ตอนที่47ข่าวเลื่อนลอย
ภายในศูนย์การจัดการกีฬาว่าน้ำกระทรวงการกีฬา ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้กำลังหารือกันในห้องประชุม "ในฐานะโค้ชหลักของทีมว่ายน้ำชาติ มันเป็นความผิดของผมเองที่ผมบริหารจัดการได้ไม่ดีพอ ผมไม่สามารถทำให้ลูกทีมสามัคคีกันได้ซึ่งมันทำให้เกิดปัญหานี้ ผมขอรับความผิดนี้ไว้เเต่เพียงผู้เดียวเเล้วก็ ขอโทษผู้บริหารทุกท่านด้วย.." โค้ชหลักของทีมว่ายน้ำชาติ ฮั้ว ตงหลายก้มหัวลงต่ำเเละรู้สึกผิดมากๆเวลาที่เขาวิจารณ์ตัวเอง
"เอาหน่า คุณฮั้ว คุณไม่ใช่คนเดียวที่ผิดซักหน่อย การเเข่งขันกันเองระหว่างนักเเข่งมันเคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ ใครต่างก็รู้ถึงสถิติที่ยอดเยี่ยมของคุณเมื่อปีที่เเล้ว ไม่มีใครอยากให้เรื่องเเบบนี้มันเกิดขึ้นหรอก"
คนที่พูดนั้นเป็นคนวัย40ต้นๆ ดูเป็นคนฉลาดเเละมีความสามารถ เขาเป็นรองผู้จัดการของศูนย์การจัดการว่ายน้ำ ซวง หงจุน เเละเขาเป็นคนที่คุมปฏิบัติการย้อยครั้งนี้ ซวงพูดต่อ "มันเป็นยุคสมัยของอินเตอร์เน็ตเเล้วข่าวมันเเพร่กระจายไปเร็วมาก เเละมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากเหมือนกันที่ตั้งเเง่สงสัยโดยไม่มีเหตุผล ที่เราควรทำตอนนี้คือหารือกันเรื่องวิธีการรับมือกับปัญหานี้เเละทำยังไงให้มันเเพร่กระจายไปได้เล็กที่สุด ฮั้ว ในฐานะโค้ชหลักของทีมชาติ คุณเริ่มก่อนเลย!"
ฮั้วผงกหัวเเล้วเริ่มเสนอความคิด"หยูเฟ่ยเฟ่ยฝึกหนักมาตลอดในช่วงวันฝึกปรกติของเธอ ดังนั้นข่าวลือที่ว่าเธอขี้เกียจฝึกนั้นไม่จริงเเน่นอน สำหรับเรื่องน้ำหนักตัวเธอที่เพิ่มขึ้น มันเป็นเรื่องจริงเเต่มันก็เป็นเรื่องปรากฏการณ์ทางร่างกายปรกที่ทุกคนต้องเจอในช่วงวัยเจริญเติบโต เราได้พยายามที่จะช่วยเธอลดน้ำหนักเเล้ว เเต่ผลผลัพท์มันกลับไม่ได้ดั่งใจ ถึงเเม้เราจะจ้างนักโภชนาการจากมหาลัยการเเพทย์ในเมืองหลวงมาเเล้วผลก็ยังไม่คืบหน้า เเถมยังเเย่ลงไปอีก เธอกลายเป็นว่าอ้วนขึ้นกว่าเดิม"
"น้ำหนักเเบบนี้ที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงที่ร่างกายเจริญเตอบโตนั้นย้อนกลับไม่ได้ คนปรกติที่อายุ26ปี จะกลับกลับไปผอมกว่าตัวเองตอนที่อายุ16ปีไม่ได้ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ปรกติเอามากๆสำหรับคนที่อยู่ในอายุของหยูเฟ่ยเฟ่ย"โค้ชไบ้คนที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นมา
"เขามีเหตผลนะ เเต่ถ้าน้ำหนักเเบบนี้มันไม่สามารถย้อนกลับมาได้มันหมายความว่าเธอไม่สามารถกลับมาผอมเหมือนเดิมได้เหมือนกัน นั้นก็หมายถึงเธอไม่สามารถกลับมาอยู่ในสถานะท๊อปฟอร์มของเธอได้อีกเเล้วเหรอ? สถิติของเธอในครั้งก่อนมันไม่ได้อย่างที่เราคาดไว้นะ เธออาจจะถึงขั้นตกอันดับในการเเข่งขันระดับประเทศด้วยซ้ำ เราจำเป็นต้องเสียทรัพยากรอันมีค่าของพวกเราไปให้นักกีฬาอย่างเธองั้นเหรอ?"ใครบางคนถามขึ้นมา เขาเป็นหัวหน้าเเผนกในศูนย์นี้
"หัวหน้าเเผนกเจียงครับ คุณกำลังจะบอกว่าเราควรยอมเเพ้ที่จะพัฒนาหยูเฟ่ยเฟ่ยเหรอครับ? เธอเป็นนักกีฬาเเกรนด์เเสลมเเถมยังเป็นคนทำลายสถิติโลกด้วยนะครับ!"ฮั้วตงหลายพูดอย่างร้อนรน เจียงเถียงทันที "ก็นั้นมันเมื่อหลายปีก่อนเเล้วนี้ครับ เเล้วเหตุผลที่เธอทำสถิติได้ดีขนาดนั้นก็เพราะว่าโครงการพัฒนานักกีฬาของศูนย์การว่ายน้ำเรานี้ครับ เเล้วตอนนี้เธอก็กลับมาอยู่ในสถานะพร้อมเเข่งขันได้ยากมากเเล้ว มันอาจจะเป็นการเสียทรัพยากรโดยใช่เหตุถ้าเรายังเลี้ยงเธอไว้อยู่ เราควรจะเอาทรัพยากรการฝึกของเราไปให้นักกีฬาคนอื่นบางทีเราอาจจะบ่มเพาะหยูเฟ่ยเฟ่ย คนที่2หรือ3เลยก็ได้นะครับ"
เเต่เธอพึ่งอายุไม่ถึง20เองนะ เธอยังเด็กมากอยู่เลย มันต้องมีความสามารถอะไรบางอย่างที่เรายังค้นพบไม่หมดในเด็กคนนั้นเเน่ๆ"ฮั้วตอบ "มีนักกีฬาอีกหลายคนที่อายุเเค่15-16ปีที่มีความสามารถเพียงพอที่จะเข้าทีมชาติได้ พวกเขาอาจจะมีความสามารถมากกว่าด้วยซ้ำ!"เจียงยิงกลับทันที "มันต่างกันนะคุณ อีกอย่าง เธอได้เข้าร่วมการเเข่งขันที่สำคัญมากมายทำให้เธอได้เเสดงความสามารถของเธอให้ทุกคนเห็นตราบใดที่น้ำหนักเธอยังลดได้ เธอกลับมาท๊อปฟอร์มเหมือนเดิมได้เเน่นอนครับ"ฮั้วมั่นใจ
"ได้จริงเหรอครับ? ถ้าเธอลดน้ำหนักได้จริงๆ น้ำหนักเธอคงไม่ขึ้นมาถึง7กิโลเมื่อปีเเล้ว!"เจียงพูดต่อ "โอเค โอเคทุกคน เราหารือเรื่องวิธีการเเก้ปัญหา ไม่ใช่ทะเลาะหรือเถียงกันนะ!" ซวงหงจุนโบกมือเเล้วพูดต่ออย่างช่วยไม่ได้ "หัวหน้าฝ่ายเจียง ผมว่าคุณมีบางอย่างอยากจะพูดนะ ฟังจากคุณก่อนละกัน"
"ครับ ผมคิดว่านี้เป็นโอกาศสำหรับศูนย์ว่ายน้ำของเรา ด้วยความที่ว่าสื่อกำลังเล่นเรื่องนี้อยู่ ทำไมเราไม่ใช้โอกาศนี้ขอให้หยูเฟ่ยเฟ่ยออกจากทีมชาติ จากนั้นเราจะได้จัดสรรค์ทรัพยากรการฝึกของเราไปในทางที่ดีกว่า มันดีสำหรับอนาคตของทีมชาติที่จะยั่งยื่นในระยะยาว"เจียงพูด
"หมายความว่าคุณจะไล่หยูเฟ่ยเฟ่ยออกจากทีมชาติงั้นรึ"ฮั้วถาม ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เจียงยิ้มเล็กน้อย "โค้ชฮั้วผมรู้ว่าหยูเฟ่ยเฟ่ยเป็นนักเรียนคนโปรดของคุณเเล้วคุณก็ไม่ได้อยากให้เธอออกไป คุณเป็นห่วงในอนาคตยองเธอ ตอนที่เธอทำลายสถิติโลก ทางประเทศได้ให้อพาทเม้นกับเธอที่มีค่า5000000หยวน รวมพวกรายรับจากสปอนเซอร์โฆษณาที่เธอเกี่ยวข้อง เเล้วนั้นก็มีค่ามากกว่า10ล้านหยวน นั้นเพียงพอสำหรับเธอเเล้วที่ใช้ชีวิตอยู่ไปตลอดชาติ คุณไม่ต้องเป็นห่วงอนาคตของเธอหรอกนะ"
"เเต่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนะ เเละเธอก็ฝึกหนักมาตลอดเวลาที่เธออยู่ในเวลาซ้อมเลยนะ!"ฮั้วมองดูไปที่ซวงหงจุนด้วยความรู้สึกช่วยไม่ได้ ซวงส่งเสริมเขาเเล้สผงกหัว "เธอเป็นตัวเเทนนักกีฬาของทีมว่ายน้ำ ซึ่งทำชื่อเสียงให้กับทีมชาติเรามากๆตลอดมา มันอาจจะไม่ถูกต้องไปหน่อยที่จะไล่เธอออกไปทันที มันอาจจะเกิดผลเสียกระทบตามมาทีหลังเราจะต้องไตร่ตรองกันเรื่องที่ว่าเธอมีค่าทางการตลาดต่อเรามาก ถ้าเราเสียเธอไป เราอาจจะเกิดความเสียหายได้"
ในฐานะที่เป็นผู้นำของศูนย์นี้ ซวงพิจารณาทุกอย่างจากหลากหลายมุมมอง นักกีฬาอย่างหยูเฟ่ยเฟ่ยได้รายได้จากกิจกรรมทางการตลาดมากมาย เเถมยังได้จากค่าโฆษณาที่เข้ามาทุกปีด้วย เเละตามกฏ นักกีฬาทีมชาติต้องเเบ่งรายได้5เปอร์เซนเข้าศูนย์ ถ้าพวกเขาไล่หยูออก พวกเขาก็จะเสียผลประโยชน์จากเธอ "ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ"เจียงพูด "เเต่ผมคิดว้าเราควรพิจารณาเรื่องส่วนเเบ่งของทรัพยากรการฝึกที่หยูเฟ่ยเฟ่ยได้รับอยู่ตอนนี้เราสามารถพัฒนาความสามารถโดยรวมของทีมว่ายน้ำของเราได้ ส่งที่หยูเฟ่ยเฟ่ยต้องทำก็เเค่ลดน้ำหนัก ซึ่งมันไม่ต้องการอะไรมาก ก็เเค่รักษาสมดุลตัวเอง ทานอาหารให้ถูกหลัก เเล้วก็ออกกำลังกายเยอะๆ มันไม่มีความจำเป็นต้องไปทุ่มทรัพยากรของเราให้เธอมากขนาดนี้!"
เมื่อนักกีฬาไต่เต้ามาจนถึงระดับทีมชาติเเล้ว พรสวรรค์กับพรเเสวงเป็น2ส่งที่จำเป็นต่อความสำเร็จ ทรัพยากรการฝึกจำเป็นมากเช่นกัน นักกีฬาที่ยอดเยี่ยมหลายคนถูกพัฒนาได้โดยใช้ทรัพยากรทางฝึกจำนวนมาก มันก็เหมือนกับโรงเรียนฝึกซ้อมยิงปืนของทหารเเหล่ะ ตราบใดที่พวกเขายังให้กระสุนคุณมากเท่าไร ทหารก็จะได้ฝึกยิงเเละเก่งขึ้นมากเท่านั้น
นักกีฬาตัวท๊อปต้องได้รับการดูเเลอย่างดีที่สุด พวกเขามีความสามารถที่จะเข้าไปใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกไหนก็ได้ หรือเเม้กระทั้งไปฝึกที่ต่างประเทศ ตัวอย่างเช่นนักกีฬาว่ายน้ำไปฝึกซ้อมที่ออสเตเรีย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายมากกว่า1000000หยวนต่อคน นั้นหมายความว่าจะมีเเค่2-3คนเท่านั้นที่ได้ไป ท่าเอาจำนวนเงินนั้นมาจ่ายให้นักกีฬาธรรมดาๆ ก็จะมีอีกหลายคนที่ได้ผลประโยชน์ส่วนนั้น ในขณะที่การเจรจากำลังดำเนินไปนั้น เลขาเข้ามาเคาะประตูห้องเเละเดินเข้ามาในห้องประชุม จากนั้นเธอกระซิบข้างหูซวง
"อะไรนะ? งานเเถลงข่าวงั้นเหรอ? ทีมว่ายน้ำเขตฮั่นเบจัดการเเถลงข่าวด้วยตัวเองงั้นเหรอ? เเถมเริ่มเเล้วด้วยเหรอ?"หน้าซวงเหี่ยวลงทันที "เกิดอะไรขึ้้นกับโค้ชหลักเนี่ย ซูฮงหยีอยู่ในฮั่นเบงั้นเหรอ เขาจัดงานเเถลงข่าวโดยที่ไม่เเจ้งถามความเห็นพวกเราก่อนได้ไง? พวกเขาไม่รู้เหรอว่าเราต้องเตรียมคำตอบร่วมกันก่อน ถึงเเม้ว่าเขาจะไม่อยากมาเตรียมด้วยกันกับเรา เเต่อย่างน้อยก็น่าจะบอกกันก่อนนะ เพราะยังไง หยูเฟ่ยเฟ่ยก็ยังอยู่กับทีมชาตินี้!" ใครซักคนในที่ประชุมพูดเเบบไม่พอใจ เเล้วใครบางคนในนั้นก็เปิดโทรศัพท์เเล้วยื่นให้ซวงดู "ผู้จัดการ ดูซิครับ ใครบางคนกำลังถ่ายทอดสดการเเถลงข่าวนั้นอยู่"