ตอนที่แล้วChapter 91: พบนายแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 93: นายไม่สามารถทำร้ายนักเลงท้องถิ่นได้หรอก

Chapter 92: ง่ายๆ พวกเราจะสู้มันกันยังไงละ


Chapter 92: ง่ายๆ พวกเราจะสู้มันกันยังไงละ

ใน {REBIRTH} ไม่มีใครที่รู้จักความหมายของ “การรู้จักศิลปะการต่อสู้” มากกว่านิกายซวนเฉิน...

แม้ว่าหวังหยู่นั้นจะเป็นมือใหม่สำหรับโลกของเกม ความสามารถในศิลปะการต่อสู้ของเขานั้นก็อนุญาตให้เขาทำให้ผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากมายตกตะลึงครั้งแล้วครั้งเล่า….

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ระดับของศิลปะการต่อสู้หวังหยู่ว่ามันถึงระดับไหน แต่พวกเขาก็พัฒนาความหวาดกลัวกับศิลปะการต่อสู้อย่างไม่รู้ตัว

มันเหมือนกับภูเขาที่มองไม่เห็นขนาดใหญ่โตที่กำลังส่งแรงกดดันมายังพวกเขา หลายครั้งที่พวกเขานั้นดีใจที่มีหวังหยู่นั้นเป็นสหาย ไม่ใช่คู่ต่อสู้

แต่ในเวลานี้เอง ชายอีกคนที่รู้จักศิลปะการต่อสู้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา และเป็นศัตรู ความหวาดกลัวที่ลงลึกไปในหัวใจของพวกเขาก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่รู้จัก ดาบน้ำแข็งนั้นหวาดกลัว แม้ว่าเขานั้นจะใช้ [หลบซ่อน] และเขาก็รีบหลบไปยังตรงมุมของห้อง และไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว

เมื่อเห็นด้วยตาของตัวเองว่า หวังหยู่นั้นจัดการกับนักฆ่าที่พยายามโจมตีเขา ในขณะที่เข้านั้นใช้ [หลบซ่อน] อยู่นั้น ดาบน้ำแข็งก็ลังเลอย่างมากที่จะสู้

นิกายซวนเฉินนั้นถูกโยนไปยังตำแหน่งที่เสียเปรียบหลังจากการแลกเปลี่ยนการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“ฮ่าๆ ฉันได้ยินมาว่านิกายซวนเฉินนั้นมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถจัดการกับชายนับสิบคนได้เพียงตัวคนเดียว แต่มันดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้น…”การอาละวาดอันชั่วร้ายเยาะเย้ย

“ไอ้เหี้.... มึงรอเถอะ! ทันทีที่ผู้เชี่ยวชาญของพวกเรามาถึง นายจะร้องไห้หาแม่เลยละ!”ขุนนางครอทตะโกนอย่างไม่มีความสุข

“อย่าโอ้อวดไปหน่อยเลยหน่า! ฉันเป็นการอาละวาดอันชั่วร้าย ผู้นำกิลด์ของกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติ พวกนายควรที่จะอธิบายว่าทำไมพวกนายถึงโจมตีคนของฉัน!”การอาละวาดอันชั่วร้ายขู่

“กิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติ?”

ดาบน้ำแข็งนั้นหน้าซีดอย่างกับกระดาษ เมื่อเขาได้ยินคำพูดสามคำนี้

“ทำไมละดาบน้ำแข็ง นายจำชื่อนี้ได้งั้นเหรอ?”ทุกคนถามขึ้น

“ใช่ ฉันรู้ พวกเขานั้นค่อนข้างเป็นกิลด์ใหม่ที่พึ่งก่อตั้งขึ้น แต่ในตอนนี้กิลด์นี้มีผู้เล่นมากกว่าหมื่นคน ซึ่งส่วนมากนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นเกม พวกเขานั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นกิลด์อันดับหนึ่งใน [REBIRTH} กิลด์ของพวกเขานั้นมีผู้นำที่ลึกลับที่แข็งแกร่งอย่างมากแต่พบได้ยาก ใครจะไปคิดว่าคนแบบเขาจะปรากฏขึ้นที่นี่...”ดาบน้ำแข็งตอบกลับ

“พวกเราเห็นแล้วว่าเขานั้นแข็งแกร่ง แต่การมีสมาชิกของกิลด์มากกว่าหมื่นคนนั้นเหมือนกับเรื่องโกหก ความจุของกิลด์นั้นมีเพียงห้าร้อยคน”

“กิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นมีกิลด์ที่อยู่ภายใต้พวกเขานั้นมากมายและมีเมืองมากกว่าสามร้อยเมืองนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา บางทีสมาชิกหมื่นคนนั้นอาจจะเป็นเพียงการประเมินในอดีตก็ได้”ดาบน้ำแข็งพูด

“เหี้...! พวกมันแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆเหรอ?”

การแสดงออกของสมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินนั้นกลายเป็นอัปลักษณ์อย่างมากเมื่อพวกเขาได้ยินคำอธิบายของดาบน้ำแข็ง….ในขณะที่พวกเขาสามารถที่จะเล่นตลกกับคนนับพันได้ แต่หมื่นคนนั้น….มันคือการฆ่าตัวตาย ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะทรงพลังมากแค่ไหน พวกเขาก็จะกลายเป็นเศษฝุ่นในเวลาที่น้อยกว่าวินาที ถ้าพวกเขานั้นพยายามต่อสู้กับคนนับหมื่นโดยสมาชิกแปดคนของกิลด์

ไร้ความกลัวจ้องไปอย่างเย็นชาใส่การอาละวาดอันชั่วร้าย เมื่อเขาพูดขึ้น “พวกเราไม่มีอะไรที่ต้องพูดกับนาย ถ้านายต้องการที่จะสู้กับพวกเราก็สู้ซะ! พวกเราจะไม่ยอมแพ้ ถ้านายพาคนนับหมื่นของนายมา!”

“เหี้...อะไรวะ เขาไม่กลัวที่จะกล้าพูดคำแบบนั้นจริงๆด้วย”สมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินนั้นพึมพำ

“ถุกแล้ว ฉันต้องการที่จะสู้แล้ว!”

พวกเขานั้นพูดและการแสดงออกอันไร้ความกลัวบนใบหน้าของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น แม้ว่าสมาชิกของนิกายซวนเฉินนั้นยังคงเกรงกลัวอย่างมากที่จะเผชิญหน้ากับกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติก็ตามที

“ฮ่าๆ ไม่เลวเลย ไม่สงสัยเลยว่าทำไมพวกนายถึงกล้าที่จะยั่วยุกิลด์สวรรค์อันไร้ที่ติ ฉันชื่นชมความกล้าของพวกนาย แต่ความกล้าเพียงอย่างเดียวก็ไม่พอ…”

“เหี้...! นายกล้าที่จะปลอมตัวเป็นลุงกระทิงเหล็ก!”

ก่อนที่ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นจะพูดเสร็จ ความทระนงตัวก็เกิดขึ้นและพุ่งเข้าใส่เขา

มันสามารถที่จะเห็นได้ชัดเจนกับการกระทำของความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นจะเป็นใครบางคนที่ชอบในการทำร้ายผู้เล่นธรรมดา ความอาละวาดอันชั่วร้ายก็ยิ้มบางๆ เมื่อเขาหลบการโจมตีของความทระนงตัว และก็ทำให้เขาสะดุด

ในเวลาเดียวกัน สมาชิกอีกหกคนของนิกายซวนเฉินนั้นก็โจมตีเป็นครั้งที่สอง

ขุนนางครอทนั้นพากลุ่มของเขาใช้ [พุ่งเข้าชน] แต่ความอาละวาดอันชั่วร้ายนั้นก็ยกมือของเขาขึ้นอย่างสบายๆและตีไปที่โล่ของขุนนางครอท และยืมใช้แรงของมันผลักไปด้านหลัง

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง รัศมีฤดูใบไม้ผลินั้นก็ยกคทาของเขาขึ้น และร่าย [บิดเบือน] ใส่ความอาละวาดอันชั่วร้าย ความตกตกตะลึงก็เกิดขึ้นบนใบหน้าของความอาละวาดอันชั่วร้าย เมื่อเขาใช้ [อีกาเหยียบย่ำ] ปะทะเข้ากับหอกสายฟ้าที่พุ่งใส่เขา

ความอาละวาดอันชั่วร้ายก็บิดหัวไปด้านหลังเล็กน้อย เขาก็หลบหอกสายฟ้าอย่างฉิวเฉียด โดยปราศจากการปล่อยให้เขาฟื้นคืนตำแหน่งได้ ดาบน้ำแข็งนั้นก็เอากริชของเขาออกมาและแทงไปที่ด้านหลังของเขา แต่ในช่วงวินาทีสุดท้าย ความอาละวาดอันชั่วร้ายก็บิดตัวและหลบการโจมตีของเขาอย่างฉิวเฉียด

สมาชิกของนิกายซวนเฉินนั้นพูดไม่ออก......เหี้.... เขานั้นหลบนั่นได้ยังไงกัน…

ความอาละวาดอันชั่วร้ายถอนหายใจอย่างโล่งอก เขานั้นเกือบตายสามครั้งในการแลกเปลี่ยนเพียงไม่กี่ครั้ง ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่า ปฏิกิริยาอันรวดเร็วของเขา เขาก็คงโดนฆ่าไปแล้ว! คนพวกนี้นั้นมีชื่อเสียงมาจากความเชี่ยวชาญระดับสูงจริงๆ

“ปัง!!!”

โบซอนที่ไม่ได้ขยับแม้แต่การโจมตีครั้งก่อนนั้นก็หยิบเอาปืนคาบศิลาออกมาและยิงไปที่หน้าอกของความอาละวาดอันชั่วร้าย

-127

เลขสีเลือดก็ปรากฏขึ้นด้านบนหัวของความอาละวาดอันชั่วร้าย

“ดังนั้นนายก็มีปืนคาบศิลาสินะ…”

ความอาละวาดอันชั่วร้ายตกตะลึง ไม่เพียงแต่นิกายซวนเฉินนั้นจะมีความสามารถที่สุดยอด พวกเขานั้นมีแม้กระทั่งปืนคาบศิลา....นี่มันไม่ดีแล้ว เขานั้นดูถูกศัตรูของอย่างมากเกินไป!

“พวกเราจะพบกันอีกครั้ง!!!”

หลังจากที่ถึงบทสรุป ความอาละวาดอันชั่วร้ายตะโกนใส่สมาชิกของนิกายซวนเฉิน แล้วเขาก็วิ่งออกจาก

เพียงแค่หลังจากที่ความอาละวาดอันชั่วร้ายออกไปจากสายตาของพวกเขา สมาชิกของนิกายซวนเฉินนั้นถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วก็กลับไปนั่งบนเก้าอี้ของพวกเขาอย่างอ่อนแอ

แม้ว่าพวกเขานั้นจะแลกเปลี่ยนการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง พวกเขานั้นเหนื่อยมาก พวกเขานั้นใช้สมาธิอย่างมากเพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าพวกเขานั้นไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งการสู้กับบอสเนียนก็ไม่ได้เหนื่อยเท่านี้

“เหี้.... เขาจากไปแบบนี้นี่นะ....พวกเราเกือบได้เขาแล้ว…”

“ถูกแล้ว เมื่อคิดว่าเขากล้าที่จะเลียนแบบ ลุงกระทิง เมื่อเขานั้นไม่ได้มีความรับผิดชอบเท่านั้นจริงๆ”

“คำถามก็คือ ใครเป็นคนเริ่มยั่วยุพวกมันก่อนกัน?”โบซอนถาม

“ถ้านายคิดเกี่ยวกับมัน มีชายเพียงคนเดียวที่กล้าจะยั่วยุกิลด์ใหญ่แบบนั้น นั่นก็คือกระทิงเหล็ก…”รัศมีฤดูใบไม้ผลิพึมพำแล้วเขาก็นวดคาง

“ความแข็งแกร่งของนายมากเท่าไหร่ มันก็จะมีความสามารถอย่างมากในการสร้างปัญหาก็จะมากขึ้น!”ทุกคนก็ถอนหายใจ

“ดังนั้นพวกเราจะทำไงดี? พวกเราจะนั่งเฉยๆอยู่ตรงนี้?”ขุนนางครอทก็ถามขึ้น

เมื่อใครบางคนนั้นพึ่งเข้านิกายซวนเฉิน ขุนนางครอทก็ปกติมากเมื่อเทียบกับสมาชิกกิลด์คนอื่น

“ไอ้บัดซบนั่นจะเอาเบ๊ของมันมาในเมืองรัตติกาลและล่าพวกเราแน่ๆ พวกนายควรที่จะไม่ฉี่ราดจากความกลัวของพวกนายละกัน!”ไร้ความกลัวตอบกลับ

“ไอ้เหี้...! มึงนั่นแหละที่เป็นคนจะฉี่ราด!”

“นั่นมันถูกแล้ว นายมันเป็นเพียงแค่นักบวชที่ไร้ประโยชน์ บางทีพวกเราอาจจะส่งนายไปหาพวกมันและบอกพวกมันว่านายเป็นหัวหน้ากิลด์ ดังนั้นนายก็จะเป็นคนรับผลแทนพวกเราทั้งหมดแทนไง”

“นั่นมันความคิดที่ดีเลย!”

…….

“เลิกพูดไร้สาระ พูดจริงจังกันเถอะ กิลด์สวรรค์อันไร้ที่ตินั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเรา ตั้งแต่ที่พวกนายไม่กลัว ถ้างั้น พวกนายคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?”ไร้ความกลัวถามอย่างจริงจัง

“ไอ้เหี้... ทำไมพวกเราไม่ออกจากเกมกันละ ปล่อยให้พวกมันเสียเวลาตามหาพวกเราในเมืองรัตติกาลเป็นเวลาหลายวัน ในขณะที่พวกเราใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของเรา ไม่เพียงแต่พวกเราจะชนะสงครามโดยปราศจากการสู้รบ พวกเราสามารถที่จะแบ่งเวลาให้กับคนที่รักได้ด้วย”หมิงตู่ตอบ

ทุกคนนั้นพูดไม่ออก....มันดูเหมือนว่าหมิงตู่นั้นหวาดกลัวอย่างมากจากความคิดของเขา เมื่อคิดว่าหมิงตู่ที่หน้าด้านไร้ยางอาย ก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู....ไร้ความกลัวนั้นสูญเสียคำพูดที่จะตอบกลับเขา

“พวกนายเห็นไอ้นี่ไหม? ชายคนนี้แม่งหวาดกลัวอย่างมาก พวกนายควรไม่ควรทำเรื่องขายขี้หน้าแบบเขา…ไร้ความกลัวพูด

“ดังนั้นแผนของนายคืออะไร?”รัศมีฤดูใบไม้ผลิถามขึ้น

“ง่ายๆ พวกเราจะสู้กับพวกมัน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด