ตอนที่ 47 การตัดสินใจที่โง่เง่าที่สุด (FREE)
มันเร็วเกินกว่าที่ใครจะตอบสนองได้ทัน
แม้แต่ หลี่ จ้วงฉือ ยังรับรู้ถึงตัวตนของอีกคนหนึ่งได้ หลังจากที่หมัดของทั้งสองคนเข้าปะทะกัน ประกายแห่งความงงวยปรากฎขึ้นบนตาของเขา แต่ความตกใจของเขาค่อยๆกลายเป็นรอยยิ้มที่แสดงความเยือกเย็นออกมา
แต่....
รอยยิ้มอันเยือเย็นกลับหายไปอย่างรวดเร็ว
เพราะว่า เขารู้สึก หมัดที่เหมือนอ่อนแอนั้น มีพลังที่รุนแรงราวกับภูเขาไฟระเบิด ป้องกัน? เขายังไม่ทันแม้แต่จะได้คิดอะไร พลังอันรุนแรงทำให้เท้าของเขาลอยขึ้น ก่อนที่ร่างกายของเขาจะกระเด็นไปกระแทกกับกำแพงหิน
“แกรก..” บนกำแพง ผลจากการประทะอันรุนแรง รอยแตกกระจายไปทั่วราวกับใยแมงมุม
ใบหน้าของ หลี่ จ้วงฉือ ขาวซีดทันที หน้าอกของเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด เขากระอักเลือดสดๆออกมาจากปาก ขณะที่จ้องมองไปยังใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ หน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงบ เพราะเขาไม่อยากจะเชื่อในเรื่องที่เกิดขึ้น
ความรุนแรงขนาดนี้?
ความแข็งแกร่งขนาดนี้ เป็นของมนุษย์งั้นหรือ? ข..เขาทำมันได้ยังไง เขาเป็นแค่เด็ก 7 ขวบเท่านั้น!
“นี่มััน..”
หัวหน้าหมู่บ้านก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เขาเห็นข้างหน้านี้ ในชณะที่ ฟาง เฮ่าเตอ กำลังจะต่อย หลี่ จ้วงฉือนั้น พลันมีร่างหนึ่งปรากฎขึ้นมาในทันที
มันเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป
เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม หลี่ จ้วงฉือ ถึงกระเด็นไปติดกำแพง? ทำไมจึงมีรอยแตกเกิดขึ้นบนกำแพงหิน? ม...มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
หลี่ จ้วงฉือ ถูกอัดกระเด็นเพียงแค่ ฟาง เจิ้งจือ ใช้หมัดเดียว?!
มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!” เมื่อ ฮูหยินหลี่ เห็น ฟาง เฮ่าเตอ ใช้ไม่เท้าเดินเข้าไปหา หลี่ จ้วงฉือ นางก็หัวเราะเยาะขึ้นมาในใจ นางรู้ดีว่าสามีของนางนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน การกระทำของ ฟาง เฮ่าเตอ เหมือนเป็นเพียงการแกว่งเท้าหาเสี้ยนเท่านั้น
แต่ตอนนี้กลับกลายเป็น ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่หน้าสามีนาง?!
ไม้เท้าของ ฟาง เฮ่าเตอ ถูกบังคับให้หยุดลง สายตาของเขามองไปยังร่างที่ดูอ่อนแอที่ทำในสิ่งที่เขาอยากทำให้เกิดขึ้น ทั้งๆที่รู้ว่าความเป็นจริงนั้นไม่มีทางเป็นไปได้!
ปากของ ฟาง เฮ่าเตออ้าค้างเขาทวนสิ่งที่เขาเคยได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ พูด
‘ข้า!ต้องการ!จะ!เข้า!หน่วย!ล่า!สัตว์!’
‘แม่! เอาท้องนั่นไปใช้รักษาพ่อเถอะ!’
‘…’
“เขาคือลูกชายข้า? เขาคือ ฟาง เจิ้งจือ งั้นหรือ?!”
ปากของ ฉิน ซูเหลียน ยังเม้มแน่นอยู่เช่นกัน เมื่อนางเห็น ฟาง เฮ่าเตอ เดินออกไป นางอยากจะวิ่งไปกอดให้เขาหยุดเดินด้วยซ้ำ เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคงไม่เป็นไปตามที่ ฟาง เฮ่าเตอ หวังอย่างแน่นอน
แต่นางไม่ได้ทำอย่างนั้น
ในฐานะของคนเป็นพอ เขาคงอยากเป็นที่พึ่งพิงของลูกชาย แม้รู้ว่าจะต้องทุกข์ทรมาร แต่ถ้าเพื่อลูกชายแล้วเขาก้ไม่มีเรื่องที่จะต้องกลัว
แต่.....
สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน
“เจิ้งจือ...เจิ้งจือ อัด หลี่ จ้วงฉือ กระเด็น? โดยใช้แค่หมัดเดียว?” ทันใดนั้น ตาของนางเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา
“เจิ้งจือของแม่ ตอนนี้เจ้าสามารถเป็นที่พึ่งพิงของครอบครัวได้แล้วสินะ!”
บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความลึกลับ ไม่มีใครเปิดปากพูดอะไรออกมาหลี่ จ้วงฉือคือคนที่ยกหม้อน้ำหนักเกือบ 500 กิโลกรัมขึ้นได้? เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?!
“ใครที่นำความอัปยศไปสู่ผู้อื่น ผู้นั้นก็ควรได้รับความอัปยศเช่นเดียวกัน!” ฟาง เจิ้งจือ ที่มอง หลี่ จ้วงฉือ อยู่นั้นหันไปมอง ฮูหยินหลี่ที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง
นางรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาจับใจ หนาวจนถึงสันหลัง
ฮูหยินหลี่ ถอยหลังออกไปด้วยความกลัวจนไปชนเข้ากับเก้าอี้ที่วางไว้อยู่ ร่างของนางหงายหลังลงกับพื้น “ตึง!”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ทุกคนในห้องได้สติกลับมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า...พูดได้ดี น้องชาย! ใครที่นำความอัปยศไปสู่ผู้อื่น ผู้นั้นก็ควรได้รับความอัปยศเช่นเดียวกัน! ถึงปกติข้าจะเป็นคนอยาบกระด้าง แต่ข้าก็รู้ได้ว่าประโยคที่เจ้ากล่าวออกมาต้องเป็นคำพูดที่ลึกซึ้งมากแน่ๆ!”
ทันใดนั้น จาง หยางปิง ที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นสายตาของเขามองไปยังร่างของ หลี่ จ้วงฉือ ก่อนจะหันไปมองหน้าของหัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“หัวหน้าหมู่บ้าน หมู่บ้านภูเขาทางใต้ของเจ้า วันนี้ช่วยเปิดหูเปิดตาของข้าจริงๆ!”
“ข้าได้ยินเจ้าพูดว่า หลี่ จ้วงฉือ เป็นความหวังของหมู่บ้าน? เจ้ารู้ไหมนี่คือเรื่องที่ตลกที่สุดในชีวิตที่ข้าเคยได้ยินมา!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
“ข้า จาง หยางปิง ไม่เคยกลัวใคร ไมว่าจะเป็นหน้าไหนที่อยู่ในละแวกนี้ แต่เป้าหมายของข้าที่มายังหมู่บ้านภูเขาทางใต้ในวันนี้ ข้อแรกเพื่อเป็นพยานให้กับ ฟาง เจิ้งจือ ข้อที่สองข้าจะมาเจรจาเรื่องความร่วมมือเพื่อสันติภาพของทั้งสองหมู่บ้าน!”
“หมู่บ้านภูเขาทางเหนือเต็มใจที่จะจ่ายเงินในแต่ละเดือนให้กับหมู่บ้านภูเขาทางใต้เพื่อความสงบสันติ รู้ไหมว่าเพราะอะไร? เพราะ ฟาง เจิ้งจือ! แต่เราไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะตอนนี้เขาไม่ได้เป็นคนของหมู่บ้านภูเขาทางใต้อีกต่อไปแล้ว! ข้าอยากจะบอกเจ้าเหลือเกิน...”
...
....
“วันนี้ หัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าๆตัดสินได้โง่เง่าที่สุด!”
“ตัดสินได้โง่เง่าที่สุด!”
“ตัดสินได้โง่เง่าที่สุด!”
เสียงของ จาง หยาปิง สะท้อนไปทั่วห้องเล็กๆ จากนั้นเข้าก็เดินไปข้างหลังของ ฟาง เจิ้งจือ หยิบตะกร้าขึ้นมา
“หัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าคิดว่าความหวังของหมู่บ้านที่เจ้าพูดนั้น...จะฆ่ามันได้งั้นรึ?!”
“ฟุบ!”
หนังสัตว์บางอย่างก็เปิดเผยออกมาต่อหน้าทุกคน ขนของมันเป็นสีฟ้ายาว ที่กลางหลังมีขนสีแดงทอดยาวจากหน้าผากไปจนถึงหาง แม้มันจะเป็นเพียงหนังสัตว์ แต่บรรยากาศที่กดดันของสัตว์ป่าที่ดุร้ายยังคงมีอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ
ทุกคนต่างรู้ได้ในทันที
หลี่ จ้วงฉือ สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวได้เป็นครั้งแรก เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่านี่คือขนสัตว์อะไร? แต่เขาไม่กล้าจะเชื่อ....หรือไม่เต็มใจจะเชื่อ
ฮูหยินหลี่ที่ยืนขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่เมื่อนางเห็นหนังสัตว์ที่เทออกมาจากตะกร้านั้นนางรีบคว้าเก้าอี้เกาะเพราะกลัวที่จะล้มลงไปอีกครั้ง
ภายในตาของ ฟาง เฮ่าเตอ เต็มไปด้วยความซับซ้อน ในใจของเขาตอนนี้มีทั้งความตื่นเต้น เกลียดชังและดล่งใจ...แต่สุดท้ายด้วยอารมณ์ทั้งหมดส่งผลให้น้ำตาร้อนๆค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาของเขา
มันไม่ง่ายที่ลูกผู้ชายนั้นจะหลั่งน้ำตาออกมา
“แขน...แขนข้องขา!”
“เฮ่าเตอ เฮ่าเตอ เจ้าเห็นไหม เจิ้งจือ เจิ้งจือ ของพวกเราได้แก้แค้นให้กับเจ้าแล้ว!” ฉิน ซูเหลียน ไม่สามารถควบคุมน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป นางกอด ฟาง เฮ่าเตอ ที่ไร้แขนข้างหนึ่ง แน่น
หัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ ที่ตอนแรกใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจพลันกลับกลายเป็นสีแดงคล้ำทันที เขาไม่กล้าเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นได้อัด หลี่ จ้วงฉือ จนกระเด็นติดกำแพง แต่เรื่องที่น่าตกใจและยากที่จะเชื่อยิ่งกว่าคือ...
ฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าของเขานั้นน่ากลัวมาก! ความหวาดกลัวของเขาพุ่งพล่านออกมาจากจิตใจ!
“หมาป่า...หมาป่าเพลิงฟ้า?!”
เพจหลัก : Gate of god TH