ตอนที่แล้วตอนที่48 งานแถลงข่าว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่50 การคัดสรรบุคลากร

ตอนที่49ชั่งน้ำหนักต่อหน้าทุกคน


 

การคาดเดาของฮั้วตงหลายเป็นเหมือนเสียงปืนที่ลั่นในตอนกลางคืน ดังลั่นไป3บ้าน8บ้าน ดึงดูดทุกคน "คุณว่าซูฮงหยีเเก้เครื่องชั่งน้ำหนักงั้นหรอ"ซวหงจุนผงกหัวเงียบๆ "ผมว่ามันก็เป็นวิธีที่ดีนะ ด้วยวิธีนี้ ถึงเเม้น้ำหนักจะไม่ได้ลด เเต่ตัวเลขที่ออกมาก็จะดูดีอยู่ดี เเต่ผมไม่ยักรู้เลยว่าคนตรงๆอย่างคุณซูจะมากับเเผนชั่วร้ายได้ขนาดนี้ สุดจริงๆคนๆนี้"

"เเต่ตาชั่งนั้นดูเหมือนจะเป็นตาชั่งไฟฟ้าเลย ผมได้ยินมาว่ามันยากมากเลยนะที่จะไปเเก้ตาชั่งไฟฟ้าหน่ะ" ใครซักคนข้างๆพูดขึ้นมา ตาชั่งที่ถูกวางไว้ตามร้านขายยาส่วนมากจะเป็นตาชั่งเเบบเข็ม ตาชั่งเเบบนั้นจะเป็นระบบเเมคคานิคธรรมดาที่ใช้หลักวิทยาศาสตร์อย่างกฏของฮุคหรือเรื่องสมดุลคานงัด อายุการใช้งานของมันอยู่ที่8-10ปี นั้นทำให้คนใช้มันได้อย่างยาวนาน เเต่มันก็เป็นเครื่องที่มีการเเก้ไขได้ง่ายเช่นกัน ทำให้มันคลาดเคลื่อนง่ายไม่เเม่นยำ ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างตาชั่งเเบบเก่าในตลาดมันเเก้ไขได้ง่ายๆเพียงเเค่ใช้ไขขวงนิดหน่อยทำให้สิ่งของที่ลงไปชั่งดูหนักขึ้นทำให้ต้องจ่ายเเพงขึ้น

เเต่เครื่องชั่งเเบบไฟฟ้ามันต่างออกไป มันใช้เซนเซอร์รับเเรง พื้นผิวจะเปลี่ยนไปเมื่อมีน้ำหนักกดลงมา เเละมันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงบนตัววัดเเรงต้าน ซึ่งผลที่ออกมาบนหน้าปัดเนี่ยละคือตัววัดเเรงต้านนั้น กระเเสไฟฟ้าไปเหนี่ยวนำทำให้เกิดเป็นตัวเลขพวกนั้นขึ้นมา ถ้าเราต้องการที่จะเปลี่ยนเเปลงตัวเลข เราต้องไปเปลี่ยนที่ตัวเซนเซอร์หรือไม่ก็ตัววัดเเรงต้านทาน ซึ่งก็ต้องการความรู้ด้านเทคนิคระดับสูงเกินกว่าที่คนธรรมดาจะไปคุ้นเคยกับมัน

ห้องประชุมนั้นเต็มไปด้วยความเงียบ ทุกคนรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะไปเเก้เครื่องวัดน้ำหนักไฟฟ้านั้น เเละคงจะมีเเต่มืออาชีพที่ทำงานอยู่ในโรงงานเท่านั้นที่ทำได้ โค้ชกีฬาคงไม่มีหวังจะไปทำเเบบนั้น "บางทีเขาอาจจะไปเจอกับช่างมือโปรที่เเก้มันได้ก็ได้นะครับ" ใครซักคนพูด เลขาพยายามหลายรอบจนสุดท้ายเธอก็สามารถต่อโทรศัพท์เข้ากับจอโปรเจ็คเตอร์ได้สำเร็จ จะได้ฉายมันขึ้นจอใหญ่ๆไม่ต้องมากระจุกกันอยู่หน้าโทรศัพท์เล็กๆเครื่องเดียว ซูฮงหยีพูดกับกล้องอีกครั้ง"ผมคิดว่าอาจจะมีบางคนคิดว่าเราเเก้อะไรในตาชั่งนี้รึเปล่า ทำไมเราไม่ลองเชิญนักข่าวซัก2-3คนมาบนเวทีเเล้วลองชั่งดูละครับ

จะได้รู้ว่านี้นะของจริง เเม่นยำจริง มีใครอยากจะอาสาไหมครับ?" พวกนักข่าวไม่เคยที่จะไม่ลองอะไรเเบบนี้ มีคนจำนวนมากยกมือหลังจากที่ซูพูดจบ ทุกคนในห้องประชุมเริ่มลนลาน "เขาทำอะไรหน่ะ"

"นี้มันทำให้เสียเนื้อชิ้นงามไปเลยนะถ้าให้นักข่าวไปเช็คตาชั่งเเบบนั้น!"

"หรือว่าเขาไม่ได้ไปเเก้ตาชั่งจริงๆ"

"เค้าต้อนตัวเองจนมุมเเล้ว"

ในห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงตำหนิ อารมณ์ของฮั้วดูหงุดหงิดที่สุดในนั้น เขาพึ่งบอกไปเองว่าซูอาจจะเเก้ตาชั่งได้ เเล้ววินาทีต่อมา ซูก็เชิญนักข่าวไปลองตาชั่ง

...

ในงานเเถลงข่าว มีนักข่าว4คนขึ้นไปบนเวทีเเล้วไปลองเช็คตาชั่งไฟฟ้า เเล้วก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า ตาชั่งไม่มีปัญหาอะไร เเล้วทันใดนั้น หยูเฟ่ยๆก็เดินออกมาจากอีกห้องหนึ่งข้างๆเวที เเล้วโบกมือให้นักข่าว

"หยูเฟ่ยเฟ่ยอยู่นี้!!เเล้วเธอก็ดูไม่อ้วนเลยด้วย!"

"ใช่ไหม เธอดูไม่เปลี่ยนไปเลยจากเเต่ก่อน ดูเหมือนว่าข่าวลือในเน็ตที่ว่าน้ำหนักเธอขึ้นหลายกิโลก็คงไม่จริง"

"เเค่ไม่กี่กิโลมันจะเห็นได้ชัดอยู่เเล้วบนตัวของผู้หญิง ฉันเดาว่ามันก็เป็นได้เเค่ข่าวลือนั้นละ"

"คุณจะไปรู้อะไรละ? เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายนักกีฬามันน้อยมากๆอยู่เเล้ว ทำให้พวกเขาดูผอมกว่าคนธรรมดาทั่วไปไง" นักข่าวพูดต่อวิจารณ์หยูเฟ่ยเฟ่ยด้วยเสียงเบาๆ

...

ในห้องประชุมของศูนย์ว่ายน้ำ

"โค้ชฮั้ว คุณเป็นโค้ชหลักของทีมชาติเเล้วก็ยังเป็นคนที่สนิทกับหยูเฟ่ยเฟ่ยที่สุด คุณว่าเธอผอมลงไหม?"ซวงถามด้วยความคาดหวังสูง เขาต้องการคำตอบว่า"ใช่"มากๆจากฮั้ว

"จากจอที่ไม่ชัดเเบบนี้มันตอบยากครับ เเล้วเธอก็ใส่เสื้อกันหนาวด้วยยิ่งทำให้มองยากไปใหญ่" ฮั้วเริ่มเหงื่อเเตกเล็กน้อย เขาไม่ค่อยอยากเเบกรับความรับผิดชอบต่อหน้าทุกคนรวมถึงหัวหน้าศูนย์นี้อย่างซวง ดังนั้นเขาจึงตอบไปเเค่ว่าบอกไม่ได้

ซวงถอนหายใจลึกๆ ถึงเเม้ว่าเขากำลังดูงานเเถลงข่าวนี้อยู่ก็จริง เเต่เขาทำอะไรไม่ได้เพราะเมืองฮั้วจิงกับเมืองเฉิงตูมันห่างกันลิบโลก ตอนนี้ที่เขาทำได้ก็คือขอให้พระเจ้าเมตตา

หยูเฟ่ยเฟ่ย ขึ้นไปยืนบนตาชั่ง ตัวเลขเริ่มเคลื่อนที่ขณะที่เธออยู่บนนั้น จนกระทั้งสุดท้าย มันก็หยุดนิ่งลง

"62.49กิโลกรัม!" นักข่าวคนหนึ่งลั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

เเชะ เเชะ.. เสียงกดชัดเตอร์กล้องรัวดังไปทั่ว มีเเสงเเฟรชกระทบหน้าซูตลอดเวลาเเต่นั้นก็ไม่ทำให้เขาระคายเเต่อย่างใด

รอยยิ้มเเห่งชัยชนะเริ่มปรากฏบนใบหน้าเขา "นี้คือความเป็นจริงครับ ตอนนี้ผมเเน่ใจนะครับว่าพวกคุณคงไม่มีคำถามอะไรอีกเเล้ว" ซูพูด

นักข่าวทุกคนหน้าเเตกด้วยความอับอายหลังจากที่ได้ยินซูพูดอย่างงั้น พวกนั้นคิดว่ากำลังจะได้ข่าวใหญ่ไปลงหนังสือพิมพ์ เเต่กลับกลายเป็นว่านั้นเป็นข่าวลวง ข้อมูลที่ว่าเธอน้ำหนักขึ้นเพราะความเบื่อหน่ายการฝึกก็โกหกทั้งเพ หยูเฟ่ยเฟ่ยกลับมาที่เมืองเฉิงตูก็เพราะว่าอยากจะฉลองปีใหม่เท่านั้นเอง

"เราไม่ควรจะเชื่อไอ้พวกข่าวลือในเน็ตอีกเลย!"

"ไอ้โง่ที่ไหนมันโพสข่าวนี้วะ? มันทำพวกเราเป็นไอ้โง่กว่าอีก!"

"เราจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้ เราต้องล่าต้นตอนี้ออกมา" นักข่าวที่รู้สึกว่าตัวเองโดนหลอกเเละตอนนี้กำลังเริ่มจะหัวร้อนเเล้ว

...

ในห้องประชุมของศูนย์ว่ายน้ำ

62.49กิโลกรัม? นั้นมันเท่าน้ำหนักปรกติของเธอเลยนี้ ใช่ไหม? ฮั้วบอกไว้ว่าน้ำหนัก70กิโลใช่ไหม? เธอลดน้ำหนัก7.5กิโลใน15วันหรอ? เป็นไปได้ยังไงเนี่ย? ดูเหมือนฮั้วจะปิดบังอะไรบางอย่างไว้เเน่ๆ

พอคิดเรื่องนี้เเล้วซวงหันไปหาฮั้วเเล้วมองเขา สิ่งที่ทำให้ซวงประหลาดใจคือสภาพของฮั้วก็ช๊อกอยู่เหมือนกันดูเหมือนว่าเขาจะไม่เชื่อ ว่าเรื่องเเบบนี้มันจะเกิดขึ้น

ฮั้วเป็นโค้ชหลักของทีมว่ายน้ำ เขาเคยทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยหยูเฟ่ยเฟ่ยดน้ำหนักมานานเกือบปีรวมถึงบากหน้าไปมหาลัยการเเพทย์เเล้วตามหานักโภชนาการมาให้เธอ เเต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ได้ผลเลยซักนิด

เเต่ตอนนี้ หยูเฟ่ยเฟ่ยน้ำหนักลดไป7.5กิโลใน20วัน ตัวเลขที่เยอะขนาดนั้นทำให้ฮั้วตกใจมาก เเล้วก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นไอ้ขี้เเพ้ หยูเฟ่ยเฟ่ยตามฉันเเล้วก็ฝึกกับฉันมาปีนึงน้ำหนักเธอขึ้นมา7กิโล เเต่กลพอกลับไปหาซูฮงหยีได้เเค่20วัน เเล้วตอนนี้เธอน้ำหนักลดลงไป7.5กิโล ทำไม? อะไรวะเนี่ย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด