ตอนที่ 50 - เปิดใช้สกิลเรือ
ไปทำภารกิจเสี่ยงตายในหนังกันเถอะ ตอนที่ 50 - เปิดใช้สกิลเรือ
กัปตันอัมมานนั้นสงสัยในคำพูดของชีหยาน ที่อ้างตนว่าเป็นกะลาสีเรือจากตะวันออก แต่เมื่อเขาเห็นว่าชีหยานสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว ความสงสัยส่วนใหญ่ก็จางหายไป ---นั่นก็เพราะว่าคนที่โกหกว่าเป็นกะลาสีเรือ ไม่มีทางที่จะทำงานได้อย่างคล่องแคล่วขนาดนี้!
ส่วนคริสผู้โชคร้าย ที่อาการบาดเจ็บของเขายังไม่หายดี ได้ถูกคลื่นทะเลที่เข้ามากระแทกเรือ จนทนไม่ไหว เขาอาเจียนออกมาไม่หยุด ก่อนที่จะหมดสติไป --- โชคดีที่ชีหยานได้ประกาศว่าคริสนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องและเป็นผู้มีพระคุณต่อเขา ไม่อย่างงั้นคริสคงถูกจับโยนลงทะเลไปแล้ว
ลมทะเลค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ คลื่นทะเลทำให้เรือเบลแอนมัคเคลื่อนที่ในลักษณะขึ้นและลง ถ้าหากมองจากในมุมสูงเหมือนในมุมมองของนก จะเห็นว่าเรือเบลแอนมัคและลูกเรือกว่า 200 คน นั้นเปรียบเหมือนกับมดที่ลอยคออยู่บนใบไม้ ท่ามกลางทะเลอันไร้ที่สิ้นสุด
ในเวลานี้ ได้มีแสงสว่างวาบขึ้นกลางท้องฟ้าที่อยู่ไกลออกไป มันสว่างวาบทะลุก้อนเมฆราวกับสายฟ้าฟาด ส่องลงมากระทบผิวของพวกเขา
ทันใดนั้นโจรสลัด วัตต์ ที่ยืนอยู่บนจุดสังเกตการ ก็ได้ตะโกนออกมาว่า
“ข้อความจากเรือฟลายอิ้งดัชแมน!”
“ศัตรูอยู่ทางฝั่งตะวันตก ห่างออกไป 11 ไมล์!”
ชีหยานจ้องมองแสงสว่างวาบที่อยู่บนท้องฟ้า ในตอนที่อยู่ในร้านเหล้า เขาได้ยินมาว่า เรือควีนแอนน์รีเวนที่คุมโดยแบล็คเบียร์ดที่เชี่ยวชาญมนต์ดำ บางทีก็ใช้แสงที่สว่างวาบบนท้องฟ้า เป็นการสัญญาณเตือนของพวกเขา แต่เวทมนต์นี้ ก็ไม่ได้มีไว้ใช้โจมตี มันเป็นแค่เพียงพลุขนาดใหญ่เท่านั้น ในไพเรตภาค4 แบล็คเบีร์ยดนั้นสามารถเก็บเรือแบล็คเพิร์ลไว้ในขวดเหล้ารัมได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงพลังมนต์ดำอันแข็งแกร่งของเขา
เมื่อเห็นพลุสัญญาณ ร่างกายของอัมมานก็พลันบิดเกร็ง ก่อนที่จะสวมหมวกกัปตัน จากนั้นก็ดึงดาบออกจากเอวแล้วตะโกนก้องว่า
“หันหางเสือไปทางซ้าย และมุ่งหน้าเต็มกำลังไปยังตะวันตก!”
อัมมานในตอนนี้เต็มไปด้วยรัศมีเจิดจ้า เมื่อเขาออกคำสั่ง พร้อมกับชูดาบขึ้น เรือทั้งลำก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวจางๆ
นี่จะต้องเป็นสกิลพิเศษของเรือ : wind slide ที่ถูกเปิดใช้งานแน่ๆ --- ทันใดนั้นใบเรือรับลมได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับหันหัวเรือไปทางตะวันตก ความเร็วของเรือเพิ่มขึ้นอย่างมาก! จากการณ์คาดคะเนของชีหยาน เรือลำนี้แล่นเร็วขึ้นอย่างน้อยก็ 30%!
แต่เมื่อเรือเบลแอนมัคแล่นเข้าสู่สนามรบ พวกเขากลับพบว่ามีเรือหลายลำได้มาถึงก่อนแล้ว! ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าเรือที่มาถึงลำแรกนั้นคือเรือแบล็คเพิร์ล! ตามมาด้วยเรือหลวงวิคตอรี่ที่ไล่ตามมาติดๆ
เรือรบสองลำจากกองเรือรบพารากอนได้เปิดฉากยิงตอบโต้ทันที ตามมาด้วยเรือฟลายอิ้งดัชแมนต์ที่อยู่ใกล้ๆและกำลังส่งสัญญาณข้อความออกมาอีกครั้ง
เมื่อเบลแอนมัคแล่นเข้าสู่สมรภูมิรบ ตัวเรือก็พุ่งเข้าหาเรือพานิชณ์ที่เป็นเหมือนดั่งลูกแกะที่ไร้ความคุ้มครองทันที
“เตรียม~~”
อัมมานกล่าวพร้อมกับชูดาบสีเงินขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้นตัวเรือเบลแอนมัคก็เอียงไปทางขวาทันที
“ยิง!!!”
ตูม---!
ปืนใหญ่ทั้งสิบกระบอกได้โผล่ออกมาจากท้องเรือ จากนั้นพวกมันก็ถูกยิงออกไป! ควันสีขาวจางๆลอยฟุ้งไปทั่ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าของเรือพาณิชย์ชาวสเปน --- เฟอร์นันเดสผู้นี้ เป็นนักธุรกิจที่รู้จักกันในนามพ่อค้าทาส แล้วเขาจะไม่เตรียมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดข้นได้ตลอดเวลาเลยหรือ? เรือของเขานั้นไม่มีได้ด้อยไปกว่าเรือรบของราชนาวีเลยในด้าน การป้องกัน! นอกจากนี้พวกเขาติดอาวุธให้เรือพานิชณ์ของพวกเขาอีกด้วย! ปืนใหญ่ทั้งสิบกระบอกของเบลแอนมัคนั้นยิงถูกเป้าหมายแค่ สองสามลูกเท่านั้น! พวกเขาล้มเหลวจากการคุกคามโดยปืนใหญ่อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของอัมมานก็ยังคงสงบนิ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้คาดหวังอะไรจากการโจมตีด้วยปืนใหญ่อยู่แล้ว เขาเพียงแค่ต้องการให้มันเป็นเพียงสัญญาณเริ่มการต่อสู้เท่านั้น! อัมมานออกคำสั่งให้เรือของเขาพุ่งเข้าประชิดเรืออีกฝ่ายทันที! พร้อมกับสั่งให้เตรียมการสำหรับบุกขึ้นเรือ!
ต้องบุกแบบนี้สิถึงจะเป็นโจรสลัด! นี่คือวิธีการบุกที่อัมมานแสนจะชื่นชอบ!! เพราะเมื่อพวกเขาบุกขึ้นไปบนเรือของศัตรู พวกเขาก็จะสามารถปล้นพวกมันและฉกของมีค่าต่างๆมาได้!
อย่างไรก็ตาม การบุกแบบนี้มันก็ค่อนข้างเสี่ยง และมีอัตตราการบาดเจ็บล้มตายที่สูงจนน่ากลัวเป็นอย่างมาก
แม้ว่าคลื่นขนาดใหญ่จะหมุนวนด้วยความรุนแรง แต่เรือเบลแอนมัคก็ยังคงเคลื่อนเข้าประชิดกับเรือพาณิชอย่างรวดเร็ว! --- พริบตาเดียว ช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว!
เห็นได้ชัดพวกเขาประสบความสำเร็จในการประชิดข้าศึก! แต่ในตอนนั้นเอง ชีหยานรู้สึกเสียวสันหลังวูบ --- ค่าลางสังหรณ์ของเขาร้องเตือนว่ากำลังมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นจากทางขวา! มันเป็นแรงกดดันที่ไร้รูปแบบ และกำลังพุ่งตรงเข้ามาอย่างรุนแรง! ไม่เพียงแต่ยากที่จะหลบหนีเท่านั้น แต่มันยังให้ความรู้สึกราวกับถูกบดขยี้เมื่อเกิดการปะทะ!!
ชีหยานไม่รอช้า เขาทิ้งดิ่งทั้งร่างของเขานอนแนบกับพื้นดาดฟ้าเรือทันที --- เขาพยายามนอนให้แนบชิดติดพื้นให้มากที่สุด! ไม่เพียงเท่านั้น ชีหยานยังกระชากคริสที่ได้สติจากเสียงยิงปืนใหญ่ลงไปนอนด้วย! ชีหยานกระชากเขาลงพื้นอย่างแรง จนใบหน้าของคริสอัดเข้าเต็มพื้น! จมูกของคริสมีเลือดไหลออกมา พร้อมกับฟันที่หลุดออกจากปากถึง สองซี่!!
คริสได้เงยหน้าขึ้นมามองชีหยานพร้อมกับสาปแช่งออกมา อย่างไรก็ตาม คริสก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น! --- กาบซ้ายเรือพานิชที่พวกเขากำลังเข้าประชิด จู่ๆก็มีเสียงแปลกๆดังออกมา และเปิดออก! เผยให้เห็นถึงปืนใหญ่สีดำวาวที่เรียงเป็นแถว เล็งมายังเรือลำนี้!!
ในขณะที่ลูกเรือบางคนพึ่งไหวตัวทัน ปืนใหญ่ทั้ง 37 กระบอกที่พึ่งถูกผลิตมาใหม่ๆจากโรงงาน ก็สาดกระสุนอันน่าสะพรึงกลัวออกมา!!
ในขณะที่เบลแอนมัคกำลังแล่นด้วยความเร็วสูงเพื่อเข้าประชิดเป้าหมาย พวกเขาก็ถูกระหน่ำยิง จนถูกบังคับไปถอยไปไกลกว่า 7-8 เมตร! ราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นตบซ้ำๆ จากกาบขวาเรือ! กระสุนอย่างน้อย 20 นัด ได้ยิงถูกตัวเรือเบลแอนมัค! กาบขวาเรือเสียหายอย่างหนัก แตกต่างอย่างชัดเจนกับฝั่งซ้ายที่ยังคงไร้ซึ่งบาดแผล! ฝุ่นและเศษไม้ลอยคละคลุ้งไปทั่ว -- ก่อนที่จะเผยให้เห็นถึงภาพแห่งความหายนะของแรงระเบิดในครั้งนี้!
ในตอนนี้เรือแบลแอนมัคเสียหายอย่างหนัก นี่ยังไม่นับลูกเรืออีกกว่า 70%ที่มารวมตัวกันบนดาดฟ้าเรือเพื่อเตรียมบุกขึ้นไปบนเรือศัตรูอีกด้วย!
จากการประมาณคร่าวๆ ลูกเรือ 1 ใน 3 ที่อยู่บนดาดฟ้าเรือได้รับบาดเจ็บจากกระระดมยิงของปืนใหญ่ในครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคือหน้าบากแฮรี่ที่เป็นถึงหัวหน้าหน่วย! เขาใช้ร่างกายอันใหญ่โตและบึกบึนของเขาเป็นโล่กำบังให้แก่อัมมาน! บนหัวของเขาเต็มไปด้วยเศษไม้จากแรงระเบิด และมีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด --- หน้าบากแฮรี่ได้หมดสติไปแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
แต่ก็นับว่ายังโชคดีที่ในยุคนี้ หลังจากที่ปืนใหญ่ถูกยิงออกไปแล้วครั้งนึง มันจะถูกผลักไปข้างหลังเนื่องจากแรงถีบ และจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเคลียปืนใหญ่ให้พร้อมก่อน ถึงจะสามารถยิงได้อีกรอบ -- และกระบวนการนั้นก็ค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากอาชีพของเฟอร์นันเดสนั้นเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่ทหาร! ลูกเรือของเขาจึงไม่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้และทำให้เสียเวลาเตรียมปืนใหญ่ค่อนข้างนาน
แตกต่างจากอัมมาน ที่ผ่านการต่อสู้บนท้องทะเลมาอย่างโชกโชน! ช่วงเวลาแค่นั้นก็เพียงพอที่เขาจะตอบโต้!!
“หักเลี้ยว 70 องศา!!!”
อัมมานยังคงยืนอยู่อย่างมั่นคง สายตาที่เปรียบดั่งเหยี่ยวของเขาเหลือบไปมองลูกเรือ --- ลูกเรือที่เหลือรู้สึกราวกับถูกฟาดด้วยแส้ที่มองไม่เห็น! พวกเขารีบฟื้นคืนสติทันที ก่อนที่จะรีบทำตามคำสั่ง
“กางใบเรือที่สาม! ปล่อยให้มันรับลมจากด้านข้าง!”
“ลดใบเรือที่สี่ลง!”
หลังจากถ่ายทอดคำสั่ง อัมมานก็เดินไปยังเสากระโดงเรือต้นที่ใหญ่ที่สุด ก่อนที่จะยกดาบของเขาขึ้น แล้วตวัดมันลงมา ทันใดนั้นดาบบนมือของอัมมานก็ปลดปล้อยรัศมีสีขาวสว่างไสวออกมาห่อหุ้มเรือทั้งลำ จนดูคล้ายกับใบมีด ก่อนที่ตัวเรือจะหักหัวอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าชนเรือพาณิชณ์จนเชื่อมติดกันเป็นรูปตัว T !!!
ถึงแม้คลื่นทะเลอันรุนแรงจะซัดสาด แต่ก็มิอาจแยกเรือเบลแอนมัคออกจากเรือเป้าหมายได้!
ก่อนหน้านี้ ถ้าหากมองจากในมุมสูงเหมือนในมุมมองของนก เรือเบลแอนมัคนั้นเปรียบดั่งใบไม้ที่ล่องล่อยอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่! แต่ภายใต้การนำของกัปตันอัมมาน ใบไม้ใบนั้นได้กลับกลายเป็นใบมีดอันแหลมคม คล้ายกับดาบสีเงินที่อยู่ในมือเขา!!
มันทั้งเรียวงาม แหลมคม และเต็มไปด้วยความโหดร้าย!!!! ทุกสิ่งที่ขวางทางมันต้องดับสูญ! เรือเบลแอนมัคก็พุ่งชนเข้าท้องเรือของเป้าหมายเข้าอย่างจัง!!
********
โน๊ตจากผู้แปล : เนื่องจากผู้แปล แปลและตรวจทาน ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว จึงทำให้ไม่รู้ว่าแปลได้โอเคหรือเปล่า ผู้อ่านสามารถติชม เข้ามาได้นะ ยินดีรับฟังทุกคอมเม้นจ้า