Chapter 93 -อ่า ข้าเกือบจะลืมเจ้าไปแล้ว
Chapter 93 -อ่า ข้าเกือบจะลืมเจ้าไปแล้ว
ด้วยเท้าข้างหนึ่งที่อยู่บนหัวของเฉินซ่ง ลั่วเทียนกำลังแสดงอารมณ์เพลิดเพลินกับความรู้สึกนี้ “เจ้าคิดไหมว่า ข้าจะกล้าทำหรือไม่?”
เขามองดูเหมือนว่าเขาจะได้Expเต็มๆ.
เขาร้องเพลงชมเจ้าอ้วนในใจ เพราะว่ามันหมายถึงค่าExpที่เขาได้ฟรีๆ.
นอกจากนี้ร่างกายของเฉินซ่งก็ยังส่องแสงเรืองรองราวกับเป็นบอสขั้นอีลิท ไม่จำเป็นต้องพูดถึงExpหรือค่าพลังปราณที่เขาจะได้รับ แต่มอนเตอร์อิลิทอาจจะดรอปไอเทมดีๆออกมาได้.
หลังจากที่ฟางเล่ยโยนเฉินซ่งออกจากเวที แขนของเขาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็มองไปทางลั่วเทียนและพูดพร้อมกับยิ้มอย่างโง่เขลา“นายท่าน นี่ นี่ ข้าคนนี่ไม่ทำให้ผิดหวังใช่มั๊ย?”
หลังจากนั้นดวงตาของฟางเล่ยก็เหลือกกลับและเขาก็สลบลง.
“ปัง~!”
“เจ้าอ้วน!”
“พี่อ้วน!”
ลั่วเทียนขมวดคิ้วพร้อมกับออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว“เร็วขึ้นไปและพาเจ้าอ้วนลงมารักษา.”
ต่อต้านการโจมตีถึง 4 ครั้ง.
ถ้าคนอื่นยืนอยู่ตรงนั้นพวกเขาจะกลายเป็นผงแล้ว ถึงอย่างนั้นฟางเล่ยก็ขบฟันและทนให้อาวุธผ่านร่างกายและใช้แขนของเขาที่เป็นดั่งอาวุธของสัตว์ประหลาดโจมตีโต้กลับมา ตอนนี้เฉินซ่งอยู่ในสภาวะใกล้ตาย.
ผลลัพธ์นี้ไม่มีใครจะคิดได้ แม่แต่ลั่วเทียนก็ประหลาดใจ.
แต่...
การโจใตีของเฉินซ่งและการดูถูกทุกครั้งที่เขาทำ ลั่วเทียนได้เห็นอย่างชัดเจน เขาเก็บเปลวไฟที่ระอุอยู่ภายใน.
กับพี่ชายของเขาที่มาถึงจุดนี้ เขาจะสามารถไม่ให้บอสจ่ายหนี้ที่ค้างไปได้อย่างไร?
แม้ว่าฟางเล่ยจะชนะการแข่งขัน แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยเฉินซ่งไปได้.
มองไปที่หน้าเฉินซ่งที่ซีดเซียวและกำลังสั่นจากความเจ็บปวด แต่ดวงตาของเขาก็ยังคงยั่วยุและมีความชิงชังในสายตาของเขาให้เห็นได้อย่างชัดเจน“เจาสุนัขสารเลว ถ้าเจ้ากล้าฆ่า ตระกูลลั่วจะมาอยู่ในหลุมพร้อมกันกับข้า เจ้าควรจะรู้เรื่องลุงของข้าแล้ว…”
ลั่วเทียนไม่ได้ห่วงอะไรสักอย่าง เขาปล่อยให้เฉินซ่งพูดจบและตบหน้าเขาตรงๆ จากนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชา“สุนัขจรจัดอย่างเจ้ายังกล้าที่จะหยิ่งอีกงั้นเรอะ แม้กระทั่งอยู่หน้าประตูนรกเจ้ายังกล้าพูดออกมา?!”
“มารดาเจ้าสิ การตายของเจ้ากำลังใกล้เข้ามา แต่เจ้ายังกล้าข่มขู่ข้า ให้ข้าบอกอะไรเจ้าให้ สิ่งที่ข้าเกลียดมากที่สุดคือคนที่มาข่มขู่ข้า.”
“พยายามที่จะทำให้ข้ากล้ว? ข้ากลัวมากกกกเลย.”
ลั่วเทียนตัดสินใจที่จะฆ่าเขาอย่างช้าๆ.
ซูซางเฟยตระลึงและรีบก้าวออกมา.เหมือนดั่งฟ้าร้องที่ระเบิดข้างหูของผู้คน กลิ่นอายของซูซางเฟยก็ระเบิดออกมาจากร่างของเขา มีบางคนที่แม้กระทั่งหายใจไม่ออกเมื่อได้สัมผัสกลิ่นอายของเขา.
ความกดดันอย่างมากได้กระแทกดั่งคลื่นขนาดใหญ่
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยตรงกับความคิดของลั่วเทียน มันทำให้ดูเหมือนกับคลื่นสึนามิที่กำลังสร้างหายนะอยู่ภายใน.
ซูซางเฟยคำรามอย่างโกรธเกรี๊ยวออกมา“ลั่วเทียน เขาเป็นหลานชายของผู้อาวุโสนิกายเมฆครามของเรา ถ้าเจ้ากล้าที่จะฆ่าเขา ตระกูลลั่วทั้งหมดจะถูกฆ่าตายและกระดูกของพวกเขาจะป่นเป็นผง!”
เสียงของซูซางเฟยราวกับลูกศรพุ่งตรงมาและกระแทกทุกคนที่อยู่รอบเวที.
การบ่มเพราะของใครที่อยู่ปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 ทรงพลังอย่างมาก พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งวิเศษในเมืองภูเขาหยก.
จิตใจของลั่วเทียนกำลังถูกถาโถมด้วยคลื่นสึนามิจากแรงกดดันของซูซางเฟย ความโกรธของเขาเพิ่มมากขึ้น จากนั้นสายตาของเขาก็เปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็คำราม“สารเลว!”
หลังจากนสั้น...
เขาขยับกำปั้นขวา.
กำปั้นนั้นได้ส่งไปที่หัวของเฉินซ่ง.
ตาของเฉินซ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนปัสสาวะราดตนเอง จากนั้นเขาก็คำรามด้วยความโกรธ “ซางเฟย ช่วยข้า!”
ในตอนนั้น...
พลังปราณของซูซางเฟยก็หดตัวลง จากนั้นเขาก็วิ่งเข้ามาราวกับปีศาจ.
แต่...
ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหนเขาก็ยังอยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร กำปั้นของลั่วเทียนอยู่ห่างจากหัวเฉินซ่งถึงไม่ถึงครึ่งเมตร แม้ว่าจะมีความเร็วที่สุดยอดแต่ซูซางเฟยก็ไม่อาจทำกำปั่นของลั่วเทียนได้?
“ปัง~!”
หมัดได้บดขยี้ลงมาและเฉินซ่งตาย!
ด้วยกำปั้นที่เต็มไปด้วยเลือด ลั่วเทียนมองไปที่ซูซางเฟยที่วิ่งเข้าและคำราม “ชาติชั่ว มาด้านหน้าและขู่ให้บิดากลัวสิ ข้าเคยบอกแล้วว่า สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดคือการข่มขู่ แต่เจ้ายังเดินหน้ามาและข่มขู่ข้า เมื่อพิดาคนนี้คลั่ง แม้กระทั่งข้าก็ยังกลัวตัวเอง
!”
ลั่วเทียนลำคาญอย่างมาก.เขายังคงถูกคุกคามโดยคนอื่นไม่ว่าจะเรื่อง บลา บลา บลา คนนี้ไม่อาจสังหารหรือ บลา บลา บลา คนนี้ไม่อาจตายได้
.
เหมือนกับสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่เขาต้องการทำคือการโต้ตอบด้วยกำปั้นและฆ่าเหล่าสารเลวพวกนี้ตรงๆ!ร่างกายของซูซางเฟยหยุดทันที ขณะที่เขามองไปที่ลั่วเทียนด้วยสารตาที่อาฆาต จากนั้นเขาก็เดินไปที่เวทีและชี้ไปที่หน้าของลั่วเทียนและพูดว่า“เข้ามา มาหาบิดานี่!”
ลั่วเทียนไม่สนใจซูซางเฟยเพราะเขาปิดตาและมีท่าทางที่ยิ้มแย้มอยู่บนใบหน้าของเขา.
เสียงระบบที่แจ้งเตือนในใจ.
“ติ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ลั่วเทียน ในการสังหาร เฉินซ่ง คุณจะได้รับExp 1,500 แต้มและพลังปราณ 300 หน่วย…”
“
ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ลั่วเทียน ในการได้รับทักษะ ดาบดาวสวรรค์ คุณต้องการบ่มเพาะหรือไม่?”“
ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ลั่วเทียน สำหรับได้รับ ยามังกรเพลิง.“ติ้ง!”
“แต้มไร้พ่าย +1,เกราะเลือดปีซาจได้ดูดซับโลหิต 100 แต้มและมีการป้องกันเพิ่มขึ้น 1%.”
“ยอดเยี่ยม!”
“มันดรอปสกิลดาบดาวสวรรค์”ลั่วเทียนมีความสุขและบ่มเพาะมันทันที.
หลังจากนั้นเขาก็เปิดตาขึ้น เขายังไม่ได้สนใจซูซางเฟยที่เหลือบมองเขาอยู่บนเวที แต่เดินตรงไปที่ซูเหยาซงด้วยรอยยิ้ม.
“เจ้าพยายามทำอะไร?”
“ปกป้องผู้นำตระกูล!”
“ถ้าเจ้ากล้าที่จะเข้ามาใกล้ผู้นำตระกูล เจ้าก็อย่างโทษตาเฒ่าคนนี้!”
ตระกูลซูเริ่มตื่นตระหนกและเหล่าสาวกก็เริ่มที่จะก้าวมาด้านหน้า พวกเขาชักอาวุธออกมาและมองเตือนไปยังลั่วเทียนว่าอย่าเคลื่อนไหวใดๆ.
ลั่วเทียนไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาเดินตรงไปที่ซูเหยาซงจานนั้นเขาก็นั่งลงอย่างดังและเอามือข้างหนึ่งโอบไหล่ซูเหยาซงไว้และหัวเราะ “เฒ่าซู ข้ามาที่นี่อย่างเป็นมิตร ไม่มีเจตนาอื่นใด.”
ซูเหยาซงมีท่าทีน่าเกียจบนใบหน้า แต่เขาก็พูดอย่างใจเย็น“ตอนนี้เจ้าได้มาทักทายแล้ว เจ้าจะกลับไปได้หรือยัง?”
“ไม่ต้องหงุดหงิดน่า มีบางอย่างที่ข้าจะบอกกับเจ้า.”ลั่วเทียยิ้ม.
ซูเหยาซงตอบ“เพียงบอกมา มีลมอะไรก็รีบผาย.”
จากนั้นลั่วเทียนก็พูด “สุสานบรรพบุรุษของเจ้าเป็นของข้าแล้วตอนนี้ เจ้าคิดว่าข้าควรจะเอามันไปสร้างห้องน้ำหรือเอามาทำปุ๋ยดี?”
“นี่เป็นทางเลือกที่ยากมากสำหรับข้า เฒ่าซูเจ้าสามารถแนะนำข้าได้หรือไม่?”
ใบหน้าของซูเหยาซงเปลี่ยนสีไปมาอย่างรวดเร็ว เมื่อมองไปที่ดวงตาของเขาราวกับจะกินลั่วเทียนตรงนั้น.
โดยไม่ต้องรอคำตอบลั่วเทียนก็ตอบ“ตอนนี้สำหนับกระดูกของบรรพบุรุษเจ้า ข้าควรจะโยนมันออกไป หรือว่าเอาไปให้สุนัขกินดี?”
“ลั่วเทียน!”
ตาของซูเหยาซงเบิกกว้างราวกับโคมไฟเนื่องจากความโกรธของเขาราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ พลังปราณเชี่ยวชาญขั้น 9 ระเบิดออกมาขณะที่เขาพูดผ่านไรฟัน“ถ้าเจ้ากล้าที่จะสัมผัสกับหลุมฝังศพของบรรพบุรุษของข้า ข้าจะส่งเจ้าไปพบกับพระมหากษัตริย์ยามะทันที!”
ลั่วเทียนเบิกตาอย่างตกใจ ขณะที่เขาเริ่มตบหน้าอกและแสดงความกลัว จากนั้นเขาก็เปิดเผยท่าทีดูถูกและพูดว่า“อ่า ข้าถูกขู่อีกแล้ว ข้ากลัวจัง~”
หลังจากนั้น...
เขาก็ใช้ย่างก้าวเงาวายุและรีบหนีไป เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็กลับไปนั่งที่นั่งของเขาที่ตระกูลลั่ว จากนั้นเขาก็ตะโกนดังๆ“ตระกูลลั่วจงฟัง!”
“ซูเหยาซงได้เสียหลุมฝังศพของตระกูลซูให้กับข้าแล้วและทุกคนในที่นี่สามารถเป็นพยานกับข้าได้”
“บอกให้ทุกคนของสาวกตระกูลลั่วฟังไปที่หลุมฝังศพของตระกูลซู ถ้าต้องการที่จะปลดทุกข์ ภายในสามวันข้าต้องการให้ที่นั่นเป็นพื้นที่เพาะปลูก!”
เหล่าสาวกหัวเราะเสียงดัง.
ซูเหยาซงแทบจะเป็นลมจากความโกรธ หนวดยาวๆของเขากระพือตามลมหายใจและพูด“ลั่วเทียน เจ้ากล้า?!”
ลั่วเทียนเริ่มยิ้มและพูด“เพียงแค่รอดูว่าข้าจะกล้าหรือไม่.”
ซูซางเฟยไม่สนใจเรื่องหลุมฝังของตระกูลอย่างแท้จริง สิ่งที่เขาต้องกังวลคือการอธิบายกับเฉินเทียนเหยา.
ลูกชายและหลานชายของเขาตายแล้ว
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่เฉินซ่งได้รับเลือกให้เป็นสาวกชั้นแนวหน้าจากผู้อาวุโสภายใน!
นั้นไม่ได้หมายความว่าไม่เพียงแต่เขาได้กระทำผิดต่อผู้อาวุโสฝ่ายนอกเท่านั้น เขาได้ทำความไม่พอใจกับผู้สาวุโสภายในด้วยเช่นกัน เขาจะสามารถอยู่รอดในนิกายเมฆครามได้อย่างไร?
ลั่วเทียน!
ความผิดทั้งหมดเป็นของลั่วเทียน.
ฆ่าเข้า ข้าต้องฆ่าเขา!
ซูซางเฟยแผ่ความโหดร้ายออกมา ดวงตาของเขาราวกับจะกินเลือกกินเนื้อ ความกดดันทำให้ผู้คนได้เงียบงัน จากนั้นเขาก็ตะโกน“ลั่วเทียน รีบขึ้นมาเพื่อที่เจ้าตะได้ตายซะที!”
ลั่วเทียนหันกลับมามองที่กลางเวทีและตบหน้าขาของเขาจากนั้นก็พูดว่า“อ่า ข้าเกือบลืมเจ้าเสียแล้ว.”