ตอนที่แล้วตอนที่7 วิทยายุทธ์อัคคี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่9 กลุ่มมังกรทมิฬและการเข้าไปในหุบเขาหมอก

ตอนที่8 การฝึกซ้อมและตลาด


เขาได้นำกระดาษซุกใต้ที่นอนเขาและเอาผ้าห่มคลุมตัวเขาไว้สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ได้หลับตาลงและได้เริ่มกระตุ้นการทำงานของ วิทยายุทธอัคคี ในจิตใจของเขา

แม้ว่าจะได้รับวิทยายุทธอัคคีอย่างสมบูรณ์แบบและเขาจดจำไว้ได้ทั้งหมด แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขายังไม่รู้จักคือ กลวิธีการฝึกพลังชี่ภายใน

แต่สิ่งที่แตกต่างกันมากทีเดียวในตอนนี้คือเคล็ดลับที่เขารู้มา แม้ว่า พลังแก่นแท้แห่งชี่กงจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างพลังภายในได้ แต่มันก็มีบางเคล็ดลับที่ใช้ร่วมกับพลังอื่นได้

เห็นได้ชัดว่า วิทยายุทธอัคคี มันสร้างได้ยากกว่าพลังแก่นแท้แห่งชี่กง โดยเฉพาะรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ แต่ขั้นตอนพื้นฐานนั้นเริ่มต้นค่อนข้างคล้ายกัน

ชิบะน้อยจะต้องมีพื้นฐานสำหรับวิธีเพาะปลูกพลังแบบนี้ ความแตกต่างระหว่าง วิทยายุทธอัคคี กับ พลังแก่นแท้แห่งชี่กง มีอยู่สองส่วน ส่วนแรก การทำงานของ วิทยายุทธอัคคี นั้นซับซ้อนกว่าซึ่งจะต้องใช้สมาธิและความสามารถในการควบคุม พลังชี่ภายใน ที่สูงขึ้นและต้องใช้เวลาในการทำให้ วิทยายุทธอัคคี ทำงานได้ วิทยายุทธอัคคีทำงานได้ดีกว่าพลังแก่นแท้แห่งชี่กง ดังนั้นจะต้องมีทักษะการควบคุมที่ดีกว่านี้ ตอนนี้ชิบะน้อยสามารถมรักษาความเสถียรของพลังได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น และในส่วนที่ 2 คือ วิธีการดูดซับพลังธรรมชาติแห่งโลก สิ่งที่เรียกว่า พลังธาตุ ซึ่งพลังนี้เป็นพลังที่มาจากโลกนั้นหมายถึงเป็นพลังที่ดูดซับพลังงานแห่งโลกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยวิธีพิเศษ นั้นคือหลักการพื้นฐานของดูดซับพลัง ไม่ว่าจะดีแค่ไหนแต่พลังชี่กงจากแก่นแท้ก็ยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการดูดซับ แม้จะดูดซับได้ง่ายแต่มันคือสิ่งที่ยากที่สุดในการย่อยพลังซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการฝึกซ้อมซึ่งต่างจาก นิวแมติก(เป็นพลังงานกลที่ใช้เป็นแรงอัดอากาศ)

กล่าวได้ว่า แม้ว่าคุณจะกินอาหารที่ดีหรือไม่ดีลงไป แต่หากกินเข้าไปแล้วมันไม่ย่อยผลที่ตามมาก็คือปวดท้องเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม วิทยายุทธอัคคี มีเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ดูเหมือนว่ามันจะดูดซับเฉพาะนิวแมติก ของธาตุบางอย่างและไม่รวมคุณสมบัติอื่นๆ เหตุผลที่การทำงานของ วิทยายุทธอัคคี มีความซับซ้อนมากกว่าพลังอื่นๆเนื่องจากจะต้องดูดซับพลังธรรมชาติของโลกให้กลายเป็นพลังชี่ในร่างกาย

ชื่อของมันได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเพียงดูดซับพลังธาตุไฟ จากสถานที่ที่มีพลังธาตุไฟอยู่

ในขณะที่นอนหลับอยู่บนเตียง ชิบะน้อยก็ได้คิดในใจของเขาด้วยดวงตาที่เป็นประกายในความมืด “ถึงแม้ว่าวิทยายุทธอัคคี จะยากกว่า แต่ก็ยังคงเป็นกระบวนการเพาะปลูกจิตในระดับหนึ่ง มิฉะนั้นข้าคงไม่เข้าใจสิ่งที่ หวังเทียนเหล่ย บอกข้าว่าเขาได้รับมาจากคนที่เขาฆ่ามาในสงคราม ใครเป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้กัน อาจจะเป็น ปรมาจารย์วรยุทธกังฟู ที่มีหนังสือมีค่าขนาดนี้ไม่ด็ยากที่จะได้มันมา แต่วิธีใช้งานจริงๆสำหรับข้ามันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยแต่มันก็ไม่ง่ายเกินไปข้าเดาว่านี้คือ โชคดีของข้า”

พอคิดถึงเรื่องนี้เขาก็หัวเราะคิกคักและได้นึกถึงคำที่คุณครูตอนประถมของเขาใช้ในการพูดในชีวิตที่ผ่านมา ครูมักจะบอกให้เขากำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมกับเขาและสามารถทำได้โดยการฝึกซ้อม เมื่อโตขึ้นคำพูดเหล่านั้นก็กลายเป็นเรื่องตลก ปัจจุบันในโลกใหม่คำเหล่านั้นก็เป็นจริงในหลายๆกรณี

มีการกล่าวกันว่าการสร้างพลังชี่ภายในสามารถเสริมสร้างร่างกายของตนเองและยืดอายุขัยของตนเองได้ เขาก็เคยคิดเช่นนั้นในตอนที่เขาอ่านนิยายกังฟูในชีวิตที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในโลกนี้ ชิบะน้อยผู้ฝึกฝนพลังภายใน ได้รู้ว่าข่าวลือดังกล่าวไม่ได้เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย

ความจริงก็คือชีวิตของคุณจะยืนยาวได้เมื่อคุณได้มายืนอยู่ระดับที่สูงมาก เมื่อคุณฝึกฝนความแข็งแกร่งภายนอกมา มิฉะนั้นชีวิตของคุณก็สั้นลงด้วยการเพิ่มปริมาณพลังชี่ภายใน ให้ตนเอง อธิบายได้ว่า ร่างกายเหมือนภาชนะบรรจุที่มีปริมาณน้ำที่จำกัด ถ้าถูกบังคับให้ทนกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือความจุของมัน มันก็ง่ายที่จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ  ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายกับ พลังชี่ภายในจำนวนมาก คือการเสริมสร้างร่างกายของคุณเอง การผลักดันหรือฝืนมันเกินไปอาจนำไปสู่ความตายเท่านั้น

เนื่องจากจะได้รับ พลังชี่ภายในบริสุทธิ์คุณสมบัติธาตุไฟจากการฝึกเดินพลังอัคคี

แต่จะต้องใช้มากกว่า พลังชี่จากแก่นแท้ ในแง่ของเส้นเอ็นและเส้นเลือด

ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าความเร็วในการฝึกฝนวิธีเดินพลังไฟนั้นช้ากว่าการฝึกซ้อมพลังชี่ภายในของพลังแก้นแท้แห่งชี่กง แต่ก่อนหน้านั้นชิบะน้อยไม่จำเป็นจะต้องดูดซับพลังธาตุจากสถานที่ต่างๆบนโลกแทน เขาควรจะย้ายพลังชี่ที่ไม่บริสุทธิ์ ซึ่งได้มาจากการฝึกพลังชี่จากแก่นแท้ เข้าไปยัง พลังชี่ภายในคุณสมบัติไฟ

หลังจากรู้ว่าแนวทางที่แท้จริงในการฝึกฝนพลังชี่ภายใน ชิบะน้อยก็กังวลมากกว่ามีความสุข

สิ่งที่ข้าได้รับเป็นเพียงวิธีที่ง่ายที่สุดในการเสริมสร้างร่างกายและสร้างพลังภายใน แต่ข้าสามารถสรุปได้จากพวกนี้ว่า แม้ว่าข้าจะมีพลังมากแค่ไหนในอนาคต แล้วก็อะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับผู้ที่มีพลังภายในชั้นสูง การเพาะปลูกจิตและการเสริมความแกร่งของร่างกาย? แล้วพวกเขาจะเป็นยังไงต่อ? นี่เป็นโลกที่น่ากลัวจริงๆและตอนนี้ข้าก็เป็นแค่ชาวบ้านที่ติดอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ

และยังมีชีวิตอันสั้นและถ้าข้าเป็นฮีโร่ที่สามารถเปลี่ยนอุปสรรคทุกอย่างให้กลายเป็นโอกาสได้ข้า ควรจะอยู่ในระดับที่ต่ำ!

การที่ซ่อนตัวอยู่แต่ในหมู่บ้านจะทำให้ข้าไปไหนไม่ได้เลย อาของข้าต้องการข้าให้ไปเป็นเด็กฝึกงานในตลาด เทียนหย่าง มันคือความหวังของข้า!

เขาได้นอนอยู่บนเตียงและคิดถึงตลาด เทียนหย่าง ในขณะเดียวกันคนในตลาดก็คิดถึงหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้

ตลาดเทียงหย่าง เป็นเมืองเล็กๆที่ติดอยู่กับรัฐเย่อห่าว ซึ่งอยู่ใกล้กับ หุบเขาหมอก เนื่องจากเมืองนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมากเนื่องจากเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดใน หุบเขาหมอก และเป็นที่ตั้งของ

รัฐชิวัง และ รัฐเย่อห่าว

รัฐเย่อห่าว อยู่ไกลที่สุดในบรรดา13รัฐของประเทศจิน ขณะที่ หุบเขาหมอก เป็นเขตพรมแดนระหว่างประเทศจิน และประเทศหยวนตอนเหนือ

อย่างไรก็ตามประเทศจินและประเทศหยวนตอนเหนือได้สู้รบกันมาเป็นร้อยกว่าปีแล้ว แต่ไม่เคยมีสงครามใดเกิดขึ้นบนหุบเขาหมอก  เนื่องจาก หุบเขาหมอกนั้นทอดยาวไปหลายหมื่นไมล์และถูกเรียกว่า “ภูเขาใหญ่” ซึ่งมีสัตว์มีพิษและแมลงต่างๆนับไม่ถ้วนแม้กระทั่งสัตว์ที่ชั่วร้ายที่ไม่สามารถต้านท้านพลังของมนุษย์ได้ถ้ามีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อยู่ การเดินทางจาก จิน ไปยัง หบวนตอนเหนือจะต้องผ่าน หุบเขาหมอก ซึ่งความเป็นไปได้มันน้อยมาก แต่ก็มีเรื่องเล่าว่ามีใครบางคนสามารถเดินทางข้ามเขาลูกนี้ได้พร้อมกับทหารนับหมื่นราย

ดังนั้นทั้ง จิน และ หยวนตอนเหนือ จึงไม่มีการสร้างป้อมปราการหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ในบริเวณรอบๆ หุบเขาหมอกเลย แต่ก็ยังมีบางคนสนใจในธุรกิจขนสัตว์ร้ายเหล่านั้นและสมุนไพรเป็นเหตุว่าทำไมตลาด เทียนหย่าน จึงเฟื่องฟูแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในจุดภูมิศาสตร์ที่เป็นประโยชน์

ไม่ว่า ตลาดเทียนหย่างจะร่ำรวยแค่ไหนแต่มันก็เป็นแค่เมืองเล็กๆที่มี4ถนนใหญ่ๆอยู่2แห่งซึ่งเป็นแนวนอนและแนวตั้งทำให้รูปร่างเมืองนั้นเหมือนอักษรจีนตัว “井” (ตัวอักษรจีนหมายถึง "ดี")

ส่วนจุดที่คนพลุกพล่านที่สุดจะอยู่ใจกลางตัว “井” ซึ่งมีคลังสินค้าขนาดใหญ่ โดยวิธีการนี้มีรูปแบบการให้ความสำคัญในทุกๆเมือนในรัฐเย่อห่าว และยกเว้นช่องในใจกลางของ“井”มีสองทางตอนท้ายของถนนตะวันออกและตะวันตก ทางตอนเหนือคือ Yamen (สำนักงานรัฐบาลใน Feudal China)และในทางตอนใต้ก็มีที่ฝึกอบรมเล็กๆ ร้านค้าและโรงแรมทั้งหมดตั้งอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเนื่องจากอยู่ใกล้กับทางเข้าของ หุบเขาหมอก ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่ที่คนรวยและคนมีชื่อเสียงอาศัยอยู่ ทั้งผู้ขายและผู้คนอาศัยอยู่ในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือ เช่นเดียวกับ  Yamen ในภาคเหนือส่วนตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นเขตต้องห้ามเป็นสถานที่ที่

กลุ่มมังกรทมิฬ เป็นเจ้าของอยู่

 

กลุ่มมังกรทมิฬ เป็นกลุ่มขนาดปานกลางใน เย่อห่าว ซึ่งควบคุมหลายสิบเมืองเล็กๆรวมทั้ง ตลาดเทียนหย่าง และท่าเทียบเรือทั้งหมดในตลาดเทียนหย่าง อีกด้วย ดังนั้นคนที่นำเข้าและส่งออกสินค้าจำเป็นต้องแบ่งเงินก้อนโตมาให้กับกลุ่มมังกรทมิฬ ซึ่งเป็นรายได้หลักของกลุ่มๆนี้

นี่ไม่ใช่ทั้งหมดในเคลือข่ายแก๊งค์ในโลกนี้แต่ทั้งหมดเรียกได้ว่าเหมือน มาเฟีย  ในแง่หนึ่งพวกเขาเป็นองค์กรที่ผูกขาดการควบคุมทรัพยากรผ่านอำนาจของตน เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจที่เหมือนแก๊งและรายได้หลักที่ไม่ได้มาจากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการคุ้มครองหรือจากการกู้คืนหนี้เช่นงานที่ไม่ดีหรืองานที่อยู่นอกกฎหมาย ที่ชิบะน้อยเคยเห็นในทีวีในชีวิตก่อนหน้ามาก่อน

สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการควบคุมท่อหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจเช่นเรืออู่เรือและคนงานซึ่งเกี่ยวข้องกับการขนส่งทางน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นสินค้าจาก หุบเขาหมอก ที่เป็นของหายากไม่สามารถซื้อได้ง่ายจากพ่อค้าคนกลาง ดังนั้นสิ่งของเหล่านั้นจึงถูกขายไปให้กับพ่อค้าท้องถิ่นและคลังสินค้าที่ตลาด เทียนหย่าง ในขณะที่พ่อค้าท้องถิ่นทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม มังกรทมิฬ หลายคนก็เป็นสมาชิกในกลุ่ม ด้วย แม้แต่คลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในตลาด เทียนหย่าง ก็ถูกควบคุมด้วยตรา “มังกรทมิฬ”

เป็นคล้ายๆกับระบบเผด็จการในตลาด เทียนหย่าง  แม้ว่าข้อเท็จจริงที่ว่ารายได้ของหมู่บ้านได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นโดย หวังเทียนเหล่ย ในด้านราคา แต่สุดท้ายสินค้าโภคภัณฑ์ก็ถูกจำกัดโดย กลุ่มมังกรทมิฬ ที่มีพื้นที่และอำนาจที่มากกว่าในการเจรจาต่อรองซึ่งเป็นผู้มีอำนาจที่ซ่อนอยู่ในกลุ่มผ๔มีอำนาจในตลาด สำหรับผู้มีอำนาจในท้องถิ่นพวกเขาทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการและทำหน้าที่เก็บภาษี

อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่า มังกรทมิฬ จะกล้าต่อกรกับ  Yamen ที่เป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่มีไม่ต่ำกว่า 40 คน การที่เกิดการต่อสู้เล็กๆกับจำนวนคนประมาณโหล่หนึ่ง เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก แต่ มันกรทมิฬ ก็ไม่ได้สร้างความยุ่งเหยิงกับผู้มีอำนาจแต่อย่างใดเพราะตัวแทนของรัฐบาลเป็นของราชวงศ์จิน กลุ่มมังกรทมิฬเป็นเพียงกลุ่มจาก เจียงกง ที่อยู่เพียงปลายแถวเท่านั้นพวกเขาจะไม่มีศัตรูเป็นผู้มีอำนาจใดๆทั้งนั้น อาจเป็นความจริงที่กลุ่มอาจจะสูญสลายด้วยอำนาจภายใน 2-3 ชั่วโมง โดยความเป็นจริงคือการโจมตีที่รุนแรงกว่าและล่มสลายภายในสิบนาที

เพราะฉะนั้นพวกมังกรทมิฬจะเป็นพวกหยิ่ง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ก็ยังปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้สำหรับแก๊งและรักษาความสงบและเป็นมิตรต่อ Yamen อย่างเคร่งครัด

“เราจะเขี่ยมันไปทางอื่น” ผู้มีอำนาจของแต่ละกลุ่มกำลังชุมนุมกันและดูเหมือนกำลังสมรู้ร่วมคิดอะไรบางอย่างอยู่

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเข้าใจ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำประโยชน์ออกมาเป็นจำนวนเงินที่พอใจจะได้รับบการแต่งตั้งใหม่ทุก ๆ สองสามปี การร่วมมือกับมังกรทมิฬซึ่งมีอิทธิพลในท้องถิ่นอย่างแท้จริงคือวิธีเดียวในการปกครองสถานที่นี้อย่างเหมาะสม  ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีอยู่ทุกแห่งทั่วประเทศที่มีความรู้ของทุกคน ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือหมู่บ้านเล็ก ๆ จะอาศัยกลุ่มในระดับที่ต่ำขณะที่เมืองใหญ่ ๆ พึ่งพาสำนักที่มีอิทธิพลและความสำพันธ์กับตระกูลพระราชวงศ์และครอบครัวที่มีอำนาจของจิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด