ตอนที่ 58 คุณสมบัติลงทะเบียน (FREE)
ในขณะที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือต่างถกเถียงกันเรื่องของ ฟาง เจิ้งจือ แต่หมู่บ้านภูเขาทางใต้นั้นตอนนี้ได้มีการจัดการประชุมฉุกเฉินขึ้น
ท่าทางของ ติง ฉินซาน ดูน่าเกลียดน่ากลัวมาก
เพราะหลังจากที่เขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ได้ย้ายไปที่หมู่บ้านทางเหนือแล้วนั้น เขาก็ไม่เคยพบกับความสุขอีกเลย ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ทั่วทั้งอณาเขตตีนเขาคงหลิง ทั้งหมดตกเป็นของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือทั้งหมด
ติง ฉินซาน พยายามหาวิธีแก้ไขต่างๆมากมาย แต่ทุกวิธีต่างไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
หลังจากนั้นเขาได้พยายามแจ้งกองตรวจการศักดิสิทธิ์เกี่ยวกับที่อยู่ของ ฟาง เจิ้งจือ เพื่อให้พวกนั้นมาลากตัวเขาไปเสียที แต่น่าเสียดาย 8 ปีที่ผ่านมา กองตรวจการศักดิสิทธิ์ไม่เคยเหยียบเท้ามาที่หมู่บ้านภูเขาทางใต้อีกเลย
เขากระทั่งเคยคุยเรื่องนี้กับ หวัง อันฮุย แต่ หวัง อันฮุย ก็ทำเพียงแค่ยิ้มอย่างเดียว ไม่มีใครเคยรู้ว่า หวัง อันฮุย เคยแจ้งเรื่องนี้ไปแล้วเช่นกัน
ดังนั้นคำตอบเดียวที่เขาได้รับคือ “ข้าไม่รู้”
“ใกล้จะครบ 8 ปีแล้ว ถ้าพวกเราไม่สามารถผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าได้ละก็....”ติง ฉินซาน เป็นหังวลมาก เพราะเขาเองก็อยู่ในเหตุการณ์เมื่อ 8 ปีก่อน
“พี่ ฉิงซาน ไม่ต้องกังวล! ครั้งนี้ ข้ามั่นใจมาก! นอกจากนี้ เฮ่อเอ๋อร์ ยังเตรียมตัวเป็นอย่างดี เขาต้องสอบผ่านระดับมณฑลแน่นอน!” หลี่ จ้วงฉือ พูดออกมา
ติง ฉินซาน มองไปที่ หลี่ จ้วงฉือและพยักหน้า เหมือนกับอดดีตหัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ เขานั้นก็คาดหวังในตัวของ หลี่ จ้วงฉือ เช่นกัน เพราะเขาเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของหมู่บ้าน
เพราะแปดปีที่ผ่านมา หลี่ จ้วงฉือ เป็นคนเดียวที่ผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับมณฑลแล้ว
ตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่ผ่านการทดสอบขั้นสูงในเมืองหลวงเท่านั้น
“เจ้าคิดยังไงถึงความเป็นไปได้ของ ฟาง เจิ้งจือ...ในการผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋า?” ติง ฉินซาน ยังคงกงัวล
“ไม่มีทาง!” หลี่ จ้วงฉือ มั่นใจ
“น้องชายหลี่ เจ้ามั่นใจยังไง?” ติง ฉินซาน รู้ถึงความเป็นศัตรูกันของ ฟาง เจิ้งจือ และ หลี่ จ้วงฉือ จึงถามออกมาอีกครั้ง
“ถ้าเราพูดถึงเรื่องการต่อสู้ ฟาง เจิ้งจือ คงสามารถผ่านได้ แต่ถ้าเป็นการทดสอบด้านปัญญา เขาไม่มีทางผ่านแน่นอน! คนที่เรียนหนังสือด้วยตัวเองจะผ่านได้เยี่ยงไรกัน? ที่เข้าเรียนก็แค่เรื่องพื้นๆ! นอกจากนี้ในระดับมณฑลก็มีการทดสอบด้านปัญญาเช่นกัน ถ้าเขาไม่ผ่านมันเสียก่อน เขาก็ไม่มีทางเข้าร่วมการทดสอบด้านการต่อสู้ได้!” หลี่ จ้วงฉือ อธิบาย
“แต่ถ้า?” ติง ฉินซาน ยังรู้สึกร้อนใจ
“ไม่มีแต่ถ้าอะไรทั้งนั้น ต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ มีความสามารถพอที่จะผ่านการทดสอบกฎแห่งเต๋าก็ตาม แต่เข้าก็ไม่มีทางเข้าร่วมการทดสอบได้!” หลี่ จ้วงฉือ ดูมั่นใจมาก
“ทำไมกันละ?” ติง ฉินซานถามด้วยความสนใจ
“เพราะเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะลงทะเบียน!” หลี่ จ้วงฉือ หัวเราะอย่างเย็นชา
.....
หนึ่งวันก่อนการทดสอบแห่งเต๋าจะเริ่มขึ้น
ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง กลังจาก ฟาง เจิ้งจือ ทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็เริ่มเก็บข้าวของสำหรับการเดินทางที่ลานหน้าบ้านเล็กๆของเขาเอง
“เจิ้งจือ เจ้าจะเข้าร่วมการทดสอบกฎแห่งเต๋าจริงๆงั้นหรือ? ทำไมเจ้ายังไม่เริ่มออกเดินทางอีก?”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นถึงจุดสุงสุดแล้วนะ!”
“ข้าเห็นว่าที่หมู่บ้านทางใต้เขาเริ่มเดินทางกันตั้งแต่ฟ้าสว่างแล้วนะ เจ้าไม่รีบไปที่เมืองเพื่อเตรียมตัวก่อนงั้นหรือ?”
ชาวบ้านต่างกระตือรือร้นถาม ฟาง เจิ้งจือ ถึงแม้พวกเขาจะดูพูดจาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่บนใบหน้าของพวกเขายังคงประดับด้วยรอยยิ้ม พวกเขานั้นไม่มีเจตนาร้ายเลยสักนิด
“ข้าพึ่งเตรียมตัวเสร็จ!” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้ม ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนม้าเกล็ดเงิน
ฉิน ซูเหลียน วิ่งออกมาจากในบ้านอีกครั้ง ในมือของนางถือห่อกระดาษขนาดใหญ่ “เจิ้งจือ เนื้อนี้สำหรับการเดินทาง เจ้าจะได้ไม่หิว!”
“โอ้ ขอบคุณมากท่านแม่!” ฟาง เจิ้งจือ รับห่อเนื้อไว้ ก่อนที่จะดึงบังเหียนม้า
ม้าเกล็ดเงินดูเหมือนกำลังเต็มไปด้วยความยินดี มันเดินไปรอบๆชาวบ้าน และมุ่งตรงไปยังทางเข้าหมู่บ้าน
“น้องซูเหลียน เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป ไม่กี่วันเดี๋ยวเขาก็กลับมาแล้ว!”
“ใช่ๆ ข้าได้ยินว่าการทดสอบด้านปัญญานั้นยากมาก!”
“ถ้า เจิ้งจือ ไม่ผ่านการทดสอบด้านปัญญา เขาจะเดินทางกลับมาทันทีเลยใช่ไหม?”
“แน่นอน!”
“เยี่ยมมาก ข้าจะได้ขึ้นไปบนเขาเพื่อล่าสัตว์กับพี่เจิ้งจืออีกครั้ง!”
ชาวบ้านต่างพูดคุยกันอย่างดุเดือด แต่ ฉิน ซูเหลียน ก็ไม่ถือสา “ข้าเชื่อว่าบางที่เขาอาจจะโชคดีเดาข้อสอบถูกก็ได้ หรือมั่วถูกก็ได้ ฮ่าฮ่า?”
“ฮ่าฮ่า...” ชาวบ้านหัวเราะอย่างครื้นเครง ก่อนจะแยกย้ายกันไป
ฟาง เจิ้งจือ ที่ยังไปไม่ไกลเมื่อได้ยินคำพูดของแม่ตัวเอง เขาเกือบจะตกลงจากหลังมา
“ท่านแม่! ท่านคือแม่ของข้านะ! ทำไมพูดอย่างนั้นกัน?”
….
“เร็วเข้า!” หลังออกจากหมู่บ้าน ฟาง เจิ้งจือ เริ่มเร่งการเดินทางขึ้น ถึงแม้ม้าเกล็ดเงินจะเทียบไม่ได้กับม้านิลมังกรหิมะ แต่เขาก็ยอมเสียเงินกว่า 20 เหรียญเพื่อซื้อมันมา
ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือนั้นมีเพียงม้าตัวนี้ตัวเดียว แล้วถ้าเป็นหมู่บ้านภูเขาทางใต้ละ? ไม่ต้องนึกถึงม้าสักตัวเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะม้าเกล็ดเงินละก็ป่านนี้เขาคงต้องเดินเท้าตามหลังชาวหมู่บ้านทางเหนืออีกไกล
ม้าวิ่งเหยาะๆไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ประมาณสองกิโลเมตรจากเมืองฮวายอันเขาได้พบกับขบวนเดินทางของชาวหมู่บ้านภูเขาทางใต้
หลี่ เฮ่อ ซึ่งอายุเท่ากับ ฟาง เจิ้งจือ ก็เป็นหนึ่งในขบวนเดินทางนั้น เขาสวมเสื้อแขนสั้น คิ้วเข้ม ตัวคล้ำ เค้านั้นคล้ายคลึงกับ หลี่ จ้วงฉือ
“โอ้ ฟาง เจิ้งจือ เจ้าก็คิดจะเข้าร่วมการทดสอบกฎแห่งเต๋าเช่นกันงั้นหรือ?” หลี่ จ้วงฉือ หันกลับมาเห็น ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังขี่ม้าเกล็ดเงินกำลังใกล้เข้ามา น้ำเสียงของเขาดูไม่พอใจเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นม้าเกล็ดเงินที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังขี่อยู่ เขาพลันรู้สึกอิจฉาขึ้นมา
“แน่นอน!” ฟาง เจิ้งจือ หยุดม้า ข้างๆขบวนเดินทางของหมู่บ้านภูเขาทางใต้
“เจิ้งจือ แม้ว่าพวกเราจะเคยมีเรื่องผิดใจกัน แต่พวกเราก็ยังเคยเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ข้าดีใจที่เห็นเจ้าโตขึ้น แต่สำหรับการทดสอบกฎแห่งเต๋านั้นมันไม่เหมือนกับการล่าสัตว์บนภูเขา มันยากยิ่งกว่านั้นมาก น่าเสียดายที่ข้าต้องเตรียมตัวสำหรับการทดสอบกฎแห่งเต๋าที่เมืองหลวง คงช่วยเหลือเจ้าได้เพียงเล็กน้อย!”
หลี่ จ้วงฉือ มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ถือว่าตัวเองอาวุโสกว่าทันที ในหัวของเขามีแต่เรื่องการทดสอบกฎแห่งเต๋าถ้าเขาผ่านในครั้งนี้ เขาต้องได้เข้าร่วมกับกองตรวจการศักดิสิทธิ์แน่นอน และอนาคตของเขาต้องยิ่งใหญ่แน่นอน
“ลุงหลี่ ในการทดสอบกฎแห่งเต๋าระดับเมืองหลวงในครั้งนี้ ข้าหวังว่าท่านจะไม่พลาดอีก!” ฟา เจิ้งจือ ยิ้มบางๆ ก่อนจะดึงบังเหียนม้า ไม่นานพวกเขาก็ออกห่างไปไกล
ทิ้งไว้แค่ฝุ่นควันที่เกิดจากม้าวิ่ง
หลี่ จ้วงฉือ ไอและสำลักควันอย่างรุนแรง
“ท่านพ่อ ทำไมถึงไม่บอก ฟาง เจิ้งจือ เกี่ยวกับคุณสมบัติในการสมัครสอบละ?”
หลี่ เฮ่อ พูดออกมา แต่ก็ภูกพ่อของเขาขัดจังหวะเสียก่อน เขางงงวย
“เจ้าจะรู้อะไร ฟาง เจิ้งจือ เจ้าเล่ห์จะตาย ถ้าพ่อบอกเขาตอนนี้ ด้วยความฉลาดของเขาคงหาวิธีได้แน่นอน! แต่ถ้าเขาไปถึงที่นั่นแล้วพึ่งรู้ คงทำได้อย่างเดียวคือเดินคอตกกลับบ้าน ฮ่าฮ่า...” หลี่ จ้วงฉือ มองไปยังทิศที่ ฟาง เจิ้งจือ หายตัวไป แล้วหัวดราะออกมา
“ท่านพ่อช่างฉลาดจริงๆ! ถ้าครั้งนี้พ่อผ่านการทดสอบระดับเมืองหลวงได้ ท่านต้องได้เข้ากองตรวจการศักดิสิทธิ์ ฟาง เจิ้งจือ ต้องกระอักเลือดแน่นอน!” หลี่ เฮ่อ กล่าวออกมาด้วยความภูมิใจ
“ไร้สาระน่า! เจ้าควรจะจำไว้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่ศัตรูของเรา!” เมื่อหลี่ จ้วงฉือ ได้ยิน หลี่ เฮ่อ พูด ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันที
“ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงไม่ใช่ศัตรูของพวกเรา...” หลี่ เฮ่อ สับสน
“เพราะพ่อของเขา และข้านั้นเติบโตมาด้วยกัน! พวกเราต่างเข้าร่วมหน่วยล่าสัตว์ด้วยกัน! เห้อ ที่จริงแล้ว...เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ที่ข้าทำอย่างนั้นเพราะข้าเกรงว่า ฟาง เจิ้งจือ จะแย่งสิทธิในการเข้าหอแห่งเต๋าไปจากเจ้า แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ ครอบครัวเราถือว่าติดหนี้ครอบครัวฟางด้วยซ้ำ! แต่ถึงแม้ข้าไม่ต้องการจะทำร้าย ฟาง เจิ้งจือ แต่ข้าก็ไม่ต้องการให้เขาแข็งแกร่งไปกว่านี้เช่นกัน!”
หลี่ จ้วงฉือ มองไปที่ หลี่ เฮ่อ ที่กำลังสับสนอยู่ เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ลูกชายของเขาดุไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่
“ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ ฟาง เจิ้งจือ จะยึดอณาเขตรอบภูเขาคังหลิงไปเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะได้เป็นราชาแห่งตีนเขาคังหลิง แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ เพราะหมู่บ้านภูเขาทางใต้ก็ยังอยู่มาถึงทุกวันนี้?”
“ข้าเข้าใจแล้ว!” หลี่ เฮ่อ พยักหน้า
“ท่านลุงหลี่พูดถูก ถึงแม้ ฟาง เจิ้งจือ จะทำให้ปูข้าถูกปลดจากต่ำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน แต่ข้าก็ไม่ได้เกลียดเขา!” ท่ามกลางฝูงคน เด็กหนุมคนหนึ่งที่อายุมากกว่าหลี่ เฮ่อ เล็กน้อยพูดขึ้นมา เขาคือหลานของ เมิ่ง ไป่ เมิ่ง เจียงฉาน นั่นเอง
.....
การรับสมัครการทดสอบกฎแห่งเต๋านั้นเริ่มตั้งแต่เดือนที่แล้ว ดังนั้นถึงแม้อีกเพียงวันเดียวจะเป็นวันเริ่มทดสอบ แต่พื้นที่รับสมัครวันนี้กลับเหมือนป่าร้าง
ดังนั้นจึงไม่ต้องมีการเข้าแถวใดๆ ฟาง เจิ้งจือ ยืนอยู่หน้าของเจ้าหน้าที่รับสมัคร
“ข้าขอลงทะเบียน!”
“เหรียญตราจากหอแห่งเต๋า พร้อมทั้งคำแนะนำตัวจากหอแห่งเต๋า!” เจ้าหน้าที่ที่กำลังหาวอยู่พูดออกมา เขาเตรียมตัวจะปิดรับสมัครอีก 1 ชั่วโมง แต่เขากลับได้ยินเสียงคนที่พึ่งมาอยากลงทะเบียนตอนนี้ เขาหันไปมองเห้นเป็นเด็กหนุ่มใส่ชุดสีน้ำเงินหยาบๆ เขาจึงรู้สึกกรำคาญเล็กน้อย
“เหรียญตราจากหอแห่งเต๋า? จดหมายแนะนำตัว?” ใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ เต็มไปด้วยความมึนงง
เพจหลัก : Gate of god TH