บทที่ 7 ปรมาจารย์จู
"อึก!"
เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนที่อยู่ในตำหนักยาตกตะลึงแทบหายใจไม่ออก
แม้ว่าจะมีบางคนไม่รู้จักปรมาจารย์จูเหอซิน แต่เมื่อพวกเขาเห็นตราสีเงินที่อยู่บนหน้าอกเขา มันทำให้พวกเขาบ่งบอกได้ทันทีว่าเขาเป็นนักปรุงยาระดับทมิฬขั้นต่ำ
ระดับทมิฬ....!
สำหรับคนทั่วไป มันคือสัญลักษณ์อันทรงเกียรติที่สามารถเทียบได้กับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของจักรวรรดิ! มันมีสถานะสูงส่งกว่าเจ้าเมืองเสียอีก แต่คนอย่างเขากลับแสดงออกเช่นนี้....มันจะไม่ทำให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร?
และสาเหตุของทุกอย่างที่เกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะชายหนุ่มคนนี้
มันเป็นไปได้อย่างไร!
หลายคนแทบจะบ้าคลั่ง ความจริงนี้มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจยอมรับได้ แม้หัวของพวกเขาจะระเบิดเป็นเสี่ยงก็ตาม!
หม่าต้าจวินดูเหมือนจะตกตะลึง ปรมาจารย์จูผู้นี้เป็นบุคคลสำคัญอย่างมากในตำหนักเม็ดยาสวรรค์ของอาณาจักรสายฝน การจะได้พบเจอเป็นเรื่องที่ยากมาก และเขาได้ยินเรื่องต่างๆผ่านทางข่าวลือเท่านั้น
แล้วเขาจะไม่ตกตะลึงได้อย่างไร เมื่อเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของปรมาจารย์จู?
เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าเด็กเหลือขอนี่ไม่ได้มาเพื่อก่อปัญหา? ชื่อสมุนไพรที่เขาพูดมามีจริง?
หลิงหานสูดดมกลิ่นเล็กน้อย และกล่าว "ท่านเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมทีเดียวที่เปลี่ยนแปลงสูตรของเม็ดยาวายุเพลิง โดยใช้เม็ดยาหมีหลังม่วง เศษไม้พันส่วน และผงหินดำแทนส่วนผสมที่ล้ำค่า ด้วยวิธีนี้มันจะไม่เกิดความแตกต่างกันมากนักในประสิทธิภาพของเม็ดยาทั้งยังยังเป็นการลดต้นทุนได้อย่างมาก"
"เจ้ารู้ได้ยังไง?" จูเหอซินหันหน้าไปมองหลิงหานทันทีด้วยความตกตะลึง และถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม นี่เป็นความลับของเขา! เขาวางแผนที่จะเปล่าประกาศเรื่องนี้หลังจากเขาประสบความสำเร็จเพื่อทำให้สหายเก่าและคู่แข่งของเขาต้องตกตะลึง!
รอยยิ้มของหลิงหานกว้างขึ้นและพูดว่า "ข้าเพียงแค่ใช้จมูกของข้าดมกลิ่นที่ออกมาจากมันเท่านั้น"
เจ้าเป็นสัตว์ประหลาดหรือไง? เจ้ารู้ความลับของข้าโดยการใช้จมูกของเจ้า? สูตรปรุงยาเป็นอะไรที่ล้ำค่ามาก และไม่มีนักปรุงยาคนใดเปิดเผยสูตรปรุงยาของตนให้คนอื่นรู้ สำหรับนักปรุงยาแล้ว มันเป็นสิ่งที่สำคัญพอๆกับทักษะของจอมยุทธ์!
แต่ปัญหาคือ แม้แต่จูเหอซินยังปรุงยาสูตรใหม่ของเขาไม่สำเร็จ แต่หลิงหานกลับวิเคราะห์สูตรของเขาได้เพียงแค่ใช้จมูก! แล้วจูเหอซินจะไม่รู้สึกทึ่งได้อย่างไร?
"สูตรของท่านอาจเป็นไปได้ แต่ทรายภูผาทองแดงนั่นมันมีประสิทธิภาพแรงเกินไป และจุดหลอมละลายของมันก็สูงด้วย ดังนั้นไม่ว่าท่านจะปรุงมันดีแค่ไหน มันก็ยังคงมีสิ่งเจือปนหลงเหลือยู่ภายในเม็ดยา ซึ่งมันจะส่งผลต่อคุณภาพของเม็ดยา ท่านควรลองใช้เขี้ยวพยัคฆ์อัคคีแทน" หลิงหานแนะนำ ในชีวิตที่แล้วของเขา เขาแก้ไขสูตรปรุงยาให้คนจำนวนหนึ่งโดยที่ไม่ตั้งใจ และต่อมาพวกเขาเหล่านั้นก็กลายเป็นนักปรุงยาระดับปรมาจารย์
จูเหอซินเริ่มคิดคำนวณความเป็นไปได้อยู่ในใจเขาทันที "เขี้ยวพยัคฆ์อัคคีเป็นธาตุไฟซึ่งมันอยู่ตรงกันข้ามกับธาตุหยินของผงหินดำ และเมื่ออุณหภูมิอยู่ในจุดที่เหมาะสมมันก็จะละลายได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นมันจะไม่มีสิ่งเจือปนใดๆอยู่ในเม็ดยา....วิเศษ วิเศษยิ่งนัก! ทำไมข้าถึงคิดไม่ออกกัน?"
ชายชรากำลังตกตะลึง เขาจ้องมองไปที่หลิงหานและกล่าวทันทีว่า "สหายน้อย โปรดขึ้นไปชั้นบนกับข้า และให้ข้าต้อนรับเจ้า" แน่นอนว่าที่เขาพูดว่าต้อนรับนั้นมันไม่ได้เป็นความจริง เขาต้องการแค่หลอกถามสูตรปรุงยาจากหลิงหานอีกสักเล็กน้อย
จากสิ่งที่เขาเห็น หลิงหานควรเป็นทายาทจากตระกูลที่มีอิทธิพลบางแห่งในเรื่องการปรุงยา
หลิงหานยิ้มออกมา แต่กล่าวว่า "ข้าไม่อาจขึ้นไปได้!"
"ทำไมถึงไม่ได้?" จูเหอซินกล่าว เจ้าเด็กนี่อาจเป็นสารานุกรมสูตรปรุงยาเดินได้!
"มีใครบางคนบอกให้ข้าออกไป" หลิงหานกล่าวขณะเหลือบมองต้าหม่าจวิน
"ตึบ!" หม่าต้าจวินคุกเข่าลงทันที ในขณะนั้นเขาอยากร้องไห้ออกมา แต่น้ำตากลับไม่ไหล
เขาจะรู้ได้อย่างไรวะจูเหอซินจะปฏิบัติกับหลิงหานเช่นนี้? ถ้าเขารู้แต่แรก เขาคงจะเคารพนับถือหลิงหานเหมือนผู้อาวุโส! แล้วตอนนี้เขาควรทำเช่นไรดี?
คนอื่นๆภายในตำหนักเม็ดยาสวรรค์ต่างเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และส่ายหัวอยู่ในใจ ถ้าหม่าต้าจวินพูดสุภาพมากขึ้น และไม่ทำตัวก้าวร้าว เขาอาจพอมีทางออกอยู่บ้าง
เขาเป็นคนทำตัวเองแท้ๆ!
จูเหอซินส่ายหัวของเขาทันที ใบหน้าย่นของเขาแสดงให้เห็นถึงความโกรธที่น่ากลัว
เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร?
ในฐานะนักปรุงยา สิ่งเดียวเขาต้องการทั้งชีวิตของเขาคือการยกระดับตัวเองในฐานะนักปรุงยา และได้รับสูตรปรุงยาเพิ่มขึ้น ตอนนี้ในตอนนี้มีสารานุกรมเม็ดยาอยู่ที่นี่ และหม่าต้าจวินกลับบกอให้เขาออกไป?
"โง่เขลา!" เขาตะโกนด้วยความโกรธ "มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่? อธิบายให้ข้าฟัง!"
ทำให้หม่าต้าจวินปรารถนาความตายขึ้นมาทันที ภายใต้การสอบปากคำของจูเหอซิน เขาไม่กล้าที่จะไม่ตอบคำถามของเขา ดังนั้นเขาจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ขณะที่พูดตะกุกตะกัก แม้ว่าเขาจะไม่พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่คำพูดที่หยาบคายที่เขาพูดกับหลิงหานนั้นแทบไม่ซ้ำกันเลย
"เจ้ามีอำนาจถึงขนาดนั้นเลยรึ!" จูเหอซิน "เจ้าไม่เคยได้ยินชื่อของพวกมัน ดังนั้น มันจึงหมายความว่ามันไม่มีอยู่บนโลก? หากมีสมุนไพรนับร้อยนับพันที่เจ้าไม่เคยได้ยินนั่นหมายความว่ามันไม่มีอยู่ในโลก? ให้ข้าบอกเจ้าหน่อยเถอะ สมุนไพรทั้งห้านี้มันมีจริง!
หญ้าดอกบัวม่วงสามารถพบเจอได้ในหุบเขากฤษณา ผลก้านนภาสามารถพบได้ในหนึ่งในหุบเขาร้อยผสาน ไผ่สีชาดร้อยปีจะเติมโตในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพลังหยาง ใบหัวมันสีชาดจะพบใต้ขี้เถ้าภูเขาไฟ! มีเพียงรากพฤกษามรณะเท่านั้นที่หากได้ยิ่ง มันสามารถพบได้เฉพาะใต้รากเดิมของต้นไม้ที่เน่าเปื่อยนานกว่าหนึ่งร้อยปี! "
"ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้ว!" หม่าต้าจวินกล่าวขอโทษด้วยความตื่นตระหนก มันยังมีอีกอะไรอีกที่เขาจะต้องสงสัยแม้แต่จูเหอซินเองยังพูดแบบนั้น? เขาเหยียดมือออกไปและตบหน้าตัวเขาพร้อมกับกล่าวว่า "ข้าไม่น่าทำตัวอวดดี ข้าไม่น่าทำตัวหัวสูง!"
จูเหอซินหันหน้าไปหาหลิงหานอีกครั้งและกล่าวว่า "สหายน้อย ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย"
แต่จู่ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ก่อนที่เขาจะจากลาอาจารย์ เขาเคยได้ยินอาจารย์ของเขาพูดถึงสูตรปรุงยานั่น นั่นคือยาที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บที่รากฐานวิญญาณ และต้องใช้สมุนไพร 5 ชนิดที่หลิงหานต้องการซื้อ
ในเวลานั้น อาจารย์ของเขาได้ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียใจ และกล่าวว่าสูตรยานี่ไม่จำเป็นต้องปรุงให้อยู่ในรูปของเม็ดยา และมีประสิทิภาพที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่คาดคิด แต่น่าเสียดาย อาจเป็นเพราะกาลเวลาทำให้มีเพียงชื่อของส่วนผสมหลักบางส่วนเท่านั้นที่เป็นที่รู้จัก ทั้งยังวิธีการปรุงมันยังหายไปเป็นเวลานาน
เช่นนั้น ทำให้เขารู้สึกประทับใจตัวหลิงหานมาก และตอนนี้เขาก็นึกทุกอย่างขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน
เป็นไปได้ไหมว่าหลิงหานจะซื้อส่วนผสมปรุงยาเหล่านี้เพื่อปรุงผงฟื้นฟูแก่นวิญญาณ?
มันจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่หัวใจของชายชราจะเต้นเร็วขึ้น ถ้าเขาได้รับสูตรปรุงยานี้ และเผามันให้กับอาจารย์ของเขา เช่นนั้นแล้วอาจารย์ของเขาคงจะมีความสุขในชีวิตหลังความตาย!
"สหายน้อย ส่วนผสมที่เจ้าต้องการซื้อเป็นไปได้ไหมว่าเจ้าต้องการปรุงยา...."
"ผงฟื้นฟูแก่นวิญญาณ" หลิงหานพยักหน้าและกล่าวว่า "รากฐานวิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย"
"อึก!"
หม่าต้าจวินรู้สึกตกตะลึงขึ้นมาทันที ความเสียหายต่อรากฐานวิญญาณเป็นผลร้ายแรงต่อการฝึกยุทธ์ จากที่เขารู้มันไม่มีทางที่จะรักษามันได้อย่างสมบูรณ์! แต่คำพูดของหลิงหานดูเหมือนว่าเขาจะมีวิธีที่จะรักษามันและเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา!
ดวงตาของหลิวยวี่ถงเปล่งประกายขึ้นเช่นกัน นางเป็นองค์หญิงของตระกูลหลิว และแม้ว่าตัวนางเองจะไม่ใช่นักปรุงยา แต่นางก็รู้ว่ามันมีเม็ดยาล้ำค่ามากมายอย่าง เม็ดยาจันทรานิรันดร์ที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บรากฐานวิญญาณได้
แต่ปัญหาคือมูลค่าของเม็ดยาจันทรานิรันดร์นั้นมีราคาสูงมาก แม้แต่ตระกูลหลิวเองจำเป็นต้องเสียความมั่งคั่งไปถึงจะได้รับมันมาหนึ่งเม็ด...และพวกอาจซื้อมันไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว!
หลิงหาน เจ้ามีความลับมากมายแค่ไหนกันที่ปกปิดอยู่?
นางเริ่มสนใจหลิงหานมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าตอนนี้หลิงหานจะพูดว่าเขาไม่ต้องการนางเป็นผู้ติดตามของเขาอีกต่อไป นางก็จะดึงดันที่จะอยู่กับเขาต่อ