Chapter 241: อย่ารบกวนเธอ
Chapter 241: อย่ารบกวนเธอ
พร้อมๆกับเสียงคำรามของซอมบี้ ขบวนรถก็ทำให้เกิดหายนะไปตลอดเส้นทาง และเสียงปืนที่ดังสนั่นก็ยังคงไม่หยุด
เมื่อเห็นข้าวเปลือกบนทุ่งหญ้าและบ้านที่มีระดับต่ำเป็นครั้งคราว เจียงลู่ฉีนั้นก็พบกับฉากอันเลวร้าย ถึงแม้ว่าสัตว์ประหลาดนั้นจะกลายพันธุ์เนื่องจากรังสีแล้ว มันก็ยังทำให้เกิดนั้นก็ทำให้ผลกระทบทางจิตที่เป็นรูปธรรม หลังจากที่ได้รับประสบการณ์จากการต่อสู้ ทหารส่วนมากนั้นรู้สึกว่าพวกเขานั้นกลับยังวันแรกของโลกาวินาศ
เจียงลู่ฉีนั้นกำมือแน่น สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะป้องกันสัตว์ประหลาดสายพลังจิต
“เร่งความเร็วเต็มกำลัง อย่าลังเล! เมื่อพวกเราพบกับทีมที่เหลือ พวกเราจะจากไปในทันที แม้กระทั่งวินาทีนั้นก็เป็นเรื่องที่ร้ายแรง การล่าช้านั้นไม่ใช่ตัวเลือกของพวกเรา!”หลินเหยาฉานนั้นตะโกนผ่านวิทยุสื่อสาร
เจียงลู่ฉีนั้นก็หันไปดูหลี่ยู่ซิน ในตอนนี้ สิ่งที่กังวลมากที่สุดก็คือหลี่ยู่ซิน แต่หลังจากนั้น เจียงลู่ฉีก็สังเกตเห็นเปลือกตาของซูกวงฉีนั้นกำลังขยับอยู่
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลันซิหยู่นั้นก็พูดอย่างฉับพลัน “จิตใจของพวกเขานั้นเหมือนกำลังฟื้นตัวอยู่”
“เกิดอะไรขึ้น?”เจียงลู่ฉีถาม ไม่มีใครที่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันค่อนข้างแปลกประหลาด
หลันซิหยู่นั้นไม่เข้าใจจริงๆ เธอมองไปที่หลี่ยู่ซินและหลังจากนั้นก็พูดอย่างประหลาดใจ “เธอนั้นมีการไหลเวียนทางพลังงานจิตใจที่ผิดปติ”ในความเป็ฯจริง การไหลเวียนพลังงานจิตวิญญาณของหลี่ยู่ซินนั้นไม่ได้แข็งแกร่ง ด้วยเหตุนี้นี่เอง มีเพียงตอนที่หลันซิหยู่นั้นให้ความสนใจกับหลี่ยู่ซิน เธอจึงค้นพบมัน
“มันเหมือนกับว่าหลังจากที่ร่างของสัตว์ประหลาดนั้นรวมกับร่างของหลี่ยู่ซินเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เธอก็ได้รับพลังจิตวิญญาณบางอย่างมา…”หลันซิหยู่อธิบาย แต่เธอก็ยังคงกังวลว่าหลี่ยู่ซินนั้นกำลังควบคุมศาสตราจารย์ทั้งสองคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เจียงลู่ฉีก็สังเกตว่าหลี่ยู่ซินนั้นกำลังกุมมือแม่และปู่ของเธอแน่น ตาของเธอนั้นปิดไม่สนิท แต่ขนตาของเธอยังคงสั่นอยู่เล็กน้อย
จากการแสดงออกของเธอ เจียงลู่ฉีก็รู้สึกว่าเธอนั้นนั้นอยู่ในอาการเคลิ้ม เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นเขาก็พูด “อย่ารบกวนเธอ!”ในความเป็นจริง แม้ว่าพลังจิตนั้นสามารถที่จะทำให้ศาสตราจารย์ทั้งสองคนนั้นได้รับผลกระทบ พวกเขาก็จะไม่ตื่นขึ้นมาอยู่ดี แต่ในตอนนี้พวกเขานั้นแสดงให้เห็นถึงการร่องรอยการฟื้นตัว
เมื่อเวลาผ่านไป…
ทันใดนั้น หลี่ยู่ซินก็เปิดตาขึ้น เธอเห็นฉากด้านหน้าของเธอและหลังจากนั้นเธอก็ทรุดตัวลงไปอย่างอ่อนแรง...
[มันเหมือนกับเป็นความฝัน แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนกับความฝัน…]หลี่ยู่ซินพูดกับตัวเอง ในความฝัน เธอนั้นทำการผ่าตัวเป็นเวลายาวนานและเธอนั้นก็จัดการนำหมอกควันสีดำออกไปได้ทั้งหมด เธอไม่สามารถที่จะเห็นหมอกดำกำลังห่อหุ้มพวกเขาอีกต่อไป แต่หลี่ยู่ซินก็ไม่สามารถที่จะพูดได้ว่ามันเป็นความฝันหรือไม่
“ยู่ซิน” เมื่อได้ยินเสียงของเจียงลู่ฉี หลี่ยู่ซินก็ฟื้นตัวในทันทีและเธอก็พบว่าทุกคนนั้นกำลังมองมาที่เธออยู่
ในเวลานั้นเอง เจียงลู่ฉีก็มองซูกวงฉีและซูตง อย่างไรก็ตาม เขานั้นก็ตกตะลึงที่ใบหน้าอันซีดขาวและม่วงคล้ำของทั้งสองศาสตราจารย์นั้นเปลี่ยนกลับไปเป็นสีปกติ แม้กระทั่งอาการป่วยจากการขาดสารอาหารและได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอก็ไม่สามารถที่จะเห็นได้อีกต่อไป พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำของพวกเขา พวกเขานั้นก็หายใจอย่างคงที่ มันเหมือนกับว่าพวกเขานั้นกำลังนอนหลับอยู่
“พวกเขา…”เจียงจู้อิงก็สังเกตได้ด้วยเช่นกัน
หลี่ยู่ซินก็พูดพร้อมกับรอยยิ้มอันสว่างสดใส “ปล่อยพวกท่านนอนเถอะ ในช่วงวันที่ผ่านมา พวกท่านนั้นเหนื่อยมากเกินไป”ตามจริงแล้วเธอนั้นเกือบที่จะสิ้นหวังแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้คาดคิดเกี่ยวกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น…
ทุกคนนั้นลดเสียงลง และหลังจากนั้นหลี่ยู่ซินก็บอกประสบการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่พึ่งผ่านมา “ฉันไม่สามารถที่จะบอกได้ว่ามันเป็นความฝันหรือไม่กันแน่”
หลันซิหยู่ตอบ “มันน่าจะเป็นโลกจิตวิญญาณของเธอ มันคล้ายคลึงกับโลกจิตวิญญาณของฉัน”
“ฉันคิดว่าเธอพูดถึง”หลี่ยู่ซินก็เข้าใจถึงมันได้และหลังจากนั้นก็รู้สึกมีความสุข“ฉันพึ่งจะมีความสามารถนี้ แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจพวกมัน…”
“ตามคำอธิบายของเธอ ความสามารถนี้นั้นมันไม่ได้จำเป็น มันมีไว้สำหรับรักษา แต่มันก็เหมาะสมกับเธอดี”เจียงลู่ฉีพูด
หลี่ยู่ซินยิ้ม “ฉันดีใจมากที่มีความสามารถนี้”ผู้คนมากมายต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นในโลกที่ล่มสลาย แต่หลี่ยู่ซินนั้นแตกต่างออกไป และมันก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอที่มีความที่สามารถรักษาคนที่เธอรักและเพื่อนของเธอได้ ที่จริงแล้วเธอนั้นก็มีความปรารถนาแบบเดียวกันก่อนวันโลกาวินาศ
เจียงลู่ฉีพยักหน้า และเขาก็รู้สึกมีความสุขด้วยเช่นกัน
“หนูชื่นชมความสามารถของพี่นะ พี่สาว!”เจียงจู้อิงพูดอย่างมีความสุข
“พูดตามจริงแล้ว มันไม่ได้น่ามหัศจรรย์มากขนาดนั้น ฉันรู้สึกว่ามันมีประโยชน์.....แต่ในขณะที่ฉันกำลังรักษานั้นมันค่อนข้างยาก…และเหนื่อยมาก”หลี่ยู่ซินพูด
“เนื่องจากว่าเธอพึ่งจะได้รับความสามารถนี้มา ไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางจิตหรือทางกายภาพ เธอก็จำเป็นที่จะต้องทำมันบ่อยๆ”หลันซิหยู่พูด
“ใช่”หลี่ยู่ซินยิ้มและพยักหน้า เธอนั้นก็ยังรู้อีกว่าพวกมีพลังเหนือธรรมชาตินั้นจำเป็นที่จะต้องกินเนื้อกลายพันธุ์จำนวนมากเพื่อพัฒนาตนเอง แต่เธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะซ้อมพลังงานทางจิตได้ยังไง ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะเรียนรู้มันจากหลันซิหยู่
“ขอบคุณความช่วยเหลือจากนายนะ”หลี่ยู่ซินก็ยืนขึ้นอย่างฉับพลันและโค้งตัว หลังจากที่โค้งตัวเสร็จเธอก็เกือบที่จะทรุดตัวลงไปอีกครั้งหนึ่ง แต่เจียงลู่ฉีนั้นจับเธอได้ทัน หลี่ยู่ซินก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงตาที่งดงาม และเธอก็พูดอย่างมีความสุข “ขอบคุณนะ”
ขอบคุณผลงานของทีมฉี่หยิง ครอบครัวของหลี่ยู่ซินนั้นได้รับการช่วยเหลือได้สำเร็จ
“อย่าประหยัดกระสุน! พลปืนกลอย่าผ่อนคลาย! เร่งความเร็วขึ้นอีก!”เสียงคำรามของหลินเหยาฉานนั้นดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร เสียงอันหนักแน่นของผู้บังคับบัญชานั้นแหบแห้งหลังจากที่ตะโกนออกมาหลายครั้ง
“ฉันเกือบลืมแล้ว!”เจียงลู่ฉีก็รีบหยิบวิทยุสื่อสาร “ศาสตราจารย์ทั้งสองคนปลอดภัยแล้ว”
“อะไรนะ!?”หลินเหยาฉานถามอีกครั้ง
“ฉันพูดว่า ศาสตราจารย์ทั้งสองคนไม่เป็นอะไรแล้ว”เจียงลู่ฉีพูด ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเจียงลู่ฉีนั้นยังคงเหมือนเดิม สำหรับหลินเหยาฉานแล้วมันก็เหมือนกับนางฟ้ากำลังร้องเพลงอยู่ข้างหูของเขาแทน
เมื่อได้รับข่าวใหม่ ทหารทั้งหมดก็หายใจเข้าลึกๆ นั่นหมายความว่าการเสียสละของสหายของพวกเขานั้นมีความหมายแล้ว ภารกิจของพวกเขานั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี!
ศาสตราจารย์ทั้งสองคนได้เดินทางกลับอย่างปลอดภัย ควบคู่ไปกับผลลัพธ์ของการทดลองจำนวนมาก ตัวอย่างการทดลอง และสมุดจดที่มีคุณค่าอย่างมาก