Chapter 94: วิ่ง
Chapter 94: วิ่ง
ในตอนที่พวกเขาหลบหนีออกมาจากหน้าต่างของโรงเตี๊ยม สมาชิกของนิกายซวนเฉินก็ตระหนักได้ว่าพวกเขานั้นถูกล้อมรอบโดยกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติ มันมีผู้เล่นมากกว่าห้าร้อยคนในบริเวณใกล้เคียง และเตรียมที่จะตะครุบพวกเขา
สมาชิกของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นก็รีบโผล่ขึ้นมาทันทีที่พวกเขาเห็นชายคนแรกกระโดดออกมาจากหน้าต่าง
‘พวกนายถอยไปก่อน!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตะโกน แล้วเขาก็ร่าย [บิดเบือน] อีกครั้งหนึ่ง และให้ผีของเขาไปปิดกั้นศัตรูที่อยู่ในโรงเตี๊ยม
สมาชิกของนิกายซวนเฉินก็รีบหลบหนีออกไปในทันทีโดยปราศจากความลังเลแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าโบซอนและขุนนางครอทนั้นจะเลือกอาชีพที่ไม่ได้มีความเร็วที่รวดเร็ว พวกเขาก็ยังคงหลบหนีได้อย่างหวุดหวิดจากวงล้อม โดยการพึ่งสกิล [พุ่งเข้าชน] ของพวกเขา
หมิงตู่นั้นก็ใช้พลังโจมตีเวทย์ที่สูงส่งจนไม่น่าเชื่อของเขานั้นให้เกิดประโยชน์ และฆ่าฝูงผู้เล่นกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติ โดยใช้หอกสายฟ้าเพียงแค่เล่มเดียว และก็ทำให้พวกมันนั้นเกิดความโกลาหลในขณะที่เขาก็วิ่งหนีออกไป
ความทระนงตัวนั้นเป็นนักต่อสู้ที่เลือกที่จะเพิ่มค่าสถานะลงไปในค่าความคล่องแคล่วเป็นส่วนมากซึ่งทำให้เขานั้นหลบการโจมตีของศัตรูได้อย่างพริ้วไหว ในตอนนี้เขาก็ยังได้รับรองเท้าคู่ใหม่ ความทระนงตัวก็กระโดดข้ามฝูงชนและเหยียบไปที่หัวของศํตรูในขณะที่นั้นก็ซัด [หมัดกระแทก] ไปหลายมัดในขณะที่เขากำลังหลบหนี
ในอีกทางหนึ่ง ดาบน้ำแข็งนั้นมีวิธีที่หลบหนีได้อย่างง่ายดายที่สุด สิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำทั้งหมดก็เพียงแค่ใช้ [หลบซ่อน] และทำตัวให้ติดกับกำแพงเข้าไว้ ในขณะที่เขาก็คลานออกไป
ไร้ความกลัวนั้นซวยกว่าคนอื่น เขานั้นไม่มีแม้กระทั่งพลังต่อสู้ซักอย่าง ไม่มีใครสักคนนั้นยืนอยู่ด้านหลังเขาเพื่อช่วยเขาอีกด้วย สิ่งที่เขาได้ก็คือวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ทั้งวิ่งและกลิ้งออกมาจากเส้นทางที่จะทำให้บาดเจ็บ แล้วเขาก็พยายามไปถึงจุดเกิดอย่างหมดรูป….
“ยังมีใครที่ไม่ได้จากไปไหม?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิตะโกน เขาก็เรียกผีของเขากลับและก็พุ่งไปอย่างถาโถมไปยังหน้าต่าง
“ลุงกระทิงยังคงอยู่ที่นั่น!”ความทระนงตัวตอบกลับผ่านแชทกิลด์
“ไอ้เหี้.... มันจำเป็นที่นายจะต้องกังวลเกี่ยวกับเขาอีกเหรอ?”โบซอนด่า
“ถ้างั้นฉันก็จะหนีละ!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิหัวเราะแล้วร่างกายของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นหมอกควัน และก็ลอยไปทางถนน
“ฮ่า! พวกนายจะต้องตกตะลึงกันแน่ๆเลยใช่ไหมละ? ไม่ได้คาดคิดเลยสินะว่าฉันจะบินได้?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิยั่วยุ เมื่อเขานั้นกำลังบินหนี
“ยิงเขาซะ!”
สมาชิกของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นตะโกนอย่างโกรธเคืองหลังจากที่พวกเขาได้ยินการยั่วยุของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ แล้วพวกเขาก็เล็งธนูไปที่เขา
ลูกศรที่รวดเร็วจากนักธนูนั้นจะตามเขาได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากความเร็วในการบินอันเชื่องช้าของรัศมีฤดูใบไม้ผลิ แต่ลูกศรนั้นก็ไม่ได้ปะทะเข้ากับร่างกายของเขา มันพุ่งผ่านเขาไปแทน…..
[การเข้าถึงแห่งความมืด] นั้นอนุญาตให้เขานั้นไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีกายภาพ…
“ฮ่าๆๆๆๆ!”รัศมีฤดูใบไม้ผลิหัวเราะต่อ เมื่อเขานั้นกลับมาเป็นร่างคนจากกำแพงอีกด้านหนึ่ง
“อย่าปล่อยให้ไอ้บัดซบนั่นหนีไป! ล่าเขาซะ!”
ผู้บังคับบัญชาของกองกำลังกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นโกรธแค้น เมื่อเขาตระหนักได้ว่าทีมผู้เล่นหลายร้อยคนของเขานั้นไม่สามารถที่จะจับผู้เล่นหกคนจากนิกายซวนเฉินได้ และก็รีบออกคำสั่งให้คนของเขาไล่ล่าต่อ
ใน {REBIRTH} ความสามารถของผู้เล่นในการล่าศัตรูนั้นขึ้นอยู่กับอาชีพ....อาชีพที่รวดเร็วแบบนักธนูนั้นจะแข็งแกร่งมากที่สุดในการล่าคู่ต่อสู้ ในขณะที่อาชีพที่มีระยะโจมตีใกล้แบบนักต่อสู้นั้นไร้ประโยชน์มากในสถานการณ์แบบนี้
ด้วยเหตุนี้นี่เอง กิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นจึงนำนักธนูและโจรในเมืองมากันทั้งหมดเพื่อออกไล่ล่า
แต่ผู้เล่นทั้งหกคนของนิกายซวนเฉินนั้นกระจายตัวออกอย่างชาญฉลาด และวิ่งออกไปสี่ทิศทาง ด้วยเหตุนี้นี่เองกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นจึงต้องกระจายทีมของเขาออกมาเป็นสิบทีมเพื่อตามหาพวกเขา
โบซอนและขุนนางครอทนั้นผ่านทางถนนที่มีระดับ ตั้งแต่ที่ทั้งสองคนนั้นเลือกอาชีพนักรบ ความเร็วของพวกเขานั้นก็ลดลงอย่างมากเนื่องจากอุปกรณ์ของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับขุนนางครอท ชุดเกราะหนักของเขานั้นทำให้เขานั้นเหมือนกับเต่าและเขานั้นก็แบกโล่ใหญ่ไว้ที่หลังของเขาอีกด้วย แต่นั่นก็หมายความว่านักธนูและโจรนั้นจะเจาะทะลุการป้องกันของเขาได้ยากมาก ทั้งสองคนนั้นจำเป็นที่จะต้องทำนั้นก็มีเพียงแค่พุ่งผ่านพวกมันไปเท่านั้นเอง….
หมิงตู่และดาบน้ำแข็งนั้นเลือกที่จะวิ่งหนีไปยังถนนแห่งการค้าขาย
มันมียามลาดตระเวนเดินตรวจยามอยู่ในถนนแห่งการค้า ไม่สำคัญหรอกว่ากิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นจะหยิ่งยโสมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่บ้าคลั่งพอที่จะยั่วยุNPCระดับสองร้อยพวกนี้ ยามลาดตระเวรนั้นสามารถที่จะสังหารมังกรได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นระดับต่ำพวกนี้เลย…
หมิงตู่และดาบน้ำแข็งนั้นใช้ประโยชน์จากที่ทั้งสองคนนั้นมีค่าคุณธรรมของเมืองรัตติกาล และมันก็ทำให้ทั้งสองคนนั้นสามารถหลบซ่อนอยู่ท่ามกลางยามลาดตระเวน ในขณะที่ก็ใช้กลยุทธ์แบบกองโจรทำร้ายผู้บุกรุกที่ และพวกเขาก็ล่าพวกมันลงไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง
รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นหนีเข้าไปในซอยเล็กๆ.....กลยุทธ์ของเขานั้นเรียบง่าย ก่อนอื่นเขาก็ร่าย [บิดเบือน] หลังจากนั้นเขาก็ส่งผีเขาไปต่อสู้กับศัตรูของเขา ในขณะที่ก็โยนพิษเข้าใส่พวกมัน ก่อนที่จะวิ่งหนีไปอีกครั้งหนึ่ง...... กลยุทธ์นี้ช่างน่ารังเกียจและทำให้อาชีพที่มีพื้นฐานทางความคล่องแคล่วนั้นรังเกียจ…
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ความทระนงตัวนั้นได้โอกาสที่จะเลียนแบบลุงกระทิงที่เป็นไอดอลของเขา เขานั้นพาสมาชิกของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติที่ไล่ล่าเขามายังทางตัน และเขาก็ใช้ [โกสต์] เพื่อเพิ่มความเร็วของเขา แล้วเขาก็ปีนขึ้นไปบนกำแพงของตึกและหนีจากฝูงชนที่ไล่ล่าเขาอยู่
นักต่อสู้มากมายในกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นพยายามที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงด้วยวิธีแบบเดียวกัน แต่พวกเขาไม่รู้ว่าความทระนงตัวนั้นมีศิลปะการต่อสู้เป็นพื้นหลังและได้รับการแนะนำมาจากหวังหยู่อีกด้วย การลงแรงของพวกมันนั้นก็ล้มเหลวในท้ายที่สุด
สมาชิกของนิกายซวนเฉินนั้นไม่เพียงแต่หลบหนีไปทั่วเมืองได้ แต่พวกเขายังคงจัดการผู้เล่นจำนวนมากของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติได้อีกด้วย
มีเพียงแค่หวังหยู่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง หลังจากทุกคนหลบหนีออกไปจากโรงเตี๊ยม หวังหยู่ก็ยืนป้องกันหน้าต่างไว้ในทันที
โรงเตี๊ยมนี้ไม่ได้เล็ก แต่มันก็เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่บอบบางที่มันแพงอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันก็หวาดกลัวที่จะทำความเสียหายกับเครื่องตกแต่งภายในซึ่งจะต้องจ่ายค่าความเสียหายจากมัน นักธนูนั้นก็ออกไปจากตึกทันทีและตะโกนให้โจรนั้นมาแทนที่พวกเขา
สุดท้ายแล้วผู้เล่นเหล่านี้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นเกมทั้งหมด เงินที่พวกเขาได้รับมาจากเกมนั้นก็คือรายรับทั้งหมดของพวกเขา ทำไมพวกเขาถึงจะต้องเสี่ยงที่จะเสียเงินจำนวนมากกับมันด้วย?
ผู้เล่นจากกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นขี้งก
พวกเขานั้นรู้เพียงเล็กน้อยว่าหวังหยู่นั้นเชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะประชิด หวังหยู่นั้นก็รีบหยิบเก้าอี้มาหลายตัวและขว้างใส่ผู้เล่นที่กำลังเข้ามา…
ผู้เล่นของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นปะทะเข้ากับเก้าอี้ ก่อนที่เขาจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น.....เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบว่าเขานั้นเสียเงินไปหนึ่งเหรียญทองแล้ว เขาก็ตระหนักไดว่าเขานั้นทำผิดพลาดขึ้นมา..
แต่ไม่สำคัญว่าคนที่น่าสงสารคนนี้นั้นขมขื่นมากเท่าใด ระบบที่โหดเหี้ยมนั้นก็ไม่สนใจว่าใครนั้นเป็นคนขว้างเก้าอี้และเก็บเงินคนที่ทำลายมันแทน (คนที่แตะมันเป็นคนสุดท้าย)
หวังหยู่ก็พุ่งเข้าไปในฝูงชน และหลังจากนั้นก็โยนและขว้างใครก็ตามที่โชคร้ายที่อยู่ด้านข้างเขา
“เหี้...! ฆ่ามันซะ!!”
สมาชิกของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นกราดเกรี้ยวจากการกระทำของหวังหยู่ ทุกคนนั้นก็ยกอาวุธของพวกเขาขึ้นในทันทีและปลดปล่อยสกิลเข้าใส่หวังหยู่ พวกเขานั้นเมินเฉยว่าพวกเขาจะทำลายเฟอร์นิเจอร์ในร้าน
“กระทืบเข้าซะ!”
เสียงตะโกนสามารถที่จะได้ยินมาจากฝูงชนและกลุ่มของนักรบนั้นก็ [พุ่งเข้าชน] และพุ่งเข้าใส่หวังหยู่
หวังหยู่นั้นก็หลบฝูงของนักรบได้อย่างสบายๆ และเขาก็ได้รับการต้อนรับจากกำแพงกริชจากโจรที่ซ่อนไว้ด้านหลังของนักรบแทน….
นี่เป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์อย่างมากของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติที่ใช้บ่อยครั้งเมื่อพวกเขานั้นเข้าสู่สงคราม
แต่หวังหยู่นั้นไม่กระวนกระวายใจ เมื่อเขาเห็นแถวของกริชที่ปรากฏด้านหลังของนักรบ เขานั้นก็ยืดเท้าออกมาอย่างใจเย็นและกระทืบเข้าใส่หัวของหนึ่งในนักรบ และกระโดดข้ามแถวของโจรไปก่อนที่จะลงพื้นอย่างสง่างาม
“นั่นมันอันตรายมาก! พวกนายเกือบจะแยกก้นผมบานแล้ว!”หวังหยู่หัวเราะ แล้วเขาก็ปาดเหงื่อออจากหน้าของเขา
ฝูงชนก็มองไปที่เขาพร้อมกับปากที่อ้ากว้างออกมา…
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยเจอผู้เชี่ยวชาญมาก่อน ในความเป็นจริง ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นสามารถที่จะถูกพิจารณาว่าเป็นคนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่สามารถหลบกลยุทธ์ที่พวกเขาใช้ได้ แต่ชายคนนี้นั้นสามารถที่จะหลบการโจมตีได้อย่างแทบไม่ลงแรง....ไอเหี้.... เขาเป็นปีศาจหรือไงวะ?
“เหี้.... ชายคนนี้แม่งไม่ได้อ่อนแอกว่าหัวหน้ากิลด์พวกเราเลย รีบพาผู้เล่นโจมตีไกลมาโจมตีเถอะ!”
“หน่วยโจมตีไกลจะเข้าร่วมการโจมตีแล้วในตอนนี้!”
ผู้เล่นโจมตีไกลนั้นที่ยืนอยู่ด้านนอกโรงเตี๊ยมก็วิ่งเข้ามาในทันทีและเริ่มจู่โจมโดยปราศจากการเสียเวลาพูด
เมื่อเวลาผ่านไปหวังหยู่นั้นก็โดนลูกศรลูกแรกรวมทั้งเวทย์มนต์หลายอย่างกำลังจะถึงตัวเขา หมอผีที่อยู่ด้านหลังก็ร่าย [บิดเบือน] รอบๆตัวเขา หวังหยู่ก็ตระหนักได้ว่าสถานการณ์มันไม่ดีแล้วและเขาก็ตัดสินใจที่จะจากไป หลังจากที่ทำลายเวทย์มนต์ด้วยลูกศรของเขาแล้ว หวังหยู่ก็พุ่งผ่าน [บิดเบือน] และกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง
แต่กิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นได้เตรียมเรื่องนี้ไว้แล้วและมีนักรบหลายคนที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกหน้าต่างและกำลังเตรียมที่จะลอบโจมตี
หวังหยู่เหวี่ยงร่างกายของเขาถอยหลังและพลิกตัวหลบการลอบโจมตี และก็ลงพื้นแล้วเขาก็กลิ้งตัวหลบผู้ที่โจมตีเขา
“ตึง….”
หัวของหวังหยู่นั้นก็ปะทะเข้ากับรองเท้าสีเงิน…เมื่อเขายกหัวของเขาขึ้นแล้วเห็นไร้ความกลัวนั้นกำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายมาทางเขา
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เจ้าของรองเท้าเงินก็พูดกับหวังหยู่อย่างเคารพ
“ลอร์ดกระทิงเหล็ก มีสิ่งที่ผมสามารถช่วยท่านได้ไหม?”