ตอนที่ 44 - ได้โปรด อย่าทิ้งฉัน!
ไปทำภารกิจเสี่ยงตายในหนังกันเถอะ ตอนที่ 44 - ได้โปรด อย่าทิ้งฉัน!
แต่เจ้ายาม A ทำราวกับว่ามันไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น! มันแสยะยิ้มออกมา และยังคงเดินเข้าหาเพลเยอร์ที่บาดเจ็บ --- ดวงตาของเพลเยอร์เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขากวัดแกว่งมีดในมือไปมาอย่างบ้าคลั่ง และมีครั้งนึงที่บังเอิญตวัดไปโดนแขนของเจ้ายาม A!
และนั่นก็เท่ากับเป็นการสุมเชื้อเพลิงแห่งความโกรธแค้นของเจ้ายามA!
มันพุ่งเข้าหาเพลเยอร์คนนั้นทันที! และเริ่มทุบตีเพลเยอร์ด้วยความบ้าคลั่ง! --- ส่วนทางด้านเพลเยอร์นั้นก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันและหลบหนี --- เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีสกิลต่อสู้ระยะประชิด!
ณ เวลานี้ใบหน้าของเพลเยอร์เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ และมีเลือดซึมออกมา -- เขาร้องไห้ครวญครางอย่างทุกข์ทรมาน!
เมื่อได้ยินเสียงร้องอันน่าเวทนา เจ้ายามAก็ยิ่งรู้สึกรำคาน มันคว้าดาบจากเอวขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะฟันลงไปยังร่างของเพลเยอร์!
ฟุบ---!
เสียงเนื้อมนุษย์ฉีกขาดได้ดังขึ้น เพลเยอร์คนนั้นได้ใช้มือข้างหนึ่งป้องกันร่างของเขา --- เลือดสดๆสาดกระเซ็นไปเต็มผนัง! เกิดบาดแผลขนาดใหญ่ขึ้นตรงฝ่ามือของหนึ่งของเพลเยอร์คนนั้น!
แต่เพลเยอร์คนนั้นยังไม่ทันจะได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมา เขาก็ถูกฟันอีกครั้ง!
แต่คราวนี้เขาไม่ยอมรับการโจมตีตรงๆอีกต่อไป! เขาม้วนตัวหลบ --- แต่เจ้ายามA ก็ไหวตัวทัน! มันฟันเข้าเต็มกลางหลังของเขา!
เพลเยอร์ร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาขบฟันแน่น ก่อนที่จะหันไปมองเจ้ายามA แล้วคำรามลั่นด้วยความสิ้นหวัง
“ถ้าฉันตาย … แกก็ต้องตายด้วย!!”
พูดจบ เพลเยอร์คนนั้นก็ยื่นมือทั้งสองเข้าหาเจ้ายามA เตรียมที่จะใช้สกิลของเขา --- ในตอนนั้นเอง ได้มีร่างๆหนึ่งพุ่งทะลุผนังกระท่อมเข้ามา! ร่างๆนั้นกระโจนเข้าหาเจ้ายามA ก่อนที่ทั้งคู่กระกลิ้งไปตามพื้น พร้อมกับเริ่มต่อสู้โรมรันกันอย่างบ้าคลั่ง!
การต่อสู้ของทั้งสองรุนแรงจนกระท่อมทั้งหลังพังทลายลง จนทั้งสาม(รวมเพลเยอร์อีกคน)ถูกเศษฝุ่นเศษไม้หล่นลงมาทับ!
คนที่พุ่งเข้ามาคือชีหยานนั่นเอง --- เขาเลือกที่จะกระโจนเข้ามาช่วยในช่วงเวลาวิกฤษนี้! เพื่อซื้อใจเพลเยอร์ที่กำลังสิ้นหวัง!
เมื่อเข้าปะทะกับเจ้ายามA ชีหยานก็ฉวยจังหวะที่มันกำลังตกใจ ปัดดาบในมือของมันจนกระเด็นหลุดมือไป!
อย่างไรก็ตาม ชีหยานก็ยังคงกังวลอยู่เล็กน้อย เพราะเจ้ายามAนั้นเป็นนักสู้ระยะประชิด! นอกจากนี้ มันยังมีHP อยู่ถึง 250 หน่วย!
นับว่าเป็นโชคดีของชีหยานที่เจ้ายามA ที่เป็นยามลาดตระเวณ นั้นอยู่ตัวคนเดียว ถ้ามียามลาดตระเวณคนอื่นอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ สกิล teamwork ของพวกมันก็จะถูกเปิดใช้งาน! และถ้าเป็นแบบนั้น ต่อให้เป็นเขาก็ไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้!!
ณ เวลานี้ แขนจักรกลโคบอลต์ได้ปรากฏออกมาแล้ว ส่วนเจ้ายามA ก็ไม่คิดที่จะป้องกันตัวแม้แต่น้อย มันเลือกที่จะต่อสู้กับชีหยานแบบตายกันไปข้าง!
อย่างไรก็ตาม ชีหยานนั้นมีสกิลติดตัว ความถึก และนั่นทำให้เขาวางใจไปได้เปราะนึง
เมื่อเห็นว่าการต่อสู้แลกชีวิตกันในครั้งนี้ตนเองจะเป็นฝ่ายแพ้แน่ๆ เจ้ายามAก็กรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่จะใช้มือข้างหนึ่งของมันพุ่งไปยังใบหน้าของชีหยาน แล้วใช้นิ้วโป้งกดลงบนดวงตาของเขา!
มันเชื่อว่าถ้าเล่นงานจุดที่บอบบางของศัตรู ศัตรูอาจจะเสียจังหวะ --- และมันก็จะอาศัยช่วงเวลานั้นหลบหนี! อย่างไรก็ตาม ชีหยานยังคงทุบตีมันต่อไปราวกับว่าดวงตาของเขานั้นหาใช่สิ่งสำคัญไม่!
ชีหยานง้างแขนซ้ายที่ตอนนี้เป็นแขนจักรกลอันมันวาวขึ้น --- ก่อนที่จะใช้แรงทั้งหมดที่มี่กระทุ้งมันลงไปยังศัตรูของเขา!
กระทุ้งจุดเดิมซ้ำๆๆๆๆๆ เหมือนดั่งหมัดตะปูของโทริโกะ!
เจ้ายามA กระอักเลือดออกมา ก่อนที่ดวงตาของมันจะกลายเป็นสีขาว มือของมันที่กดดวงตาของชีหยานอยู่ค่อยๆคลายออก ก่อนที่จะร่วงลงสู่พื้น …
เมื่อเห็นว่าสมารถกำจัดศัตรูได้สำเร็จ ชีหยานก็รีบตรวจสอบร่างกายของเขาทันที ถึงแม้เขาจะสามารถเอาชนะได้ แต่สภาพร่างกายของเขาก็แย่ไม่ต่างจากศัตรูของเขามากนัก
การต่อสู้ในครั้งนี้ ชีหยานเสีย HP ไปกว่า 70 หน่วย แต่ดาเมจส่วนใหญ่นั้นมาจากตอนที่เจ้าAเหลือ HP อยู่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็น! เพราะหลังจากตอนนั้น มันก็ระเบิดพลังออกมาอย่างบ้าคลั่งแล้วโจมตีจุดบอบบางของเขา!
เป็นอย่างที่หน้าบากแฮรี่ได้วิเคราะห์ไว้ ถึงแม้ชีหยานจะมีพลังมาก แต่เขาก็ยังขาดความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดอยู่ ถ้าชีหยานไม่รู้จักใช้อุบายและโผล่มาในช่วงเวลาที่เหมาะสม เขาคงตายไปหลายครั้งแล้วตั้งแต่ที่เข้ามายังเกมแห่งฝันร้าย!
หลังจากที่สามารถฆ่ายามลาดตระเวณของทอทูการ์ได้สำเร็จ คะแนนชื่อเสียงของชีหยานก็เพิ่มขึ้น 50 คะแนน จากนั้นชีหยานก็เปิดใช้กุญแจอัญเชิญที่ดรอปจากยามคนนั้นทันที หีบสมบัติที่ทำจากไม้โอ๊คปรากฏขึ้นตรงหน้าอกของเขา ผิวของหีบไม้โอ๊คเต็มไปด้วยรอยฟันจากดาบ พร้อมกับมีรูกุญแจที่ทำจากทองแดงดูล้าสมัย --- ดูเหมือนว่าหีบสมบัติจะมีรูปทรงแตกต่างกันไปตามหนังแต่ละเรื่อง!
ชีหยานเสียบกุญแจอันเชิญลงไป แต่เมื่อหีบเปิดออกเขากลับพบว่าภายในมีเพียงกระเป๋าเงินเก่าๆที่ทำจากผ้าลินินเท่านั้น แต่เขาหยิบมันขึ้นมา ชีหยานก็พบว่ายังมีแหวนทองเหลืองอยู่อีกวง
ชีหยานหยิบแหวนวงนั้นขึ้น ก่อนที่จะลองเคาะๆดู แต่กลับพบว่ามันไม่มีเสียงอะไรเลย
หลังจากนั้นเขาก็ลองเช็คภายในกระเป๋าเงินดู ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน พร้อมกับเสียงแจ้งเตือนของระบบฝันร้ายได้ดังขึ้น
[คุณได้รับเหรียญทองคำเอ็ดเวิร์ดที่ 5]
[เหรียญทองเอ็ดเวิร์ดที่ 5 : เป็นของสะสมอันมีค่าของเจ้ายามA มันหวงแหนเหรียญทองคำอันนี้มาก! --- เหรียญนี้ใช้ทองคำ 22 k ในการหลอม และเหรียญนึงจะมีค่าถึง 10 กินี! ที่สำคัญเหรียญทองคำนี้สามารถนำออกจากหนังเรื่องนี้ได้ และสามารถนำไปแลกเป็น 400 แต้มฝันร้ายได้]
หลังจากนั้นชีหยานก็พบว่าภายในกระเป๋ามีเงินอยู่อีกประมาณ 5 - 6 ชิวลิ่ง
ชีหยานหยิบแหวนขึ้นมาตรวจสอบดูอย่างละเอียดอีกครั้ง และพบว่ามันมีตำอักษรสลักอยู่เป็นคำว่า ‘ไม่สามารถประเมินได้’ ซึ่งนั่นทำให้ชีหยานอึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะตั้งแต่ที่เข้ามาผจญภัยในหนัง เขาไม่เคยพบไอเท็มที่จำเป็นที่จะต้อง ‘ ประเมิน’ เลย
เมื่อตรวจสอบไอเท็มที่ได้มาทั้งหมด ชีหยานก็หันกลับไปมองเพลเยอร์ที่เขาช่วยเหลือ --- แต่กลับพบว่าเพลเยอร์คนนั้นไม่สำนึกบุญคุณของเขาแม้แต่น้อย … เพราะมันได้หนีไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเพลเยอร์คนนั้นก็บาดเจ็บหนัก แถมเขายังถูกฟันบริเวณขา และนั่นทำให้เขาคงไม่สามารถหนีไปได้ไกลนัก
ชีหยานไล่ตามรอยเลือดไปสักพัก เขาก็เจอเพลเยอร์ที่เขาช่วยเหลือ --- เพลเยอร์คนนั้นจ้องมองชีหยานด้วยความตื่นตระหนก และเนื่องจากขาของเขาบาดเจ็บ ทำให้เขารู้ตัวว่าถึงหนีไปก็คงถูกยามลาดตระเวณคนอื่นๆจับได้อยู่ดี เขาจึงพยายามปั้นหน้ายิ้ม ก่อนที่จะกล่าวว่า
“โอ้ นายมาแล้ว เมื่อกี้ฉันเห็นว่านายกำลังยุ่งๆอยู่ เลยรีบออกมาก่อนโดยที่ไม่ได้บอกลาน่ะ...”
ชีหยานจ้องมองเขาอย่างเย็นชาก่อนที่จะกล่าวว่า
“นี่คือสิ่งที่นายทำกับคนที่ช่วยชีวิตนาย?”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเพลเยอร์ก็เปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะพูดออกมาว่า
“นายมันจะไปรู้อะไร! ขนาดเพื่อนฉันที่ชื่อว่า คัลดัช เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ แต่เขาก็ยังถูกยามลาดตระเวณพวกนั้นทุบตีจนตาย! แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านายจะแข็งแกร่งพอที่จะขฃชนะพวกมันได้!!”
ชีหยานตอบกลับอย่างเย็นชาว่า
“แล้วเจ้าคนที่ชื่อว่า คัลดัชนี่มันเป็นใคร? แล้วแข็งแกร่งขนาดไหน??”
“เขาเป็นคนที่เข้ามาผจญภัยในหนังพร้อมกับ ‘บอสนิก’ ของพวกเรา และมีข่าวลือว่าคัลดัชนั้นไปผจญภัยในหนังมามากกว่า 6 เรื่องแล้ว! แถมเขายังมีค่าสเตตัส ความแข็งแรง มากถึง 23 แต้ม!! แต่เขากลับถูกพวกยามลาดตระเวณทุบตีจนตายในเวลาไม่ถึง 1 นาที! เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะหลบหนีด้วยซ้ำ แล้วจะไม่ให้ฉันกลัวพวกมันได้ยังไง!?”
ได้ยินแบบนั้น หัวใจของชีหยานก็ถึงกับสั่นไหว แต่เขาก็ยังคงหัวเราะและกล่าวว่า
“แล้วเขาต่อสู้กับยามลาดตระเวณกี่คนล่ะ?”
เพลเยอร์ตอบกลับมาด้วยความหวาดกลัวว่า
“แค่ 1 คน!! เขาต่อสู้กับมันตัวต่อตัว!”
“ในตอนนั้นดัลคัชรับหน้าที่คุ้มกันกลุ่มของพวกเรา หลังจากที่ปราสาทถูกทำลาย พวกเราหนีออกมาในเส้นทางที่แสนจะคับแคบเลียบหน้าผา ซึ่งจะผ่านไปได้ทีละคนเท่านั้น!”
“เนื่องจากพวกเราหลบหนีได้ช้า ทำให้ยามลาดตระเวณไล่ตามมาทัน และคัลดัชก็พุ่งเข้าต่อสู้กับมัน แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะพ่ายแพ้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที แบบนี้ ถ้าพวกเรารู้ว่าคัลดัชจะถูกกำจัดได้เร็วขนาดนี้พวกเราก็คงไม่รับทำภารกิจระเบิดปราสาทหรอก!!”
ชีหยานแสยะยิ้มออกมา ก่อนที่จะถามต่อว่า
“นายบอกว่าเขาสู้กับ 1 ต่อ 1 กับยามลาดตระเวณ แต่ในตอนนั้น ไม่ได้มียามลาดตระเวณอยู่เพียงคนเดียวใช่ไหม?”
“ใช่!”
ได้ยินแบบนั้นชีหยานเลยอธิบายว่า
“ยามลาดตระเวณพวกนั้นมันมีสกิลติดตัวอยู่ ยิ่งรวมตัวอยู่ด้วยกันเยอะ ค่าสเตตัสของพวกมันก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น และพวกมันก็เป็นเพียงแค่ยามระดับ II เท่านั้น และฉันคิดว่ายามที่คัลดัชต่อสู้ด้วยน่าจะเป็นยามระดับสูง เพราะฉะนั้น การที่เขาสามารถยืนหยัดได้นานเกือบ 1 นาทีก็นับว่าเขาแข็งแกร่งมากแล้ว”
เพลเยอร์รู้สึกตกใจกับข้อมูลใหม่ที่พึ่งได้รับ ก่อนที่จะกล่าวอย่างลังเลว่า
“แล้ว … ตอนนี้ยามลาดตระเวณคนนั้น ...”
“เขาเป็นเพียงยามระดับ II แถมยังอยู่ตัวคนเดียว การฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องยาก”
ในตอนนี้ เพลเยอร์กำลังจ้องมองชีหยานด้วยสีหน้าแปลกๆ แต่เขาก็ไม่สงสัยในคำพูดของชีหยานแม้แต่น้อย ตัวเขาในตอนนี้นั้นรู้สึกเลื่อมใสชีหยานเป็นอย่างมาก ถึงแม้ภายนอกชีหยานจะดูเป็นคนเย็นชาแต่แท้จริงแล้ว ภายในนั้นอบอุ่น และแสนจะรอบรู้
เพลเยอร์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยื่นมือออกไปหาชีหยานแล้วกล่าวว่า
“ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันทำลงไปก่อนหน้านี้ ฉันมีชื่อว่าคริส แล้วนายล่ะ?”
ชีหยานหัวเราะออกมา ก่อนที่จะกล่าวตอบว่า
“นายเรียกฉันว่า กะลาสี หยาน ก็แล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันคงต้องขอตัวก่อน”
“เฮ้ยเดี๋ยว … นี่นายจะทิ้งฉัน ...”
แต่ชีหยานก็ไม่หันกลับมามองเขา คริสจ้องมองชีหยานที่กำลังค่อยๆเดินจากไป ก่อนที่จะวิ่งตามชีหยานไปอย่างทุลักทุเล แล้วตะโกนไล่หลังว่า
“รอก่อน! ฉันขอติดตามนายไปด้วย ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว!”