บทที่ 4 คำสั่งแรก
จิตใจของหลิวยวี่ถงได้รับผลกระทบ แต่การที่จะยอมรับเป็นผู้ติดตามของหลิงหานนั้นเป็นคำขอที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด นางกัดริมฝีปากแดงของนางเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เปลี่ยนเงื่อนไขของเจ้า!"
หลิงหานยิ้มเล็กน้อย "เจ้าน่าจะอยู่จุดสูงสุดของระดับหลอมรวมธาตุขั้นที่ 8 ใช่ไหม? ข้าจะมอบอาคมให้เจ้าสองบทเป็นของขวัญเพื่อแสดงความจริงใจของข้า สามหยินสนับสนุนธาตุ ก่อให้เกิดเส้นทางทั้งสี่ สามบุปผารวมยอด บดขยี้สรวงสวรรค์!"
ตอนแรกหลิวยวี่ถงไม่ได้สนใจเจ้าเด็กเหลือนี่มากนัก เจ้าเด็กเหลือขอนี่อยู่แค่ระดับขัดเกลาร่างกายขั้นที่ 2 เท่านั้น ทำไมเขาถึงรู้เนื้อหานี้ได้? นางคิดว่าเขาแค่ทำตัวอวดรู้เท่านั้น แต่เมื่อนางได้ยินบทพูดสองบท มันทำให้พลังในร่างกายของนางเริ่มผันผวนโดยไม่มีเหตุผล ราวกับประตูสู่ระดับหลอมรวมธาตุขั้น 9 กำลังเปิดออก!
นางถึงกับอึ้ง แม้ว่านางจะรู้ว่านางสามารถทะลวงผ่านระดับหลอมรวมธาตุขั้นที่ 9 ได้ แต่มันต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งเดือนให้หลัง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นางรู้สึกว่านางต้องการเวลาแค่หนึ่งวันเท่านั้น...ไม่สิ ถึงแม้จะเป็นตอนนี้เลย นางก็สามารถเก็บตัวฝึกฝนและทะลวงผ่านขั้นถัดไปได้!
นี่มันจะมากเกินไปแล้ว เพียงแค่สองบท กับทำให้นางได้รับผลกระทบขนาดนี้!
"นี่เป็นคำพูดสองบทจากทักษะสามหยินลึกลับ มันเป็นยังไงบ้าง?" หลิงหานยิ้มออกมา จากนั้น เขาได้ยกระดับเสียงของเขาขึ้นและกล่าวว่า "จงเป็นผู้ติดตามของข้า และข้าจะสอนเจ้าสุดยอดทักษะของพระเจ้า!"
"พรู้ด!"
หลิงฉงควนและกลุ่มของเขาไม่อาจอดกลั้นที่จะหัวเราะออกมาได้อีกต่อไป
มีเรื่องอะไรที่น่าขันกว่าเรื่องนี้อีกไหม? เจ้าเป็นเพียงแค่เศษขยะของตระกูลหลิง แต่เจ้ากลับต้องการให้อัจฉริยะจากสำนักหู่หยางเป็นผู้ติดตามของเจ้า? และถึงขั้นบอกกับนางว่าจะสอนสุดยอดทักษะของพระเจ้า! ทักษะขี้คุยของเจ้าไม่ธรรมจริงๆ
เจ้าเป็นเพียงแค่คนโง่เขลาที่ไม่ประเมินความสามารถของตัวเองเลย น่าขันยิ่งนัก!
เหล่าสาวใช้ต่างใช้มือปิดปากของพวกนาง พวกนางรู้ภูมิหลังของหลิงหาน และสังเกตพฤติกรรมของหลิงฉงควนที่แสดงต่อหลิวยวี่ถง ทำให้พวกนางรู้ว่าสถานะของหญิงสาวผู้นี้สูงส่งขนาดไหน
การแสดงออกของหลิวยวี่ถงเปลี่ยนไปอย่างเย็นชาและทันใดนั้นนางก็ไปอยู่ด้านหน้าหลิงหาน นางเหยียดมือขวาออกไปและบีบคอเขาไว้ "ท่องบทสามหยินลึกลับออกมา หรือจะให้ข้าสังหารเจ้า!" นางกล่าวอย่างเย็นชา
ตั้งแต่ที่หลิงหานกล้าตั้งเงื่อนไขแบบนั้นกับหลิวยวี่ถง เขารู้อยู่แล้วว่านางจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงยิ้มออกมาและกล่าวว่า"สังหารข้าเลยสิ ข้าคงไม่ต้องรอเจ้านานที่จะได้พบเจ้าในโลกหลังความตาย แล้วพวกเราคงจะเป็นสหายร่วมเดินทางได้ในโลกนั้น!'
หลิวยวี่ถงออกแรงบีบเพิ่มขึ้น แม้ว่านิ้วมือทั้งห้านิ้วของนางจะเล็กและนุ่มนวล แต่ในตอนนี้นิ้วมือของนางราวกับเป็นกรงเล็บที่บีบรัดคอของหลิงหานถึงขั้นทำให้เขาหายใจไม่ออก ในไม่ช้า ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง และดวงตาของเขาเริ่มแดงเถือก แขนขาของหลิงหานเริ่มสั่นเทาอย่างรุนแรง
หลิงฉงควนและกลุ่มของเขาไม่คิดที่จะเข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด ในความเป็นจริง พวกเขาหวังอยู่ลึกๆให้หลิวยวี่ถงฆ่าหลิงหาน
"เจ้าจะพูดหรือไม่พูด?" หลิวยวี่ถงคลายนิ้วมือเล็กน้อย
หลิงหานฝืนยิ้มออกมา และส่ายหัวอย่างแน่วแน่
ตระกูลหลิงในปัจจุบันเป็นสถานที่ที่อันตรายมากสำหรับเขา เขาต้องการผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งและไม่สนข้อเสนอของหลิวยวี่ถง เขาต้องทำให้นางเป็นผู้คุ้มกันของเขาให้ได้
สิ่งที่เขาขาดอยู่ในตอนนี้คือเวลา ตราบใดที่เขามีเวลาเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น แล้วตระกูลหลิงจะนับเป็นอันใดสำหรับเขา?
หลิวยวี่ถงออกแรงบีบอีกครั้ง และร่างของลิงหานก็เริ่มสั่นเทาอย่างรุนแรงก่อนที่แขนขาของเขาจะห้อยลงมา และเขาก็ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป
'ปากแข็งเสียจริง!'
หลิวยวี่ถงถอนหายใจ และปล่อยพลังของนางเพื่อทำให้หัวใจของหลิงหานกลับมาเต้นใหม่ เมื่อหายใจออก หลิงหานได้ลืมตาขึ้น และสูดอากาศเข้าไปครั้งใหญ่
"สามปี!" หลิวยวี่ถงกล่าว "ไม่เกินสามปี และภายในสามปีนี้ ข้าจะปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้า!" สามปีต่อมา นางจะอายุ 20 ปี ถ้านางไม่มีอาการหมดสติอีกต่อไป นางก็จะเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์
"อึก!" หลิงฉงควนและกลุ่มของเขาส่งเสียงออกมาจากปากของพวกเขา แต่ในครั้งนี้ มันเป็นเพราะพวกเขารู้สึกตกตะลึง พวกเขาถึงกับพูดไม่ออก
หรือว่าพวกเขาจะมีปัญหาในเรื่องของการได้ยิน? พวกเขาดูเหมือนจะได้ยินเสียงยินยอมของหลิวยวี่ถง? นางยินยอมที่จะเป็นผู้ติดตามของหลิงหาน? กลายเป็นลูกน้องของเจ้าเศษขยะนี่?
ไม่ ไม่ ไม่ ข้าจะต้องได้ยินผิดเป็นแน่! มันต้องเป็นเช่นนั้น!
หลิงหานกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งและยิ้มออกมา ก่อนที่จะยกแขนขึ้น "ตกลง!" สามปีมันนานพอที่จะทำให้เขาเติบโต อย่างน้อย มันก็นานพอที่จะทำให้แข็งแกร่งกว่าหลิงฉงควนและกลุ่มของเขา แล้วเขาก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องภัยคุกคามต่อชีวิตของเขาอีกต่อไป
"ปัง!"
หลิวยวี่ถงยื่นมือขึ้นมาเช่นกัน และจับมือกับหลิงหาน นี่เป็นคำมั่นสัญญาณระหว่างนักรบ
เป็นมือที่นุ่มนวลยิ่งนัก!
เมื่อฝ่ามือของพวกเขาผสานกัน หลิงหานรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังถูกผูกมัด แม้ว่าครั้งหนึ่งเขาเป็นถึงนักรบระดับสวรรค์ และยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นจักรพรรดิปรุงยา มีหญิงสาวที่งดงามนับไม่ถ้วนเสนอตัวเองให้กับเขา เนื่องจากวิญญาณของเขาได้รวมเป็นหนึ่งกับหลิงหานคนก่อน มันทำให้เขากลับสู่ความเยาว์วัยอีกครั้ง ความหลงใหลที่เขาไม่เคยมีมาเป็นเวลานานกำลังลุกโชติอยู่ในร่างกายของเขา ทำให้เขารู้สึกว่าเขากลับมามีอายุ 16 ปีแล้วจริงๆ
หลิงหานมีความสุข นี่แหละคือความหมายของชีวิต
"แม่นางหลิว อย่าได้ฟังเรื่องไร้สาระเจ้าหนอนแมลงนี่เลย พวกเรากลับมาคุยเรื่องสำคัญกันต่อเถิด" หลิงฉงควนพูดขัดจังหวะ เขาไม่ต้องการให้หลิงหานทำเสียเรื่องอีกต่อไป และจางหยวน มันเป็นคนที่โง่เขลาอย่างแท้จริง แม้แต่จับตาดูเศษขยะยังทำไม่ได้! หากมันกลับมา เขาจะสังหารมันอย่างแน่นอน!
"หัวหน้าพ่อบ้าน" หลิงหานจ้องมองเขาอย่างเย็นชา "ตำแหน่งในสำนักสวรรค์เป็นสิ่งที่พ่อของข้าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้รับมันมาตอนนี้พ่อของข้ากำลังเสี่ยงชีวิตอยู่ในหุบเขาแสงสีม่วง แต่เจ้ากลับฉวยโอกาสอย่างไม่ละอาจใจ เจ้าไม่มีความไร้ยางอายเลยหรือไง?"
"สามหาว เจ้ากล้าดียังไงถึงพูดจากับข้าเช่นนี้?" หลิงฉงควนตะโกนสวนทันที
ก่อนหน้านี้ หลิวยวี่ถงไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ แต่เนื่องจากนางได้ทำข้อตกลงกับหลิงหานไปแล้ว ท่าทีของนางจึงเปลี่ยนไป "พ่อบ้านหลิง มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น? ข้าต้องการคำอธิบาย!"
หลิงฉงควนสามารถแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของหลิงหานได้ แต่เขาไม่กล้าที่จะละเลยคำพูดของหลิงยวี่ถง
ไม่เพียงแต่นางจะเป็นตัวแทนของสำนักหู่หยาง ความสามารถของนางยังอยู่เหนือกว่าเขา แล้วเขาจะเมินคำพูดของหลิวยวี่ถงได้อย่างไร?
เขารีบตอบกลับทันทีว่า "เรื่องมันมีอยู่ว่า เจ้าเด็กนี่คือลูกชายของหัวหน้าตระกูลหลิง หลิงตงชิง ดังนั้น หลิงตงชิงจึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เขาต้องการให้โอกาสกับเจ้าเด็กนี่เป็นการส่วนตัว ข้าเป็นคนมองการใหญ่เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากตำแหน่งอันมีค่านี้!"
"เป็นคำพูดที่ยิ่งใหญ่เสียจริง 'มองการใหญ่' !" หลิงหานแสยะยิ้มออกมาอย่างเย็นชา "หลิงฉงควน เจ้าไม่มีความละอายใจเลยหรือไง? ตำแหน่งที่ได้รับนี้มันเป็นเพราะพ่อของข้าที่กำลังเสี่ยงชีวิตของเขาอยู่แม้แต่ตอนที่พวกเรากำลังพูด มันเกี่ยวข้องกับตระกูล? ทำไมเจ้าต้องกังวล? เจ้าเพียงแค่ต้องการมอบตำแหน่งนี้ให้กับหลานชายของเจ้า และในอนาคต เมื่อเขาอยู่ในระดับที่สูงกว่าพ่อของข้า เขาจะช่วยเจ้ายึดตำแหน่งหัวหน้าตระกูล
เจ้าต้องการทำเรื่องไร้ยางอาย แต่อ้างว่าทำมันไปเพื่อความภักดีต่อตระกูล หน้าด้านอะไรขนาดนี้!"
หลังจากได้รับคำด่าทอจากหลิงหาน มันทำให้หลิงฉงควนโกรธเกรี้ยวถึงที่สุดถึงขั้นตัวของเขาสั่นเทา เขาเกือบจะต้องกระอักเลือดออกมาเพราะความโกรธ
"สัตว์เดรัจฉานอย่างเจ้ากล้าดียังไงที่พูดจาดูหมิ่นข้าเช่นนี้?" หลิงฉงควนกล่าวด้วยความโกรธ
เขาถูกเจ้าเศษขยะนี่ด่าทอจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้ลงโทษหลิงหานขั้นรุนแรง ความโกรธของเขาคงไม่มีทางสงบลง
หลิงหานยิ้มออกมาอย่างเฉยเมย และหันหน้าไปหาหลิวยวี่ถง "ข้าไม่สนใจที่จะเข้าร่วมสำนักหู่หยาง ข้อตกลงระหว่างพวกเราให้ยกเลิกไปซะ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน สำนักหู่หยางจะต้องชดเชยให้ข้าด้วยเม็ดยา"
"ตกลง!" หลิวยวี่ถงพยักหน้า ในการใช้ความทุ่มเทเพื่อฝึกฝนบ่มเพาะพลัง มันจะต้องใช้เม็ดยาจำนวนมาก
"ไม่!" หลิงฉงควนรีบตะโกนออกมาทันที "ตำแหน่งนี้เป็นของมู่หยุน เจ้าไม่มีทางขโมยมันไปได้!"
"หมาเฒ่า เจ้ามีปัญหาเรื่องการได้ยินหรือ? ตำแหน่งนี้มันเห็นได้ชัดว่าเป็นของพ่อข้า มันจะเป็นของพวกเจ้าได้ยังไงกัน?" หลิงหานเย้ยหยัย จากนั้นเขาได้หันไปมองหลิวยู้ถง และกล่าวว่า "นี่เป็นคำสั่งแรกของเจ้า"
เขาหยุดพูดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะพูดต่อว่า "ยับยั้งหมาเฒ่านี่ให้ข้า ข้าต้องการตบหน้าตาแก่ไร้ยางอายนี่!"
หลิวยวี่ถงดูลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่นางจะพยักหน้า "ตกลง!"
หลิงหานได้แสดงความจริงใจของเขาโดยการมอบของขวัญที่ล้ำค่าแก่นาง ดังนั้น ตอนนี้นางจึงต้องแสดงความจริงใจของนางด้วย
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? หลิวยวี่ถงตกลงที่จะเป็นผู้ติดตามของหลิงหาน?
คำว่า "ผู้ติดตาม" มันดูเหมือนจะยิ่งใหญ่ แต่ในความเป็นจริง มันเป็นเหมือนกับคนรับใช้! อัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่จากสำนักหู่หยางได้ตกลงที่จะเป็นผู้ติดตามให้คนอื่น? เรื่องที่ไม่น่าเชื่อนี้มันคืออะไรกัน?
แต่มันคือความจริง หลิวยวี่ถงได้ลุกขึ้นยืน ดวงตาที่งดงามของนางกำลังจับจ้องไปที่หลิงฉงควน
"ศิษย์พี่หลิว อย่าได้ถูกเจ้าสารเลวนี่หลอกล่อ!" หลิงหยุนตะโกน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาไม่มีทางยอมรับความจริงนี้ได้ หญิงสาวที่มีพรสวรรค์และฉลาดอย่างหลิวยวี่ถงจะถูกล่อลวงโดยคำพูดที่สละสลวยของหลิงหาน!
"เจ้าจะยอมจำนนแต่โดยดี หรือเจ้าจะรอให้ข้าเป็นคนลงมือ?" หลิวยวี่ถงถามอย่างใจเย็น