Chapter 111: คริสตัลลึกลับ
Chapter 111: คริสตัลลึกลับ
ถ้าหวังหยู่นั้นไม่ได้รับเลือดมังกรไฟมาก่อน เขาก็จะไม่เข้าใจถึงความยากที่แท้จริงของเควสนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เห็นเลือดมังกรไฟบนรายการของมัน เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาจะต้องสังหารบอส ห้าตัว!
เทพเจ้ามังกรเลือดนั้นเป็นบอสระดับทองที่ใช้โหมดอิสระ! ถ้าหวังหยู่นั้นไม่ได้ค้นพบวิธีที่จะฝ่าฟันอุปสรรคละก็ หลังจากนั้นเขาก็จะตายอย่างแน่นอน
เมื่อมองไปยังคำอธิบายของเควส หวังหยู่ก็รู้สึกว่าบอสอีกสี่ตัวนั้นจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเทพเจ้ามังกรเลือดอย่างแน่นอน…
ความมืดและแสงสว่างนั้นเป็นตัวแปรสำคัญสองอย่างในเกม ในขณะที่ไททันนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่เป็นคู่ต่อสู้กับมังกรในด้านความแข็งแกร่ง... ถึงแม้ว่านักฆ่านั้นจะเหมือนเรื่องปกติ ยิ่งศัตรูนั้นธรรมดามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น นี่เป็นแนวคิดที่หวังหยู่คุ้นเคยกับมันอย่างมาก
หวังหยู่นั้นวางแผนไว้ว่าจะเลื่อนระดับก่อนที่จะทำเควสนี้ ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสที่มากขึ้นในการทำเควสนี้ให้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ผู้สร้างนั้นก็คาดเดาไว้แล้วว่าผู้เล่นที่ตกลงทำเควสนี้จะทำแบบนี้และก็ปิดกั้นค่าประสบการณ์ของเขาตรงๆแบบนี้
มันไม่มีขีดจำกัดความยากของเควสนี้เลยจริงๆสินะ…
เมื่อเห็นการแสดงออกที่มืดครึ้มของหวังหยู่ ผู้ให้ข้อมูลนั้นก็พูดเบาๆ “หนุ่มน้อย เมื่อเทพเจ้านักต่อสู้นั้นยังอายุเท่านาย เขานั้นก็มีความสามารถในการท้าทายกับพระเจ้าแล้ว! ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงนั้นจะไม่หันหลังกลับไปเมื่อเผชิญหน้ากับความยากลำบากใดๆ! เทพเจ้านักต่อสู้เคยพูดว่า ‘ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นไม่เคยหวาดกลัวการท้าทาย’!”
ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นไม่เคยหวาดกลัวการท้าทาย!
คำพูดของผู้ให้ข้อมูลนั้นจุดไฟการต่อสู้ของหวังหยู่ในทันที สำหรับการเป็นผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง หวังหยู่นั้นก็ใฝ่ฝันอยู่เสมอๆกับการเป็นเทพเจ้าสงครามที่ไม่เคยพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป จิตวิญญาณการต่อสู้ของหวังหยู่นั้นก็ค่อยๆลดลง แต่ในตอนนี้ เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของผู้ให้ข้อมูลนั้นก็ทำให้จิตวิญญาณของหวังหยู่กลับมาอีกครั้ง การที่จะกลายเป็นคนที่ทรงพลัง นั้นจำเป็นที่จะต้องมีหัวใจที่กล้าหาญ!
“ขอบคุณมาสเตอร์! แต่ผมจะไปหาไอเทมพวกนี้จากที่ไหนกัน?”หวังหยู่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”ผู้ให้ข้อมูลหาว
“คุณไม่ใช่ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าคุณเคยทำภารกิจนี้สำเร็จมาก่อนด้วยเช่นกันงั้นเหรอ?”หวังหยู่ถามอีกครั้ง
“ฉันทำมัน! แต่เมื่อฉันพบว่าศัตรูที่ฉันนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับมันนั้นทรงพลังมากแค่ไหน ฉันก็ยอมแพ้กับเควสนี้…อย่างไรก็ตาม เทพเจ้านักต่อสู้นั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีผู้สืบทอด…”ผู้ให้ฃ้อมูลประกาศอย่างเปิดเผยในขณะที่เขานั้นทุบหน้าอกของเขาไปด้วย
“…”
“อย่าดูถูก! ถ้านายทำเควสนี้สำเร็จ นายจะเป็นผู้สืบทอดคนแรกที่แท้จริงของเทพเจ้านักต่อสู้!”ผู้ให้ข้อมูลหัวเราะ
“มันมีผลประโยชน์หรือไม่?”
“มันเป็นเพียงแค่ประวัติศาสตร์งั้นเหรอ?”
“คิดว่าผมไม่ได้ถามละกัน..”
หลังจากที่เรียนสกิลระดับยี่สิบ สองสกิล หวังหยู่ก็หันกลับไปและเดินออกจากซอย
[ร่างกายเหล็ก] (ใช้งาน)(ระดับ 1) : นักสู้นั้นใช้ร่างกายที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีกระแทกเข้ากับเป้าหมาย และทำพลังโจมตีกายภาพ 150%ใส่เป้าหมายและทำให้เป้าหมายกระเด็นถอยหลังและกระดูกหัก ในขณะที่ใช้สกิลนี้ ผู้เล่นจะเป็นอมตะชั่วขณะ ใช้มานา ห้าสิบหน่วย
[ฝ่ามือพายุ](ใช้งาน)(ระดับ 1): เจ้าแห่งชีกงนั้นจะรวมพลังงานจำนวนมากลงในฝ่ามือและทำดาเมจใส่คู่ต่อสู้ ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ภายในห้าเมตรจะได้รับการโจมตีเวทย์มนต์ไป 150% ใช้มานา ห้าสิบหน่วย
หลังจากระดับยี่สิบ อาชีพที่แตกต่างกันนั้นจะแสดงถึงความสามารถพิเศษของพวกเขาและก็เริ่มที่จะได้รับสกิลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น [ร่างกายเหล็ก] นั้นกลายเป็นอมตะชั่วขณะหนึ่งและ [ฝ่ามือพายุ] นั้นเป็นสกิลหมู่ ซึ่งทั้งสองฝั่งนั้นก็แสดงถึงแนวทางหลักของแต่ละอาชีพ
เมื่อมองไปยังหวังหยู่เดินจากไป ผู้ให้ข้อมูลก็วางไหเหล้าลงและสายตาของเขานั้นกลายเป็นชัดเจนขึ้น เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และคิดถึงช่วยเวลาครั้งสุดท้ายที่เขานั้นได้เห็นเทพเจ้านักต่อสู้
“ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงนั้นไม่หวาดกลัวการท้าทายงั้นเหรอ? ถ้างั้นฉันยอมแพ้มันได้ยังไงกัน..”
“อ๊า....ฉันนั้นโชคร้ายแค่ไหนกัน....มันเป็นเวลาที่ฉันจะต้องจากไปแล้ว แต่ฉันก็ยังคงสามารถหาผู้สืบทอดที่มีคุณค่าได้อยู่....ลืมมันไปเถอะ ฉันจะทำลายกฎดั้งเดิมทิ้งลงไปและฉันจะให้มันกับนายในตอนนี้ นายควรที่จะหาฉันอย่างเป็นทางการและผู้สืบทอดที่มีคุณค่าในอนาคต นายเข้าใจไหม?”
“ผมเข้าใจ! แต่ผมจะได้รับผลประโยชน์อะไรกัน..”
…
เมื่อคิดไปถึงจุดนี้ ผู้ให้ข้อมูลก็ถอนหายใจเบาๆ “อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ ไอ้เด็กน้อย..”
เมื่อหวังหยู่มาถึงสำนักงานกิลด์ คนอื่นนั้นก็รวมตัวและกำลังรอที่จะเข้าดันเจี้ยน หลังจากที่เขาพบ หวังหยู่ก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง “พวกนายไปกันเลย ผมไม่ค่อยอยากไปสักเท่าไหร่..”
“มีอะไรผิดปกติกัน? นายทะเลาะกับเมียมางั้นเหรอ?”หมิงตู่ถามอย่างเล่นตลก
“ผมรับเควสใหม่มาและในตอนนี้ค่าประสบการณ์ของผมนั้นถูกปิดกั้น!”หวังหยู่พึมพำแล้วเขาก็ถ่ายรูปเควสและส่งไปในช่องแชทกิลด์
เมื่อคนที่เหลือนั้นเห็นรูปภาพ พวกเขาก็กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ แม้กระทั่งรัศมีฤดูใบไม้ผลิก็หัวเราะออกมา “เฮ้! นี่มันหมายความ สุดท้ายแล้วฉันก็จะไล่นายทัน!”
“เหี้...!”เมื่อเห็นไอ้พวกบัดซบนั้นเฉลิมฉลองกับโชคร้ายของเขา หวังหยู่ก็ผิดหวังมากยิ่งขึ้น
“นายสามารถเก็บความเศร้าไว้ก่อนละกัน พวกเรากำลังจะไปเคลียร์ดันเจี้ยน! จำไว้อย่าลืมมาหาพวกเรา เมื่อพวกเราล่าบอสเนียนในภายหลัง!”คนอื่นนั้นก็เข้าใจว่าเหตุผลเดียวที่หวังหยู่นั้นเคลียร์ดันเจี้ยนกับพวกเขาเนื่องจากค่าประสบการณ์ ในตอนนี้หวังหยู่นั้นไม่สามารถได้ค่าประสบการณ์สักหน่วย พวกเขาก็รู้ว่ามันไม่มีทางที่จะโน้มน้าวเขาไปด้วยได้
นอกจากนี้ ไอ้พวกบัดซบพวกนี้ยังคุ้นเคยอย่างมากกับการให้คนอื่นนั้นมาร้องขอให้พวกเขาช่วยเหลือ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ถ้าหวังหยู่นั้นไม่ได้อยู่ด้วย มันก็จะมีผู้คนที่แย่งของดรอปกันน้อยลงไปคนหนึ่ง!
หลังจากพวกเขาจากไป คนที่เหลือนั้นก็ออกจากสำนักงานกิลด์ และเหลือเพียงหลี่ซัวและคนอื่น
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทั้งสี่คนก็แทบจะฝังตัวอยู่ในสำนักงานกิลด์และซื้อวัตถุดิบ สร้างยารักษา สร้างเกราะและอย่างอื่น นอกจากนี้แล้วพวกเธอก็ยังออกไปล่าผงหินปูนด้วย แต่มันก็เป็นโอกาสที่หายาก ด้วยเหตุนี้นี่เอง หลายวันที่ผ่านมาพวกเธอนั้นสงบสุขอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อเดินไปรอบๆอย่างไม่มีเป้าหมาย หวังหยู่ก็เดินไปยังห้องตีเหล็กที่เขาเห็นแมรี่กำลังตีอะไรบางอย่างขึ้นมาอยู่
แมรี่นั้นเป็นเด็กสาวที่ดื้อรั้นอย่างมาก เธอนั้นรู้ว่า มีเหตุผลเพียงเหตุเดียวที่พวกเธอสามคนนั้นสามารถเข้าร่วมนิกายซวนเฉินมาได้นั้นเป็นเพราะหลี่ซัว ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะพูดตลกอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับการหาชายที่ร่ำรวยมาดูแลเธอ ที่จริงแล้วการพึ่งพาใครบางคนอื่นนั้นทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาด
ด้วยเหตุนี้นี่เอง แมรี่จึงฝึกฝนการตีอาวุธมาตลอดตั้งแต่ที่เธอเข้าร่วม หวังไว้สักวันหนึ่งว่าเธอนั้นสามารถที่จะพิสูจน์ถึงคุณค่าของเธอได้
มันไม่มีทางลัด ถ้าใครบางคนต้องการที่จะฝึกฝนอาชีพรองของพวกเขา มีเพียงทางเดียวสำหรับผู้เล่นนั้นก็คือการสร้างผู้เล่นขึ้นมาซ้ำๆ มีเพียงหลังจากที่สร้างอุปกรณ์ระดับสูง พวกเธอจึงสามารถได้รับค่าประสบการณ์ของอาชีพได้
เนื่องจากเหตุนี้ ผู้เล่นที่ฝึกฝนอาชีพรองของพวกเขาไปจนถึงระดับสูงนั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยาก อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กสาวเหล่านี้ พวกเธอนั้นไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้ที่ดีสักเท่าไหร่ การฝึกฝนอาชีพรองของพวกเธอนั้นง่ายดายมากกว่าเยอะ
ห้องตีเหล็กในสำนักงานกิลด์นั้นไม่ได้จำเป็นที่จะต้องมีการเช่าหรือรอคิวเป็นเวลานานเพื่อใช้มัน เมื่อแมรี่นั้นเบื่อหรือเหนื่อย เธอก็สามารถออกไปเดินยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยและหลังจากนั้นก็กลับมาตีเหล็กต่อได้ ในตอนนี้นั้น แมรี่ก็ได้เลื่อนระดับมาจนถึง [การตีเหล็กระดับกลาง]
เมื่อเห็นหวังหยู่เดินเข้ามา แมรี่ก็ปาดเหงื่อบนหน้าผากและทักทาย “สวัสดีคุณเจ้าของบ้าน! คุณมาทำอะไรที่นี่กันในวันนี้?”
“มาเดินเล่น เธอกำลังสร้างอะไรอยู่งั้นเหรอ?”หวังหยู่ถาม
“สร้างเกราะ! เมื่อฉันทำชิ้นนี้เสร็จ ฉันก็จะกลายเป็นช่างตีเหล็กระดับกลาง!”แมรี่ตอบกลับอย่างมีความสุข
ใน {REBIRTH} สกิลที่สำคัญที่สุดที่สร้างเกราะหนักและอาวุธนั้นก็คือ [ตีเหล็ก]
“โอ้!”หวังหยู่พยักหน้า ในความเป็นจริง หวังหยู่นั้นไม่เข้าใจถึงกระบวนการของอาชีพรอง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ถึงความยอดเยี่ยมของช่างตีเหล็กระดับกลาง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ดูแมรี่ขยันขันแข็งและทำให้แร่เหล็กละลายลงและก็ทุบมันจนเป็นรูปเป็นร่าง หวังหยู่นั้นก็หยิบคริสตัลใสของเขาออกมาและเขาก็วางมันลงตรงโต๊ะทำงาน
มันเป็นคริสตัลลึกลับที่หวังหยู่นั้นได้รับมา มันพึ่งะกลายเป็นไอเทมที่เขาสามารถใช้งานได้
“นี่มันคืออะไร?”แมรี่เงยหน้าขึ้น เมื่อเธอเห็นคริสตัลที่สวยงาม สำหรับการเป็นเด็กสาว แมรี่นั้นก็ชื่นชอบอัญมณีพวกนี้ ถ้าคริสตัลนี้อยู่ในมือของเธอ มันสามารถที่จะมีคุณค่ามากกว่าเมืองทั้งเมืองรวมกัน แต่เธอก็ไม่ได้ยอมแพ้
“คริสตัลลึกลับ!”หวังหยู่ตอบกลับแล้วเขาก็ส่งรูปภาพคำอธิบายของมันให้เธอ
เมื่ออ่านคำอธิบายแล้ว แมรี่ก็ตระหนักได้ว่ามันเป็นไอเทมที่ไม่สามารถใช้ได้ในการสร้าง แล้วเธอก็รู้สึกสูญเสียเล็กน้อยแล้วเธอก็พึมพำ “ของสิ่งนี้มันไม่ใช้ไม่ได้…”
“มันอาจจะไร้ประโยชน์สำหรับเธอ แต่มันไม่ใช่สำหรับฉัน!”หวังหยู่ตอบกลับแล้วเขาก็วางคริสตัลไว้บนโต๊ะและหยิบกล่องเครื่องมือออกมา