ตอนที่แล้วบทที่ 83 ระดมทุน (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 85 เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา (อ่านฟรี)

บทที่ 84 เลือกสถานที่จัดตั้งโรงงาน (อ่านฟรี)


 

 

เหลืออยู่เจ็ดคนที่ยังคงอยู่ในสำนักงาน แต่ลักษณะท่าทางก็เหมือนยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาด เงินจำนวน 1,000 หยวนไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ และเฝิงซิ่งไท่ก็บอกพวกเขาว่าไม่มีการกำหนดเงินขั้นสูงสุดในการลงทุน ยิ่งลงทุนเยอะก็ยิ่งได้ผลประโยชน์เยอะ

เจ็ดคนที่เหลืออยู่นี้ล้วนมีที่ดินว่างเปล่าส่วนตัวอยู่ตรงพื้นที่ราบต่ำติดแม่น้ำ พวกเขาไม่ต้องส่งผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ให้กับรัฐบาลและไม่ต้องเสียภาษีด้วย เก็บเกี่ยวได้มากเท่าไรก็เป็นของพวกเขาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงมีเงินเก็บเหลือมากกว่า ตัวอย่างเช่น ถ้าปีนี้ครอบครัวของหลิวจี้ฉวนไม่ได้ยืมรถแทรกเตอร์ของเฝิงซิ่งไท่มาถางที่ดิน อย่าว่าแต่ 1,000 หยวนเลยแม้แต่ 100 หยวนเขาก็คงไม่มีให้ ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ ช่องว่างระหว่างรายได้เริ่มกว้างขึ้นแล้ว

“ซิ่งไท่ อธิบายให้พวกเราฟังหน่อยว่าจะก่อตั้งโรงงานที่ไหน และโรงงานจะทำอะไรบ้าง? แล้วเราต้องจัดการบริหารโรงงานด้วยตัวเองหรือว่าจ้างคนอื่นมาดำเนินการ? สินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วจะนำไปขายที่ไหน? แล้วถ้าพวกเราลงทุนเงิน 1,000 หยวน เราจะได้เงินปันผลเท่าไรในปีถัดไป?”

เฝิงซิ่งไท่หันไปมองลูกชายของเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะเมื่อวานเฝิงหยูไม่ได้พูดถึงรายละเอียดพวกนี้เลย

“ลุงเหลียง ตอนนี้มีสองแห่งที่เราคิดไว้ในใจ ที่แรกก็คือฟาร์มไก่แห่งเก่าที่ปิดไปแล้ว ซึ่งไม่มีใครใช้ที่ดินผืนนั้น เราอาจจะเช่าหรือซื้อที่ดินนั้นก็ได้ ส่วนสถานที่ที่สองก็คือที่ดินหลังโรงงานอิฐ แต่ว่าตรงนั้นมันอยู่ใกล้กับโรงงานอิฐ อาจจะส่งผลต่อชื่อเสียงของโรงงานเราได้แม้ว่าโรงงานของเราจะตั้งอยู่ทางต้นลมก็ตาม”

“ถูกต้อง เราไม่ควรสร้างโรงงานใกล้กับโรงงานอิฐ ใครจะมาซื้อแป้งของเราถ้ามีฝุ่นจากโรงงานอิฐปนเปื้อนเข้ามา”

“โรงงานจะดำเนินการแปรรูปอาหารเป็นหลัก เช่น น้ำมันถั่วเหลือง แป้งสาลีและแป้งข้าวโพด และน้ำตาลจากหัวบีท น้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำตาลเหมาะกับเราที่สุด ถ้าคุณภาพของแป้งสาลีและแป้งข้าวโพดยังไม่ดีมากพอ ก็อาจจะไม่ส่งผลกับเรามากนัก แต่น้ำมันถั่วเหลืองต่างกัน ยิ่งเราผลิตน้ำมันถั่วเหลืองได้มากเท่าไรและคุณภาพดีมากเท่าไร น้ำมันของเราก็จะยิ่งมีรสชาติดีขึ้นและขายได้ราคาดีขึ้นมาเท่านั้น พวกเราสามารถนำไปขายในเมืองได้ ซึ่งน้ำตาลก็เช่นกัน ยิ่งเราผลิตน้ำตาลได้มากเท่าไรและน้ำตาลของเรายิ่งมีความละเอียดมากเท่าไร เราก็สามารถหาเงินได้มากเท่านั้น”

“โรงงานเอกชนเล็กๆ ของพวกเราจะสู้กับคลังเมล็ดข้าวของรัฐบาลได้จริงหรอ?”

“ไม่เป็นปัญหาแน่นอน เพราะเราตั้งใจที่จะนำเข้าเครื่องจักรที่ล้ำสมัยมาจากสหภาพโซเวียต และเครื่องจักรพวกนี้มีความล้ำหน้ามากกว่าเครื่องจักรของคลังเมล็ดข้าวถึง 10 ปี” เฝิงหยูพูดถึงสหภาพโซเวียตอีกครั้ง ทุกคนมองและชื่นชมสหภาพโซเวียตในยุคนั้น

“แล้วพวกเครื่องจักรจากสหภาพโซเวียตราคาเท่าไรกัน?”

“เครื่องจักรพวกนี้เป็นของพี่เขยของผม และเขาจะใช้เครื่องจักรพวกนี้มาแลกกับหุ้นในโรงงาน ผมรับประกันได้ว่าถ้าคุณลงทุน 1,000 หยวนตอนนี้ อีกสามปีข้างหน้าคุณจะได้เงิน 10,000 หยวน! ยิ่งคุณลงทุนมากเท่าไร คุณก็จะได้เงินคืนมากเท่านั้น ลองตัดสินใจกันดูว่าจะลงทุนเท่าไร พวกเราไม่บังคับ”

“ซิ่งไท่ ลูกชายคุณนี่ขี้โม้จริงๆ 1,000 หยวนจะกลายเป็น 10,000 หยวนภายในสามปีงั้นหรอ? งั้นถ้าฉันลงทุน 5,000 หยวนตอนนี้ อีกสามปีคุณจะให้เงินฉัน 50,000 หยวนอย่างนั้นหรอ?

เฝิงหยูรู้สึกโมโห การที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่นี่ไม่ดีเอาซะเลย แม้ว่าตอนนี้เขาจะเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมแล้วก็ตาม แต่สำหรับผู้ใหญ่พวกนี้ก็ยังมองว่าเขาเป็นเด็กอยู่ดี ไม่มีใครเชื่อเลยว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจะเป็นจริงขึ้นมาได้

เฝิงซิ่งไท่มองเห็นความมุ่งมั่นในดวงตาของเฝิงหยู และพยักหน้า “ใช่!”

“งั้นดีละ ซิ่งไท่ คุณเป็นคนพูดเองนะ ถ้างั้นคุณกล้าทำสัญญาหรือเปล่าละ?”

เฝิงซิ่งไท่พูดอย่างภาคภูมิใจ “ทำไมจะไม่กล้าละ เมื่อแต่ละคนร่วมลงทุน ผมจะต้องให้ทุกคนลงนามในสัญญา ถ้าผมทำไม่ได้ตามที่ให้สัญญาไว้ภายในสามปี พวกคุณมายึดเครื่องจักรไปได้เลย!”

“ตกลง ถ้างั้นฉันจะลงทุน…..10,000 หยวน!”

เฝิงหยูเงยหน้าขึ้นมอง คนกลุ่มนี้คือคนกลุ่มแรกๆ ในหมู่บ้านที่มีฐานะร่ำรวย แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะร่ำรวยเพราะพวกเขามีรถแทรกเตอร์และเครื่องเก็บเกี่ยวผลผลิต แถมยังเป็นคนกลุ่มแรกที่ถางที่ดินด้วย

พอมีคนเริ่มเปิดฉาก คนที่เหลือก็เริ่มคล้อยตามและร่วมลงทุน มี 3,000 หยวนบ้าง 2,000 หยวนบ้าง พวกเขาลงทุนตามเงินเก็บที่มีอยู่เพราะผลตอบรับที่จะได้มันดีกว่าการเอาไปฝากไว้กับธนาคารเยอะ

“ลุงเหวิน พ่อ เราไปหาเจ้าหน้าที่ที่กรมการเกษตรกันเถอะ”

ทั้งเจ็ดคนตกลงที่จะร่วมลงทุนด้วยแล้ว แต่เฝิงซิ่งไท่ก็ยังไม่ได้เก็บเงินจากพวกเขา เขาต้องรอจนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากกรมการเกษตรก่อนถึงจะเริ่มเก็บเงินจากพวกเขา

เหวินเต๋อกวางตามไปด้วยและเข้าไปนั่งในรถด้วยความตื่นเต้น เฝิงซิ่งไท่รู้สึกงงและพูดว่า “ผู้ใหญ่บ้าน ผมไปหาเจ้าหน้าที่ที่กรมการเกษตรเองได้ครับ ไม่ต้องรบกวนคุณหรอก”

เฝิงหยูมองบน พ่อของเขาคิดว่าเหวินเต๋อกวางตามไปเพื่อจะช่วยเขาจริงๆ หรอ? เขาจะไปด้วยเพราะจะไปอ้างเครดิตตัวเองต่างหาก ประเทศจีนกำลังให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงเขตของพวกเขาด้วยเช่นกัน เงินลงทุนที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านหยวน และเหวินเต๋อกวางก็เป็นผู้นำในหมู่บ้าน นี่ถือว่าเป็นความสำเร็จทางการเมืองสำหรับเขาเลยทีเดียว

“พ่อ ต่อไปพ่อจะต้องพูดแบบนี้นะ.....” เฝิงหยูเริ่มแนะนำวิธีการพูดให้พ่อเขาอีกแล้ว

หัวหน้ากรมมองบุคคลทั้งสามตรงหน้าเขา นอกจากเหวินเต๋อกวาง เขายังไม่เคยเจออีกสองคนมาก่อน แต่เหวินเต๋อกวางพูดว่าพวกเขามาจากหมู่บ้านของเขาและเป็นเพราะการชักชวนของเขาทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะลงทุนเงินหนึ่งล้านหยวนเพื่อสร้างโรงงานแปรรูปอาหารในเขตนี้

หัวหน้ากรมทำตาโต เงินลงทุนหนึ่งล้านหยวน! เป็นไปได้อย่างไรที่เขาไม่รู้เรื่องว่าในไร่นาแห่งนี้มีเศรษฐีเงินล้าน

“คุณเฝิง ทำไมคุณถึงเลือกลงทุนในโรงงานแปรรูปอาหารด้วยเงินหนึ่งล้านหยวน? คุณสามารถธุรกิจอื่นได้ เช่น ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ จะเป็นฟาร์มสัตว์ปีกหรือปศุสัตว์ก็ได้ เรามีผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานและจากในเมืองที่พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณ” หัวหน้ากรมต้องการที่จะพัฒนาการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์มาโดยตลอด แต่ว่าไม่มีเงินทุน ทางตอนเหนือมีเจ้าของฟาร์มสุกรรายใหญ่ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในฟาร์มนั้นได้รับผลประโยชน์อย่างมาก

“หัวหน้ากรมครับ แม้ว่าผมจะไม่ได้ทำฟาร์ม แต่ผมก็สามารถผลิตอาหารสัตว์ได้ ผมอยากสร้างโรงงานในบริเวณใกล้กับเมืองปิง และถ้าไม่ใช่เหวินเต๋อกวางคอยพูดโน้มน้าว ผมก็คงไม่พิจารณาฟาร์มของเรา”

เมื่อหัวหน้ากรมได้ยินสิ่งที่เฝิงซิ่งไท่พูด เขาก็รู้ทันทีว่าเขาต้องระวังคำพูดตัวเองมากกว่านี้ มิฉะนั้น เฝิงซิ่งไท่อาจจะไปลงทุนสร้างโรงงานที่อื่น อย่างไรก็ตาม โรงงานแห่งนี้จะผลิตอาหารแปรรูป ซึ่งก็สอดคล้องกับทิศทางที่สนับสนุนโดยสำนักงานย่อย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถอ้างเครดิตตัวเองเกี่ยวกับเงินลงทุนหนึ่งล้านหยวนได้

“ถ้างั้นคุณก็คงต้องการคนงานจำนวนมากใช่มั้ย? ผมแนะนำคนงานที่มีทักษะให้ได้นะ”

เฝิงซิ่งไท่มองหน้าเฝิงหยู ทำไมหัวหน้ากรมคนนี้ถึงพูดสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่เฝิงหยูเพิ่งพูดให้เขาฟังเมื่อกี้เลย?

“ผมได้ปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านเหวินแล้ว เราจะจ้างคนจากหมู่บ้านของเราก่อน แน่นอนว่าถ้าคุณมีคนงานที่เหมาะสมมาแนะนำให้ผม เราอาจจะจ้าง 4 หรือ 5 คน เงินเดือนที่ได้จะไม่น้อยกว่า 80 หยวน”

หัวหน้ากรมหัวเราะและมองไปยังเหวินเต๋อกวาง ตาลุงเหวินคนนี้ช่างคิดจริงๆ ไม่เพียงแต่เก็บตำแหน่งงานให้คนงานเท่านั้น แต่ยังเก็บบางส่วนไว้ให้หัวหน้ากรมด้วย

รองหัวหน้ากู้กำลังจะปลดเกษียณในไม่ช้า และจะต้องมีคนมาดำรงตำแหน่งแทน เหวินเต๋อกวางน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยเงินลงทุนจำนวนหนึ่งล้านหยวนพร้อมกับการสนับสนุนช่วยเหลือจากอดีตหัวหน้า แค่นี้การดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากนี้ เหวินเต๋อกวางยังได้ดูแลโรงงานเพราเขามีความคุ้นเคยกับคนพวกนั้นด้วย

“โรงงานของคุณได้รับการพิจารณาให้จัดตั้งโดยคนในท้องถิ่นและกรมการเกษตรจะช่วยจัดหาผลประโยชน์บางส่วนให้ ผมอนุญาตให้ปีแรกไม่ต้องเสียภาษีและในปีที่สองถัดไปให้เสียภาษีเพียงแค่ 50% ผมอนุญาตให้คุณใช้ที่ดินผืนนั้นได้ตามที่ร้องขอ แต่ถ้าคุณต้องการจะซื้อที่ดิน ราคาจะต้องไม่ต่ำกว่า 100,000 ถึง 200,000 หยวน”

เฝิงซิ่งไท่ยิ้ม “ผมเตรียมเงินไว้ 300,000 หยวน ถ้าคุณหาที่ดินผืนใหญ่กว่านี้ได้ ผมก็ยินดีที่จะจ่าย 300,000 หยวน”

“ไม่มีปัญหา ผมตกลงตามนี้ แล้วคุณคิดว่าจะเริ่มการก่อสร้างโรงงานเมื่อไร?

“พรุ่งนี้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด