บทที่ 50: จัดการความเสียหายที่ตามมา
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ก่อนใครได้ที่แฟนเพจ
====================
บทที่ 50: จัดการความเสียหายที่ตามมา
ไม่จำเป็นต้องกล่าวสิ่งอื่นใด เจ้าอ้วนกลับวัดเสวียนเทียนด้วยดาบบินของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนกลับมาถึงวัดแล้ว หวังฉีหวู่รีบส่งคนมาต้อนรับเขาทันที หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองพบกันที่ห้อง ก่อนกล่าวสิ่งใดเล็กน้อยพร้อมนั่งลง
ในขณะที่คนรับใช้นำชามาเสิร์ฟ หวังฉีหวู่ถาม “ศิษย์น้อง ภารกิจปราบปรามภูตผีสำเร็จหรือไม่?”
“ด้วยคำแนะนำของศิษย์พี่ แน่นอนว่าทุกอย่างสำเร็จลุล่วงด้วยดี เจ้าผีตนนั้นได้สาบสูญจากโลกนี้และเดินทางไปยังโลกใหม่ของมันแล้ว!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย
“ฮ่า นับว่าศิษย์น้องมีฝีมือเป็นเลิศยิ่งนัก เจ้าจัดการทุกอย่างได้รวดเร็วจริง ๆ!” หวังฉีหวู่กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น “หลังจากเรื่องราวจบลง แน่นอนว่าราชครูตอบแทนเจ้าอย่างสาสมใช่หรือไม่?”
“โอ้” เจ้าอ้วนตกตะลึงไปชั่วครู่ แล้วกล่าวออกมาอย่างไม่ยี่หระ “เปล่า เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น!”
“อะไรกัน? เขาน่ะหรือ? เจ้าช่วยเขาปราบภูตผี แต่เขากลับไม่มีสิ่งใดตอบแทนเลยอย่างนั้นหรือ?” เมื่อหวังฉีหวู่ได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธาขึ้นมาทันที “เป็นการกระทำที่ดูหมิ่นกันเกินไป! อย่ากังวลไปเลยศิษย์น้อง ข้าจะกลับไปถามเขาด้วยตนเองถึงสิ่งที่เขากระทำ!” ขณะที่กล่าว เขาลุกขึ้นพร้อมเดินไปที่ประตู
“แค่กแค่ก” เจ้าอ้วนไอออกมาสองครั้งพร้อมกับวิ่งตามหวังฉีหวู่เพื่อหยุดเขาไว้ เขาหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์พี่ท่านกำลังเข้าใจผิด มิใช่ราชครูหรอกที่ไม่ตอบแทนข้า แต่ว่าเขาไม่โอกาสที่จะทำ”
“หือ? เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ที่เจ้ากล่าวว่าไม่มีโอกาสที่จะตอบแทน?” หวังฉีหวู่ถามอย่างงุนงง
“อา มันหมายความว่า ศิษย์น้องผู้นี้ทำการสับเขาและบุตรธิดาของเขาทั้งหมด รวมถึงลูกสะใภ้ ไม่มีผู้ใดหลงเหลืออยู่แม้เพียงหนึ่งคน!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาเบาๆ
“หา? ว่าอะไรนะ?” เมื่อหวังฉีหวู่ได้ยินเช่นนั้น เขามึนงงไปทันที เขาไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินจึงรีบถามออกไปอีกครั้ง “ศิษย์น้อง เจ้าช่วยกล่าวอีกครั้ง พี่ชายเจ้าผู้นี้แก่แล้วอาจจะได้ยินที่เจ้ากล่าวไม่ถูกต้อง!”
“ข้ากล่าวว่า ข้าหั่นพวกเขาเป็นชิ้น ๆ ทั้งราชครูและครอบครัวของเขาทั้งหมด!” เจ้าอ้วนกล่าวทวนอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น
“หั่น?” หวังฉีหวู่ยังไม่คลายความสงสัย เขาถามออกมาอีกครั้ง “หั่นสิ่งใด?”
“หั่นเพื่อส่งไปสู่ความตาย!” จากนั้นเจ้าอ้วนได้อธิบายต่อ “มันหมายถึงข้าฆ่าพวกเขาทั้งหมด!”
“ฆ่าทั้งหมด?” เมื่อหวังฉีหวู่ได้ยิน เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “เจ้าหมายความว่าเจ้าฆ่าครอบครัวของราชครูทั้งหมด?”
“โอ้ ถูกต้องแล้ว นั่นคือสิ่งที่ข้าจะพูด!” เจ้าอ้วนพยักหน้าพร้อมตอบกลับ
“บัดซบ!” หวังฉีหวู่สบถออกมาดังลั่น “ศิษย์น้อง เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากระทำสิ่งใดลงไป? ข้าขอให้เจ้าไปปราบภูตผี ไม่ใช่ฆ่าพวกเขายกครัว!”
“ข้าทราบ ข้าทราบเรื่องนั้นดี แต่ปัญหามันอยู่ที่ราชครูเป็นบุคคลที่เลวทราม เพียงแค่ภาพวาดเล็กน้อยที่เขาต้องการทำให้เขาฆ่าล้างบางครอบครัวไปครอบครัวหนึ่ง หลังจากที่เจ้าของภาพตายตกไป เขาวิ่งว่อนไปทั่วท้องฟ้าและความแค้นของเขาทำให้เขากลับมาแก้แค้น” เจ้าอ้วนกล่าวเสริม “จะเป็นอย่างไรหากโลกนี้เต็มไปด้วยผู้คนเช่นราชครู? เมื่อข้าพบเจอคนเช่นนี้ จะให้ข้าเมินเฉยงั้นหรือ?”
“เจ้า เจ้า เจ้า!!” เมื่อหวังฉีหวู่ได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธจนตัวสั่น ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดต่อได้ จากนั้นเขาจึงกล่าวต่อว่า “เรื่องของโลกมนุษย์ ใยผู้ฝึกตนเช่นเจ้าจะต้องสนใจงั้นหรือ?”
“อา ศิษย์พี่ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง วัดเสวียนเทียนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรม และเรามักจะกล่าวถึงกฎแห่งสวรรค์ที่ปกป้องโลกมนุษย์ แต่ว่าน้องชายผู้นี้ได้พบกับความไม่ยุติธรรมเช่นนั้น ข้าไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้งั้นหรือ?” เจ้าอ้วนแสร้งกล่าวด้วยความไม่พอใจ พร้อมกล่าวต่อว่า “อย่าบอกว่าข้านั้นทำผิด เพียงเพราะข้าอยากจะปกป้องชื่อเสียงของนิกาย?”
“เรื่องนั้น…” หวังฉีหวู่นิ่งไปเมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าอ้วนกล่าว เขาไม่อาจกล่าวว่าชื่อเสียงของนิกายเป็นเรื่องขบขันได้ ดูเหมือนว่าศิษย์น้องผู้นี้จะสร้างความยากลำบากให้กับเขาเสียแล้ว แต่สิ่งที่เขากระทำลงไปก็มีเหตุผล! สิ่งนั้นทำให้หวังฉีหวู่โกรธจัด
แต่เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เจ้าอ้วนกระทำนั้นเหมาะสมแล้ว เขาจึงไม่สามารถกล่าวถึงเรื่องนี้ได้อีก เขาก้มมองปลายเท้าของตนอย่างหมดหวัง “แม้ว่าสิ่งที่ราชครูกระทำนั้นไม่เหมาะสม แต่อย่าบอกข้าว่าเจ้าไม่รู้ว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย? เหตุใดเจ้าต้องลงมือฆ่าครอบครัวของเขาด้วยตนเอง? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังนำพาปัญหาใหญ่มาให้ข้า?”
“อา! ข้าเพียงจัดการกับมนุษย์บางคนมิใช่หรือ? เหตุใดจึงเกิดปัญหา?” เจ้าอ้วนขมวดคิ้วแน่นพร้อมถามออกไป “นอกจากนี้เราคือผู้ฝึกตน เราเดินทางตามกฎแห่งสวรรค์และเป็นตัวแทนสวรรค์ที่จะชำระล้าง การพบเห็นบุคคลที่ชั่วร้ายเราจะต้องจัดการกับเขาในทันที ท่านอย่ากล่าวกับข้าว่าศิษย์น้องผู้นี้ต้องส่งมันไปศาล? ศิษย์พี่ไม่เห็นด้วยกับข้า?”
“เรื่องนั้น…” หวังฉีหวู่นิ่งเงียบไปอีกครั้งจากคำพูดของเจ้าอ้วน แน่นอนว่าเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าการส่งอีกฝ่ายไปศาลแล้วความเป็นธรรมจะบังเกิด ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียวเข้ม หวังฉีหวู่รู้อย่างแน่ชัดว่าเขาไม่สามารถตอบโต้เจ้าอ้วนได้ในครั้งนี้ เขากล่าวออกมาอย่างยอมแพ้ “ตกลง ศิษย์น้องเจ้ายอดเยี่ยมมาก ศิษย์พี่ผู้นี้ขอยอมแพ้ต่อเจ้า ในตอนนี้เราต้องไปหาอาจารย์เพื่อคลี่คลายปัญหานี้!”
ก่อนที่เจ้าอ้วนจะได้กล่าวอะไรต่อ หวังฉีหวู่ไม่รีรอ เขาดึงเจ้าอ้วนไปหลังภูเขาทันที
หลังภูเขาคือสถานที่ที่ฉิงเฟิงซีฝึกตน
ฉิงเฟิงซีนั่งอยู่บนเตียง มองไปที่เจ้าอ้วนอย่างเฉยเมย หวังฉีหวู่ที่ผิดหวังก็ไร้ซึ่งคำพูด
ฉิงเฟิงซีได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง ว่ากันตามเหตุผลการกระทำของเจ้าอ้วนนั้นมากเกินไป การที่มันฆ่าครอบครัวของราชครูทั้งหมดนั้นมิใช่เรื่องเล็ก ไม่ใช่แค่ศาลเท่านั้น แต่ทั้งแคว้นจะลุกเป็นไฟ และมันจะส่งผลกับความสัมพันธ์ของวัดเสวียนเทียนและแคว้นหลานเย่ว์โดยตรง ถ้าหากเป็นผู้คนที่กระทำการเช่นนี้ ฉิงเฟิงซีคงไม่ต้องคิดสิ่งใดมากนัก มันผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษอย่างสาสมอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่ถึงกับฆ่าเขาทิ้ง แต่ก็ต้องลงโทษอย่างหนักที่สุดเพื่อให้ศาลยอมรับได้
แต่ปัญหาในตอนนี้คือบุคคลที่สร้างปัญหานี้คือเจ้าอ้วน! สายเลือดสุดท้ายที่พี่น้องร่วมสาบานของเขาทิ้งไว้ ถ้าหากบิดามารดาของเจ้าอ้วนยังอยู่ แน่นอนว่าฉิงเฟิงซีจะต้องลงโทษเขาเพื่อแสดงให้ศาลเห็นสักเล็กน้อย แต่ทว่าในตอนนี้บิดามารดาของเจ้าอ้วนล่วงลับไป และเรื่องราวที่เขาได้ผ่านมานั้นทุกข์ทนเป็นอย่างมาก จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากฉิงเฟิงซีลงโทษเขา? ถ้าหากจะลงโทษเจ้าอ้วน เขาจะมีหน้าไปพบน้องชายที่ตายไปได้อย่างไร!
หลังจากที่ฉิงเฟิงซีพิจารณาอยู่สักครู่ เขาขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับเผยริมฝีปากเล็กน้อย “ฆ่าได้ดี!”
“หือ หา?” เมื่อได้ยินฉิงเฟิงซีกล่าวเช่นนั้น หวังฉีหวู่แทบจะเป็นลมล้มตายไปในตอนนั้น เหตุใดอาจารย์จึงต้องปกป้องเจ้าอ้วนถึงเพียงนี้?
หวังฉีหวู่ไม่สบอารมณ์ เขากล่าวออกไปทันที “อาจารย์ นั่นคือราชครู! ตระกูลของเขาถูกกำจัดทิ้งไป!”
“แล้วยังไง?” ฉิงเฟิงซีกล่าวอย่างหงุดหงิด “ไม่ใช่เขาหรือที่เป็นผู้ข่มเหงรังแกผู้อื่นก่อน? อย่าบอกข้าว่าเจ้าคิดว่าเขาไม่สมควรตาย?”
“เขาสมควรตาย!” เมื่อเห็นว่าอาจารย์โกรธ เขารีบกล่าวบางอย่างออกมาเพื่อให้อาจารย์ผ่อนคลายลง จากนั้นเขากล่าวเสริมอย่างระมัดระวัง “ท่านอาจารย์ แม้ว่าเขาสมควรที่จะตาย เขาก็ไม่สมควรที่จะถูกตัดสินโดยศิษย์น้อง อีกทั้งการกระทำที่แสนจะโหดร้ายเช่นนี้ ข้าจะอธิบายให้ศาลฟังได้อย่างไร?”
“นั่นมันเป็นปัญหาของเจ้า!” ฉิงเฟิงซีกล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่าบอกนะว่าเจ้าจะให้ข้าออกไปเสนอหน้ากับเรื่องเล็กเพียงแค่นี้?”
“ข้าไม่กล้า ข้าไม่กล้าทำเช่นนั้น!” หวังฉีหวู่หัวเราะอย่างขื่นขมพร้อมกล่าวว่า “อาจารย์ ท่านพักผ่อนเถิด ข้า… ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง!”
หลังจากกล่าวจบ หวังฉีหวู่จ้องมองเจ้าอ้วนอย่างขุ่นเคืองพร้อมกล่าวเสียงเบา “ศิษย์น้อง เจ้าเป็นผู้สร้างปัญหานี้ขึ้นมาและตอนนี้ข้ายังต้องมาเช็ดก้นให้เจ้าอีก! เจ้านี่มัน!” เมื่อกล่าวจบ หวังฉีหวู่เดินออกไปพร้อมกับความโกรธเกรี้ยวที่อัดแน่นอยู่ในกระเพาะอาหารของเขา