ตอนที่แล้วChapter 90 -เดิมพันด้วยหลุมฝังศพของบรรพบุรุษเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 92 - ลั่วเทียน เจ้ากล้า?

Chapter 91 - เจ้าอ้วนแปลงร่าง


 

Chapter 91 - เจ้าอ้วนแปลงร่าง

ฟางเล่ยไม่อาจรอได้อีกต่อไป!“เจ้าต้องการตาย? บิดาคนนี้จะช่วยเจ้าเอง!”

เฉินซ่งหลับตาลงขณะที่เขายิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ยกเท้าขวาและค่อยๆก้าวลงก่อนที่จะคำราม “ก้าวเมฆาพริ้ว.”

ขณะที่เท้าของเขาแตะลงพื่นระลอกคลื่นก็กระจายออกมา มันเหมือนกับหินที่ตกลงไปในทะเลสาบที่สงบนิ่ง.

ในเวลาเดียวกัน...

“วูซซซ~!”

การเคลื่อนไหวราวกับเมฆและร่างกายจางหายไป.

เร็วมาก มันเร็วจนไม่อาจจะมองเห็นได้.

ลั่วเทียนขมวดคิ้วและเริ่มกังวลกับฟางเล่ย.

ช่องว่างระหว่างทั้งสองแตกต่างกันเกินไปแม้ว่าจะอยู่ในขั้นเดียวกัน ไม่ว่าฟางเล่ยจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ยากที่จะต้านเฉินซ่ง.

นอกจากนี้เฉินซ่งเป็นสาวกหลักของนิกายเมฆคราม การบ่มเพาะและทักษะการต่อสู้มีพื้นฐานที่สูงมาก ความแข็งแกร่งของเขายังมากถึงปราณเชี่ยวชาญระดับ 8.

ซูซางเฟยมีหน้าตาที่อิ่มเอมใจและพูด “ไอ้อ้วนนั่นกำลังจะตายแล้ว”

เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเฉินซ่งดี ภายใต้สาวกภายนอกของนิกายเมฆคราม ความแข็งแกร่งของเฉินซ่งก็เป็นระดับต้นๆ.

ก้าวเมฆาพริ้วที่น่าเหลือเชื่อและยังเพิ่มฝ่ามือกลียุคแรกเริ่ม แม้ว่าจะอยู่ในระดับเดียวกันแต่กับปราณเชี่ยวชาญขั้น 2 อย่างฟางเล่ยก็มีแต่ตายเท่านั้น.

ตามคาด...

ในพื้นที่ว่างปรากฏร่างเฉินซ่งก่อนที่เขาจะคำรามออกมา“

ฝ่ามือกลียุคแรกเริ่ม!”ฝ่ามือขนาดยักษ์ได้ตกลงมาด้านบนศีรษะของฟางเล่ย นอกจากพลังปราณและความกดดัน ยังมีพลังกดดันจากฝ่ามือกลียุคอีกด้วย.

“ตายซ้าาา!”

เสียงที่ราวกับฟ้าร้องและลมจากฝ่ามือราวกับเป็นพายุกระจายออกมา.

ฟางเล่ยยืนนิ่งเพราะดวงตาไม่อาจตามความเร็วของเฉินซ่งทัน ฝ่ามือขนาดยักษ์กำลังจะตกมาที่หัวของเขา...

ผู้คนหลายคนของตระกูลลั่วไม่ได้ดีใจนักที่ได้ดูสิ่งนี้.

ลั่วเทียนขมวดคิ้วขณะที่เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย เขาพร้อมที่จะวิ่งเข้าไปในเวทีได้ทุกเวลา.

กลางเวที.

ตาของฟางเล่ยยังคงวสงบนิ่งขณะที่เขากำลังหาตำแหน่งของเฉินซ่งอย่างต่อเนื่อง จิตใจของเขาตระหนักว่าไม่อาจตามความเร็วของเฉินซ่งทัน.

ไม่มีทางไหนที่เขาจะเทียบกับความเร็วนั้นได้.

เมื่อเห็นเฉินซ่งโจมตี จิตใจของฟางเล่ยก็ลงต่ำ แขนของเขาชูขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามและพลังภายในก็พุ่งออกมาจากตัวของเขา.

กระดูกทั่วร่างราวกับโลหะที่พังได้ทุกเมื่อ.

เขาใช้กำลังจากไหล่และปล่อยทุกสิ่งที่เขามีอยู่!

“ตูมมม~...”

ฝ่ามือขนาดยักษ์ปะทะ!

คลื่นปะทะกระจายออกมาจากกลางเวทีจนรู้สึกได้ หลายคนรู้สึกว่าแผ่นดินสั่นไหว.

ควันคละคลุ้งไปทั้วเวทีทำให้ผู้คนไม่อาจมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้.

ที่ข้างเวทีเฉินซ่งเดินออกมาและทำท่าทางดูถูก จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชา“เศษขยะอย่างเจ้ากล้าที่จะมาสู้กับข้า? ฮึ!”

ถึงแม้ว่าเฉินซ่งจะไม่ได้ใช้แรงไปทั้งหมดกับการปะทะฝ่ามือ แต่เขาก็มั่นใจอย่างมากว่าเขาสามารถฆ่าฟางเล่ยได้ทันทีและฟางเล่ยจะตายโดยการเลือดออกจากร่างกาย!

10 วินาทีผ่านไป กลุ่ใควันก็ลอยหายไปหมด.

กลางเวทีฟางเล่ยนอนอยู่ที่พื้น ใต้ร่างของเขาเป็นรอยร้าวยืดยาวออกไปโดยมีร่างของเขาเป็นศูนย์กลาง.

เขาไม่ได้เคลือนไหวเหมือนกับว่าเขาตาย.

“พี่อ้วน…”

“เจ้าอ้วน!”

“น้องอ้วน!”

สมาชิกในตระกูลลั่วตื่นตระหนก.

ซูซางเฟยเป็นคนแรกที่หัวเราะอย่างเย็นชา “ข้ารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นการฆ่าตัวตายจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว เศษขยะปราณเชี่ยวชาญระดับ 2 ไม่ว่าเจ้าจะขวัญกล้าแค่ไหน ฮึ่ม!”

สมาชิกตระกูลซูเริ่มส่งเสียงดัง.

“ขยะตระกูลลั่ว ควรจะไปกินอึซะ.”

“เขาถูกสังหารในการโจมตีเดียว ขยะจริงๆ 555…”

ซูเหยาซงยิ้มเฉียบอย่างยิ่ง เขาจ้องมองไปที่ลั่วเทียนที่กำลังเงียบเหมือนตายก่อนพูดว่า

“เด็กน้อย บ้านของบรรพบุรุษเจ้าตอนนี้เป็นของตระกูลซู เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นแล้วรีบออกไปเร็วๆเลย!555…”

หัวเราะ!หัวเราะอย่างต่อเนื่อง ทุกคนในตระกูลซูกำลังหัวเราะอย่างร่าเริง.

ลั่วเทียนตรวจดูฟางเล่ยที่นอนอยู่อย่างละเอียดก่อนที่จะยิ้มเหมือนกัน.

เฉินซ่งมองไปที่ฟางเล่ยด้วยความรังเกียจก่อนที่จะหัวเราะ“ความสามารถของเจ้าต่างกันเกินไป ได้ขยะ.”

จากนั้นเขาก็เดินลงจากดเวที.

ขณะที่เดินลงจากเวทีเขาก็ได้ยินเสียงจากกลางสนาม.

“เจ้าจะออกไปแล้ว?”

“หรือว่าเจ้ากลัว?”

เมื่อเสียงจางหายไป ฟางเล่ยก็ยืนขึ้นมา มีรอบเลือดที่ปากและใบหน้าค่อนข้างซีด ตอนนี้เขากำลังมองเฉินซ่งที่ขอบเวที.

เขายังมีชีวิตอยู่!

ท่าทางของเฉินซ่งเปลี่ยนไปขณะจ้องมองกลับมา จากนั้นเขาก็เดินเข้ามากลางเวทีและหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าต้องการตายจริงๆ?”

ทุกคนในสนามรู้สึกตกใจ ฟางเล่ยรอดชีวิตจากการโจมตีของปราณเชี่ยวชาญระดับ 8 ได้อย่างไร? ร่างกายอ้วนๆนี่ถูกสร้างมาจากอะไร?

แม้ว่ากระดูจะทำจากเหล็ก แต่ก็ควรจะถูกทุบแหลกเหลว แต่เขาก็รอดชีวิตมาได้...

หรือว่าเฉินซ่งออมมือ.

เฉินซ่งใช้ก้าวเมฆาพริ้วอีกครั้งและกระโดดสูงจากนั้นเขาก็ตะโกน“มาดูกันว่าเจ้าจะตายหรือไม่?!”

ความกดดันปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า.

มือขนาดใหญ่ตกลงมา เวลานี้ความเร็วของมันเร็วเหมือนกับว่าสิ่งต่างๆไม่ส่งผลต่อมัน.

ฟางเล่ยยังไม่อาจเห็นตัวเฉินซ่ง เขาได้แต่กัดฟันเท่านั้น!

“ตูม~!”

เวทีพังทลาย.

ฝุ่นกระจายคละคลุ้ง แต่ผู้คนก็ยังเปิดตามองเพื่อดูผล.

ฟางเล่ยนอนแผ่หลาอีกครั้ง มีก้อนหินมากมายปกคลุมตัวเขา.

“เขาตายหรือยัง?”

เฮฉินซ่งยิ้มอย่างรังเกียจและพูด “ลองยืนขึ้นมาอีกรอบ.”

เมื่อเห็นฟางเล่ยไม่ขยับหลังจากนั้นไม่นานเขาก็หัวเราะ ขณะที่เขากำลังก้าวลงจาเวที ฟางเล่ยก็ยืนอีกครั้ง.

ใบหน้าของเขาดูอ่อนแรง หลังจากเช็ดเลือดที่มุมปากเขาก็พูดเยาะเย้ย“นี่คือความแข็งแกร่งของเจ้า?”

“หาที่ตาย!”

เฉินซ่งรำคาญอย่างมากในตอนนี้.

ทุกคนที่เฝ้ามองก็ตะลึง เจ้าอ้วนเป็นแมลงสาบที่ไม่อาจเอาชนะมันได้? การจู่โจมของเฉินซ่งสามารถฆ่าคนที่อยู่ขั้นปราณเชี่ยวชาญระดับ 5 ได้อย่างง่ายดาย แต่นี่ฟางเล่ยกับยังสามารถกลับมายืนได้อีกครั้งและเขาก็มีท่าทางตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา เขาเป็นคนโง่?

เฉินซ่งไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก.

ในเวลานี้เขาจะใช้พลังทั้งหมดของเขา ก้าวเมฆาพริ้วกับฝ่ามือกลียุคแรกเริ่มก็ถูกใช้อีกครั้ง.

การโจมตีเป็นดังฟ้าร้องและพลังก็เหมือนกับภูเขา.

ฟางเล่ยหัวเราอย่างบ้าคลั่งและผสานมือ จากนั้นก็จ้องมองไปที่เงาฝ่ามืออย่างดุร้าย.

กลิ่นอายของฟางเล่ยเปลี่ยนไป.

มีเกล็ดปรากฏบนแขนของเขา เกล็ดที่บางและเบา และไม่มีใครสังเกตมันเห็นได้หากว่าไม่เพ่งมอง.

ลั่วเทียนที่เห็นได้ชัดมีท่าทางตื่นเต้น“ข้ารู้ว่าเจ้าอ้วนนี่ไม่ง่าย!”

เวลาเดียวกัน...

เลือดที่อยู่ร่างของฟางเล่ยก็เริ่มไหลเวียน หลังจากถูดกระแทกให้ติดพื้นถึงสองครั้ง สิ่งที่ไม่รู้จักในร่างกายของเขาก็เริ่มกราดเกรี๊ยวออกมา หลังจากกินแก่นโลหิตจำนวนมากทั้งเดือนทำให้ความแข็งแกร่งที่อยู่ภายในระเบิดออกมา.

สัตว์ร้ายกำลังโกรธอย่างมาก.

พละกำลังมุ่งเข้าไปทางแขนของฟางเล่ยและมีการเปลี่ยนแปลงที่โหดร้าย เกล็ดที่คล้ายกับสัตว์ป่าน่ารังเกียจและดูผิดปกติ

!

“ตูมมม~!”มันเป็นดั่งฟ้าร้องผ่านสวรรค์ทั้ง9!

ฝ่ามือขนาดใหญ่ลงบนหัวของฟางเล่ย! เงาสัตว์ร้ายที่อยู่ด้านหลังฟางเล่ยก็ดูดุเดือดเป็นพิเศษราวกับกำลังกระโดดออกไป.

“เขาต้องตายแน่นอน.”

“เฉินซ่งใช้พลังเต็มที่ ไม่ว่าร่างกายของเจ้าอ้วนจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางต้านทานเขาได้.”

“ตายยย!”

เจ้ากำลังต่อต้านอะไร?

ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนร่างกายของเจ้าก็ต้องถูกทำลาย.

ฟางเล่ยไม่เคยอึ้งไปมากขนาดนี้ แต่...

เขาอยู่ในขั้นปราณเชียวชาญระดับ 2 ดังนั้นเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเฉินซ่งที่สาวกหลักในนิกายเมฆครามได้อย่างไร?

นี่มันเป็นไปไม่ได้.

เกือบทุกคนก็คิดอย่างนั้น.

ใบหน้าซูเหยาซงเต็มไปด้วยความสุข ตอนนี้เขากำลังคิดว่าจะทำอะไรกับคฤหาสน์ของตระกูลลั่วและมันได้ทำให้ใบหน้าของเขาบานเหมือนดอกไม้.

เช่นเดียวกับซูซางเฟย.

แม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดหวังกับผลงานของเฉินซ่ง แต่ผลก็ไม่เปลี่ยนแปลง - ฟางเล่ยตาย.

หลุมที่กลางเวทีกลายเป็นลึกยิ่งกว่าเดิม.

หลุมลึกเต็มไปด้วยฝุ่นและไม่อาจมองเห็นได้.

แต่...

อีกครั้งที่เฉินซ่งกำลังลงจากเวที เสียงที่ดูโหดเหี้ยมและดุร้ายราวกับสัตว์ป่าก็ออกมา.

“นี่คือแรงทั้งหมดของเจ้า?”

“ความแข็งแกร่งที่แทบจะไม่อาจทำให้ข้าคันได้.”

ทันใดนั้น...

ฟางเล่ยค่อยๆปีนออกจากหลุมของเขา เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเลือด.

เขาแปลงร่าง!

“ตอนนี้มันเป็นตาข้าบ้าง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด