ตอนที่ 42 - โกลาหล
ไปทำภารกิจเสี่ยงตายในหนังกันเถอะ ตอนที่ 42 - โกลาหล
ชีหยานใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการตรวจสอบข้อมูลของเหล่าเรือในตำนาน(รอสกิลคูลดาวน์) ตอนนี้เขาเหลือเงินติดตัวปประมาณ 2 กินี ชีหยานจึงตัดสินไปร้านเหล้าเพื่อทำภารกิจปลดล็อคฉายาไอ้ขี้เมา และรวดหาข่าวสารใหม่ๆ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ชีหยานจ้องมองหน้าต่างข้อมูล ที่ตอนนี้กลายเป็น [ฉายาไอ้ขี้เมา : 22/100] --- ทันใดนั้นเอง
ตูม---!
ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น พร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวายจากนอกร้าน
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าท่าเรือทอทูการ์นั้นเป็นท่าเรือเสรี และนั่นจึงทำให้แทบจะไม่มีการต่อสู้กันเกิดขึ้น และเมื่อไร้ซึ่งการต่อสู้ พวกเขาก็เริ่มหย่อนหยาน และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นในครั้งนี้
ชีหยานลุกขึ้นแล้วเดินออกไป --- เมื่อออกมาเขาก็พบควันสีดำโขมงลอยออกมาจากปราสาทของทอทูการ์!
ในตอนนี้ทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยความโกลาหล ผู้คนวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น! ภายในเกาะถ้าไม่นับรวมคนที่อาศัยอยู่ นอกนั้นเป็นโจรสลัดกว่า 99% !
และพวกโจรสลัดเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนดีที่ปฏิบัติตามกฏหมาย --- เมื่อท่าเรือทอทูการ์เกิดความวุ่นวาย เหล่าโจรสลัดจึงแสดงสันดานดิบที่แท้จริงออกมา! พวกเขาต่างปล้น ฆ่า และขโมยสมบัติมาเป็นของตัวเอง!
“หืม...”
แต่ท่าทีของชีหยานกลับยังดูสงบนิ่ง เขาเอามือลูบคางพลางจ้องมองปราสาททอทูการ์ที่เต็มไปด้วยควันดำ ก่อนที่จะจมลงสู่ห้วงความคิด
ตูม---!
เสียงระเบิดได้ดังออกมาจากภายในตัวปราสาทอีกครั้ง กลุ่มควันสีเหลือง พร้อมกับเศษฝุ่นที่ฟุ้งกระจายลอยขึ้นไปบนอากาศ ก่อให้เกิดกลุ่มควันรูปร่างคล้ายเห็ด พร้อมกับๆกับเศษซากปราสาทที่ถูกแรงระเบิดจนแตกกระจายแล้วร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน
โจรสลัดหลายคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆชีหยานต่างอ้าปากค้าง หนึ่งในนั้นได้อุทานออกมาดวยความตกใจว่า
“ระเบิดแรงขนาดนั้น ต้องใช้ดินปืนอย่างน้อยๆก็ร้อยกิโลกรัม!”
หลังจากที่ได้ยินโจรสลัดที่อยู่ข้างๆกล่าว ก็ทำให้ชีหยานสามารถรู้ได้ว่า เหล่าโจรสลัดนั้นชำนาญเรื่่องการใช้ดินปืนขนาดไหน อย่างไรก็ตาม จู่ๆได้เกิดการสั่นไหวขึ้นบริเวณตัวปราสาท
ท่ามกลางปราสาที่กำลังถล่มลงมา และเต็มไปด้วยควันโขมง --- บางทีอาจจะไม่ใช่เนื้อเรื่องหลักของหนังเรื่องนี้ การระเบิดครั้งนี้รุนแรงเกินไป! มันไม่สมจริงถ้าเทียบกับเทคโนโลยีในหนังเรื่องนี้! จากที่ฟังโจรสลัดเมื่อครู่บอก ต้องใช้ดินปืนอย่างน้อย 100 กิโลกรม!
แต่ในยุคนี้ ของส่วนใหญ่นั้นทำมาจากไม้ และนั่นหมายความว่าการที่จะระเบิดปราสาทได้จะต้องขนถังไม้หลายร้อยถังที่บรรจุดินปืน เพื่อใช้ในการจุดระเบิด! และการขนย้ายถังไม้ปริมาณมากขนาดนั้นจะต้องเป็นที่สังเกตุเห็นอย่างแน่นอน! ไม่อย่างนั้นทั้งยามลาดตระเวน ทั้งคนในเมืองก็คงจะตาบอด!
เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของเพลเยอร์ --- คงมีเพียงเพลเยอร์เท่านั้นที่จะมีสกิล หรือไอเท็มขนาดเล็กที่สามารถทำให้เกิดการระเบิดขนาดนี้ได้! และคงไม่มีโจรสลัดหน้าไหนกล้ามาทำลายความสงบสุขของท่าเรือเสรีแห่งนี้!
ชีหยานจมลงสู่ห้วงความคิด โดยไม่ทันสังเกตุเลยว่าท่ามกลางความวุ่นวาย ได้มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาจากบริเวณปราสาท
หลังจากที่คนกลุ่มนั้นวิ่งออกมา เหล่ายามลาดตระเวณของทอทูการ์ก็วิ่งตามมาติดๆ พวกเขากระชับปืนที่อยู่ในมือแน่น ก่อนที่จะเล็งไปยังกลุ่มคนกลุ่มนั้น! --- แต่ในตอนนั้นเอง บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างจากชีหยานไปราวๆ 100 เมตรได้ ระเบิดกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ!
และตามมาด้วยเสียงอะไรบางอย่างที่ร้องออกมาแบบลากยาว --- แต่เมื่อฟังดีๆจะรู้ว่ามันคือเสียงม้า!
เมื่อได้ยินเสียงร้องของม้ากลุ่มคนที่กำลังหลบหนีก็สั่นสะท้านไปตั้งตัวราวกับว่าถูกน้ำเย็นสาดใส่!
และแทบจะในเวลาเดียวกัน ได้ปรากฏม้าขนาดยักษ์พุ่งทะลุ บ้านหลังนั้นออกมา --- มันเป็นม้าขนาดยักษ์ที่สูงเกือบ 4 เมตร! กล้ามเนื้อของมันเป็นมัดๆราวกับจะทะลุออกมาจากผิวหนัง บริเวณหน้าของมันสวมหน้ากากสีดำ แผงคอและหางของมันปลิวไสว พร้อมกับผ้าคลุมของผู้ที่ขี่มันกำลังโบกสะบัด
ชายที่อยู่บนหลังม้าน่าจะอายุราวๆ 40 ปี เขานั่งอยู่บนหลังม้าอย่ามั่นคงโดยไม่ได้ถือเชือกคล้อง --- ชายคนนี้มีหนวดจิ๋มเล็กๆเหมือนกับพวกขุนนางสเปน แต่คางของเขานั้นเกลี้ยงเกลา เขาสวมหมวกสีดำและกำลังใช้แววตาอันเฉียบคมจ้องมองไปยังเหล่าเพลเยอร์ที่กำลังหลบหนี ก่อนที่จะชักปืนคาบศิลาออกมา!
ปืนคาบศิลานั้นเป็นปืนที่ตรงปลายของมันถูกต่อเติมด้วยคมมีด และมันสามารถใส่กระสุนได้ทีละนัดเท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าชายที่อยู่บนหลังม้าจะบรรจุกระสุนไว้อยู่ก่อนแล้ว เมื่อเขาชักปืนคาบศิลาออกมา ปลายกระบอกปืนก็เกิดประกายไฟขึ้นทันที!
ปัง---!
ควันสีเทาจางๆลอยออกมาจากปลายกระบอกปืน --- และเป็นเวลาเดียวกันที่ขนของชีหยานลุกซู่ ดวงตาของเขาเบิกโพลงในขณะที่เฝ้ามองกลุ่มเพลเยอร์กำลังหลบหนี เพราะเมื่อสิ้นเสียงปืน --- ร่างท่อนบนของหนึ่งในกลุ่มเพลเยอร์ก็ระเบิดออกทันที!
ภาพตรงหน้าในตอนนี้ดูราวกับลูกแตงโมที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เศษเนื้อ เศษกระดูกกระจัดกระจายไปโดนผู้คนและร้านค้าที่อยู่รอบๆในรัศมี 1 เมตร พร้อมกับส่งกลิ่นคาวเลือดไปทั่ว!
แต่สิ่งที่น่าสยดสยองยิ่งกว่าก็คือ ถึงแม้ร่างท่อนบนของเพลเยอร์คนนั้นจะหายไปแล้ว แต่ส่วนล่างของเขาก็ยังคงวิ่งหลบหนีอยู่! ราวกับยังไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น! แต่ไปได้ไม่ไกลนัก มันก็เสียสมดุล และร่วงลงกับพื้น …
เมื่อเห็นเหตุการณ์อันสยดสยองนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพลเยอร์คนอื่นๆจะรู้สึกยังไง
พวกเขาต่างหันไปมองหน้ากันและกัน ก็ที่จะแตกกระจายหรือไปกันคนละทิศละทาง มีสองคนรีบวิ่งไปยังเรือขนาดเล็กที่จอดอยู่ตรงชายฝั่ง พวกเขากระโดดขึ้นเรือลำนั้นแล้วรีบพายเรือออกสู่ทะเลอย่างบ้าคลั่ง! --- เห็นได้ชัดว่าเพลเยอร์สองคนนั้นรู้ถึงจุดอ่อนของชายผู้อยู่บนหลังม้า! เพราะม้ามันขี่ลงทะเลไม่ได้!
อย่างไรก็ตาม ชายบนหลังม้าได้ไล่ตามมาถึงฝั่งแล้ว เขาอยู่ห่างจากเพลเยอร์ทั้งสองที่กำลังแจวเรือหนีราวๆ 50 เมตร
ทุกคนต่างคิดว่าชายบนหลังม้านั้นสิ้นหวังเสียแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ แต่จู่ๆชายคนนั้นกับกระชากบังเหียน! ม้ายักษ์ได้กรีดร้องออกมาราวกับรู้ตัวว่าจะต้องทำอะไร! ทันใดนั้นบรรยากาศรอบๆม้าพลันเย็นยะเยือก จนเจ้าม้ายักษ์หายใจออกมาเป็นไอน้ำที่เกิดจากความหนาวเย็น --- ท่ามกลางแสงอาทิตย์ในยามเช้าอันอบอุ่น พลันเปลี่ยนเป็นหนาวเหน็บ!
จากนั้นม้ายักษ์ก็กระโจนลงไปในทะเล! เมื่อกีบเท้าของมันกระทบลงกับพื้นน้ำ น้ำทะเลบริเวณนั้นพลันกลายเป็นน้ำแข็ง! คอยรองรับทุกย่างก้าวของมัน!
ทุกๆย่างก้าวของมันทำให้พื้นน้ำทะเลบริเวณนั้นถูกแช่แข็งไปเป็นพื้นที่กว่า 2-3 เมตร! แต่เมื่อมันวิ่งผ่านไป น้ำแข็งบริเวณนั้นก็มลายหายไปอย่างรวดเร็ว
ในระยะเวลาสั้นๆไม่ถึง 10 วินาที ม้ายักษ์ตัวนั้นก็ไล่ตามเพลเยอร์ทั้งสองทัน!
ถึงกระนั้นเพลเยอร์ทั้งสองก็ไม่มีท่าทีจะยอมแพ้! พวกเขาตั้งท่าเตรียมที่จะต่อต้าน!
อย่างไรก็ตาม
ชายบนหลังม้าได้ชักดาบของเขาออกมา --- ก่อนที่จะตวัดมันอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด!
เพลเยอร์ทั้งสองยังคงยืนอยู่ในท่าตั้งรับเช่นเดิม พวกเขาหันมาจ้องตากันและกัน แต่วินาทีต่อมา ร่างของพวกเขาก็แยกออกจากกันเป็นสิบส่วน! พร้อมกลายกลายเป็นบ่อเลือดล่องลอยอยู่ในเรือลำเล็กที่ใช้หลบหนี!
“อ๊า---!”
ชายบนหลังม้าคำรามลั่น เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งท่าเรือ
“จงรับรู้ถึงความโกรธของตระกูล ฟอกค์!! เจ้าพวกหนอนแมลงทั้งหลาย!”
“ชายบนหลังม้านั้นคือ คนของตระกูลฟอกค์?”
ชีหยานที่ยืนเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ ได้หันไปถามกับโจรสลัดที่ยืนอยู่ใกล้ๆ โจรสลัดคนนั้นลดเสียงลง ก่อนที่จะกระซิบออกมาว่า
“ใช่แล้ว ชายคนนั้นคือทายาทรุ่นที่สามของตระกูลฟอกค์ และม้ายักษ์ตัวนั้นมีชื่อว่า มอร์เร่… ฉันเคยได้ยินข่าวลือมาว่า ม้ายักษ์ตัวนั้นมีวิญญาณปีศาจสิงสถิตอยู่! และมันเป็นม้าของเบอร์นาร์ด ฟอกค์! และมีเพียงคนของตระกูลฟอกค์เท่านั้นถึงจะขี่มันได้!”