ตอนที่ 67 เรื่องน่ายินดี (FREE)
“ฟาง เจิ้งจือ!” เมิ้ง อวี้ชู กำหมัดแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ? เหอะ! ข้าจะคอยดู เจ้าจะไปไดไกลสักเท่าไหร่!”
เมิ่ง อวี้ชู ที่ฉุนเฉียว อยู่หันหลางจากไป
“หา? นายน้อย เมิ่ง ทำไมถึงจากไปอย่างนี้ละ? เฮ้…นายน้อย เมิ่ง ระวัง!” ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ มองยัง เมิ่ง อวี้ชู ความกังวลปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา
เมิ่ง อวี้ชู ไม่แม้แต่จะหันมามอง และรีบเดินจากไป ระวัง?! เหอะ! เจ้าต่างหากที่ควรระวังตัวเอาไว้!
ในขณะที่ เมิ่ง อวี้ชู กำลังคิด เขาพลันลื่นไภลในทันที
“ไอ้หยา!”
ร้องออกมาด้วยความกลัว ร่างของเขาเอียงไปข้างหน้า ก่อนที่จะหน้าคะมำไปกับพื้น
“ข้าบอกเจ้าให้ระวังแล้วแท้ๆ…เห้อ!” เสียงถอนหายใจลากยาวดังมาจาก ฟาง เจิ้งจือ ก่อนเขาจะค่อยเอาผลไม้ที่เขาปลอกเปลือกแล้วเข้าปาก กัดลง ความหว่านแผ่ซ่านไปทั้งปาก...
ไม่นาน ผู้เข้าสอบคนอื่นๆเริ่มได้สติกลับมา
“พี่หลี่ ข้าได้ยินท่านบอกว่าจะดื่มน้ำจากแม่น้ำแห่งความสัตย์ให้หมด?”
“ข้าคิดว่ารสนิยมของพี่จางยังดูดีกว่าเล็กน้อย....”
ไม่นานผู้เข้าสอบก็เริ่มหยอกล้อกันเอง เปลี่ยนเป้าหมายเป้นสองคนที่พูดจาใหญ่โตก่อนหน้านี้
“โกง!”
“ต้องมีปัญหากับกระดาษข้อสอบแน่ๆ!”
“มันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง! ตอนแรกเขายังไม่มีชื่อแท้ๆ แต่ทันใดนั้นกลับถูกเพิ่มเข้าไป? มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ!”
ท่ามกลางฝูงคน คนสองคนมองกันไปมา และพยายามหาเหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุด เพราะพวกเขาคิดไม่ออกจริงๆว่าทำไมคนอย่าง ฟาง เจิ้งจือ ถึงผ่านการทดสอบและถุกจัดไปอยู่ในกลุ่มแรกได้
คนที่ไม่เคยศึกษาในหอแห่งเต๋า ถูกจัดอยู่ในกลุ่มแรก?
เขาไม่เชื่อเด็ดขาด ต่อให้ตายก็ตาม!
“พี่หลี่พูดถูกแล้ว รอจนถึงรอบสองก่อนเถอะ ฟาง เจิ้งจือ ต้องไม่ผ่านแน่ๆ!”
“ใช่แล้วน้องจาง ข้าเห็นด้วย! เขาโชคดีได้ไม่นานหรอก ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงอยู่รอด!”
กลุ่มคนที่สอบไม่ผ่านต่างส่งเสียงดังออกมาด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครให้ความสนใจอีกต่อไป
สายตาของ หลี่ จ้วงฉือ เลื่อนออกจากหินประกาศมายัง ฟาง เจิ้งจือ ความตกตะลึงสามารถเห็นได้จากสายตาของเขา เขาถอนหายใจ คิดถึง 8 ปีที่น่าเบื่อ เขาสามารถผ่านการทดสอบระดับมณฑลและถูกจัดอยุ่ในกลุ่มที่สอง
ใครจะคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ที่ไม่ได้ศึกษาในหอแห่งเต๋า จะถูกจัดอยุ่ในกลุ่มที่ 1 ด้วยการศึกษาโยตนเองและโชค?
สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรม!
เช่นเดียวกับคนอื่น เขาเองก็คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ สอบผ่าน เพราะโชคช่วยเช่นกัน
ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะสนใจกับการถกเถียงของผู้คน เขาเดินกลับไปยังโรงเตี้ยมอย่างสบายๆ แข็งแกร่ง? ข้านี่ละคือความแข็งแกร่ง!
ของปลอมกลายเป็นของจริง?
ฮ่าฮ่าฮ่า..ผู้คนในยุคนี้จะทำอะไรข้าได้! เมื่อของปลอมกลายเป็นของจริงได้ แล้วใครจะแยกมันออกละว่าอะไรจริง อะไรปลอม?
….
การทดสอบกฎแห่งเต๋าด้านปัญญารอบที่ 2 เป็นวันถัดไปหลังจากประกาศผล
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เข้าไปยังห้องสอบ เขาไม่เห็น เมิ่ง อวี้ชู
ไม่นานการทดสอบก็เริ่มขึ้น
รอยที่สองของการทดสอบด้านปัญญามีคำถามที่แตกต่างจากในรอบแรก ถ้ารอบแรกเกี่ยวกับพื้นฐานของกฎแห่งเต๋าแล้วละก็ รอบที่สองก็เป็นการนำกฎแห่งเต๋าไปใช้
ยิ่งไปกว่านั้นทิศทางของคำตอบนั้นพลิกแพลงได้หลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางทหารได้อีกด้วย เช่นการเคลื่อนทัพเมื่อเจอสิ่งกีดขวางเช่น ภูเขา แม่น้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นด้านล่างสุดของข้อสอบยังมีภาพการจัดทัพสงคราม รูปเล็กๆอีกด้วย
ถึงแม้เวลาจะมี 2 ชั่วโมงเท่าเดิม แต่ข้อสอบนั้นยากกว่าเดิมหลายเท่า
แต่สำหรับ ฟาง เจิ้งจือ นั้นกลับตรงกันข้าม รอบแรกนั้นพูดถึงบทความในหนังสือ และมีเนื้อหาที่กระจัดกระจายเกินไป
แต่ในรอบที่ 2 นั้นเป็นเรื่องการคิดวิเคราะห์
โดยเฉพาะรูปการจัดทัพสงครามด้านล่างสุดของกระดาษ มันเป็นเพียงรูปแบบง่ายๆ เรียกว่ารูปแบบตัวงู
แล้วมันยากไหม? มันประกอบด้วยสามรูปแบบที่แตกต่างกันเท่านั้น คือ หัว กลาง หาง คอยโจมตีสลับกัน
ฟาง เจิ้งจือ สามารถตอบคำถามที่ยากลำบากได้ทั้งหมด พร้อมทั้งใช้คำอธิบายที่สั้นกระชับ ชัดเจนและเรียบง่ายเพื่ออธิบายสิ่งที่ดูซับซ้อน
จากนั้น...เมื่อเขาทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาก็เริ่มหลับอีกครั้ง เขาใช้เวลาไปไม่ถึงครึ้งชั่วโมง เร็วกว่ารอบแรกถึง 2 เท่า
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะดึงดูดความรังเกียจของผู้เข้าสอบคนอื่นๆ
ในหมู่พวกเขา มีบางคนยังไม่เริ่มเขียนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ กลับนอนฟุบไปกับโต๊ะแล้ว พวกเขาจะอดกลั้นได้อีกยังไง?
“จอมหลอกลวง! นอนเท่าที่เจ้าพอใจเถอะ!”
“รอบ 2 ยากกว่ารอบแรกอีก แต่เขาใช้เวลาไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง?!”
“รอบนี้เขาต้องพลาดแน่ๆ!”
ผู้เข้าสอบต่างไม่พอใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าใครหลับขึ้นมา..แล้วยังไง ใครจะกล้าทำเสียงดังงั้นหรือ? ที่นี่คือห้องสอบ!
ไม่นานการทดสอบก็จบลง ผู้เข้สอบต่างทยอยเดินออกมา
วันถัดมาผลสอบก็ถูกประกาศ
เทียบกับรอบแรกของการทดสอบด้านปัญญา ผู้ที่มาดูผลสอบกลับน้อยกว่ามาก เพราะรอบนี้เอาเฉพาะผู้ที่สอบผ่านรอบแรกแล้วเท่านั้น คนอื่นๆต่างเดินทางกลับบ้านที่ตนจากมา
อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่สอบไม่ผ่านรอบแรก แต่ถูกชักชวนให้อยู่เป็นเพื่อนผู้ที่สอบผ่าน เพื่ออยู่เชยชมดวงจันทร์ ชมดอกไม้ ที่ ฮวายอัน และแน่นอนชม ฟาง เจิ้งจือ สอบไม่ผ่านในรอบนี้
“มาเดาสามอันดับแรกของการทดสอบด้านปัญญากันเถอะ!”
ฟาง เจิ้งจือ ที่เดินอย่างสบายใจอยู่รอบๆหินประกาศ เมื่อได้ยินเสียงประกาศดังออกมาจากโต๊ะพนัน ตาของเขาสว่างขึ้นทันที
แม้ว่าผลการทดสอบรอบที่สองยังไม่ออกมาเป็นทางการ แต่เหมือน 100 เรียญเงิน ตอนนี้ เขาสามารถไปนำมันมาได้แล้ว
โดยไม่ลังเลเขาเดินไปที่หน้าโต๊ะพนันทันที
ยังคงเป็นเด็กรับใช้คนเดิมที่อยู่หลังโต๊ะนั้น
“ไง! ข้าได้แทงไปว่า เมิ่ง อวี้ชู จะไม่ติด 3 อันดับแรกในการทดสอบครั้งนี้ เอานี่ใบเสร็จ!”ฟาง เจิ้งจือ วางใบเสร็จลงตรงหน้าเด็กรับใช้
เมื่อเด็กรับใช้ที่กำลังวุ่นวายกับการตะโกนอยู่นั้นเห็น ฟาง เจิ้งจือ เดินเข้ามา ใบหน้าของเขาปรากฎความขมขื่นขึ้นมาทันที
“นายน้อยช่างมีสายตาที่กว้างไกลนั้น ท่านเป้นเพียงคนเดียวที่ชนะการพนันครั้งนี้! ข้าขอทราบชื่อนายท่านได้หรือไม่?” ในตอนที่เด็กรับใช้เก็บใบเสร็จไป ก่อนจะล้วงหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า แต่ใบหน้าของเขาพลันแข็งค้างทันที
“ฟาง เจิ้งจือ!” ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดจะปิดบังถึงเขาจะมีชื่อเสียงค่อนข้างมากในตอนนี้
“ท่านคือนายน้อยฟาง ฟาง เจิ้งจือ งั้นหรือ?!” เมื่อเด็กรับใช้ได้ยิน ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันที เขามอง ฟาง เจิ้งจือ ราวกับมองญาติสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานาน
เมื่อเห็นท่าทีแปลกๆของเด็กรับใช้ ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกสับสนเล็กน้อย อย่าบอกนะว่าตอนนี้เขามีชื่อเสียงมากกว่าเดิมแล้ว? แม้แต่เด็กรับใช้ยังรู้จัก?
“นายน้อย ฟาง ช่วยมาที่นี่สักครู่ได้ไหม?” เด็กรับใช้ได้สติกลับมา วางเงิน 100 เหรียญเงินลงในมือของ ฟาง เจิ้งจือ และกวักมือเยก ฟาง เจิ้งจือ เข้ามา
ด้วยเงินที่อยู่ในมือ เขาไม่กลัวอะไรอีกต่อไป ยังไงก็ตามยังมีเวลาอีกเล็กน้อยก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศผล
ดังนั้นเขาจึงตามเด็กรับใช้คนนั้นไป
“นายน้อยฟางได้ร้องเรียน เมิ่ง อวี้ชู ทำให้พวกเราได้รับอานิสงค์เป็นอย่างมาก เงินที่แทง เมิ่ง อวี้ชู ไปทั้งหมดตอนนี้อยู่ในกระเป๋าข้า การวางเดิมพันนั้นเป็นไปตามกฎ ดังนั้น นายน้อยฟาง จึงมีส่วนที่ช่วยเหลือพวกเราอยู่มาก เจ้านายของข้ามีคำสั่งว่าให้มอบรางวัลกับท่าน!”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ค่อยๆหยิบเงินกระดาษมูลค่า 100 ตำลึงเงินออกมา ก่อนจะมอบให้ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความนับถือ
รางวัลคือเงิน 200 ตำลึงเงิน? ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมาทันที
ฟาง เจิ้งจือ รีบเก็บเงินเข้ากระเป๋าทันที
....ไม่มีร่องรอยของการมีมารยาทใดๆทั้งสิ้น
“ขอบคุณเจ้ามาก!” ฟาง เจิ้งจือ พูดออกไปด้วยความเต็มใจ
ได้รับเงินในตอนเช้า ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมากกว่าที่เขาคาดคิด ทำให้ตอนนี้เขามีความสุขเป็นสองเท่า! เจ้านายของเด็กนั่นต้องเป็นคนดีมากแน่นอน
“เจ้านายของข้า ปกติมักพักอยูที่เมืองหลวง แต่สองวันนี้เดินทางผ่านมาที่เมืองฮวายอัน และได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่นายน้อยฟางทำ และพวกเราได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างมากจากท่าน เจ้านายของข้าบอกว่าถ้านายน้อยฟาง ไม่รังเกียจ เจ้านายข้าก็อยากจัดงานเลี้ยงที่ท่านสอบไม่ผ่านและผูกมิตรกับท่าน จากนั้นส่งนายน้อยฟาง ออกจากเมืองด้วยความปลอดภัย!”
เด็กรับใช้นั้นพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจกับเจ้านายตนเอง
แต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นข่าวดี แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอกับคนปากหมา บอกว่าเขาจะไม่ผ่านการทดสอบ!
“งั้นข้าฝากบอกเจ้านายเจ้าด้วยนะว่าจัดงานไปคนเดียวเถอะ!” ฟาง เจิ้งจือ หันหลังเดินจากไป
ในขณะที่เขาเดินเขาก้พึมพัมบางอย่างออกมา “ข้าอุตสาห์คิดว่าเจ้านายเขาเป็นคนมองการไกล แต่ใครจะไปคิดละว่าจะเป็นอย่างนี้! อย่าให้ข้าเจอนะจะเอาไม่ฟาดให้เข็ด!”
เพจหลัก : Gate of god TH