บทที่ 89 โฆษณาทางโทรทัศน์ (อ่านฟรี)
ด้วยการวางแผนและการปฏิบัติอย่างรอบคอบของเฝิงหยู่ นำ้มันคัดสรรคุณภาพยี่ห้อไท่หัวกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในเมืองปิง แต่ผลตอบรับในเมืองอื่น ๆของมณฑลหลงเจียงยังไม่คึกคักขนาดนี้
น้ำมันปรุงอาหารคัดสรรคุณภาพยี่ห้อไท่หัวมีราคาเพิ่มขึ้นกว่าน้ำมันถั่วเหลืองที่ขายโดยทั่วไปเป็นเท่าตัว คนทั่วไปรู้สึกเสียดายเงินที่จะซื้อ แม้ว่าบทความโฆษณาจะมีประสิทธิผลที่แน่นอน สถานีโทรทัศน์จัดทำรายการประจำสัปดาห์หักล้างความเชื่อ ว่าคนงานที่โรงงานก็กินน้ำมันเหล่านั้น ถ้าน้ำมันมีปัญหาจริงๆทำไมคนงานถึงยังกินได้?
ถ้ามันเป็นเพียงตลาดของเมืองปิง โรงงานไท่หัวยังสามารถสร้างรายได้. แต่ยอดขายของบริษัทการค้าไท่หัวไม่ค่อยดีนัก พวกเขาได้ส่งตัวอย่างน้ำมันฟรีออกไปมากมาย แต่ราคาน้ำมันที่บริษัทการค้าไท่หัวเสนอมาค่อนข้างสูงกว่าราคาตลาด
ดังนั้น เฝิงหยู่จึงตัดสินใจที่จะเพิ่มการโฆษณา เพื่อให้คนอื่นๆจดจำน้ำมันปรุงอาหารคัดสรรคุณภาพของยี่ห้อไท่หัว ให้คนที่ซื้อน้ำมันปรุงอาหาร จดจำว่าเมื่อซื้อน้ำมันต้องซื้อยี่ห้อไท่หัว
สินค้าของเขาถูกส่งไปทั่วทั้งเมือง แต่ปริมาณไม่มากมายนัก. ปริมาณหนึ่งในสามของน้ำมันส่งไปขายที่เมืองปิง อีกหนึ่งในสามถูกส่งไปยังสถานที่ต่างๆในมณฑลหลงเจียง และอีกหนึ่งส่วนคือ ให้เป็น "ตัวอย่าง"
เนื่องจากราคาของน้ำมันค่อนข้างสูง สหกรณ์เหล่านั้นคิดว่าน้ำมันเหล่านี้จะขายได้ไม่ดีนัก และความจริงก็เป็นเช่นนั้น แม้จะมีการโฆษณาในหนังสือพิมพ์ทุกๆวัน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ซื้อน้ำมันเหล่านี้
......
"น้ำมันปรุงอาหารคัดสรรคุณภาพยี่ห้อไท่หัว ทำมาจากถั่วเหลืองคุณภาพสูง สกัดน้ำมันด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุดซึ่งนำเข้าจากสหภาพโซเวียต ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี เป็นน้ำมันที่ถูกเลือกใช้ในครัวชนชั้นสูงของยุโรป!"
สาวน้อยอายุ 20 ปีสวมผ้ากันเปื้อนที่มีสัญลักษณ์ของน้ำมันปรุงอาหารคัดสรรคุณภาพยี่ห้อไท่หัว ในห้องครัวทอดกุ้งตัวใหญ่ในกระทะน้ำมัน ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงผู้ชายที่อ่านข้อความโฆษณา. ฉากสุดท้าย เด็กสาวถือขวดน้ำมันปรุงอาหารคัดสรรคุณภาพยี่ห้อไท่หัวขนาด1.5 ลิตร
แต่เฝิงหยู่รู้สึกค่อนข้างเสียดาย. สมัยนี้ไม่มีกล้องวิดีโอความละเอียดสูงๆ . ถ้าเขาสามารถผลิต "สือเจี่ยน"ได้ ผลที่ออกมาคงจะดีกว่า แต่ผลตอบรับเช่นนี้ เฝิงหยู่ก็พึงพอใจแล้ว (สารคดีเรื่องแรกของจีนเกี่ยวกับอาหารจีนที่ถ่ายทำโดยใช้กล้องวิดีโอความละเอียดสูงในปี 2012)
โฆษณานี้ได้แนวคิดของผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่มีสารเคมี ตอนนี้ไม่มีใครยังเข้าใจแนวคิดนี้ แต่ก็ทำให้คนส่วนหนึ่งประทับใจผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพสูง. ควบคู่กับการโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติก็ได้รับความนิยมยิ่งขึ้น .
โฆษณาสิบวินาที ออกอากาศวันละ 3 ครั้งในสถานีโทรทัศน์ของเมือง. ตอนกลางวันหนึ่งครั้ง ช่วงบ่ายหนึ่งครั้ง และช่วงเวลาทองในเวลากลางคืนอีกหนึ่งครั้ง. ยุคสมัยนี้ค่าโฆษณาโทรทัศน์มีราคาแพงมาก. แต่ที่แพงก็มีแค่CCTV ส่วนสถานีวิทยุโทรทัศน์ประจำเมืองยังไม่แพงนัก
เช่นเดียวกับตอนนี้ โฆษณา3เวลา นาน1 ปี ราคาที่เฝิงหยู่จ่ายไปเพียงไม่กี่แสน. แต่เฝิงหยู่ได้เพิ่มประโยคหนึ่งในสัญญา ระบุว่าเนื้อหาในโฆษณาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด. สองวันหลังจากนั้น น้ำตาลถูกบรรจุใส่บรรจุภัณฑ์เรียบร้อย เขาก็ทำโฆษณาสำหรับน้ำตาล
ถ้าเป็นในชีวิตก่อนหน้านี้ โฆษณานี้ของเฝิงหยู่จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศ. "ยี่ห้อที่ควรคู่ครัวเรือนขุนนางแห่งยุโรป" เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องโกหก. เพราะยุโรปไม่ได้ใช้น้ำมันถั่วเหลือง แต่คนในประเทศจีนสักกี่คนจะรู้เรื่องนี้? แค่บิดเบือนความเข้าใจ ตราบใดที่สามารถออกอากาศในทีวีได้ แสดงว่าต้องเป็นเรื่องจริง!
ข้อความโฆษณาของเฝิงหยู่ เน้นย้ำว่าเป็นสิ่งล้ำค่าที่คัดสรรมาอย่างมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับฉากของหญิงสาวคนหนึ่งที่ปรุงอาหารด้วยน้ำมัน สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้ชม
คนที่ปรุงอาหารคือเฝิงตันอิงผู้เป็นพี่สาวเขามารับบทนำ เฝิงหยู่อยากจะให้พี่สาวของเขามีความรู้สึกของการเป็นซุปเปอร์สตาร์ เขาจ้างช่างแต่งหน้าจากสถานีโทรทัศน์ ซึ่งเป็นช่างแต่งหน้าเฉพาะทางที่ไม่ได้แต่งจนขาววอก ปากแดงเรื่อ แต่เฝิงหยู่ขอให้แต่งหน้าอ่อนๆ โทนสดใส ให้หลายคนคิดว่าพี่สาวของเขาไม่ใส่แต่งหน้าเลย
เฝิงตันอิงเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่งหน้าเบาๆ เธอก็สวยไม่ด้อยกว่าดาราหนังเลย ในวันถ่ายทำหลี่ซื่อเฉียงก็อยู่ด้วย เขาก็พ่ายแพ้ด้วยความงามของเฝิงตันอิง
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่โฆษณาถูกแพร่อากาศ แม่ของเฝิงหยู่ก็โทรศัพย์มาถามทันทีว่าหญิงสาวในโฆษณาที่ทำอาหารคือพี่สาวของเขาหรือเปล่า หลังจากได้รับคำตอบจากเฝิงหยู่แล้ว น้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนไปและกล่าวว่า "แค่ทำกับข้าวเป็นก็ได้ออกทีวี แม่ทำอาหารไม่อร่อยกว่าพี่แกตรงไหน? "
เฝิงหยู่จึงรีบอธิบายให้เเม่ฟังว่าเวลาไม่พอ แต่ครั้งต่อไปเขาจะพาแม่มาเป็นนักแสดงนำ
อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าโฆษณาจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผู้หญิงวัยกลางคนกำลังทำอาหาร ไม่แน่โฆษณานี้อาจมีผลตอบรับดีกว่า แต่ตอนนี้เขาต้องการดึงดูดความสนใจของผู้ชมเท่านั้น รูปลักษณ์ของพี่สาวของเขาจึงเหมาะสมกว่า
...
ในภาคเหนือเมืองเจีย ผู้หญิงสองคนในวัยสามสิบกว่ากำลังเดินไปทางสหกรณ์หลังเลิกงาน
"เธอจะไปซื้ออะไรเหรอ?"
"ฉันจะซื้อน้ำมันปรุงอาหารคัดสรรคุณภาพยี่ห้อไท่หัว แล้วเธอล่ะ?"
"ฉันก็เหมือนกัน น้ำมันนี้ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดจากสหภาพโซเวียต ต้องมีรสชาติดีแน่ๆ "
"ไม่ใช่แค่อร่อยเท่านั้นนะ แต่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติไม่มีสารเคมี ลูกชายของฉันเพิ่งเข้าเรียนในโรงเรียน ไม่ควรกินน้ำมันปรุงอาหารที่ทำจากสารเคมี "
"ก็ใช่ แม้ว่าราคาแพงไปหน่อย แต่เดือนหนึ่งก็จ่ายไม่เท่าไหร่ ขนาดขุนนางในยุโรปยังใช้น้ำมันประเภทนี้ งั้นพวกเราก็ลิ้มลองวิถีชีวิตของขุนนางเสียหน่อย! "
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในหลาย ๆเมืองของมณฑลหลงเจียง เมืองเหล่านี้แตกต่างจากเมืองปิง เพราะเมืองเหล่านี้มีระดับการยอมรับต่ำกว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่จะมียอดขายต่ำ แต่บรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กๆจะขายดีมาก เพราะหลายๆคนเลือกจะซื้อขวดเล็กๆเพื่อทดลองใช้ก่อน
แต่เฝิงหยู่เชื่อมั่นว่า เมื่อการโฆษณาทางทีวีดำเนินการออกอากาศทุกๆวันผู้คนจะคุ้นเคยกับน้ำมันคัดสรรคุณภาพยี่ห้อไท่หัว พวกเขาจะซื้อน้ำมันปรุงอาหารต่อไปเรื่อยๆ เพราะน้ำมันมีรสชาติดียิ่งกว่า
โรงงานไท่หัวได้จ้างคนงานจำนวนมากตามความต้องการของเฝิงหยู่ โรงงานในเมืองมีตารางงาน3กะ แต่โรงงานไท่หัวมีตารางงาน 4 กะ
ประการแรก คนเหล่านี้เป็นเกษตรกร แม้ว่าเครื่องจักรเหล่านี้ใช้งานได้ง่าย แต่ก็ขาดสามัญสำนึกในด้านการรักษาความปลอดภัย เทียบไม่ได้กับผู้ที่ทำงานในโรงงานมาหลายปีแล้ว นอกจากนี้ การทำงานกับเครื่องจักรยังมีอันตราย ตัวอย่างเช่น การเพิ่มวัตถุดิบลงในเครื่องจักร และความปลอดภัยจากอัคคีภัย เป็นต้น
คนเหล่านี้ไม่มีแนวคิดอย่างจริงจังต่อความปลอดภัย พวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรืออาจจะต้องตายถ้าเกิดอุบัติเหตุ ต่อให้ชดใช้ด้วยเงินเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ
ที่สำคัญกว่านั้นคือ ชุมชนของพวกเขามีประชากรเพียง 20,000 คนเท่านั้น เมื่อใดที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในโรงงาน ข่าวลือจะกระจายไปอย่างรวดเร็ว ชื่อเสียงของโรงงานจะต้องป่นปี้
เฝิงหยู่จึงสินใจที่จะดึงตัวคนที่มีความสามารถด้านการบริหารจัดการสักสองคนมาร่วมงาน แต่น่าเสียดายที่คนที่เขาเล็งไว้ได้ปฏิเสธเขา แม้ว่าจะเสนอเงินเดือนเป็นสองเท่าของเงินเดือนที่พวกเขาได้รับในปัจจุบัน พวกเขาต้องการทำงานในโรงงานของรัฐเนื่องจากถือว่าเป็น "ชามข้าวเหล็ก" สำหรับพวกเขา ทำไมพวกเขาต้องไปทำงานที่โรงงานเล็กๆในชนบทด้วยละ? อย่าว่าแต่สองเท่าเลย ต่อให้ได้รับเงินเดือนมากกว่าเดิม 3 เท่าพวกเขาก็ไม่ไป
เฝิงหยู่รู้สึกผิดหวัง ดูเหมือนเขาคงต้องฝึกฝนพนักงานของตัวเองเท่านั้น เขาจ้างอดีตหัวหน้าโรงงานที่เกษียณอายุหลายท่านเพื่อทำการสอนที่โรงงานไท่หัว เนื้อหาเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อเพิ่มความตระหนักด้านความปลอดภัยของคนงานยิ่งขึ้น
ช่วงเวลานี้ พวกเขาซื้อถั่วเหลืองเกือบ 100 ตัน พร้อมทั้งผลิตน้ำมันถั่วเหลืองได้ 15 ตัน น้ำมันถั่วเหลืองของโรงงานไท่หัวเพียงหนึ่งตัน ก็ทำกำไรได้มากกว่า 15,000 หยวนแล้ว
เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ พวกเขาก็สามารถสร้างรายได้ได้มากขนาดนี้ เฝิงซิ่วไท่มีความสุขมาก เมื่อลองคำนวนดูแล้ว น้ำมันถั่วเหลืองเพียงหนึ่งตัน สามารถทำกำไรได้ประมาณ 40,000 หยวนต่อเดือน เกือบจะ 500,000 หยวนต่อปี!
ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อมั่นในสิ่งที่ลูกชายของเขาพูดเมื่อ 3 ปีก่อน ว่าจะเปลี่ยนเงิน 1,000หยวนให้เป็นเงิน10,000หยวน แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็วิตกกังวล พวกเขาผลิตน้ำตาลมากมาย แต่ทำไมยังไม่ขายสู่ท้องตลาดอีก? หรือขายไม่ออก? ถ้าอย่างนั้นก็ขายเครื่องกลั่นน้ำตาลเหล่านี้ แล้วซื้อเครื่องจักรสกัดน้ำมันถั่วเหลืองมาเพิ่ม เพราะน้ำมันถั่วเหลืองเหล่านี้เป็นที่นิยม จะสร้างรายได้ได้มากขึ้น!