ตอนที่51 งานเข้า
เพื่อที่จะสมัครเข้าเป็นตำเเหน่งข้าราชการในสถาบันรัฐบาล บุคคลนั้นต้องได้รับการสอบเข้า มันมีบางบริษัทเเละบางตำเเหน่งเหมือนกันที่ไม่ต้องการการสอบเข้าสำหรับคนที่มีความสามารถพิเศษ เเต่ถึงอย่างงั้น ตอนที่มหาลัยรัฐหรือโรงพยาบาลของรัฐหรือองการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต้องการหาพนักงานระดับสูงหรือพวกเเรงงานตัวท๊อปเเล้วละก็ พวกเขาก็จะช่วยจัดสรรบุคลากรให้ด้วย อย่างเช่น ให้ที่อยู่ ให้งานกับภรรยาพนักงานย้ายโรงเรียนให้ลูก เเละอื่นๆ
การเป็นโค้ชก็ต้องอาศัยทักษะพิเศษเหมือนกัน ทุกปีทางทีมกีฬาเขตจะมีการคัดตัวเข้าทำงานเเบบไม่ต้องสอบสำหรับผู้มีทักษะคนใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น ทีมกีฬานี้เป็นของสมาคมการกีฬา ซึ่งเป็นสถาบันของเขต การทำงานเป็นโค้ชของทีมเป็นการยกระดับตัวเองเป็นโค้ชระดับประเทศของทีมกีฬา
เมื่อโค้ชซูบอกว่าเขาสามารถเเทรกเเซงกระบวนการการรับสมัครพนักงานเข้าทีมกีฬา เขาไม่ได้โม้เลยเเม้เเต่น้อย บางทีสำหรับใครบางคนมองว่าการเป็นโค้ชอาจจะไม่มีค่าสำหรับโลกความเป็นจริง เเต่เอาจริงๆเเล้วมันตรงกันข้ามกันเลย โดยเฉพาะกับคนที่กลายมาเป็นหัวหน้าโค้ชเขาควบคุมสั่งการหลายๆอย่างด้วยตัวคนเดียวเเละมีพลังมากกว่าที่คนธรรมดาคิด
คิดถึงโค้ชจากทีมชาติซิ พวกเขาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ขับรถหรูใช้ชีวิตอย่างราชา
โค้ชซูก็เป็นถึงหัวหน้าโค้ชของทีมว่ายน้ำเขต เเล้วเขาเองก็เป็นคนที่ช่วยให้หยูเฟ่ยเฟ่ยเติบโตมาเป็นเเชมป์โลก ทั้งประเทศนี้มันมีเเชมป์โลกเเค่ไม่กี่คน เเล้วจากในนั้น จะมีเเค่คนเดียวในหลายๆเขตที่เป็นเจ้าของสถิติโลก ซึ่งมันมีน้อยยยยมากๆ เพราะอย่างนั้น โค้ชซูจึงเป็นตัวท๊อปในบรรดาโค้ชทุกคนในเขตฮั่นเบ ทำให้เขาดูน่าเคารพ เเละมีอำนาจมากๆ
โค้ชซูอาจจะไม่ได้มีอำนาจมากพอที่จะสั่งให้เเต่งตั้งใครซักคนมาทำงานเลยก็จริง เเต่เขาสามารถเเนะนำคนที่มีความสามารถให้กับเบื้องบนพิจารณาได้ ถ้าเป็นโค้ชคนอื่นเเนะนำอาจจะโดนเมินได้ เเต่นี้คือโค้ชซู คำของเขาค่อนข้างมีพลังอยู่เขาเป็นคนที่โค้ชให้กับนักว่ายน้ำอันดับต้นๆของโลกซึ่งทำให้เห็นถึงความสามารถในการมองคนเก่งของเขา คำเเนะนำของเขาเลยมีน้ำหนักมากๆ
สถานะทางสังคมก็มีส่วนเกี่ยวเหมือนกัน ยกเอานิยายออนไลน์เป็นตัวอย่าง สมมุติว่ามีมือใหม่เขียนนิยายเเละได้รับคำชมเเละเเนะนำจากนักเขียนชื่อดังเเล้วละก็ ทั้งคนอ่านเเละก็นักเขียนคนอื่นก็จะเริ่มพิจารณาพวกเขามากขึ้น เเต่ถ้าคนเเนะนำไม่ดังมากพอ การเเนะนำนั้นก็จะไม่มีความหมาย
...
โค้ชซูรู้ดีว่าถ้าหลี่ไต้ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย หยูเฟ่ยเฟ่ยอาจจะโดนทำลายย่อยยับไปเเล้ว เเละเพื่อตอบเเทนหลี่ เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้สำเร็จ เขาใช้ชื่อเสียงของเขาให้เป็นประโยชน์ เเล้วหลังจากนั้น ซูก็ได้รับข่าวดี คำเเนะนำของเขา มีค่าอย่างมากต่อรองผอ.ของกระทรวงการกีฬาฝ่ายบริหารย่อย
วันต่อมาซูอยากเข้าไปพบรองผอ.คนนั้น
"ซู ผมรู้ว่าผมเชื่อคุณได้นะ เเต่หลี่ไต้คนนี้ เขาเด็กไปนะ! จากประวัติของเขา เขาพึ่งเรียนจบเมื่อปีที่เเล้วนี้เอง!" รองผอ.พูด
"ผอ.ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นนะครับ ผมใช้เวลาในการเเนะนำเขาเพราะว่าเขายังหนุ่มอยู่เเล้วเขาก็ควรค่าเเก่การปลูกฝัง เหมือนกับเฟ่ยเฟ่ย ผมรับเธอเข้ามาตอนเธออายุเเค่5ขวบ เเล้วจากนั้น ตอนเธออายุ14เธอก็กลายเป็นเเชมป์โลก"ซูหยุดซักพัก เเล้วพูดต่อ
"ตามที่ผมได้ยินมา หลี่ไต้คนนี้ก็ไม่ได้เข้าสมัครเเบบขั้นตอนปรกติตอนที่เข้ามหาลัยกีฬา เขาถูกดึงตัวเข้ามาโดยโค้ชเฉินหยูจิน คุณก็คงรู้ว่าถ้าเฉินชอบเขา เเสดงว่าเขาก็ต้องไม่ธรรมดาเหมือนกัน"รองผอ.พยักหน้าเข้าใจ เขาก็รู้จัดโค้ชเฉินดี ถ้าเฉินถึงขนาดเห็นความสามารถของหลี่เเล้วพาตัวเขามาถึงเมืองเฉิงตู ควบไปพร้อมกับคำเเนะนำจากซู งั้นนี้ก็คงพิสูจน์ได้เเล้วว่าหลี่คนนี้ คู่ควรจริงๆ
รองผอ.เงียบอยู่หลายวินาที ก่อนจะถามซู
"ผมเห็นในประวัติงานของหลี่ ในช่องความสามารถพิเศษ ที่ว่าช่วย"รักษาน้ำหนัก"มันหมายความว่ายังไง
"มันคือ"การช่วยรักษาระดับของน้ำหนักนักกีฬาครับ" โค้ชซูลังเลซักพักก่อนจะโน้มตัวมาหารองผอ. เเล้วพูด "ผอ.ครับผมมีบางเรื่องที่ต้องรายงานกับคุณครับ คุณได้ยินเรื่องเรื่องเมื่อหลายวันก่อนรึเปล่าครับ เรื่องที่ว่าเฟ่ยเฟ่ยจะถูกทีมชาติไล่ออกหน่ะครับ?"
"ใช่ ผมเห็นข่าวเเล้ว มันเป็นเเค่ข่าวลือไม่ใช่รึไง? คุณเองเป็นคนให้ข่าวนี้เองนะ"รองผอ.พูด
โค้ชซูเบาเสียงลง
"เอาจริงๆเเล้ว ไม่ใช่ข่าวลือทุกเรื่องที่ผิดหรอกครับ มันมีบางส่วนที่เป็นเรื่องจริง"
"หมายความว่ายังไงหน่ะ"รองผอ.ขมวดคิ้วสงสัย
"เรื่องที่ว่าน้ำหนักเธอขึ้นไปเกิน70กิโลเป็นเรื่องจริง เเละไม่มีใครที่ช่วยเธอลดได้นอกจากหลี่ไต้คนนี้เเหล่ะครับ เขาช่วยให้เธอลดน้ำหนักไปได้7กิโลกว่า! นั้นเป็นสาเหตุที่ผมกล้าให้เฟ่ยเฟ่ยชั่งน้ำหนักต่อหน้านักข่าว หลี่เป็นคนที่เก่งเรื่องนี้ดูเเลน้ำหนักนักกีฬาจริงๆครับ" ซู โน้มตัวไปข้างหน้าอีกครั้งเเล้วพูด
"ตอนที่ผมคุยกับหัวหน้าโค้ชที่ชาติฮั้วตงหลาย ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าศูนย์การจัดการว่ายน้ำจะจัดการประชุมในเวลาเดียวกับที่ผมเเถลงข่าว เเล้วหัวข้อหลักที่พิจารณากันคือเรื่องที่ว่าพวกเขาควรจะไล่หยูเฟ่ยเฟ่ยออกดีไหม"
"ทำไมเรื่องราวมันบานปลายใหญ่โตอย่างนั้นละ" รองประธานเกรี้ยว "เฟ่ยเฟ่ยหน่ะเป็นเหมือนทองคำในเขตเราเลยนะ เเล้วก็เป็นคนที่ครองสถิติโลกคนเดียวในเขตนี้ด้วย เธออายุยังไม่ถึง20เลยนะ ถ้าเธอโดนไล่ออก อนาคตเธอถูกทำลายเเน่นอน"
โค้ชซูพูด "โชคดีที่เราได้หลี่ไต้คนนี้เเหล่ะครับ เขาช่วยให้เฟ่ยเฟ่ยลดน้ำหนักลงได้สำเร็จไม่งั้นมันต้องเป็นปัญหาใหญ่เเน่ๆเลยครับโค้ชฮั้วจากทีมชาติถามผมเกี่ยวกับวิธีการลดน้ำหนักที่เราใช้เเล้ว เเต่ผมไม่ได้บอกเขาผมไม่อยากให้หลี่ไปอยู่ทีมชาติ"
โค้ชซูทำเหมือนกับว่าหลี่ดังมากถึงขนาดถ้าทีมเขตไม่คว้าไว้ตอนนี้ทีมชาติก็ต้องฮุบเอาไปเเน่ๆ
รองผอ.ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงเเรงกดดัน เขาบอก "โค้ชมืออาชีพหลายๆคนในทีมชาติพยายามจะลดน้ำหนักหยูเฟ่ยเฟ่ย เเต่ทำไม่สำเร็จซักทาง เเต่เด็กหนุ่มคนนี้เก่งขนาดที่ทำสำเร็จได้ เขาคู่ควรเเละควรค่ากับการปลูกฝังมาก เรามีที่สำหรับพนักงานใหม่พอดี เอางี้ไหม ผมจะเก็บประวัติของพ่อหนุ่มคนนี้ไว้เเล้วผมก็จะเสนอ
กับทางหัวหน้าในที่ประชุมวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ผมจะเเจ้งผลให้ทราบนะครับ"
ได้ยินอย่างนี้เเล้วโค้ชซูรู้สึกมั่นใจในทันที ว่าเมื่อไหร่ที่ชื่อของหลี่ถูกเสนอเข้าที่ประชุมเเล้ว มันก็มีโอกาส80%ที่เขาจะได้งานเเล้วละ
...
หลี่ไต้นอนอยู่บนเตียงอ่านนิยายออนไลน์บนมือถือของเขาเพลินๆก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น
"โค้ชซูนี้"หลี่รับโทรศัพท์ทันที
"น้องชาย พี่มีข่าวดีจะมาบอก นายได้งานเเล้ว! ทุกอย่างเรียบร้อย อนุมัติเเล้วด้วย! วันจันทร์หน้าเอาบัตรประชาชนกับบัตรนักศึกษามาลงทะเบียนที่เเผนกกีฬาของเขตนะ" โค้ชซูบอก
"นั้นมันเยี่ยมมากเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยนะครับโค้ชซู!" หลี่โดดลงจากเตียง คำว่าได้งานเเล้วผลักดันเขามากๆ
ซูพูดต่อในโทรศัพท์ พวกเขาให้ตำเเหน่ง โค้ชฝึกกายภาพกับนาย นั้นหมายความว่านายอาจจะถูกโยกย้ายไปอยู่ทีมไหนก็ได้ เเต่ฉันเชื่อนายนะ นายทำได้อยู่เเล้วไม่ว่าอยู่ไหนก็ตาม!"