ตอนที่แล้วตอนที่41 เหตุผลว่าทำไมคนถึงอ้วนกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่43 โค้ชซู

ตอนที่42 ผลลัพท์ที่สุดยอด


 

สำหรับหลี่ไต้มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ในฐานะที่ตัวเองเป็นโค้ช เขาคิดอยู่เสมอว่าการฝึกมันเป็นเรื่องที่ต้องจริงจัง อย่างไอ้สิ่งที่เรียกว่าการออกกำลังกายลดน้ำหนักเนี่ย มันไม่ต่างอะไรกับการฝึกย่อย เเต่ประเด็นคือไอ้การฝึกย่อยนั้นดันได้ค่าประสบการณ์เยอะไง

"เเกคิดอะไรของเเกอยู่ การออกกำลังกายลดน้ำหนักมันก็เเค่การออกกำลังกายวิธีนึงธรรมดาๆนั้นละ มันไม่ได้ช่วยให้เเต้มเยอะขึ้นหรอก" เสียงระบบดังขึ้นในหัวอีกครั้ง

"เเล้วเเกจะอธิบายไอ้51เเต่นี้ว่ายังไง"หลี่ไต้ถามทันที

ฆฉันได้ค่าประสบการณ์ไม่เกิน30เเต้มต่อการฝึกเเบบเต็มวัน1วัน เเต่ฉันได้51เเต้มจากการฝึกออกกำลังกายเเค่2รอบ

"อย่าลืมว่าหยูเฟ่ยเฟ่ยเป็นใครซิ!

เธอเป็นถึงเเชมป์โอลิมปิคเลยนะ เเล้วก็เป็นผู้ถือครองสถิติโลกด้วย  ถ้าเทียบกับพวกนักกีฬาที่เเกเคยฝึกให้ สูงสุดมันก็เเค่นักกีฬาชาตระดับสูงสุด ความต่างมันเหมือนฟ้ากับเหว จำที่ข้าบอกได้ไหม ว่ายิ่งนักกีฬาเวลสูงเท่าไร ค่าประสบการณ์ที่ได้ก็ยิ่งเยอะเท่านั้น ง่ายๆว่าคนที่ถือสถิติโลกอยู่ก็เท่ากับ100นักกีฬาตัวท๊อปของประเทศไง" ระบบบอก

"1เท่ากับ100คนเลยเหรอ นี้มันบ้าชัดๆ"หลี่ไต้ถอนหายใจ

"มันไม่บ้าอะไรเลย ถ้าเรามาดูที่อัตราส่วน นักกีฬา1000คน=นักกีฬาสถิติโลก1คน ไม่ต้องพูดถึง100คนเลย"ระบบพูดต่อ

"เเกนี้โชคดีจริงๆ

"โชคดีเหรอ เเกหมายความว่ายังไง"หลี่ถามงงๆ

"เเกเป็นโค้ชลำดับ3 นั้นต่ำที่สุดในระบบนี้ละนะ" เสียงของระบบไม่เเคร์มากขึ้น

"ระดับของเเกต่ำเกินไปสำหรับการฝึกให้เเชมป์โลก ถึงเเม้เเกจะได้ไปฝึกให้พวกเขา เเกก็ไม่ทำให้พวกเขาเห็นผลอะไรได้หรอก เเต่ถึงอย่างงั้นเเกได้เจอกับเเชมป์โลกที่ต้องการการช่วยเหลือจากเเกในการลดน้ำหนัก เเละตอนนี้โค้ชระดับ3ก็ได้มาฝึกให้เเชมป์โลกเเล้ว"

หลี่ไต้ไม่สบอารมณ์เท่าไรที่ระบบมาดูถูกเขา ระบบพูดต่อ "เเค่ใช้โอกาศนี้อย่างเต็มที่ละหัน เพราะยังไง เเกก็จะได้ค่าประสบการณ์มหาศาลจากหยูเฟ่ยเฟ่ยอยู่เเล้ว มันจะทำให้เเกเวลอัพกลายเป็ยโค้ชลำดับ2

หลี่ไต้ผงกหัวเบาๆ"เเกพูดถูก 2รอบก็ได้51เเต้มเเล้ว ถ้าเราฝึก1วันเต็ม เราก็จะได้เยอะกว่านั้นมากๆ!"

...

เค่อตอนนี้อยู่ในโรงบาล นั้นหมายความว่าหลี่ไต้คุมห้องฝึกชั่วคราวอยู่ที่ชั้น3 หยูเฟ่ยเฟ่ยก็อยู่ที่นี้เเล้วด้วย

"มาเร็วนะเนี่ย! กินข้าวเช้ามารึยัง? กินด้วยไหมถ้ายังไม่กินอะ น้ำเต้าหู้วันนี้อร่อยนะ" หลี่ไต้ถือซาลาเปาเเท้งไว้ในมือข้างนึง อีกข้างถือเเก้วน้ำเต้าหู้ กำลังดื่มด่ำความสุขกับอาหารเช้า เเต่เหมือนหยูเฟ่ยเฟ่ยจะรีบเเล้วก็เร่งเขาไปด้วย

"รีบๆกินให้เสร็จเร็วๆเข้า เเล้วก็มารีบออกกำลังกายลดน้ำหนักกันต่อเร็ว!"

หลี่ไต้หัวเราะกับสีหน้าตื่นเต้นของหยู  คำว่า"ลดน้ำหนัก"มันดูน่ารักเเปลกๆสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะนักกีฬาที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดน้ำหนักเพื่อให้กลับมาท๊อปฟอร์มเหมือนเดิม

หยูทำการออกกำลังกายลดน้ำหนักตลอดทั้งวันเเล้วลดไปได้0.55กิโล ถึงมันจะไม่ดีเท่ากับคืนเเรก เเต่มันก็ดีพอที่จะทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นกับมันได้

เธอน้ำหนักขึ้นมาซักพักใหญ่ๆเเล้ว เเทนที่จะน้ำหนักลด ถึงเเม้ว่าเธอจะกินเเบบจำกัดเเคลอรี้ สิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือทำให้น้ำหนักคงตัวไม่เพิ่มไปมากกว่านี้ เธอไม่ได้เห็นน้ำหนักตัวเองลดมาตั้งนานเเล้ว ดังนั้น การที่น้ำหนักลดไป0.8กิโลใน2วันทำให้เธอดีใจสุดๆ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ตามความจริงเเล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไร ผลของการลดน้ำหนักมันก็น้อยลงเท่านั้น จากวันเเรกเธอลดไปได้0.55ในวันเดียว วันต่อมาก็0.45 เเล้วก็0.4 เเล้วก็น้อยไปเรื่อยๆเเล้วตอนนี้เธอก็ใกล้เคียงกับน้ำหนักเดิมขึ้นมาเรื่อยๆ นั้นหมายความว่าความสามารถในการลดน้ำหนักของเธอก็ต่ำลงเรื่อยๆเหมือนกัน เเต่ถึงจะได้ผลต่ำลงก็เถอะ ตอนนี้เธอก็ลดน้ำหนักไปได้6กิโลใน15วันเเล้ว นี้มันใกล้เคียงกับน้ำหนักเดิมปีที่เเล้วของเธอ การลดน้ำหนักขนาดนี้ในเวลา15วัน นับว่าเป็นปาฏิหารก็ได้

หลี่ก็ได้ค่าประสบการณ์ระหว่าง15วันนี้เยอะเหมือนกัน อย่างที่ระบบว่า การฝึกหยูให้ค่าประสบการณ์ที่เยอะว่านักกีฬาชาติลำดับ1ถึง100เท่าหลี่ไต้ได้ค่าประสบการณ์มามากกว่า400เเต้มเเละเขาจะพุ่งไปเป็นโค้ชลำดับ2เร็วๆนี้

“1และ2และ3และ4 5 6 7 และ 8”

เสียงนับของหลี่ไต้ดังก้องไปทั่วห้องฝึก หยูมีแรงผลักดันเหมือนเดิม ถึงแม้วันจะเป็นท่าออกกำลังกายที่โคตรจะน่าเบื่อเลยที่ต้องทำท่าเดิมๆซ้ำๆ แต่เพราะมันได้ผลดีกับน้ำหนักของเธอ ทำให้เธอมีความหวังมาก

“โค้ชหลี่ ไปพักเธอคะ ฉันจำท่าได้หมดแล้ว ฉันคิดว่าฉันทำเองคนเดียวได้แล้ว” หยูบอก

“ไม่ได้!”หลี่เงยหน้าขึ้นแล้วบอก“ท่าออกกำลังกายนี้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของฉัน สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ท่า แต่เป็นจังหว่ะตั่งหาก เธอไม่ได้คุ้นเคยกับจังหวะแบบนี้ น้ำหนักเธออาจจะไม่ลดเลยถ้าเธอฝึกด้วยตัวเอง”

หลี่จะไม่มีทางยอมให้หยูออกกำลังกายด้วยตัวเอง เงื่อนไขในการที่ทำให้มันได้ผล คือหลี่ต้องเป็นคนนำเธออกกำลังกาย ถ้าอยู่ออกกำลังกายด้วยตัวเอง น้ำหนักเธอก็จะไม่ลด

“แต่ฉันไม่เห็นจะดูออกเลยว่ามันมีจังหวะอะไรนั้นด้วย!” หยูเบะปากใส่ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอไม่เชื่อเขาเลยซักนิด แต่เธอก็ยังคงเชื่อฟังอยู่ มันเป็นนิสัยของเธอไปแล้วที่ต้องเชื่อฟังโค้ช

หลี่หายใจออก แล้วยืดกล้ามเนื้อร่างกาย “เอาละ เยี่ยม มาทำกันอีกรอบนะ 1 2 3 4 5 6 7 8”

เสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอกห้องฝึก แต่มันถูกกลบด้วยเสียงนับของหลี่ ทันใดนั้นมีใครคนหนึ่งตะโกน “ทำอะไรกันอยู่”

หลี่ไต้และเฟ่ยเฟ่ยหยูหยุดพร้อมกันและจ้องมองไปที่ประตู เห็นเป็นชายสูงวัยกลางคน อ้วนเล็กน้อยใส่หมวกแก้ปสีดำ จอนสีเทาและมีขนคิ้วดกดำ ตาใหญ่โต จมูกโด่งเป็นสันผิวพรรค์ผุดผ่องมากๆ หลี่จินตนาการว่าถ้าเขาอายุซัก20ปีจะหล่อขนาดไหน

“ใครครับเนี่ย? ผมคิดว่าผมไม่เคยเจอเขามาก่อนนะ เขาไม่น่าใช่ครูของที่นี้!” หลี่ไต้กำลังจะเดินไปหาเขา แต่หยูชิงพูดก่อน

“โค้ชซู ดีใจที่เจอกันอีกคะ!” หยูดูดีใจมากที่เจอเขา เธอเดินเข้าไปหาเขาอย่างเร็ว

นี้คือโค้ชซูที่หยูพูดถึง หลี่ไต้หายใจเฮือกใหญ่

แต่ถึงอย่างงั้นโค้ชซูดูจริงจัง และมองไปที่ทั้ง2คน “ไหนเธอบอกว่าจะมาลดน้ำหนักที่นี้ไง แล้วทำไมเธอมาทำท่าออกกำลังกายแอโรบิคงี้ละ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด