดอย่างมีเหตุผลกับหวังหยู่ ด้วยบุคลิกส่วนตัวของเขานั้น เขาก็จะสั่งให้คนของเขาฆ่าหวังหยู่ในสถานการณ์ปกติไปแล้ว

“การไว้หน้านั้นให้นายไม่ได้หรอก นายจะต้องหามันด้วยตัวเอง!”หวังหยู่หัวเราะออกมาเบาๆ

“ฮึ่ม! ถ้างั้นก็ชายคนนั้นด้วยเช่นกัน!”มาสเตอร์สว่างวาบพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา

ถ้าคนพวกนี้ไม่สามารถจัดการกับหยางนัวในระยะใกล้ได้ละก็ ถ้างั้นการต่อสู้กับหวังหยู่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากการพร่ำเพ้อของคนบ้าหรอก

หวังหยู่ใช้ [หมัดกระแทก] เพื่อพุ่งเข้าหามาสเตอร์สว่างวาบ เมื่อมาสเตอร์สว่างวาบยกกระบองของเขาขึ้นปะทะกับหวังหยู่ หวังหยู่ก็จับไปที่ข้อมือของเขาและบิดมันซึ่งทำให้เขาทิ้งอาวุธลงกับพื้น แล้วก็ทำให้กระบองเข้าไปในช่องเก็บของของเขา หวังหยู่นั้นยืดมือขวาออกมาและซัดเข้าใส่กรามของมาสเตอร์สว่างวาบและส่งเขากระเด็นปลิวออกไป

ไอ้บัดซบนี่มันถึกทนจริงๆ มันมีคนไม่มากหรอกที่สามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของเขาได้

โดยปราศจากการให้มาสเตอร์สว่างวาบลงกับพื้น หวังหยู่ก็ยืดฝ่ามือของเขาออกและใช้ [ฝ่ามือพายุ] และเปลี่ยนมาสเตอร์สว่างวาบกลายเป็นแสงสีขาวไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด