TWO Chapter 257 เหยื่อ
TWO Chapter 257 เหยื่อ
“ตามรายงานของสายลับ ทุ่งหญ้ากำลังจะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง”
รายงานของสายลับกล่าวว่า หลังจาก 3 เดือนแห่งความสับสนวุ่นวาย เผ่าขนาดเล็กในทุ่งหญ้าถูกกวาดล้าง พวกที่เหลือเข้าร่วมกับเผ่าขนาดกลางอื่นๆ หรือบางส่วนก็ย้ายไปรวมกับเผ่าเทียนฉี
“ปัจจุบันเหลือเพียงเผ่าเทียนฉีที่ตั้งอยู่ตรงกลางทุ่งหญ้า และเผ่าขนาดกลางอีก 8 แห่ง ตั้งอยู่ในส่วนอื่นๆของทุ่งหญ้า ทางทิศเหนือและใต้มีฝั่งละ 1 เผ่า, ทางทิศตะวันออกและตะวันตกมีฝั่งละ 3 เผ่า สำหรับเผ่าเทียนเฟิงที่อยู่ทางเหนือของเมืองมิตรภาพ หลังจากที่ยึดพื้นที่ของเผ่าเทียนเหลียนแล้ว พวกเขาก็รวมกับเผ่าขนาดเล็กทางตะวันออก และเข้าครอบครองทุ่งหญ้าทางใต้ทั้งหมดเพียงเผ่าเดียว”
โอหยางโชวพยักหน้า เขาเป็นกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ชนเผ่าเร่ร่อนจะทำหลังจากนี้
“มีสัญญาณใดที่บอกว่าเผ่าขนาดกลางจะก่อตัวเป็นพันธมิตรหรือไม่?” โอหยางโชวถาม
ตามกลยุทธ์ปกติ การก่อตัวเป็นพันธมิตร เพื่อกวาดล้างเผ่าเทียนฉี เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา ตอนนี้ ปัญหาเดียวก็คือ แม้ว่าเผ่าเทียนฉีจะได้รับความเสียหายไปบางส่วน พวกเขาก็ยังคงมีอำนาจมากที่สุดในทุ่งหญ้าทั้งหมด เป็นไปได้ยากที่เผ่าขนาดกลางจะกล้ารุกรานเผ่าเทียนฉี เนื่องจากพวกเขาอาศัยอยู่ภายใต้เงาของเผ่าเทียนฉีมานานเกินไป
“เผ่าขนาดกลางทั้ง 8 ได้ เป็นพันธมิตรกัน แต่ไม่มีใครแข็งแกร่งพอที่จะเป็นผู้นำของพวกเขา พันธมิตรเปราะบางเกินไป และการจัดการของพวกเขาก็อ่อนแอ ในขณะเดียวกัน เผ่าทางตะวันออกและตะวันตก ยังคงมีความขัดแย้ง ตั้งแต่เมื่อครั้งที่พวกเขารุกรานเผ่าขนาดเล็กเดียวกัน มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่พันธมิตรจะก่อตัวขึ้นได้อย่างสมบูรณ์”
โอหยางโชยิ้มเยาะ และกล่าวว่า “เฮอะ นี่เป็นธรรมดาของมนุษย์ พวกเขาคงจะอยากทำลายซึ่งกันและกัน และปล้นชิงทรัพย์สินของคนอื่นๆแน่”
“ท่านลอร์ดชาญฉลาดนัก มันเป็นดั่งที่ท่านกล่าวจริงๆ”
“แต่ปัญหาก็คือ เราจะเข้าไปกระตุ้นความโกลาหลวุ่นวายอีกครั้งได้อย่างไร?”
ในฐานะที่เป็น 1 ใน 3 หัวหน้าทีมของฝ่ายข่าวกรอง เล่ยสุ่นมีข้อมูลเชิงลึกเฉพาะของตัวเอง และไวต่อสิ่งต่างเช่นนี้ เขาคิดบางอย่างได้ และเขาก็รีบกล่าวออกมาในทันทีว่า “เรียนท่านลอร์ด ข้ามีรายงานอีกเรื่อง ตามที่สายกล่าว หลังจากได้ครอบครองทุ่งหญ้าทางใต้ทั้งหมดแล้ว เผ่าเทียนเฟิงก็ได้จ้องมองมาที่เมืองมิตรภาพ”
โอหยางโชวกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจะบอกว่า เผ่าเทียนเฟิงกำลังวางแผนที่จะบุกเมืองมิตรภาพหรือ?”
“เป็นไปได้ขอรับ ท่านลอร์ด ท่านคงจะทราบดีว่า ตลาดนอกเมืองมิตรภาพมีปริมาณการซื้อขายจำนวนมากในทุกๆวัน ก่อนหน้านี้เผ่าต่างๆยุ่งอยู่กับการปล้นสะดมเผ่าขนาดเล็ก ดังนั้น พวกเขาจึงทำได้เพียงแลกเปลี่ยนทรัพยากรในตลาด แต่ตอนนี้ สงครามได้สิ้นสุดลงแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตัดสินใจโจมตีเมืองมิตรภาพ” เล่ยสุ่นอธิบายอย่างใจเย็น
หลังจากฟังคำอธิบายของเล่ยสุ่น โอหยางโชวก็คิดไอเดียขึ้นมาได้ทันที เขากล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น เราก็ควรกวาดล้างเผ่าเทียนเฟิงให้สิ้นซาก แล้วแทรกแซงทุ่งหญ้าโดยตรง จากที่เจ้ากล่าว มันคงไม่ใช่แค่เผ่าเทียนเฟิงเท่านั้นที่จ้องมองเมืองมิตรภาพของเรา เผ่าอื่นๆก็คงจะจ้องมองมาเช่นกัน”
“แต่” เล่ยสุ่นลังเลที่จะกล่าวออกไป “ถ้าเราทำเช่นนั้น เผ่าอื่นๆจะรวมตัวกัน และช่วยกันต่อต้านเราหรือไม่?”
โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้น ดังนั้น เราจะต้องทำบางอย่าง นั่นก็คือ ทำลายความเป็นพันธมิตรของพวกเขา และหันเหความสนใจของพวกเขา เจ้าไม่ได้บอกหรือว่า เผ่าทางตะวันออกและเผ่าทางตะวันตกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกันนัก จัดให้สายลับบางคนปลุกปั่นความเกลียดชังระหว่างพวกเขา และปลุกระดมสงครามระหว่างพวกเขา”
“เข้าใจแล้วขอรับ” ทันใดนั้น เล่ยสุ่นก็รู้สึกได้ว่า เขามีความรับผิดชอบเพิ่มากขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 5 ของเดือนที่ 11 ทุ่งหญ้าที่เพิ่งจะสงบลงได้ไม่นานก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
ในเวลาเพียงไม่กี่วันนี้ พื้นที่ชายแดนของเผ่าขนาดกลางทั้ง 6 ในทุ่งหญ้าทางตะวันออกและตะวันตก มีการลอบโจมตีราว 6 ครั้ง ในพื้นที่ทับซ้อน ดูเหมือนว่าผู้บุกรุกจะมีเจตนาที่ชัดเจนมาก พวกเขาสังหารทุกคน ไม่มีใครรอดชีวิต และปศุสัตว์ทั้งหมดก็ถูกปล้น
เลือดที่หลั่งไหลไปทั่วซากศพของเผ่าที่ถูกโจมตี แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
หลักฐานทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า ฆาตกรข้ามพรมแดนและลอบโจมตีชาวเผ่าเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้ ความเกลียดชังในหมู่ชนเผ่าจึงถูกผลักดันให้สูงขึ้น ตอนนี้ พวกเขามักจะร้องของให้ผู้นำของพวกเขา ประกาศสงครามกับศัตรูของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม พวกผู้นำเผ่าจะไม่เคลื่อนไหวอย่างผลีผลาม พวกเขากังวลว่า จะมีผู้ที่มีเจตนาไม่ดี กำลังพยายามที่จะทำลายความเป็นพันธมิตรของพวกเขา พวกเขาจึงพยายามที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะเสร็จสิ้นการสืบสวน คนชั้นสูงของเผ่าก็ถูกลอบสังหาร พวกเขาตายอย่างเงียบๆในเต็นท์ หรือไม่ก็ในเขตทุรกันดาร
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้พวกเขากระวนกระวายใจ
และในขณะนั้นเอง กรมทหารที่ 2 ที่ประจำการอยู่ที่ค่ายทิศเหนือก็ได้ออกมาจากค่าย โดยอ้างถึงการฝึกอบรม พวกเขาไม่ได้ปิดบังความเคลื่อนไหวของพวกเขา ในการเดินทางข้ามแม่น้ำมิตรภาพ และหายตัวไปอย่างลึกลับ
ทันทีที่กรมทหารที่ 2 ออกไป แร่เหล็กและธัญพืชจำนวนมากก็ได้ถูกส่งไปยังเมืองมิตรภาพ และเก็บไว้ในคลังสินค้าของตลาด พวกมันถูกเก็บไว้ในขณะที่อยู่ในสายตาของชาวเผ่าเร่ร่อนที่มาซื้อขายในตลาด
ณ เผ่าเทียนเฟิง, เต็นท์ผู้นำเผ่า
“ท่านผู้นำ นี่เป็นโอกาสอันดี เราไม่ควรจะลังเลอีกต่อไป!”
ในฐานะเพื่อนบ้านของเมืองมิตรภาพ การเคลื่อนไหวของตลาดและค่ายทิศเหนือ ถูกสังเกตเห็นโดยเผ่าเทียนเฟิงอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้ส่งคนของพวกเขาเข้าไปในเมืองมิตรภาพก่อนหน้านี้ และทันทีที่พวกเขาได้รับข่าว พวกเขาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“ถูกต้องแล้วท่านผู้นำ เราเพียงต้องใช้กำลังซัก 1,000 นาย เราก็จะสามารถยึดตลาดได้แล้ว”
ต้าเรี่ยชินั่งอยู่บนที่นั่งของผู้นำ เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะกล่าวออกไปด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “ลองใช้สมองของพวกเจ้าคิดดูซิ การกระทำของพวกเขาน่าสงสัยมากเกินไป นี่ต้องเป็นกับดักอย่างชัดเจน”
“ท่านผู้นำ ไม่ว่ามันจะเป็นกับดักหรือไม่ สุดท้าย มันก็ต้องตกมาอยู่ในกำมือของเราอยู่ดี ตราบเท่าที่เรายึดตลาดได้ กองทัพเมืองมิตรภาพจะทำอะไรเราได้? แม้ว่ามันจะเป็นกับดัก เราก็ยังคงกำราบพวกเขาในพื้นที่เปิดได้ และเราก็จะทำให้พวกเขาเปียกโชกไปด้วยเลือดของพวกเขา!” คนที่กล่าวออกมาเปรียบเสมือนแขนข้างหนึ่งของต้าเรี่ยชิ ขุนพลเพียงคนเดียวของเผ่าเทียนเฟิง ฮูฉีถู
“ใช่! ใช่! ถูกต้อง! ถูกต้อง!”คำกล่าวของฮูฉีถูกสอดคล้องกับความคิดของคนอื่นๆ
จริงๆแล้ว แม้แต่ต้าเรี่ยชิก็ถูกดึงดูด เขาคงจะโกหกหากเขาบอกว่าไม่ได้สนใจทรัพยากรในตลาดเลย อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำเผ่า เขาต้องมองการไกลและลึกซึ้ง เพื่อผลประโยชน์ของเผ่าเขา คำนึงถึงทุกความเป็นไปได้ในการพิจารณา “คำกล่าวของเจ้าถูกต้อง แต่สิ่งที่ข้ายังกังวลก็คือ การโจมตีที่เกิดขึ้นในทุ่งหญ้าช่วงนี้ ทุ่งหญ้าตอนนี้เป็นเหมือนภูเขาไฟที่มีการปะทุอยู่ตลอดเวลา มันจึงไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักที่จะสร้างปัญหาเพิ่ม”
“ท่านผู้นำ ในความคิดของข้า นั่นคือเหตุผลที่เราควรจะกระทำให้เด็ดขาดมากขึ้น คว้าโอกาส และเติมเต็มแร่เหล็กและธัญพืช พวกมันจะช่วยประกันความอยู่รอดของพวกเรา” ฮูฉีถูเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวและหนักแน่น เขากล่าวออกไปด้วยความมุ่งมั่น
ความเห็นของฮูฉีถูสอดคล้องกับความต้องการของคนชั้นสูงในเผ่า เขาจึงได้รับการสนับสนุนอย่างมาก
ต้าเรี่ยชิถอนหายใจภายในใจของเขา คำกล่าวของฮูฉีถูทรงพลังเกินไป มันทำให้เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนหัวโบราณเกินไป เพื่อมุ่งสู่สถานะที่สูงขึ้นบนทุ่งหญ้าแห่งนี้ ความระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็น แต่ความระมัดระวังที่มากเกินไป สุดท้ายจะกลายเป็นเพียงความหวาดกลัว และมันจะทำให้โอกาสทองมากมายหลุดลอยไปจากมือของเขา
แฟนเพจ : TWOแปลไทย