ตอนที่110
“นี่ไม่ต้องให้มันเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้มั้งฉันไม่ได้ติดใจอะไรกับไอ้จระเข้น้อยตัวนั้นแล้วแหละ”
เอาตรงๆถ้าเกิดฉันไม่เข้าไปใกล้มันขนาดนั้นมันอาจจะไม่กระโดดเข้ามางาบฉันก็ได้นะ แถมมันก็ยังไม่ได้โดนตัวอะไรของฉันด้วยเช่นกัน ฉันไม่อยากให้เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นเลยอะ
“อย่าไปคิดแบบนั้นเลยให้เขาได้ปรับปรุงดีกว่าให้เขาปล่อยไว้แบบนั้น เธอเชื่อฉันเถอะว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ใหญ่หรือร้ายแรงขนาดนั้นแน่นอน เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเธอทำถูกแล้วคิดแบบนี้ไว้สิ แถมเธอไม่ได้ไปทำให้ใครต้องเสียหายหรือว่าทำให้ใครต้องเจ็บด้วยนะ เขาต่างหากที่เกือบจะทำให้เธอโดนจระเข้ลากไปกินในน้ำน่ะ”
บางทีสิ่งที่พี่เบสพูดมันก็มีถูกอยู่หลายอย่าง ไม่ใช่ถูกอยู่หลายอย่างสิมันต้องบอกว่าถูกแทบทุกอย่างเลยจะดีกว่า ถ้าเกิดพี่เบสไม่ทำแบบนี้คนอื่นอาจจะโดนแทนฉันก็ได้ก็ถูกแล้วที่พี่เบสจะหัวร้อนหรือจะโกรธขนาดนี้
“นี่ไงฉันว่าพวกเราถึงกันแล้วนะหาที่จอดก่อนแป๊บหนึ่ง”
ถึงแล้วหรอฉันมองออกไปข้างนอกแล้วพบว่าบริษัทที่นี่ใหญ่มากเลย ถือว่าค่อนข้างใหญ่เทียบเท่ากับโรงแรมที่ฉันบริหารเลยล่ะ
“เราลงกันเถอะไปหาเขากันเราจะได้บอกเขาสักทีเขาต้องการแค่จะรู้เรื่องปัญหาของสวนสัตว์เฉยๆนั่นแหละนะ”
อ๋อถ้าเป็นแบบนั้นก็คงไม่มีอะไรเยอะหรอกล่ะมั้งนะ ฉันลงรถพร้อมกับพี่เบสก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้ามาหาเรา
“เชิญตามฉันมาเลยนะคะ” ผู้หญิงคนเดิมที่ยื่นเอกสารให้กับพวกเราก็พาพวกเราเดินเข้าไปในบริษัทของเธอ จากนั้นก็พาเราขึ้นไปจะชั้นบนสุดของตึกจากนั้นก็พาเราเข้าไปยังห้องๆหนึ่ง
“เชิญนั่นเก้าอี้ที่ว่างตรงไหนก็ได้ค่ะเชิญนั่งรอก่อนเลยนะคะ”
พวกเราเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ซึ่งโต๊ะก็เป็นโต๊ะแบบยาวที่เอาไว้ประชุมกัน
“เราต้องนั่งรอพวกเขาที่นี่ใช่ไหมเบส”
ฉันถามพี่เบสไปด้วยความสงสัยของฉันในหัวของฉันก็มีแต่ความสงสัยในหัวอยู่แล้ว แต่ที่นี่ก็สบายดีเป็นห้องแอร์ไม่ได้ออกไปนั่งที่ร้อนๆก็ถือว่าดีเหมือนกัน เวลาผ่านไปสักพักก็มีคนเปิดประตูเข้ามาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนพนักงานออฟฟิศ แต่เธอถือถาดแก้วน้ำมาด้วยพร้อมแก้วที่วางไว้บนถาดสองแก้ว ในแก้วก็มีน้ำเปล่าใสสะอาดอยู่ในนั้น จากนั้นเธอเดินมาทางเราพร้อมกับยิ้มให้แล้ววางแก้วน้ำพร้อมที่ลองแก้วไว้ให้กับเราทั้งสองคน
“นี่น้ำค่ะรอสักครูนะคะท่านทั้งหลายกำลังมา”
หืมท่านทั้งหลายหรอ..เอ๋