Chapter 242: การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
Chapter 242: การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
ขบวนรถก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไปและเพียงเวลาไม่นานพวกเขาก็มาถึงตำแหน่งที่กองกำลังขนาดใหญ่ประจำการอยู่ หวังฉี่ชีนั้นก็รีบเดินมาหาพวกเขา เธอนั้นยุ่งตลอดทั้งวัน ในอีกทางหนึ่ง เธอก็ต้องการที่จะรู้อย่างมากกว่าครอบครัวของหลี่ยู่ซินนั้นเป็นอย่างไร และในอีกทางหนึ่งนั้นเธอก็ต้องการที่จะเรียกร้องความสนใจกับหลี่ยู่ซิน หลี่ยู่ซินนั้นเป็นเพื่อนที่ใจดี ดังนั้นเธอจะปลอบโยนหวังฉี่ชีอย่างแน่นอน
“อะไรนะ? มันเกิดเรื่องมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ยู่ซิน แล้วเธอก็กลายเป็นพวกมีพลังเหนือธรรมชาติงั้นเหรอ?”หวังฉี่ชีถาม การแสดงออกของเธอนั้นกลายเป็นซับซ้อน พวกเธอนั้นพึ่งจะออกมาจากเกาะและเดินทางออกมาสู่โลกภายนอกซึ่งมันทำให้หวังฉี่ชีนั้นหวาดกลัว สำหรับครั้งแรกนั้น หวังฉี่ชี่นั้นก็ตระหนักได้ว่าพี่ชายของเธอนั้นก็ยังเป็นคนธรรมดา และเขาก็ไม่ใช่ยอดวีรบุรุษ เธอนั้นพึ่งพากับตัวเองมากกว่าที่จะพึ่งพาพี่ของเธอแล้วในตอนนี้ ในตอนแรก เธอเชื่อว่าหลี่ยู่ซินนั้นอยู่ในเรือลำเดียวกัน แต่เธอไม่ได้คาดคิดว่าเพื่อนของเธอนั้นจะกลายเป็นพวกมีพลังเหนือธรรมชาติในภารกิจนี้….
“ฉี่ชี”หลี่ยู่ซินก็พูดอย่างฉับพลัน
“อ๊า?”หวังฉี่ชีฟื้นสติ
“ฉี่ชี ฉันคิดว่าฉันควรที่จะพัฒนาความสามารถพิเศษของฉัน มันจะเป็นประโยชน์ในอนาคต”หลี่ยู่ซินพูดอย่างตื่นเต้น
“ใช้มัน? ใช่ นั่นเป็นความคิดที่ดี”หวังฉี่ชีพยักหน้าและหลังจากนั้นก็พูด “ยู่ซิน เธอได้รับประสบการณ์มามากมายหลายวันก่อน เธอนั้นเหนื่อยอย่างแน่นอน ไปพักผ่อนเถอะ”
“ฉันสบายดี ฉี่ชี เธอเป็นยังไงบ้าง?”หลี่ยู่ซินถาม
หวังฉี่ชีนั้นเปิดปากขึ้น แต่หลังจากนั้นเธอก็ส่ายหัวโดยไม่ได้พูดความคิดของเธอออกไป “ฉันก็สบายดีเช่นกัน”
หลี่ยู่ซินจ้องไปที่หวังฉี่ชีและเธอก็สังเกตเห็นว่าหวังฉี่ชีนั้นแตกต่างไปจากอดีต หวังฉี่ชีนั้นเหมือนเติบโตขึ้นอันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย
“อาหารได้เตรียมพร้อมแล้ว ดังนั้นเธอควรที่จะกินมันให้มากขึ้น”หลี่ยู่ซินก็กลับไปยังรถมินิบัสและเธอก็เห็นหลันซิหยู่นั้นกำลังหยิบหม้อที่ต้มเนื้อกลายพันธุ์ไว้ออกมา หลี่ยู่ซินก็นั่งไปบนเก้าอี้ของโต๊ะกินข้าว และมองเจียงจู้อิงที่กำลังวางชามเนื้อต่อหน้าเธอ มันค่อนข้างอร่อยมาก หลี่ยู่ซินนั้นได้กลิ่นอันเย้ายวนของอาหารและอุทานขึ้น “ว้าว”
“ยังไงก็ตาม เธอควรที่จะกินผักให้เยอะๆด้วยเช่นกัน”เจียงลู่ฉีนั้นเพิ่มผักลงไปในชามของหลี่ยู่ซิน หลี่ยู่ซินนั้นรู้สึกขอบคุณกับทุกคนในรถมินิบัส
หลี่ยู่ซินนั้นกลายเป็ฯเงียบงันและหลังจากนั้นก็เปิดเผยรอยยิ้มก่อนที่จะพูด “ฉันต้องการที่จะเข้าร่วมทีมของนาย ฉันต้องการที่จะรู้ว่ามันมันมีการวัดคุณสมบัติในการเข้าร่วมด้วยไหม?” เธอก็งอตัวลงและผมหางม้าของเธอนั้นก็สะบัด
ใบหน้าหวานและการทำตัวที่เป็นธรรมชาตินั้นทำให้เจียงลู่ฉีนั้นรำลึกถึงวันเก่าๆในโรงเรียนมัธยม
เจียงลู่ฉีเงียบอยู่ชั่วครู่หนึ่งและหลังจากนั้นก็พยักหน้า “ถ้าเธอโอเคกับค่าแรงละก็......ยินดีต้อนรับนะ”
หลันซิหยู่มองดูฉากนี้ ยิ้มและก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง “ฉันจะไปทำอาหารเพิ่มอีกสองจานเพื่อฉลอง”
สักพักต่อมา ซูกวงฉีและซูตงก็ตื่นขึ้น
แม้ว่าสัตว์ประหลาดนั่นจะวางยาพิษใส่พวกเขา โชคดีที่หลังจากพวกเขาตื่นขึ้น ใบหน้าของพวกเขานั้นมีสุขภาพที่ดี การนอนหลับลึกนั้นช่วยพวกเขาในการฟื้นคืนความเหนื่อยล้า เมื่อเห็นว่าหลี่ยู่ซินปลอดภัย พวกเขาก็ร้องออกมาด้วยความสุข
“แม่และปู่คะ หนูต้องการที่จะอยู่กับทีมฉีหยิงต่อไป เนื่องจากหนูจะต้องฝึกฝนความสามารถพิเศษของหนู ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ได้ตอบรับคำขอของหนูไปแล้วด้วยค่ะ”หลี่ยู่ซินพูดอย่างมีความสุข
ซูกวงฉีและซูตงนั้นมองหน้ากันและกันพร้อมกับท่าทางที่ดูกังวล แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ตกลงกับการตัดสินใจของหลี่ยู่ซิน ที่จริงแล้วพวกเขารู้สึกมีความสุข
หลี่ยู่ซินนั้นตัดสินใจที่จะเข้าร่วมทีมฉี่หยิงด้วยเหตุผลหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือเธอต้องการที่จะขอบคุณทีมฉี่หยิง
เลือดนั้นเข้มข้นยิ่งกว่าน้ำ ซูตงนั้นรู้ความคิดทั้งหมดของหลี่ยู่ซินเป็นอย่างดี ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะสนับสนุนเธอ หลี่ยู่ซินรู้สึกขอบคุณแม่และปู่เธอที่สนับสนุนเธอมากๆและหลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ “สำหรับความปลอดภัยของหนู หนูจะระวังตัวให้มากที่สุด ดังนั้นแม่และปู่ไม่ต้องกังวล หนูต้องการให้ทั้งคู่เชื่อในตัวหนู ฉันเชื่อว่าชีวิตที่ดีนั้นจะต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของหนูเอง”
ซูกวงฉียิ้มและเดินไปหาเจียงลู่ฉีและหลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือไปเชคแฮนด์กับเจียงลู่ฉี
เจียงลู่ฉีตกตะลึง แต่เขาก็ยื่นมือของเขาออกไปในทันที
ซูกวงฉีก็พูด “คุณเจียง ฉันจะฝากหลานสาวไว้ในความดูแลของคุณ ขอบคุณนะ ฉันหวังว่าคุณจะสนับสนุนกันและกันในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม เมื่อฟังคำพูดของศาสตราจารย์ซู เจียงลู่ฉีก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกว่ามันประหลาด
“ผมจะทำครับ”เจียงลู่ฉีตอบกลับ
ในเวลานั้นเอง เจียงจู้อิงพูดด้วยเสียงต่ำ “หื้อ? ไม่ใช่ว่ารถมินิบัสจะเล็กลงอย่างงั้นเหรอ…”ก่อนที่เสียงของเธอจะหายไป พี่ชายของเธอก็เคาะไปทีหัวเธอแล้ว…
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลินเหยาฉานนั้นก็มาทักทายศาสตราจารย์ทั้งสอง พวกเขารู้สึกพึงพอใจกับผลลัพธ์มาก และหลังจากนั้นหลินเหยาฉานนั้นก็ตัดสินใจที่จะกลับไปยังเกาะเชนไฮ่ในทันที ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งแก้ทีม
เมื่อตอนที่อยู่ห่างไกลออกไปจากเกาะ พวกเขาก็สามารถได้ยินเสียงของปืนได้ เมื่อยืนอยู่ด้านบนดาดฟ้าของรถพวกเขา พวกเขาก็สามารถที่จะเห็นฝูงซอมบี้ซึ่งทำให้พวกเขาทั้งหมดรู้สึกหวาดกลัว ตลอดทางนั้นมีเลือดแข็งตัวและซอมบี้ที่กำลังถาโถมเป็นคลื่น
หลังจากการต่อสู้ยากลำบากเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขบวนรถนั้นก็มาถึงพื้นที่ของเกาะเชนไฮ่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น!
มังกรดำที่มีขนาดเท่ากับกำแพงเมืองนั้นกำลังพ่นควันหนาออกมา! มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกไม่น่าเชื่อไปพร้อมกับตื่นตระหนก ทันใดนั้นมันก็เหมือนกับมีก้อนหินนั้นกำลังกดมาที่หัวใจของทุกคน!