บทที่ 97 นักธุรกิจชาวฮ่องกง (ตอนที่ 2) (อ่านฟรี)
"แขวนให้สูงขึ้นอีกหน่อย ธงสีอันนั้นทำไมเบี้ยวอย่างนั้น? ตรงมุมยังมีใบไม้อยู่อีก รีบปัดกวาดให้สะอาด! นักธุรกิจใหญ่จากฮ่องกงใกล้จะมาถึงแล้ว เขาเป็นแขกชาวต่างชาติ ทุกคนจึงต้องต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของบริษัท แต่ต้องคำถึงภาพลักษณ์ของเมืองและรัฐบาลเมืองอีกด้วย จดจำให้ขึ้นใจ! ผู้จัดการโรงงาน ...... ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่ากรรมการผู้จัดการ จัดแบบนี้ได้ไหมครับ? "
หลี่หมิงเต๋อมองไปรอบ ๆ แล้วพยักหน้า: "เยี่ยม ที่โรงอาหารเตรียมการเรียบร้อยหรือยัง? "
"เรียบร้อยแล้วครับ เราได้จัดเตรียมอาหารป่าหลากหลาย รับรองได้เลยว่านักธุรกิจใหญ่จากฮ่องกงคนนั้นต้องไม่เคยกินมาก่อน! "
"ดี. ถ้าเราทำสำเร็จ นี่จะถือเป็นความดีความชอบของคุณ ! "
ติ๊งต่อง ~~~
รถซีดานสีดำขับมาผ่านหน้าประตูทางเข้าของโรงงาน รถคันนี้ดูจากภายนอกช่างเป็นที่น่าเกรงขาม มีสัญลักษณ์นางฟ้าโบยบินติดอยู่ด้านหน้ารถ ใครหลายคนรู้สึกว่ารถคันนี้ที่หรูหรา แต่ไม่เคยเห็นยี่ห้อนี้มาก่อน ไม่ใช่เมอร์เซเดสเบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู
รถซีดานจอดสนิท คนขับรถลงจากรถ แล้วเดินไปเปิดประตูผู้โดยสารด้านหลัง
ชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำ หมวกทรงแตงโม พันผ้าพันคอสีขาว ใส่รองเท้าหนังขัดๆ ก้าวลงจากรถ การแต่งกายราวกับสู่เหวินเฉียงพระเอกเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ก็ไม่ปาน
"ใครคือผู้จัดการหลี่หมิงเต๋อ?"
หลี่หมิงเต๋อรีบก้าวมาข้างหน้า มือทั้งสองของเขาจับมือซ้ายของอีกฝ่าย "ผมคือหลี่หมิงเต๋อ กรรมการผู้จัดการบริษัทเครื่องจักรกลแห่งเมืองเมืองปิง จำกัด ยินดีต้อนรับมิสเตอร์ฟู่ที่จะมาลงทุนในโรงงานของเรา"
"ก็แค่มาเยี่ยมชม ยังไม่ได้ตัดสินใจจะลงทุน " ฟู่กวางเจิ้งพูดเน้นเสียง เขาพูดภาษาจีนแมนดารินสำเนียงกวางตุ้ง ทำให้หลี่หมิงเต๋อรู้สึกอึดอัด แต่หลี่หมิงเต๋อก็ยังแสดงรอยยิ้มบนใบหน้า
รถคันนั้นเป็นรถโรลสรอยซ์มือสอง ซึ่งเป็นรถที่เฝิงหยู่เก็บไว้ใช้เอง แต่เฝิงหยู่ให้ฟู่กวางเจิ้งยืมใช้ชั่วคราว ส่วนคนขับรถเป็นคนของฟู่กวางเจิ้ง คนขับรถคนนี้มาจากหนานอ้าวซึ่งอยู่ทางใต้ แต่เข้าใจภาษาจีนแมนดารินบ้าง บางครั้งจึงช่วยแปลให้ฟู่กวางเจิ้ง (หนานอ้าว เป็นเขตชุมชนในเมืองอี๋หลาน ของใต้หวัน)
เฝิงหยู่บอกฟู่กวางเจิ้งว่า คิดจะลงทุนการนี้ต้องทำท่าทางให้ดูสูงส่งเข้าไว้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ ห้ามแสดงความกระตือรือร้นอยากจะลงทุน เพราะยิ่งเขาแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ร้อนรน หรือไม่ได้ใส่ใจที่จะลงทุนสักเท่าไหร่ บริษัทจะไม่เสนอเงื่อนไขมากมาย ขอบเขตในการลงทุนก็จะเปิดกว้างขึ้น
สำหรับการแต่งตัวของเขาในวันนี้ หากอยู่ในภาคใต้คงไม่เป็นปัญหา แต่นี่คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส เมื่อครู่นี้ แค่เขาก้าวขาออกจากรถ เขาก็รู้สึกเย็นสะท้านไปทั้งตัว ถ้ารู้ก่อนหน้านี้เขาคงจะใส่เสื้อผ้าด้านในอีกสักสองสามชั้น เขาแอบสาบานในใจว่าเขาจะไม่มาเมืองปิงในช่วงฤดูหนาวอีก เพราะอุณหภูมิหนาวจัดจนเกินไป!
"มันก็เหมือนๆกันครับ พอเยี่ยมชมเสร็จก็จะลงทุนอยู่ดีไม่ใช่เหรอ? มิสเตอร์ฟู่ เชิญด้านในครับ ผมจะพาคุณไปชมรอบๆโรงงานของเรา เรามีเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดจากสหภาพโซเวียต มีเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ทั้งยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะมาคอยให้คำแนะนำ ในประเทศจีนโรงงานของพวกเราถือเป็นอันดับต้นๆ " หลี่หมิงเต๋อกล่าวอย่างกระตือรือร้น
ฟู่กวางเจิ้งผงกหัวให้เล็กน้อย แล้วเดินย่างกรายเข้าไปด้านในอย่างเชื่องช้า เขามองดูมองไปรอบๆด้วยท่าทางที่ไม่สนใจ แต่ในความเป็นจริงเขาสังเกตโรงงานอย่างละเอียดถี่ถ้วน
โรงงานแตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้มาก ที่นี่ทั้งกว้างใหญ่และสะอาดเอี่ยม แต่เมื่อเขาเห็นป้ายที่ขวนอยู่ ทั้งยังมีธงสีทั้งสองข้างทางเดิน เขาจึงรู้ว่าที่นี่ถูกทำความสะอาดเพื่อต้อนรับการมาเยือนของเขา
ฟู่กวางเจิ้งไม่ได้สนใจพิธีต้อนรับเหล่านี้ เขาสนเพียงแค่ว่าที่มีเครื่องจักรและเทคโนโลยีทันสมัยจากสหภาพโซเวียตอย่างที่เฝิงหยู่บอกหรือเปล่า เพราะหากเป็นความจริง เขาจะลงทุนกับโรงงานนี้แน่นอน
"มิสเตอร์ฟู่ ดูสิครับ นี่คือเครื่องจักรที่ทำการติดตั้งละทดสอบเรียบร้อยแล้ว ทุกโรงผลิตล้วนติดตั้งเครื่องจักรนี้แล้วทั้งนั้น นี่คือเครื่อง CNC สามารถผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์และลูกปืนที่ล้ำหน้าได้ ส่วนด้านนั้นคนงานเหล่านี้กำลังทำงานอยู่ มีเสียงรบกวนน้อยมาก ประสิทธิภาพสุง ถือว่าเป็นอันดับต้นๆในประเทศจีน! "
(CNC Computer Numerical Control เครื่องจักรอัตโนมัติที่ทำงานตามระบบคอมพิวเตอร์)
ฟู่กวางเจิ้งพยักหน้า การทำงานของเครื่องจักรเบากว่าที่เขาคิดไว้มาก โรงผลิตของโรงงานก็มีขนาดกว้างขวาง โรงงานครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มาก ที่ฮ่องกงไม่มีโรงงานที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ แต่เดิมทีฮ่องกงก็ไม่ใช่เมืองอุตสาหกรรม
ฟู่กวางเจิ้งมองชาวโซเวียตคนหนึ่งที่กำลังสอนคนงาน ชายคนนั้นคือผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเครื่องกลที่เฝิงหยู่เคยพูดถึงใช่หรือเปล่า?
"มิสเตอร์ฟู่ นี่คือแบริ่งนี้ถูกผลิตขึ้น ผลิตออกมาเฉลี่ยร้อยละร้อยล้วนผ่าน QCทั้งหมด ไม่มีNGเลย ...... "
(QC-quality Control การควบคุมคุณภาพ / NG-No Good สินค้าด้อยคุณภาพ/งานเสีย)
ฟู่กวางเจิ้งไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ แค่รู้ว่ามีเครื่องจักรและเทคโนโลยีขั้นสูงจากสหภาพโซเวียตก้ถือว่าเพียงพอต่อการร่วมลงทุนแล้ว อันที่จริงวัตถุประสงค์ในการมาเยือนของเขาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่เขายังต้องวางท่าเสแสร้ง อย่างน้อยๆวันนี้เขาต้องไปเยี่ยมชมโรงงานประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขากำลังครุ่นคิดเรื่องการลงทุน แต่การอยู่เยี่ยมชมนานเกินไปก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม เพราะจะเป็นการเผยไต๋ว่าเขาสนใจต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก
อีกอย่าง สภาพอากาศที่โรงงานค่อนข้างแย่ ฟู่กวางเจิ้งจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากปากและจมูกอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนที่หลี่หมิงเต๋อหยิบผลิตภัณฑ์ส่งมาให้เขาดู เขายังไม่แตะต้องเลยด้วยซ้ำ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีน้ำมันเปื้อนอยู่ เขาจะไม่สัมผัสด้วยมือเปล่าเป็นอันขาด
ฟู่กวางเจิ้งเป็นโรคOCD เขาจึงต้องอาบน้ำอย่างน้อยวันละสองครั้ง และล้างมือ 7-8 ครั้งต่อวัน ถ้ามือของเขาเปื้อนด้วยน้ำมันคงล้างออกให้หมดได้ยาก ต่อให้ล้างออกสะอาดหมดจดแล้วแต่ก็ยังมีกลิ่นติดอยู่ ทำให้ฟู่กวางเจิ้งกินไม่ได้หรือนอนไม่หลับ
(OCD-Obsessive Compulsive Disorder โรคย้ำคิดย้ำทำ เช่น การล้าง: มีความรู้สึกกลัวการปนเปือนของเชื้อโรค รู้สึกกังวลว่า ‘ทำเท่าไหร่ก็ไม่สะอาดสักที’ เลยทำให้ลงเอยด้วยการทำความสะอาดซ้ำๆ จนมากเกินความจำเป็น)
แต่ตอนนี้ฟู่กวางเจิ้งยังออกไปจากตรงนี้ไม่ได้ เขาจึงรู้สึกมึนหัวมาก
ขณะที่พูดหลี่หมิงตื่นเต้นมากขึ้นทุกที มองดูนักธุรกิจใหญ่จากฮ่องกงพยักหน้าไม่หยุด แสดงว่าเขาต้องพอใจกับโรงงานนี้มาก เขาจึงอธิบานอย่างยินดี
แต่เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเป็นคนที่หูตาไว เขาจึงเข้าไปกระซิบกระซาบที่ข้างหูของหลี่หมิงเต๋อว่า: "ผู้จัดการครับ นักธุรกิจฮ่องกงเอาผ้าเช็ดหน้าปิดปากปิดจมูกตลอดเวลา เขาน่าจะทนกลิ่นในโรงงานไม่ไหวหรือเปล่า? ทำไมไม่เชิญเขาไปนั่งในสำนักงานละครับ จะได้เห็นความสำเร็จและรางวัลที่เราได้รับในอดีต? "
หลี่หมิงเต๋อจึงหันไปมองฟู่กวางเจิ้ง และเห็นว่าเป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่สำนักงานพูดไว้ไม่มีผิด ไปเยี่ยมชมความสำเร็จและรางวัลเหรอ? ความคิดนี้ไม่เลวเลย บริษัทนี้เป็นโรงงานเครื่องจักรกลประจำเมืองปิง ได้รับรางวัลมากมาย รางวัลเหล่านี้น่าจะดึงดูดให้นักธุรกิจชาวฮ่องกงคนนี้เข้ามาร่วมลงทุนกับโรงงาน
"มิสเตอร์ฟู่ครับ ยังอยากจะดุอะไรต่อในโรงผลิตไหมครับ? หรือไม่ พวกเราไปนั่งที่สำนักงานกันดีกว่า จะได้ดูรางวัลแห่งความสำเร็จของเรา "
ฟู่กวางเจิ้งจึงรีบพยักหน้า: "ผมก็อยากจะไปดูอยู่พอดี"
เมื่อเข้าไปในอาคารสำนักงาน ฟู่กวางเจิ้งก็เก็บผ้าเช็ดหน้าไว้ในกระเป๋าเสื้อ จะได้หายใจเต็มปอดเสียที
หลี่หมิงเต๋อเริ่มอธิบายน้ำไหลไฟดับเกี่ยวกับรางวัลแห่งความสำเร็จของโรงงาน มีรางวัลบางอย่างที่ออกให้โดยรัฐบาลเมือง และยังมีรางวัลที่ได้จากรัฐบาลประจำมณฑล
หลี่หมิงเต๋อรู้สึกภาคภูมิใจมากเมื่อได้แสดงความสำเร็จในอดีต แม้ว่ารางวัลส่วนใหญ่ได้รับมาก่อนที่เขาจะเข้ามาบริหารงาน แต่ดูจากท่าทางของเขา คล้ายกับว่าเป็นเพราะเขาโรงงานจึงได้รับรางวัลเหล่านี้
หลี่หมิงเต๋อยังพูดไม่หยุด จนเวลาเลยผ่านไปครึ่งชั่วโมง ฟู่กวางเจิ้งก็หมดความอดทน เขาจึงพูดขัดจังหวะหลี่หมิงเต๋อ "ผู้จัดการหลี่ ผมขอดูสถานะทางการบัญชีและสินทรัพย์ของโรงงานได้ไหม?"
หลี่หมิงเต๋อใจตกไปถึงตาตุ่ม แม้ว่าบัญชีของบริษัทเป็นระบบไม่เละเทะ แต่ก็ไม่โปร่งใส โดยเฉพาะในระหว่างการปรับโครงสร้าง มูลค่าของทรัพย์สินถาวรถูกปรับเปลี่ยนให้สูงขึ้น เรื่องนี้ขนาดเฝิงหยู่ยังดูออก นักธุรกิจชาวฮ่องกงคนนี้อาจสังเกตเห็นด้วยเช่นกัน
"การเงินของบริษัทถือว่าดีเยี่ยม บัญชีบริษัทเรามีเงินทุนพร้อม ทรัพย์สินถาวรก็คือที่ดิน โรงงาน เครื่องจักร และเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ยังต้องดูอีกเหรอ? "
"อย่างนั้นเหรอ? มูลค่าของทรัพย์สินถาวรเหล่านี้ค่อนข้างสูงไปนะ? ถ้าหากผมลงทุน ผมจะมีสิทธิ์มีเสียงต่อเรื่องที่เกี่ยวกับการเงินใช่ไหม? " ฟู่กวางเจิ้งถามด้วยท่าทางที่ไม่ใส่ใจ
"แน่นอนครับ บริษัทของเราเป็นระบบถือหุ้น ผู้ถือหุ้นทุกรายมีสิทธิในการตรวจสอบด้านการเงิน ผู้ถือหุ้นสามารถส่งตัวแทนทางการเงินได้หนึ่งคน ถ้าหากมิสเตอร์ฟู่ลงทุนกับเรา คุณสามารถส่งคนมาได้อีกคน! " หลี่หมิงเต๋อกล่าว
ซวยแล้วไง เจ้าคนฮ่องกงนี่ทำไมถึงเอาแต่พูดถึงเรื่องการเงิน? แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้เขาร่วมลงทุนกับบริษัท หากยังไม่มีเงินไปคืนรัฐบาลเมือง ตำแหน่งระดับหัวหน้าที่เขานั่งอยู่อาจจะสั่นคลอน