ตอนที่ 200 นักดาบอัจฉริยะ ปะทะ เฟิ่ง หวู่
เฟิ่ง หวู่เปิดฉากโจมตีราวกับราชสีห์ที่กำลังโจมตีกระต่าย เฟิ่ง หวู่ได้ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าห้ามประมาทคู่ต่อสู้ ไม่เพียงแค่นั้น หลิน ฮวงยังพิจารณาเขาให้เป็นสัตว์ป่าดุร้ายแทนที่จะเป็นแกะตัวน้อยๆ หลิน ฮวงตื่นตัวกว่าที่เคยเป็น สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวทีประลองไม่ได้เป็นไปตามที่ฝูงชนคาดไว้
เฟิ่ง หวู่คือนายทวารที่จะมาหยุดยั้งหลิน ฮวง ในทางทฤษฏี หลิน ฮวงควรจะเป็นฝ่ายโจมตี แต่ทว่าทันทีทีการนับถอยหลังสิ้นสุดลง เฟิ่ง หวู่ก็คว้าโอกาสที่จะชิงโจมตีก่อน มันดูเหมือนเฟิ่ง หวู่จะเป็นนักสู้ขณะที่หลิน ฮวงคือนายทวาร.....
มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับทั้งสองบนเวที การโจมตีของเฟิ่ง หวู่เร็ว มันเทียบได้กับปรมาจารย์ขาวที่หลิน ฮวงสู้ด้วยเมื่อเดือนก่อน ขณะที่ดาบสีเงินถูกตวัด มันก็สร้างคลื่นดาบขึ้นในอากาศ มันดูเหมือนกับบางสิ่งที่กำลังบินอยู่บนผิวน้ำ มันให้ความรู้สึกราวกับเคียวของยมฑูตที่กำลังจะตัดคอของหลิน ฮซง
หลิน ฮวงปักหลักยืนอยู่กับที่ขณะที่รอให้เฟิ่ง หวู่เข้ามาหาเขา ดวงตาเขาปราศจากความกลัว และทันทีที่เขายกดาบขึ้น เงาในอากาศก็เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แต่ทว่า ปลายดาบกลับสามารถสกัดดาบของเฟิ่ง หวู่ที่พุ่งมาหาเขาด้วยความเร็วสายฟ้าได้ เฟิ่ง หวู่รู้สึกได้ถึงพลังอันรุนแรงจนเกือบจะปล่อยดาบ ส่งผลให้การโจมตีแรกของเขาพลาดไป
หลิน ฮวงยิ้มขณะที่ตวัดดาบใส่แขนขวาของเฟิ่ง หวู่ เฟิ่ง หวู่ขยับร่างไปด้านข้างและหลบดาบของหลิน ฮวง เขากระโดดห่างออกจากหลิน ฮวง ท้ายที่สุดเฟิ่ง หวู่ก็รู้ว่าหลิน ฮวงทรงพลังแค่ไหนและเริ่มตึงเครียด การโจมตีจากหลิน ฮวงให้ความรู้สึกราวกับเขามองทะลุไปถึงแก่นวิญญาณที่สามารถระบุข้อบกพร่องของเฟิ่ง หวู่ได้
“นี่คือความสามารถของคนที่เป็นปรมาจารย์ดาบ?ฉันยังคงห่างไกลจากระดับนั้นนัก”
เฟิ่ง หวู่รู้ตัวว่าทักษะดาบของเขายังอ่อนด้อยเมื่อเทียบกับหลิน ฮวงเพราะเขายังถูกจำกัดด้วยสไตล์การต่อสู้ของเขา อย่างไรก็ตาม หลิน ฮวงนั้นอยู่ในระดับอื่น เมื่อเห็น เฟิ่ง หวู่ถอยห่างจากเขา หลิน ฮวงก็ไม่ได้ไล่ตามไป เขากลับยืนอยู่ที่เดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่จ้องมองเฟิ่ง หวู่
“ทักษะของนายไม่เลวเลย”หลิน ฮวงบอกกลังจากที่จ้องมองเฟิ่ง หวู่สักพัก
เขาได้เห็นทักษะของเฟิ่ง หวู่มาก่อนหน้าในวิดิโอ เขาสามารถเห็นว่าทักษะดาบเขาเป็นทักษะดาบระดับสุดยอด อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ใช้รูปแบบดาบมากนักในระหว่างการต่อสู้ หลิน ฮวงไม่ได้เร่งรีบที่จะฆ่าเฟิ่ง หวู่เพราะเขาต้องการจะเห็นรูปแบบดาบที่มากกว่านี้
“ขอบคุณสำหรับคำชม นายเองก็ไม่เลวเช่นกัน”เฟิ่ง หวู่กล่าวชมหลิน ฮวงกลับ สิ่งที่เขาหมายถึงไม่ใช่ทักษะดาบของหลิน ฮวงแต่เป็นตัวเขา การโจมตีก่อนหน้าไม่ใช่ทักษะดาบ แต่เป็นกลยุทธ์ที่เขาคิดขึ้นเอง แต่ทว่า นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้รู้ว่าทักษะดาบของหลิน ฮวงเหนือกว่าเขามาก
เฟิ่ง หวู่ ไม่ได้กลัวเลยที่จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นหลิน ฮวง เขากลับรู้สึกดีใจเสียมากกว่า เขารู้ดีว่าไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เขาก็จะได้เรียนรู้บางสิ่งเกี่ยวกับดาบจากหลิน ฮวง
“มาสิ ให้ฉันได้ดูว่านายเข้าถึงทักษะดาบของนายไปมากแค่ไหนแล้ว”หลิน ฮวงโบกมือให้เฟิ่ง หวู่ เขาดูราวกับผู้อาวุโสที่กำลังสอนรุ่นเยาว์ ผู้ชมส่วนใหญ่ต่างก็ตกใจกับภาพนี้
“นักดาบอัจฉริยะกำลังยั่วยุเฟิ่ง หวู่?”
“ทำไมมันจึงดูเหมือนอาจารย์ที่กำลังสอนลูกศิษย์?”
“นักดาบอัจฉริยะคือนายทวารที่แท้จริง!”
…
ผู้คนกำลังถกเถียงกันด้านนอกเวทีประลอง แต่ทว่า เฟิ่ง หวู่ก็ไม่ได้สนใจ หลิน ฮวงมีความชำนาญมากกว่าเขา มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาต้องการจะเห็นสิ่งที่เขามี เพื่อที่เขาจะสามารถชี้แนะข้อผิดพลาดเขาได้ นอกจากนี้ เขายังสามารถเรียนรู้จากหลิน ฮวงได้อีกด้วย
“ทักษะดาบที่ฉันกำลังฝึกเรียกว่าสัมผัสสายฟ้า มันคือทักษะต่อสู้ระดับหลุดพ้น แต่น่าเสียดาย ฉันยังไม่มีคุณสมบัติพอ ฉันจึงยังไม่สามารถควบคุมทักษะดาบนี้ได้ดี....”เฟิ่ง หวุ่ยกดาบขึ้นอีกครั้งและมองหลิน ฮวงอย่างจริงจัง“มาเริ่มกันเลย!”
เฟิ่ง หวู่ทะยานไปทางหลิน ฮวงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเร็วกว่าก่อนหน้า เขาเร่งความเร็วจนทำให้พื้นที่เขาถีบตัวออกมาแตกกระจาย พวกเขาอยู๋ห่างกันมากกว่า10เมตร แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงเมตร ครั้งนี้ เฟิ่ง หวู่ได้แทงดาบตรงมาที่หัวใจของหลิน ฮวง ปลายดาบเขาดูราวกับมันบิดเบี้ยวจากความร้อนสูงซึ่งทำให้อากาศโดยรอบบิดเบี้ยว
หลิน ฮวงยืนนิ่งอย่างไร้อารมณ์กับการโจมตีของเฟิ่ง หวู่ เขายกดาบขึ้นอีกครั้งด้วยเงาดำช้าๆในอากาศ มุ่งเป้าไปที่ดาบของเฟิ่ง หวู่ ทันใดนั้นเอง ดาบของเฟิ่ง หวู่ก็เร่งความเร็วขึ้นอีกเป็นสองเท่า คลื่นอากาศรอบตัวเขากลายเป็นปั่นป่วนขณะที่เขาเล็งมาที่หัวใจของหลิน ฮวงด้วยความเร็วสายฟ้า
ลวดลายแปลกๆปรากฏในดวงตาหลิน ฮวง ในไม่ช้า ดาบเขาก็กลายเป็นเร็วขึ้นสองเท่าเช่นกัน แสงสีเงินวูบไหวในอากาศ และดาบเขาก็ปะทะกับดาบของเฟิ่ง หวู่อีกครั้ง เฟิ่ง หวู่ตกใจและถอยหลังไปหลายก้าวทันทีขณะที่หลิน ฮวงยังคงยืนอยู่กับที่ มันเห็นได้ชัดว่าใครกันแน่ที่ทรงพลังกว่า แม้กระทั่งคนที่ไม่รู้เกี่ยวกับเชิงดาบก็ยังมองออกทันที
“นักดาบอัจฉริยะแข็งแกร่งเกินไป ตั้งแต่ต้น เขาไม่เคยก้าวเท้าออกจากจุดที่เขายืนอยู่เลย ขณะที่เฟิ่ง หวู่ได้ก้าวถอยหลังไปถึงสองครั้งแล้ว”
“ถูกต้อง นักดาบอัจฉริยะเปรียบเสมือนขุนเขาที่มิอาจสั่นคลอนได้!”
“ใช่แล้ว ด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงของเฟิ่ง หวู่ เขากลับยังสามารถป้องกันได้อย่างง่ายดาย”
…
“นายกำลังพยายามที่จะใช้ความเร็วของนายเพื่อปกปิดช่องโหว่ แต่สิ่งที่นายไม่รู้ก็คือ ไม่ว่านายจะเร็วแค่ไหน ช่องโหว่ของนายก็ยังคงมีอยู่ดี”หลิน ฮวงแสดงความคิดเห็นกับการโจมตีของเฟิ่ง หวู่
“มันจะไม่ใช่ปัญหาหากคู่ต่อสู้นายช้า แต่ทว่า สำหรับคนที่เร็วเช่นฉัน มันไม่สำคัญว่านายจะเร็วแค่ไหน ช่องโหว่ของนายจะยังคงอยู่เสมอ”
เฟิ่ง หวู่หน้าแดงเมื่อหลิน ฮวงเผยช่องโหว่เขา เขาลังเลและถาม“งั้นฉันควรจะทำยังไง?”
“ข้อบกพร่องไม่ได้เกี่ยวข้องกับทักษะดาบนาย มันเป็นตัวนายต่างหาก นายยังไม่เข้าถึงทักษะ การโจมตีนายดูเหมือนจะทรงพลังแต่นายจะกลายเป็นเหนื่อยล้าเมื่อนายใช้ทักษะ มันรู้สึกเหมือนนายกำลังขี่มอนสเตอร์ที่ยังไม่เชื่อง มันจะไม่เป็นไรหากนายกำลังใช้มันเพียงเพื่อเดินเล่น แต่หากมันเป็นการวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ มันจะหลุดหนีไปจากความเข้าใจของนาย”หลิน ฮวงชี้ปัญหาของเฟิ่ง หวู่
“มีทางแก้อยู่สองวิธี หนึ่งคือการใช้เวลาเพื่อเข้าถึงแก่นแท้ของทักษะดาบและอีกหนึ่งคือการฝึกทักษะดาบอื่นที่ไม่ทรงพลังเท่า”
เฟิ่ง หวู่ยิ้มอย่างอึดอัดและส่ายหัวขณะที่ฟังวิธีแก้ปัญหา“ฉันไม่มีพรสวรรค์ แม้ว่าฉันจะใช้เวลาไปกับการฝึกฝน ผลก็จะไม่มากเท่าที่ควร ลืมเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปฝึกทักษะดาบอื่นได้เลย หากฉันยอมแพ้กับทักษะดาบที่ทรงพลังและไปฝึกทักษะระดับต่ำกว่าแทน ฉันกลัวว่าฉันจะกลายเป็นคนอ่อนแอในอนาคต...”
เมื่อเห็นว่า เฟิ่ง หวู่ไม่ต้องการทำตามคำแนะนำเขา หลิน ฮวงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เมื่อการสนทนาจบลง เฟิ่ง หวู่ก็โจมตีหลิน ฮวงอีกครั้งขณะที่เขายังคงยืนอยู่ที่จุดเดิม ยิ่งเขาโจมตีมากขึ้น ความรุนแรงก็จะยิ่งถดถอยลงแต่ช่องโหว่ของเขากลับเผยออกมามากขึ้น หลังจากที่แสดงทักษะออกมาทั้งหมด หลิน ฮวงก็ตัดสินใจที่จะปิดฉากลง แทนที่จะยืนอยู่ในที่ที่เขายืน เขากลับวิ่งไปทางเฟิ่ว หวู่ แม้ว่าเขาจะไม่เร็วเท่าเฟิง่ หวู่ เฟิ่ง หวู่ก็รู้ดีว่าเขาไม่อาจหลบหนีการโจมตีนี้ได้ ดาบปลดปล่อยแสงสีม่วงออกมา เฟิ่ง หวู่ตกใจเมื่อเขาเห็น จากนั้นหลิน ฮวงก็พุ่งผ่านตัวเขาไปและแสงสีม่วงก็ตัดผ่านคอเขา
รอยเลือดปรากฏรอบคอเฟิ่ง หวู่ หัวของเขาตกไปบนพื้นและตามมาด้วยร่างเขา หลิน ฮวงยืนอยู่ด้านหลังเฟิ่ง หวู่ขณะที่เปลี่ยนดาบระดับเงินเขากลับเป็นแหวน“สิ่งที่ดีที่สุดคือบางสิ่งที่เหมาะกับตัวนายที่สุด มันจะไม่เสียเปล่าหากมันเป็นสิ่งที่คุ้มค่า”
“ขอแสดงความยินดีด้วย คุณชนะการต่อสู้!”
การแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ในไม่ช้า เสียงประกาศก็ดังจากระบบเสียงในลานประลอง
“ขอแสดงความยินดีด้วย! นักดาบอัจฉริยะได้ล้มนายทวาร เฟิ่ง หวู่บนชั้น6ของลานประลอง และชนะติดต่อกัน60ครั้ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วย! นักดาบอัจฉริยะได้ล้มนายทวาร เฟิ่ง หวู่บนชั้น6ของลานประลอง และชนะติดต่อกัน60ครั้ง!”
“ขอแสดงความยินดีด้วย! นักดาบอัจฉริยะได้ล้มนายทวาร เฟิ่ง หวู่บนชั้น6ของลานประลอง และชนะติดต่อกัน60ครั้ง!”
หลิน ฮวงยังคงอยู่ในเวทีประลองและตรวจสอบกระดานคะแนนเขาขณะที่ร่างของเฟิ่ง หวู่หายไป
“ฉายา : นักดาบอัจฉริยะ”
“ระดับพลัง : เงินขั้น3”
“จำนวนต่อสู้ : 60”
“คะแนนสะสม : 2516”
“เปอร์เซ็นต์การชนะ : 100%”
“เกียรติยศ : ชนะ60ครั้งติด!”
ผู้เล่นหลายคนที่กำลังออนไลน์อยู่ล้วนได้ยินเกี่ยวกับการชนะครั้งที่60ของ’นักดาบอัจฉริยะ’ หลายคนจำได้ว่าเขาสามารถที่จะชนะ50ครั้งติดได้เมื่อเดือนกอน ตอนนี้เขาชนะ60ครั้งติดแล้ว บางคนที่มองข้ามเขาต่างก็ตกใจ มีคนไม่กี่คนที่สามารถชนะ50ครั้งติดได้ในทุกปี แต่ทว่า มีเพียงหนึ่งหรือสองคนที่สามารถชนะ60ครั้งติดได้ในแต่ละปี และบางปีก็ไม่มี ด้วยความที่นายทวารจะแข็งแกร่งขึ้นในทุกครั้ง คนที่ถูกส่งไปในระหว่างการต่อสู้ครั้งที่50จะถูกพิจารณาให้เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดขณะที่นายทวารสำหรับการชนะ60ครั้งติดจะทรงพลังมากกว่าเดิมหลายเท่า นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมหลายคนจึงไม่คิดว่าหลิน ฮวงจะชนะ
อย่างไรก็ตาม การชนะ60ครั้งติดก็ทำให้ใครหลายคนต้องตกใจเพราะพวกเขาคิดว่าหลิน ฮวงจะหายตัวไปอีกสักพักหลังจากรอบนี้ แต่หลิน ฮวงกลับยังคงยืนอยู่ในเวทีประลอง
“คุณต้องการจะต่อสู้ต่อหรือไม่?”
เพียงเมื่อหน้าต่างแจ้งเตือนปรากฏขึ้น หลิน ฮวงก็กดปุ่มทางด้านซ้าย
“ใช่!”