ตอนที่37 ห้องฝึกผีสิง
นี้มัน5โมงเย็นเเล้ว ได้วเลาที่ฉันจะเลิกงานละ ไต้หลี่มองนาฬิกาบนผนัง เเล้วลุกตัวเองออกจากเก้าอี้ เขายืดเส้นยืดสายก่อนจะเก็บของๆเขา
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง โทรศัพท์เข้าในระหว่างที่ไต้หลี่กำลังจะเตรียมตัวออก เขาขมวดคิ้วด้วยความเบื่อหน่าย ใครจะไปอยากทำงานเพิ่มทั้งๆที่ถึงเวลากลับบานตัวเองเเล้ว
"สวัสดีครับนี้ห้องรอรับงานครับ"ไต้หลี่ตอบโทรศัพท์
"นั้นไต้หลี่รึเปล่า ผมเล่าฉางนะ จากเเผนกทั่วไป ผมเช็คตารางงานเเล้ว วันนี้เป็นตาของคุณ" ปลายสายพูด
"คุณฉางครับ ไต้หลี่กำลังพูดอยู่ มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ" ไต้หลี่จำเสียงนี้ได้ เขาเป็นคนที่ยืมอุปกรณ์ฝึกจากเจ้าของให้
"คืองี้ คุณเล่า เค่อ คนที่คุมห้องฝึกชั้น3ของตึกเเล๊บ เกิดอาหารเป็นพิษ เขาพึ่งโดนหามไปโรงบาลเมื่อชั่วโมงก่อนเเต่เขายังไม่ได้ล๊อกประตูห้อง คุณรู้ใช่ไหมว่าในนั้นมันมีพวกอุปกรณ์ราคาเเพงอยู่เยอะ คุณช่วยไปเก็บกวาดห้องเเล้วก็ล๊อกประตูห้องให้หน่อยได้ไหม? เดี๋ยวผมจะให้คนเอากุญเเจไปให้คุณ เขาจะไปถึงอีกซัก20นาที เก็บกุญเเจไว้กับคุณเลยก็ได้" คุณฉางอธิบาย
"โอเคครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง" ไต้หลี่บอก เขาเก็บกระเป๋าเเล้วมุ่งหน้าไปที่ประตู เอาจริงไต้หลี่รอเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้กุญเเจ คนส่งกุญเเจก็ขอโทษขอโพยบอกว่าเป็นเพราะรถติด เวลากลางวันมันสั้นในฤดูหนาว อีกอย่าง เมืองเฉิงตูเป็นเมืองชายฝั่งตะวันออก ตอนนี้มันเลยมืดเเล้ว ไต้หลี่เดินไปที่ตึกเเล็บภายใต้เเสงไฟถนนจางๆ
บรื้อ~ วันนี้หนาวเอาเรื่องเลย ไต้หลี่หนาวสั่นเพราะสายลมหนาว เเต่ในความเป็นจริง เขาหนาวใจมากกว่าหนาวกายซะอีก
ด้วยความที่ว่าไม่มีนักเรียนเหลือที่นี้เเล้ว เดินในมหาลัยที่ว่างเปล่ามันค่อนข้างหลอนจิตหลอนใจเเปลกๆ ตึกนั้นหลบอยู่ในความมืด ไต้หลี่เลยต้องใช้ไฟฉายจากมือถือเพื่อช่วยในการมองเห็น ตอนที่เขาเดิน มันทั้งเงียบเเละน่ากลัวทำให้เขาเริ่มรู้สึกเครียด
เขาควานหาในความมืด เเละเเล้วเขาก็เจอสวิทย์ไฟ เเต่พอกดสวิทย์ ไฟดันไม่ติด อะไรเสียละ หลอดไฟ หรือสวิทย์ ฝ่ายสถานที่ควรจะมาซ่อม ไต้หลี่ทำอะไรไม่ได้นอกจากตำหนิ เขากำมือถือเเน่น เเล้วมุ่งหน้าไปที่ชั้น3
ห้องใหญ่สุดตรงโน้นน่าจะเป็นห้องฝึก ฉันได้ยินมาว่าห้องห้องนั้นเคยเป็นห้องประชุมมาก่อน เขาเดินไปใกล้ๆเเล้วพบว่าประตูไม่ได้ล๊อก
นี้ฉันมาที่นี้ครั้งเเรกนะ สวิทย์ไฟอยู่ไหนเนี่ย? ไต้หลี่ฉายไฟโทรศัพท์ไปตามกำเเพง หวังว้าจะเจอสวิทย์ไฟของห้อง
"ฮือฮือ ฮือฮืออออ.."ทันใดนั้น เขาได้ยินเหมือนเสียงร้องไห้
อะไรวะ? นั้นเสียงร้องไห้รึเปล่า ไต้หลี่สะดุดกับเสียงนั้น เขาขนลุกไปทั่ว
"ฮือออ ฮึก ฮืออ ฮืออ..."เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
ฉันเคยได้ยินมาว่าที่นี้เคยเป็นสุสานเก่า หรือว่าที่นี้จะมีผีสิงวะ หรืออาจจะเป็นเด็กผู้หญิงที่มาผูกคอตายในห้องนี้? หัวของไต้หลี่ตอนนี้มีเเต่เรื่องผี
เอาหน่า อย่าปอดเเหกไปดิไต้หลี่ ลืมเรื่องนั้นไปซะ! บรรซบมี่สุด ถ้ารู้ว่าคืนนี้ฉันต้องมาที่นี้นะ ฉันไม่น่าอ่านนิยายสยองขวัญมาเลย รู้งี้น่าจะอ่านนิยายที่เต็มไปด้วยความคิด+อย่างเรื่อง"Almighty coach โค้ชอหังการ"ดีกว่า ไต้หลี่พยายามไม่คิดถึงนอยายสยองขวัญที่เขาอ่าน เเต่สมองของเขาดันนึกถึงเเต่ฉากสยองจุดพีคของหนังสือพวกนั้นซะได้
ฉัน...ว่าฉันต้องไปแล้วละนะ แต่เดี๋ยว ต้องล๊อกประตูก่อน! เขาคิด แต่ขาเขาแข็ง แถมยังสั่นด้วย
ล๊อก ประตูซิเห้ย เดี๋ยวแล้วไหนล๊อกวะ อ้ออ อยู่นี้ไง ไต้หลี่หยิบล๊อกกันขโมยไว้ในเมือแล้วกำลังจะปิดประตู
“หยุด! เสียงผู้หญิงนั้นดังขึ้นกะทันหัน ไต้หลี่มองไปทางที่เกิดเสียง แล้วเห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่
“เ*ย ผี!” เขาโกยแน๊บออกมาจากตึกทันที
... ไต้หลี่วิ่งหนีออกมาจากตึก เขาวิ่งยาวจนถึงเสาไฟถนน แล้วหยุด จากนั้นเขาค่อยๆทำใจเย็นๆ
นี้ฉันเว่อร์ไปรึเปล่า? หรือนั้นเป็นคนจริงๆ? แต่ตอนนี้มันช่วงปิดเทอมหน้าหนาวนะ ไม่มีใครอยู่ตอนนี้หรอก หลี่หันหลังกลับไปมองอย่างกังวลใจ
ในเวลาเดียวกัน เสียงโทรศัพท์เบอร์แปลกก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล!” ไต้หลี่ตอบทันที
ฮัลโหล นั้นไต้หลี่รึเปล่าครับ นี้เล่า เค่อจากห้องฝึกชัน3นะครับ!”ปลายสายพูดด้วยเสียงเบา เขาดูเหมือนเหนื่อย
แต่เสียงนั้นมันทำให้ไต้หลี่รู้สึกอารมณ์ดีมาก สำหรับคนที่พึ่งกลัวขี้ขึ้นหัวเมื่อนาทีที่แล้ว การที่ได้ยินเสียงของมนุษย์ตัวเป็นๆ เป็นอะไรที่เหมือนเสียงสวรรค์มากๆ
ในสายพูดอีก “ผมเป็นอาหารเป็นพิษเมื่อกี้ แล้วตอนนี้ผมก็นอนให้น้ำเกลืออยู่ ผมคงกลับโรงเรียนวันนี้ไม่ได้แน่ๆ คุณได้กุณแจแล้วใช่ไหม? อ้อ ผมลืมบอกคุณไปอย่างนึง เรื่องที่ว่า เฟยเฟย หยู กำลังฝึกอยู่ในห้องฝึกเมื่อกี้หน่ะ”
“เฟ่ยเฟ่ย หยู ชื่อคล้ายๆกับแชมป์โลกนะครับ”ไต้หลี่ตอบ
“ก็เธอนั้นละ”
“หะ? จริงจังเหรอครับ เฟ่ยเฟ่ย หยู คนนั้นอะนะ? คนที่ทำลายสถิตโลก คนที่เข้าแข่งในรายการแกรนด์แสลมนั้นอะนะ?”
“ใช่ นั้นละ เป๊ะเลย” เล่าเค่อตอบ
“เธอมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง? เธอเป็นแชมป์โลกนะ!” ไต้หลี่พูดด้วยเสียงจับผิด
“ลืมรึเปล่าว่าเฟ่ยเฟ่ยอยู่ในทีมกีฬาเขตของเรา เธอมีความร่วมมือกับกระทรวงการกีฬาของเขตนี้” เล่าเค่อพูดกับหลี่ หายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะเล่า “ทางทีมกีฬาเขตเป็นคนจัดเรื่องนี้ พวกเขาส่งเธอคนเดียวมาที่นี้เพื่อฝึกร่างกายแล้วบอกให้เราปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะงั้น ถึงมีน้อยคนมากที่รู้เรื่องนี้ พวกนั้นคงจะหลีกเลี่ยงการรบกวนจากภายนอกเท่าที่จะทำได้แหล่ะ ในฐานะแชมป์โลกเธอได้รับสิทธิ์พิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น อุปกรณ์เครื่องมือของเรายังเทียบเท่ากับของกระทรวงการกีฬาด้วย”
"ไม่มีทางหน่ะ! เฟ่ยเฟ่ยหยู อยู่ที่นี้เหรอ”ไต้หลี่นึกขึ้นมาได้ว่าผีที่เข้าเจอหน้าตาคล้ายๆกับเฟ่ยเฟ่ยหยูเลย