ตอนที่ 36 ขนหมู (FREE)
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านได้ยินเสียงบ่นอันไม่หยุดหย่อนของฮูหยินหลี่ เขาก็เริ่มรู้สึกขุ่นเคืองทันที
โดยปกติแล้วเขาสามารถทำเป็นหูทวนลมกับคำพูดของนางได้ แต่วันนี้มันแตกต่างออกไป สัตว์พวกนี้ที่ล่ามาได้ทั้งหมดนั้นเป็นของ ฟาง เจิ้งจือ
เขาลำบากมากแล้วเพื่อที่จะเจราจากับ ฟาง เจ้งจือ ให้เปลี่ยนความคิด ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีกทุกอย่างที่เขาต่อรองมาก็จะพังลง
เมื่อชาวบ้านคนอื่นๆได้ยินฮูหยินหลี่ พูดขึ้นมา พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกัน หัวหน้าหมู่บ้านประกาศยกหมูป่าเขี้ยวเหล็กให้แก่ ครอบครัว ฟาง มันเป็นเรื่องที่ยุติธรรมแล้ว และทุกคนก็เห็นด้วย
หัวหน้าหมู่บ้านเคยประกาศต่อหน้าทุกคนแล้ว ว่าสัตว์ทุกตัวที่ ฟาง เจิ้งจือ ล่าได้จะตกเป็นของเขา เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี
นอกจากนี้หมู่บ้านภูเขาทางใต้นั้นล่าสัตว์ได้น้อยมานานมากแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ ฟาง เจิ้งจือ สัตว์พวกนี้คงไม่ถูกจับกลับมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหมูป่าเขี้ยวเหล็ก ถ้าไม่มีเขามันคงเป็นเหมือนเรื่องเพื้อฝัน
“ฮูหยินหลี่ สัตว์ที่ถูกล่ามาได้จริงๆแล้วทั้งหมดเป็นของ ฟาง เจิ้งจือ!”
“ถือว่า ฟาง เจิ้งจือ ใจดีมากแล้วที่แบ่งสัตว์ให้แก่ทุกๆคน”
ชาวบ้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆฮูหยินหลี่ เริ่มเอ่ยปากเตือนเธอ
“ถ้าฮูหยินหลี่ ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งสัตว์ในครั้งนี้ ข้าคิดว่าข้าสามารถเปลี่ยนมันได้!” ฟาง เจิ้งจือ เดินก้าวออกมาจากฝูงคน
หัวหน้าหมู่บ้านหันไปมองที่ ฟาง เจิ้งจือ แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรเขา เพราะตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ ก็ถือว่ามีสิทธิมีเสียงในหมู่บ้านภูเขาทางใต้เช่นเดียวกัน
ชาวบ้านคนอื่นๆต่างมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความสงสัย
“อา ในที่สุด เจิ้งจือ เด็กดีก็เข้าใจป้า ดีจริงๆที่ป้าคอยช่วยเหลือเจ้าเป็นอย่างดี รีบๆบอกคนอื่นสิว่าเจ้าจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร?” ฮูหยินหลี่ รู้สึกดีใจมากเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ก้าวออกมาจากฝูงคน ตอนที่นางได้ยินที่ชาวบ้านเตือน นางก็ได้ยอมแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไงเด็กก็ยังคงเป็นเด็ก ฟาง เจิ้งจือ คงไม่อาจทนการต่อว่าของนางได้ ฮ่า ฮ่า!
“ข้าคิดว่าเราควรแบ่งสัตว์อื่นๆให้แก่ทุกครอบครัวในหมู่บ้าน ส่วนหมูป่าเขี้ยวเหล็กนั้นข้าจะแบ่งกับฮูหยินหลี่เอง ฮูหยินหลี่คิดว่าดีไหม?” ฟาง เจิ้งจือ ทำหน้าตาใสซื่อ ขณะมองไปที่ฮูหยินหลี่
“แบ่งหมูป่าเขี้ยวเหล็กด้วยกันกับครอบครัวของเจ้า?” ฮูหยินหลี่ไม่เคยคิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะใจกว้างขนาดนี้ เธอยิ้มออกมาในทันที “ป้าเห็นด้วยๆ!”
ชาวบ้านคนอื่นๆที่ได้ยินที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด พลันเบิกตากว้าง พวกเขาไม่เข้าใจตอนแรกเขายังฉลาดอยู่เลย แล้วอยู่ดีๆทำไมถึงเกิดโง่งมขึ้นมาละ?
ฉิน ซูเหลียน นั้นเป็นกังวลมาก และคิดที่จะเข้ามาหยุด ฟาง เจิ้งจือ
แต่เธอก็ถูก ฟาง เฮ่าเตอ ดึงตัวไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องกังวล!” ถึงแม้ ฟาง เฮ่าเตอ จะเป็นคนธรรมดาทั่วๆไป แต่เขาก็รูว่าลูกชายของเขาไม่ได้โง่แน่นอน ที่ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาต้องมีเหตุผลแน่นอน
“หมายความว่า ฮูหยินหลี่ยอมรับมันใช่หรือไม่?” ฟาง เจิ้งจือ ถามขึ้นอีกครั้ง
“ข้ายอมรับ ข้ายอมรับ!” ฮูหยินหลี่พยักหน้ารัวๆ คล้ายกับไก่ที่กำลังก้มหัวจิกข้าวสารอยู่
“งั้น ข้าขอให้หัวหน้าหมู่บ้านและทุกคนเป็นพยาน ว่าสัตว์ตัวอื่นๆที่ล่าได้ในวันนี้จะไม่ถูกแจกจ่ายให้กับฮูหยินหลี่ แต่ข้าจะแบ่งหมูป่าเขี้ยวเหล็กกับนางเอง!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า และมองไปทางหัวหน้าหมู่บ้าน
“ไม่มีปัญหา!” หัวหน้าหมู่บ้าน เมิ่ง ไป่ พยักหน้า เรื่องนี้จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับตัวเขา จึงไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยอีก
ชาวบ้านแต่ละคนก็มองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ เหมือนกำลังมองคนที่โง่งมอยู่
ฮูหยินหลี่ไม่คิดอะไรอีกยอมรับในทันที
จากนั้น..
ฟาง เจิ้งจือ กระแอมลำคอ และเริ่มจะพูดอีกครั้ง
“จากนี้...ขาข้อเชิญท่านลุงฉินมาช่วยแบ่งขนหมูตัวนี้ให้กับฮูหยินหลี่!”
“พรวด!” ติง ฉินซาน ที่กำลังดื่มน้ำอยูนั้น พ่นน้ำออกมาในทันทีที่ได้ยิน
ชาวบ้านคนอื่นๆจากเดิมที่มอง ฟาง เจิ้งจือ โง่งมนั้น พลันเปลี่ยนเป็นมอง ฮูหยินหลี่ โง่งมแทนในทันที
“ขนหมู?”
“นี่มัน...ฮ่าฮ่าฮ่า เขาจะแบ่งขนหมูให้!”
“เจ้าเด็กเจิ้งจือ ข้ามองไม่ผิดจริงๆว่าเขานั้นมีศักยาภาพ..ฮ่าฮ่า!”
ชาวบ่านเริ่มหัวเราะออกมา ไม่มีใครว่าสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำ เพราะถ้าเป็นพวกเขา...ก็จะทำแบบเดียวกัน แตว่า
ความคิดนี้ เจ้าเด็กนั่นชั่งคิดออกมาจริงๆ
ใบหน้าของฮูหยินหลี่ดำทมึนเหมือนยังไม่ได้เปิดไฟ ไขมันของเธอเริ่มสั่นไหว เธอพึ่งจะรู้ความหมายของสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาในตอนนี้
“ฟาง เจิ้งจือ!!!” ฮูหยินหลี่กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ นางพ่ายแพ้ให้กับเด็ก 7 ขวบ ยิ่งไปกว่านั้นมันแสดงออกถึงสติปัญญาของตัวนางเองอย่างชัดเจน ตอนนี้นางโกรธจนเลือดแทบจะไหลออกมาจากปาก
นางเกลียดตัวเองที่ไม่ทันฉุกคิดเสียก่อนที่จะยอมรับคำ แบ่งหมู? แบ่งอย่างเท่าๆกันคนละครึ่ง? แบ่งเขี้ยว? เป็นนางเองที่ไม่คิดให้รอบคอบ
แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว
คำพูดที่พูดออกไปแล้วจะกลับคำไม่ได้ ฮูหยินหลี่คิดจะตะโกนคำว่า “ถูกรังแก” ออกมา แต่ก็นึกขึ้นได้ว่านางกำลังจะตะโกนคำนี้ใส่เด็ก 7 ขวบ?
ไม่ว่าใบหน้าของนางจะเต็มๆปด้วยไขมันขนาดไหน แต่มันก็คงไม่หนาพอที่นางจะพูดคำนั้นออกมา
“หื้ม!!” ฮูหยินหลี่ ได้แต่กระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ และวิ่งหายเข้าไปในฝูงคน นางไม่อาจมีหน้ายืนอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป
“ฮูหยินหลี่ นี่ไงขนหมู ป้าไม่ต้องการแล้วหรอ? เอ๋! ดูเหมือนป้าจะไม่ต้องการแล้วนะ...งั้นเอามันไปทำพู่กัน!” ฟาง เจิ้งจือ พูด ในขณะมองไปยังร่างของฮูหยินหลี่ที่ได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ในมือของเขาถือขนหมูป่าโบกไปมา
....
ตอนดึกของวันนั้นเอง นกที่ตัวขาวราวกับหิมะ และมีเล็บคมราวกับมีด ได้บินออกไปจากหอแห่งเต๋าในหมู่บ้านภูเขาทางใต้อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะหายตัวไปกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ความรวดเร็วของมันนั้นเป็นที่น่าตกใจ...
เช้าวันถัดมา บนแดนเหนือ กองตรวจการศักดิสิทธิ์ในห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เด็กหญิงคนหนึ่งกางรูปวาดออกมา เธอกำลังจมอยู่ในความคิด
“มันไม่ซับซ้อนมาก แต่มันใช้ความรู้เกี่ยวกับ ยันต์แปดทิศ เป็นส่วนประกอบ...ถ้ามันถูกวาดขึ้นโดยเจ้าสารเลวนั่นจริงๆละก็....การที่เขาสามารถไขปริศนาจากภาพแห่งการสรรค์สร้างได้นั้นต้องเป็นเรื่องจริง!”
เธอมองลงไปที่รูปวาดอีกครั้ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยประกายแห่งความยินดี
“มานี่!”
“คุณหนูท่านต้องการสิ่งใด?” ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องและคุกเข่าลง
“เตรียมตัวให้พร้อม มีบางแห่งที่ข้าอยากจะไป”
“ได้! แต่ว่า....ท่านราชันตอนนี้อยูที่เมืองหลวง ข้ากลัวว่าเขาจะกลับมาก่อน 10 วัน พวกเราควรรอท่านราชันกลับมาก่อนหรือไม่ แล้วค่อยออกเดินทาง?” ทหารคนนั้นถามขึ้นมาด้วยความเป็นกังวล
“10 วัน? ข้าเข้าใจแล้ว!” เด็กหญิงพยักหน้า มองขึ้นไปที่อสงอาทิตย์พร้อมกับมุมปากของเธอที่ยกขึ้น
ฟาง เจิ้งจือ? แสดงให้ข้าเห็นหน่อยสิว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหนได้อีก เจ้าเด็กสารเลว!
เพจหลัก : Gate of god TH