บทที่ 3: จุดเริ่มต้น (3)(ฟรี)
คาบเรียนกำลังจะจบลงแต่กาเร็นก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเพิ่มสถานะใดเมื่อมาถึงจุดนี้ในที่สุดเขาก็เชื่อว่าความสามารถเหนือธรรมชาตินี้เป็นจริง
"กริ๊งงงงงงงงง"
หลังจากเสียงระฆังของโรงเรียนดังขึ้นครูมารยาทเก็บกล่องและเดินออกจากไป ห้องเรียนจากที่นังเรียนนั่งอยู่เงียบๆกลายเป็นความสับสนวุ่นวาย
กาเร็น ยังนั่งอยู่ในโต๊ะของเขาตกใจกับความยุ่งเหยิงเขายืดหลังของเขาและถอนหายใจออกอย่างโล่งใจ ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าหน้าท้องของเขาร่วงลงอย่างรวดเร็วและปกคลุมด้วยมือของเขา รู้สึกหิวไม่เคยรู้สึกมาก่อนมาจากท้องของเขา
เขาก้มลงมองไปรอบ ๆ เพื่อตรวจดูว่าไม่มีใครมองเขา เขาเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าของเขาและหยิบกระเป่าออกมาทำ การนับเงินกาเรน ถึงกับถักคิ้วเล็กน้อย
"มีแค่ 15 เหรียญที่จะใช้ได้หรอเนี่ยแล้วฉันจะมีพอใช้สำหรับหนึ่งสัปดาห์นี้ไหม นอกจากนี้ฉันจำได้ว่าทานอาหารเช้าไปแล้วด้วย แต่เมื่อศักยภาพถึง 100% มันก็เริ่มรู้สึกหิวอีกครั้ง ดูเหมือนว่าศักยภาพไม่ใช่แค่การระบายพลังงานจากอัญมณีเท่านั้น แต่ยังมาจากระบบย่อยอาหารของร่างกายอีกด้วย "
ในขณะนั้นมีก็คนมาจับเขาที่ไหล่ "กาเร็น นายจะเอาอะไรจากโรงอาหารไหม"เสียงชายหนุ่มมาจากข้างหลังเขา
กาเร็น หันกลับไปและเห็นมือขาวผิวของเด็กชายที่ตกกระหอบวางบนไหล่ของเขา
"อะไรนะ" กาเรนตอบกลับ
กาเร็นหันไปถาม เด็กชายชื่อ ไค หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของกาเรน
"สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโรงอาหารมีชามะลิและติ่มซำ ฉันสงสัยว่าเมนูอะไรในวันนี้ " วัยรุ่นอีกคนหนึ่งมาสมทบกับพวกเขาและพูดต่อว่า "ถ้าพวกเขายังคงมีแยมผลไม้สีม่วงเข้มแบบพิเศษอยู่ฉันก็สั่งมัน"
"เอาล่ะฉันจะเอานมแพะสำหรับทุกคนแต่ทุกคนต้องเอาเงืนมาให้ก่อนคนละ 5 เหรียญต่อคน " ไค พูดขึ้นขณะที่ยื่นมือออกมานักเรียนทุกคนมีนิสัยชอบดื่มนมแพะร้อนก่อนรับประทานอาหารกลางวัน
ทันทีที่ ไค เอื้อมมือออกไปมีนักเรียนอีกหลายสิบคนมารวมกันอยู่รอบ ๆ ตัวเขาหลังจากที่อื่นวางธนบัตรเงินห้าเหรียญไว้ในมือ
"ฉันเอาด้วย!"
"พวกเราก็จะเอาด้วยเหมือนกัน"
"พวกฉันด้วยสิ"
นักเรียนส่วนใหญ่จะขี้เกียจเดินไปโรงอาหารเอง เมื่อมีตัวแทนเสนอตัวจะไปให้ทุกคนจึงรีบตะโกนบอก
ไค นับเงินเสร็จ"มีเงินนี่สำหรับสิบสองคน กาเร็น นายจะไม่เอาน้ำแพะหรอแต่ถ้านายอยากได้อย่างอื่นก็บอกได้นะ ฉันเอามาให้ได้"
"ไม่เป็นไรฉันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่แล้วอีกอย่างฉันไม่ค่อยชอบนมแพะด้วย" กาเร็น รีบปฏิเสธเขาแกล้งทำเป็นเป็นไม่สนใจ แต่ความจริงก็คือเขาไม่มีเงินดังนั้นแม้ว่าเขาจะหิวก็ตามเงินจำนวนเล็กน้อยที่เขามีจะถูกใช้ไปในสิ่งสำคัญมากกว่าหลังจากที่ทุกอย่างกาเร็นคนเก่าเคยใช้ข้ออ้างที่เป็นข้ออ้างในการไม่ซื้อนมดังนั้นคนใหม่เพียงแค่ทำตามเขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามไคก็ยังไม่เชื่อเขาพยายามให้กาเร็นกินนมแพะให้ได้"ไปด้วยกันสิ ฉันว่านายต้องชอบมันแน่นอน"
"ไม่เป็นไรฉันไม่ชอบมันจริงๆ" กาเร็น ปฏิเสธอีกครั้ง
"ลองดูสิมันเยี่ยมมาก!"
"ขอบคุณแต่ฉันโอเค พวกนายไปกันเถอะ "
"โอเค ตามใจนาย" ไค ยักไหล่และวิ่งออกจากห้องไป
หลังจากนั้นไม่นานนักเรียนในห้องก็มีกล่องนมแพะไว้ในมือขณะที่ กาเร็น ต้องแกล้งทำเป็นว่าเขากำลังทำงานของโรงเรียนเขาก้มหัวลงและเริ่มจดบันทึก ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขาเริ่มออกกำลังกายบ่อยขึ้น จำนวนเงินที่เขามีมันไม่เพียงพอต่อค่าอาการที่ฟุ้มเฟือย ขณะที่เขาได้กลิ่นหอมของน้ำพุร้อนท้องของเขาก็เริ่มโผงอีกครั้ง โชคดีที่เสียงท้องร้องดังขึ้นและไม่มีใครได้ยิน เขาส่ายศีรษะหมดหนทางจากนั้นก็สังเกตเห็นสาวที่อยู่ด้านขวาของเขา ไอเฟย
เช่นเดียวกับเขา ไอเฟย กำลังแกล้งทำเป็นอ่านหนังสือด้วยการลดศีรษะ ของเธอลงและพยายามหยุดอาการท้องร้อง
ไอเฟย ดูเหมือนจะสังเกตเห็นบางคนจ้องมองมาเธอจึงเงยหน้าขึ้นมามองกลับ เมื่อสายตาของพวกเขาได้พบทั้งกาเร็นและไอเฟยจึงเกิดอาการหน้าแดงพวกเขาเข้าใจอย่างคร่าวๆว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันและทำให้ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสอง
หลังจากเพื่อนในห้องดื่มนมแพะแล้วกาเร็นกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ก็เดินไปที่โรงอาหารด้วยเสียงหัวเราะและพูดคุยกันตลอดทาง
โรงอาหารตั้งอยู่ตรงกลางของสถาบันการศึกษาล้อมรอบด้วยหอพักนักเรียน มันมีรูปร่างของโดมสีดำและแต่ละด้านที่มีทางเข้า นักเรียนได้เข้าและออกตลอดประตู เมื่อเข้ามาก็สามารถกได้กลิ่นหวานของเค้กและขนมปังเสียงพูดคุยมากมายในโรงอาหารดังขึ้นเรื่อยๆยิ่งเดินเข้าใจศูนย์กลางโรงอาหารกาเรนได้รับอาหารฟรีจากคนรู้จักจึงช่วยให้ความหิวที่เกิดก่อนหน้านี้หายไป
หลังจากที่ฝูงชนออกจากโรงอาหารกาเร็นเงยหน้าขึ้นมอบนท้องฟ้าดวงอาทิตย์สว่างส่องลงบนใบหน้าและรู้สึกแสบร้อน "สถาบันแห่งนี้เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงติด 1 ในร้อยของประเทศ สถาบันขุนนางฉินหยิง แต่ตารางช่วยบ่ายกับไม่มีคาบเรียนต่องั้นเราก็คงสามารถไปหาที่ลองทดสอบประสิทธิภาพของความสามารถของเราได้สินะ "
กาเร็นมองไปที่ค่าสถานะต่างๆที่แสดงขึ้นตรงมุมล่างของวิสัยทัศน์ของเขาและพยายามเริ่มเรียกคืนข้อมูลทั้งหมดที่เขามีเกี่ยวกับสถานที่ที่เงียบสงบเพื่อปกปิดความสามารถพิเศษนี้ไม่ให้ใครรู้ "เราจำเป็นต้องตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายในเมืองนี้" กาเร็นมองไปรอบๆพร้อมใช้ความคิดและความทรงจำของคนกาเรนคนเก่า เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้วกาเรนก็เดินเข้าไปในซอกตึกก่อนจะหายตัวไป
********************
ในย่านทางใต้ถัดจากถนนทางตะวันตกขอ สถาบันขุนนางฉินหยางที่มีชื่อเสียงมีลานขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยไม้เรดวู้ดด้านหน้าลานมีบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ด้านหลังมีลานฝึกขนาดใหญ่สองแห่ง
ที่มุมของสนามฝึกสีเหลืองทางด้านซ้ายเด็กหนุ่มบางคนในเครื่องแบบสีเหลืองกำลังตีหุ่นภายใต้ร่มเงา เสียงกระทบจากเสียงดังกระหน่ำอย่างไม่หยุดหย่อน ชายหนุ่มคนหนึ่งในเครื่องแบบสีขาวกำลังเดิน อยู่บนขอบด้านนอกของบริเวณใต้ร่มเงาของต้นไม้รอบ ๆ เขามีผมสีม่วงและตาสีแดงไวน์แดง เป็นกาเร็นนั้นเองที่เดินมายังลานฝึกแห่งนี้ หลังจากที่เดินตามหาสถาที่ที่เหมาะกับการทดสอบความสามารถพิเศษคนตนที่ได้รับมา
ที่ลานแห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกการต่อสู่ที่อยู่ใกล้ๆกับสถาบันขุนนางฉินหยิน กาเรนไปมองที่เพื่อนๆ2ที่กำลังเข้าร่วฝึกศิลปะการต่อสู้ กาเร็นสังเกตเห็นว่านักเรียนฝึกซ้อมที่นี่ทุกคนมีร่างกายแข็งแรงและมีทักษะการต่อสู้ที่ดี
กาเร็นกำลังทดลองซ้อมตีหุ่นที่มีลักษณะรูปร่างคนส่วนประกอบต่างๆจะมีเนื้อสีเหลืองติดทุกส่วนของตัวหุ่น ทำให้ถึงแม้จะต่อยเต็มแรงยังไงก็ไม่ส่งผลให้ผู้ที่ทำการโจมตีหุ่นได้รับบาดเจ็บใดๆ
หลังจากซ้อมได้ไม่นานกาเร็นก็หยุดพัก "ตามความทรงจำของกาเร็นในอดีตตัวกาเร็นเองไม่ได้แข็งแรงมากเท่าไหร่นัก แต่ก็มักมาซ้อมมือกับหุ่นที่ลานฝึกซ้อมที่นี้ตลอดเขาได้ฝึกเทคนิคการต่อสู้พื้นฐานของ สำนักเมฆสวรรค์ อย่างไรก็ตามความสามารถและร่างกายของเขาแย่มาก ในโลกนี้ที่คนไม่มีความสามารถพิเศษอะไรจะไม่มีความหมายหากร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป "
กาเร็นลองทดสอบกระบวนท่าพื้นทางต่างๆกับหุ่นซ้อม นั้นทำให้กาเรนคิดได้ว่า"นี้เป็นท่าขั้นพื้นฐานของพื้นฐานในการฝึก คนที่สอนเทคนิคนี้มักเป็นสาวกของสำนักเมฆสวรรค์ ที่เป็นคนที่สอนเรา" ดวงตของกาเร็นมองไปที่ชายหนุ่มในเครื่องแบบสีขาวคือ ลู่หยาง และมีสาวอีกคนหนึ่งชื่อ ซาไมร่า "
"เทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานที่ฉันเรียนรู้ควรจะดีพอ แต่ร่างกายของเราอ่อนแอเกินไปทำให้เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะโดดเด่นท่ามกลางคนอื่น ๆ "
กาเร็นมีบางอย่างที่วางแผนไว้ในใจของเขาขณะที่กำลังคิดถึงแผนนี้เขาเริ่มออกกำลังกายอีกครั้งตามที่เขาวางขั้นตอนการฝึกฝนไว้ในใจ
สองสามนาทีต่อมาจากด้านข้างของสนามฝึกซ้อมหญิงสาวคนหนึ่งในชุดสีขาวกับผมหางม้าเดินไปหาลู่หยางซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางนักเรียน ลู่หยางเมื่อเห็นคนรู้จักเดินเข้ามาจึงได้เดินออกไปหา
สาวผมหางม้าในเครื่องแบบสีขาว ซาไมร่านั้นเองที่ตอนนี้กำลังพูดคุยกับลู่หยาง นักเรียนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับเธอจึงไม่มีใครซักถามเรื่องที่อยู๋ลู่หยางแยกตัวไปคุยกับเธอ
กาเร็นเหลือบมองไปที่ ซาไมร่า เธอสูงและมีเอวบางเฉียบมีผิวขาวและมีเสน่ห์ ด้วยการเคลื่อนไหวด้วยท่าทางต่างๆของเธอทำให้หน้าอกของเธอที่มีขนาดที่ใหญ่เด้งไปมาตามการเคลื่อนไหวของเธอ
ทำให้นักเรียน บางคนที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ต้องหยุดมอง หนึ่งในนักเรียนที่กำลังฝึกซ้อมพูดขึ้น "ที่ฉันมาซ้อมที่นี้ก็เพราะเธอเนี่ยแหละ"
"ใช่ ซาไมร่าคือสิ่งที่ทำให้ฉันมีแรงมนการฝึกซ้อม" เด็กสองคนข้างกาเรน พึมพำแต่สำหรับกาเรนแล้วการฝึกในตอนนี้สำคัญที่สุด"ฉันไม่ได้มาที่นี้เพื่อดูสาวสักหน่อยแต่ ฉันมาที่นี่เพื่อฝึกทักษะการต่อสู้ " กาเรนตอบกลับ
"เอาล่ะเลือกคู่หูและขอเริ่มฝึกซ้อมแบบตัวต่อตัว เราจะจัดอันดับกันแล้ว หากใครได้ที่แพ้การประลองจะต้องทำความสะอาดในวันนี้ " ซาไมร่า ประกาศเสียงดังเพื่อทุกคนในสนามฝึกได้ยิน ถึงการจัดอันดับในวันนี้
การเคลื่อนไหวของกาเร็นยังไม่ดีพอที่จะสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งในการจัดอันดับได้ ที่ผ่านมากาเร็นจะต้องเป็นคนทำความสะอาดลาดฝึกนี้อยู๋เสมอเขาเป็นคนที่ต่อสู้ได้แย่ที่สุดในหมู่เพื่อนที่มาฝึกการต่อสู้ที่นี้
ซาไมร่าตรวจสอบนักเรียนแล้วก็พยักหน้าพอใจกับความกระตือรือร้นที่กำลังเติบโตในสายตาของพวกเธอ"เทคนิคการต่อสู้ของสำนักเมฆสวรรค์ของเราทำได้ง่ายแต่มีประสิทธิภาพแม้แต่คนธรรมดาก็สามารถใช้กำลังได้ถึง 1.5 เท่ามากกว่าพลังเดิมของเขาหากพวกเขาใช้เทคนิคนี้ แต่เพียงห้าคนเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ เราจะคอยดูพวกเขาอีกสักสองสามวัน แต่ถ้าไม่มีใครดีขึ้นเราจะต้องเลือกสองในห้าคนนี้และสอนเทคนิคที่สูงกว่านี้ยิ่งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนพัฒนาต่อไป "
เป็นที่ชัดเจนสำหรับเธอ ไม่ว่าเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานจะมีประสิทธิภาพมากเพียงใด แต่ประสิทธิผลของการขยายกำลังให้มากที่สุดคือ 1.5 เท่าและผลการฝึกอบรมยังมีข้อ จำกัด มาก นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดาที่สามารถใช้เทคนิคนี้ได้ เฉพาะผู้ที่มีความสนใจอย่างแท้จริงในศิลปะการต่อสู้และมีความเพียรที่ยิ่งใหญ่สามารถก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นหนึ่งในขณะที่คนอื่นๆ ก็ไม่ได้มีจิตตานุภาพเพียงพอที่จะฝึกศิลปะขั้นสูง ส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้เพื่อเลือกนักเรียนที่มีพรสวรรค์ในการฝึกอบรม
กาเร็นเริ่มเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นโดยการทบทวนเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานและทำให้ร่างกายร้อนขึ้นขณะที่กำลังดูค่าสถานะต่างๆ"เราควรจะสามารถใช้เทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเพื่อฝึกร่างกายของฉันขณะที่เร่งการเติบโตของเราด้วยความช่วยเหลือของการปรับปรุงค่าสถานะ ด้วยวิธีนี้เรามีความเชื่อว่าจะไม่มีใครสามารถเอาชนะในการฝึกอบรมได้ ตอนนี้สงสัยก็แค่เราจำเป็นต้องอัพค่าสถานะมากขนาดไหนถึงจะส่งผลต่อร่างกาย"
กาเร็นมองค่าสถานะทั้งหมด ความแข็งแกร่ง 0.31 ,ความว่องไว 0.22 กำลังกาย 0.27 สติปัญญา 0.32 ค่าประสบการณ์ 100% โฟกัสของ กาเรน เปลี่ยนไปมาทั้งห้าแบบนี้ แต่ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยความจำของเขาปรากฏตัวดังนั้นเขาจึงหยุดลง
"เอาล่ะมาเริ่มกันเถอะ" เสียงของ ซาไมร่า ตะโกนออกมา